ผู้เขียน หัวข้อ: แห่โลงศพประท้วงอ้างหมอ รพ.ประโคนชัย รักษาผิดพลาดทำคนไข้เสียชีวิต  (อ่าน 1644 ครั้ง)

story

  • Staff
  • Hero Member
  • ****
  • กระทู้: 9742
    • ดูรายละเอียด
ชาวบ้านนับร้อยแห่โลงศพหญิงวัย 46 ปี ประท้วง รพ.ประโคนชัย เนื่องจากไม่พอใจการรักษาและการให้บริการ อ้างหมอผลักไสให้คนไข้กลับบ้านทั้งที่อาการยังไม่ดีขึ้น เมื่อถึงบ้านไม่ถึง 10 นาที ก็เกิดอาการช็อค ต้องหามส่ง รพ.อีกรอบ ก่อนเสียชีวิตในที่สุด ขณะ ผอ.รพ.แจงเป็นเหตุสุดวิสัย ยืนยันแพทย์ให้การรักษาตามมาตรฐานแล้ว พร้อมจ่ายเงินเยียวยาให้ครอบครัวผู้เสียชีวิตและปรับปรุงการให้บริการตามที่ชาวบ้านเรียกร้อง

บ่ายวันนี้ (21 พ.ค.) ชาวบ้านบ้านไทร ต.บ้านไทร อ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ กว่า 100 คน ได้ขนโลงศพของนางสีนวน อาทวัง อายุ 46 ปี ขึ้นรถกระบะแห่ไปประท้วงที่โรงพยาบาลประโคนชัย อ.ประโคนชัย เนื่องจากไม่พอใจการรักษาและการให้บริการของทางโรงพยาบาล โดยญาติผู้ตาย เปิดเผยว่า นางสีนวน ผู้ตาย ถูกนำตัวส่ง รพ.ประโคนชัย หลังประสบอุบัติเหตุถูกรถเฉี่ยวชนเมื่อตอนเช้าวันที่ 16 พ.ค.ที่ผ่านมา เพื่อให้แพทย์ทำการรักษา โดยแพทย์ระบุว่ากระดูกไหปลาร้าหัก จึงให้นอนพักรักษาตัวที่โรงพยาบาล

ต่อมาเมื่อวันที่ 18 พ.ค. แพทย์อนุญาตให้นางสีนวนกลับบ้าน ทั้งที่อาการยังไม่ดีขึ้น แต่แพทย์ก็ยังยืนยันว่าให้กลับบ้าน เมื่อญาติพากลับมาถึงบ้านไม่ถึง 10 นาที นางสีนวนก็เกิดอาการช็อคโดยไม่ทราบสาเหตุ จึงต้องนำตัวส่งโรงพยาบาลประโคนชัยอีกครั้ง ซึ่งทางโรงพยาบาลก็ได้ทำการปั๊มหัวใจช่วยชีวิต และส่งไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลศูนย์บุรีรัมย์ แต่ปรากฎว่านางสีนวนเสียชีวิตระหว่างทาง

ด้าน น.ส.นันทิชา อาทวัง อายุ 16 ปี บุตรสาวของนางสีนวน ระบุว่า เชื่อว่าสาเหตุที่แม่เสียชีวิต เกิดจากความบกพร่องของทางโรงพยาบาล เพราะหมอพยายามผลักไสให้แม่ออกจากโรงพยาบาล ทั้งที่แม่อาการยังไม่ดีขึ้น ยังมีอาการเวียนศรีษะ จนทำให้แม่เกิดอาการช็อคเสียชีวิตในเวลาต่อมา และขณะที่แม่รักษาตัวอยู่ที่ รพ.ประโคนชัย ยังถูกพยาบาลใช้วาจาและกิริยาที่ไม่เหมาะสมอีกด้วย จึงขอเรียกร้องให้โรงพยาบาลออกมาแสดงความรับผิดชอบ และแก้ไขปรับปรุงด้านการให้บริการ เพื่อจะได้ไม่เกิดเหตุการณ์ในลักษณะนี้ขึ้นอีก

ต่อมา พ.ต.อ.ประยุทธ โพธิ์แก้วกุล รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ พร้อมด้วย พญ.สุรีรัตน์  เทียนศิริวงศากุล ผู้อำนวยการโรงพยาบาลประโคนชัย  ได้เข้ามาพูดคุยเจรจากับญาติและชาวบ้านที่มาประท้วง พร้อมทั้งเชิญตัวแทนชาวบ้านเข้าไปพูดคุยถึงกรณีที่เกิดขึ้น

