ความเคลื่อนไหวล่าสุดของเรื่องนี้ มีอยู่ว่า หลังจากที่คณะอนุกรรมการไต่สวนของ ป.ป.ช.ชุดที่มี “ดร.ภักดี โพธิศิริ” เป็น ประธานเตรียมนำเรื่องเข้า ป.ป.ช.ใหญ่ ก็ปรากฏว่า เกิดเรื่องโอละพ่อขึ้น เมื่อมีข้อมูลของความไม่ชอบมาพากลเกี่ยวกับตัวประธานอนุกรรมการโผล่ขึ้นมา ให้ต้องตรวจสอบกัน เนื่องจากเรื่องกลายเป็นว่า ตัว ดร.ภักดี เกิดเป็นคนร่าง “ทีโออาร์” กำหนดสเปกคอมพิวเตอร์ขึ้นมาเสียอีก เรื่องก็เลยอิรุงตุงนังเข้าไปอีก เพราะตัวประธานดันมีประวัติเกี่ยวกับกับเรื่องคอมพิวเตอร์มาก่อนที่จะเป็น ป.ป.ช.
ดังนั้น เพื่อความโปร่งใสในการปฏิบัติหน้าที่ ป.ป.ช.ชุดใหญ่ ก็เลยต้องเลื่อนการพิจารณาคดีดังกล่าวออกไปก่อน พร้อมทั้งตรวจสอบข้อร้องเรียนต่างๆ ที่เกี่ยวพันกับคนของตัวเองเสียใหม่ โดยวานนี้ (28 มี.ค.) ได้มีการเรียก ดร.ภักดี ไปทำการสอบสวนขยายผลหาข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว และในวันนี้ (29 มี.ค.) ก็ได้เรียก “นพ.ชาตรี บานชื่น” เข้า ไปสอบอีกรอบ สำหรับตัว ดร.ภักดี นั้น มีหลักฐานเป็นหนังสือที่ลงนามโดย ดร.ภักดี อย่างน้อย 3 ฉบับ ที่เป็นประจักษ์พยานแสดงความเกี่ยวพันกับเรื่องการจัดซื้อจัดจ้าง คอมพิวเตอร์มูลค่า 900 ล้านบาท
ฉบับแรก เป็นหนังสือเลขที่ สธ 0707.20/1785 ฉบับวันที่ 24 พ.ย.46 ถึงคุณหญิง สุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ รมว.สธ.ในขณะนั้นเกี่ยวกับการตรวจสอบสอบคุณสมบัติและเงื่อนไขข้อกำหนดใน โครงการจัดทำระบบคอมพิวเตอร์
ฉบับที่สอง เป็นหนังสือเลขที่ สธ 0707.20/2915 ลงวันที่ 23 ก.ค.46 ถึงปลัดกระทรวงการคลัง โดยเนื้อหาสาระเป็นเรื่องขอการสนับสนุนเงินกู้ในการขยายการดำเนินการโครงการ จัดทำระบบคอมพิวเตอร์เพื่อการบริหารข้อมูลข่าวสารทางการเงิน การคลัง และข้อมูลโรงพยาบาล
ส่วนฉบับที่สาม เป็นหนังสือเลขที่ สธ 0707.20/668 ลงวันที่ 11 กรกฎาคม 46 ถึงเลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เกี่ยวกับเรื่องการขอรับการสนับสนุนงบประมาณ
ย้ำกันอีกครั้ง ทั้ง 3 ฉบับลงนามโดย ดร.ภักดี ที่ขณะนั้นดำรงตำแหน่งเป็นรองปลัดกระทรวงสาธารณสุข และหัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านสนับสนุนงานบริการสุขภาพ
เห็นข้อมูลแล้ว บอกได้คำเดียวว่า เรื่องนี้ไม่ธรรมดา!
ASTVผู้จัดการออนไลน์ 29 มีนาคม 2554
