ผู้เขียน หัวข้อ: หมอชนบทกัดไม่ปล่อย จี้′รัชตะ′ตั้งคกก.สอบวินัยร้ายแรง′ปลัดณรงค์′  (อ่าน 632 ครั้ง)

story

  • Staff
  • Hero Member
  • ****
  • กระทู้: 9753
    • ดูรายละเอียด
วันที่ 7 สิงหาคม  นพ.เกรียงศักดิ์  วัชรนุกูลเกียรติ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลชุมแพ จ.ขอนแก่น ในฐานะ ประธานชมรมแพทย์ชนบท  และ นพ.อารักษ์ วงศ์วรชาติ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสิชล จ.นครศรีธรรมราช และกรรมการชมรมแพทย์ชนบท เดินทางเข้ายื่นหนังสือถึง นพ.รัชตะ รัชตะนาวิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) เพื่อทวงถามกรณีคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริง นพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดสธ. ที่รัฐมนตรีว่าการสธ.แต่งตั้งขึ้นตามข้อร้องเรียนชมรมแพทย์ชนบทถึงการปฏิบัติราชการส่อผิดวินัย โดย นพ.เกรียงศักดิ์ ยื่นหนังสือเพื่อทวงถามให้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรง เหตุเพราะผลสอบเบื้องต้นมีมูล โดยมี นพ.สุเทพ เพชรมาก เลขานุการรัฐมนตรี สธ. รับหนังสือแทน

นพ.เกรียงศักดิ์ กล่าวว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 29 มิถุนายน 2558 ชมรมฯได้ยื่นข้อมูลและหลักฐานต่อ นพ.รัชตะ เพื่อให้ตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริง นพ.ณรงค์ กรณีปฏิบัติราชการส่อผิดวินัย ซึ่งนพ.รัชตะ ได้ตั้งคณะกรรมการฯขึ้นเมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม

ผลการสอบเบื้องต้นพบว่ามีมูลข้อเท็จจริงตั้งแต่วันที่ 3 สิงหาคม แต่ปรากฏว่าเมื่อผลสอบมีมูล กลับไม่มีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรง  ทั้งๆที่ผลสอบชัดเจนว่ามีความผิดหลายข้อ ไม่ว่าจะเป็นกรณี นพ.ณรงค์ ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมสุขภาพจิต  ได้มีการเบิกค่ารถและยังขอใช้รถราชการ ซึ่งเป็นการกระทำซ้ำซ้อน ไม่เหมาะสม

ล่าสุด ทราบว่ามีความพยายามในการข่มขู่พยาน และมีการทำลายหลักฐานบางส่วนแสดงว่ามีมูลความจริง ดังนั้น รัฐมนตรีฯต้องตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรง เพราะหากไม่ดำเนินการรัฐมนตรีจะเข้าข่ายละเว้น ซึ่งมีความผิดทั้งด้านวินัยและอาญา

 
นอกจากนี้ ยังมีเรื่องอื่นๆอีก ทั้งกรณี นพ.ณรงค์ กล่าวถึงการบริหารจัดการของสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ(สปสช.) เกี่ยวกับการบริหารทางการเงิน แต่ปรากฏว่าเมื่อไปสืบข้อมูลและหลักฐานที่พบจะทราบว่า มีการเปลี่ยนแปลงตัวเลข  โดยพบว่ามีการจัดสรรเงินเพิ่มให้แก่โรงพยาบาลขนาดใหญ่ที่เป็นผู้ใกล้ชิดปลัด สธ. ทั้งโรงพยาบาลพระนครศรีอยุธยาจำนวนเงินถึง 45 ล้านบาท โรงพยาบาลพระนั่งเกล้าฯ อีกกว่า 60 ล้านบาท

ทั้งยังมีเรื่องการจัดทิปอีกเกือบ 20 คนเดินทางไปปีนัง แม้จะมีการสอบถามก็ให้คำตอบว่าเดินทางไปแค่ จ.ยะลา ทั้งๆที่ข้อเท็จจริงมีการเดินทางไปท่องเที่ยวปีนังด้วย ที่สำคัญยังพบการเดินทางไปต่างประเทศ ที่ออกนอกเส้นทางไปฮ่องกง เพื่อขอตำแหน่ง ตรงนี้แม้คณะกรรมการฯไม่รับตรวจสอบ แต่ได้ยื่นต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เพื่อตรวจสอบอีกทางแล้ว

“หลังจากยื่นหนังสือให้รัฐมนตรีฯ เพื่อทวงถามความคืบหน้าการตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรงแล้ว ทางชมรมฯ ยังเดินทางไปยื่นเอกสาร หลักฐานเพิ่มเติมต่อ ป.ป.ช. อีก ซึ่งการเดินหน้าดังกล่าว ไม่ได้ต้องการสร้างความแตกแยกให้สาธารณสุข แต่เป็นเรื่องของความโปร่งใสที่ต้องดำเนินการเพื่อความถูกต้อง” นพ.เกรียงศักดิ์ กล่าวและว่า  สิ่งสำคัญรัฐมนตรีฯ ต้องตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรง เพราะคือสิ่งที่ถูกต้อง และเป็นลำดับขั้นตอนที่ต้องทำ ส่วนระยะเวลาในการสอบสวนนั้นไม่ได้จำกัด เพราะหากเกษียณไปแล้ว และมีผลว่าผิดวินัยร้ายแรงจริงก็สามารถเอาผิดย้อนหลังได้  สำหรับการยื่นเรื่องให้ตรวจสอบ นพ.ณรงค์ นั้น นอกจากร้องรัฐมนตรีฯ และป.ป.ช. แล้ว ในสัปดาห์หน้าจะเริ่มส่งหนังสือไปยังสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน(สตง.) และสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) ต่อไป

นพ.อารักษ์ กล่าวว่า เรื่องนี้อยากให้แยกคนละส่วนระหว่างการสร้างความปรองดองในกระทรวงฯ กับเรื่องการตรวจสอบนพ.ณรงค์ เพราะเรื่องนี้เป็นธรรมาภิบาล และนพ.ณรงค์ ชูเรื่องดังกล่าวมาตลอด ที่สำคัญไม่เพียงแต่ นพ.ณรงค์เท่านั้น กรณีการสืบข้อเท็จจริงครั้งนี้ ยังมี นพ.วชิระ เพ็งจันทร์ รองปลัด สธ.ที่พ่วงเรื่องการใช้รถราชการเช่นกัน ติดตรงว่า ขณะนี้ปลัด สธ. มาดำรงตำแหน่งเต็มตัวแล้ว จะกล้าตั้งคณะกรรมการสืบข้อเท็จจริง นพ.วชิระ ด้วยหรือไม่ เพราะคนที่จะตั้งสอบได้ ต้องอาศัยอำนาจปลัด สธ. ใช้อำนาจรัฐมนตรีฯไม่ได้ เพราะไม่ได้ขึ้นตรง ดังนั้น ทางชมรมฯจะติดตามอีก 2-3  สัปดาห์นับจากนี้ว่าปลัด สธ.จะทำอย่างไรต่อไป


7 สิงหาคม พ.ศ. 2558
มติชนออนไลน์