โดย พญ.สุรีรัตน์  ชี้แจงว่า กรณีที่เกิดขึ้นน่าจะเป็นเหตุสุดวิสัย ไม่ใช่ความผิดพลาดของใคร และทางโรงพยาบาลยืนยันว่าได้ให้การรักษาตามมาตรฐานอย่างเต็มที่แล้ว เพราะตอนที่ผู้ป่วยเข้ามารักษาก็มีแค่อาการกระดูกไหปลาร้าหักเท่านั้น เมื่อหมอทำการรักษาและเห็นว่าอาการดีขึ้น จึงอนุญาตให้กลับบ้าน แต่ก็ไม่ทราบว่าเพราะเหตุใดรจึงทำให้ผู้ป่วยเกิดอาการช็อคและเสียชีวิต แต่เมื่อญาติเชื่อว่าเกิดจากความผิดพลาดด้านการรักษา ทางโรงพยาบาลก็พร้อมจะแสดงความรับผิดชอบ โดยการจ่ายเงินเยียวยาให้กับครอบครัวผู้เสียชีวิตจำนวนหนึ่งตามความเหมาะสม และพร้อมจะปรับปรุงแก้ไขด้านการให้บริการตามที่ชาวบ้านเรียกร้องด้วย ซึ่งสร้างความพอใจกับชาวบ้าน จึงพากันนำศพผู้เสียชีวิตกลับไปบำเพ็ญกุศลต่อไป.-สำนักข่าวไทย

Written by: กอง บก.ข่าวภูมิภาค
2015/05/21
http://www.tnamcot.com/content/190555

story

  • Staff
  • Hero Member
  • ****
  • กระทู้: 9742
    • ดูรายละเอียด
หัวใจพ่อแม่สลาย...หนุ่มซัมซุง วัย 30 พร้อมภรรยา แห่โลงศพลูกชาย วัย 8 เดือน ประท้วงเรียกร้องให้แพทย์ โรงพยาบาลดังเมืองสุโขทัย รับผิดชอบกรณีการเสียชีวิตลูกชาย ด้วยการขอขมาศพ หลังป่วยท้องเสียและอาเจียนอย่างรุนแรง โดยแพทย์ตรวจเช็กและแจ้งว่าไม่เป็นอะไร

เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 7 เม.ย. 58 นายสุจินต์ ขอร่ม อายุ 30 ปี ชาวบ้านม.1 ต.ท่าตะเกียบ อ.ท่าตะเกียบ จ.ฉะเชิงเทรา และ น.ส.นันทิดา มโหธร อายุ 32 ปี ภรรยา พร้อมด้วยญาติจำนวนหนึ่ง นำโลงศพบรรจุร่าง ด.ช.สุพิพัฒน์ หรือน้องฟีโน่ ขอร่ม อายุ 8 เดือน มายังโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ใน จ.สุโขทัย เพื่อเรียกร้องให้แพทย์รับผิดชอบกรณีการเสียชีวิตของน้องฟีโน่ โดยการขอขมาศพ

จากการสอบถาม นายสุจินต์เผยว่า ตนกับภรรยา เป็นพนักงานบริษัทซัมซุง จ.ฉะเชิงเทรา แต่งงานกันมาหลายปี จนกระทั่งวันที่ 20 ส.ค. 57 ภรรยาได้คลอดบุตรชาย คือน้องฟีโน่ แต่ด้วยภาระหน้าที่การงาน จึงต้องฝากลูกชายให้ นางวงเดือน พิมิตร อายุ 40 ปี ชาวบ้าน ม.1 ต.หนองอ้อ อ.ศรีสัชนาลัย จ.สุโขทัย ซึ่งเป็นญาติลูกพี่ลูกน้องของภรรยาช่วยเลี้ยง ต่อมาวันที่ 1 เม.ย.ที่ผ่านมา นางวงเดือนโทรฯ มาบอกว่าน้องฟีโน่ไม่สบาย มีไข้ ท้องเสียและอาเจียนอย่างรุนแรง จึงพามาหาหมอที่โรงพยาบาลดังกล่าว แพทย์ตรวจเช็กโดยการเจาะเลือดนำไปตรวจ รวมทั้งตรวจอุจจาระปัสสาวะ ต่อมาแพทย์แจ้งว่า น้องฟีโน่ไม่เป็นอะไร แต่ขอให้รอดูอาการที่โรงพยาบาล

ต่อมา น้องฟีโน่อาการแย่ลง มีอาการท้องแข็งและบวมโตขึ้น อาเจียนอย่างรุนแรง นางวงเดือนจึงแจ้งย้ายโรงพยาบาล แต่เจ้าหน้าที่ไม่ยอมให้ย้าย โดยอ้างว่าต้องรอให้แพทย์ตรวจก่อน จนกระทั่งในช่วงเย็นตนเดินทางจากฉะเชิงเทรา ยืนยันที่จะขอย้ายโรงพยาบาล เจ้าหน้าที่จึงอนุญาต โดยย้ายน้องฟีโน่ไปรักษาที่โรงพยาบาลศรีสังวร แพทย์ตรวจเช็ก พบว่าน้องฟีโน่มีอาการขาดน้ำอย่างรุนแรง ลำไส้อักเสบ และติดเชื้อในกระแสโลหิตอย่างรุนแรง ถ่ายเป็นเลือดปะปนด้วย โดยที่แพทย์บอกให้ตนทำใจ และรักษาเบื้องต้นจนไข้ลด จากนั้นได้ส่งตัวน้องฟีโน่ ไปรักษาต่อยังโรงพยาบาลลำปาง จนกระทั่งเวลา 20.00 น. วันที่ 3 เม.ย. 58 น้องฟีโน่มีอาการช็อก ตาค้าง หัวใจหยุดเต้น แพทย์ปั๊มหัวใจจนชีพจรกลับมาได้พักเดียวก็หยุดเต้นอีก และเสียชีวิตในเวลาต่อมา

"ตน ภรรยาและญาติเสียใจมาก และข้องใจการทำงานของแพทย์เป็นอย่างมาก ว่าใส่ใจคนไข้แค่ไหน ทำไมจึงตรวจเช็กไม่พบอาการต่างๆ แต่กลับบอกว่าไม่เป็นอะไร ไม่เป็นอะไรแล้วลูกตนเสียชีวิตได้อย่างไร พวกตนไม่ต้องการเรียกร้องเงินทองค่าเสียหายใดๆ ขอแค่เห็นความรับผิดชอบโดยการขอขมาศพลูกตนเท่านั้น และเย็นวันนี้ก็จะทำการฌาปนกิจศพน้องฟีโน่ตามประเพณี" พ่อหนุ่มวัย 30 กล่าวทั้งน้ำตา

ผู้สื่อข่าวได้รายงานเพิ่มเติมว่า นายสุจินต์และญาติ ได้เรียกร้องให้ผู้เกี่ยวข้องลงมาพบอยู่ จนเวลาผ่านไป 30 นาที เมื่อเห็นว่าไม่มีใครลงมาพบตามที่เรียกร้องจึงพากันเดินทางกลับ เพื่อนำศพน้องฟีโน่ไปทำพิธีฌาปนกิจตามประเพณีต่อไป ขณะที่ผู้สื่อข่าวได้ติดต่อขอพบผู้อำนวยการโรงพยาบาลดังกล่าว และแพทย์ที่เกี่ยวข้อง เพื่อสอบถามถึงกรณีดังกล่าว แต่ไม่สามารถติดต่อได้แต่อย่างใด.


ไทยรัฐออนไลน์ 7 เม.ย. 2558

story

  • Staff
  • Hero Member
  • ****
  • กระทู้: 9742
    • ดูรายละเอียด
ลูกสาวนำขบวนชาวบ้านบุพราหมณ์ กว่า 100 คน รวมตัว แห่โลงศพแม่ ประท้วงไม่พอใจที่ โรงพยาบาลนาดี ปล่อยให้แม่ที่ถูกงูกัดเสียชีวิต

นางสมใจ จบไตรเพศ อายุ 24 ปี ชาวบ้าน ต.บุพราหมณ์ อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี ได้นำเพื่อนบ้านรวมกว่า 100 คนแห่โลงศพของนางอำไพ สีบ้านเหล่า ผู้เป็นมารดานำมาประท้วงที่หน้า รพ.นาดี จ.ปราจีนบุรี ทั้งนี้สืบเนื่องจาก เมื่อวันเสาร์ที่ 9 พ.ค. ที่ผ่านมา นางอำไพ ได้ถูกงูเห่ากัดที่บริเวณขา ญาติจังนำไปให้หมอ รพ.นาดี และนำงูที่กัดไปด้วย แต่กลับไม่มีหมอ และพยาบาลทำการรักษา จนอาการคนเจ็บอาการไม่ดี พยาบาล รพ.นาดี จึงส่งนางอำไพ ไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลกบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี ซึ่งต่อมาผู้ป่วยได้เสียชีวิตในเวลาต่อมา

นางสมใจ บอกว่า บรรดาลูก และญาติๆ ติดใจสาเหตุการเสียชีวิตของนางอำไพ จึงรวมตัวกันแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ เพื่อเป็นอุทหรณ์ขอให้นางอำไพเป็นรายสุดท้ายจากการเสียชีวิตจากการถูกงูกัด ทั้งที่ตอนถูกงูเห่ากัดนั้น ทางญาติคนตายได้ทำการปฐมพยาบาลขั้นต้น โดยการล้างบาดแผล รัดด้วยเชือกขันชะเนาะเหนือบาดแผล ที่งูกัด เพื่อไม่ให้พิษงูเข้ากระแสเลือด แต่ทำไมนางอำไพจึงเสียชีวิตด้านนางสาวนงนิด เจริญงามเสมอ ผอ.รพ.นาดี จ.ปราจีนบุรี บอกว่า คนไข้ไม่ได้เสียชีวิตเพราะถูกงูกัด แต่เสียชีวิตเนื่องจากว่า ร่างกายของคนไข้มีโรคแทรกซ้อน ความดันสูงผิดปกติ และอาการหนัก ทาง รพ.จึงนำส่งไปรักษาโรงพยาบาลกบินทร์บุรี

16/5/2558
http://www.msn.com/th-th/video/watch/%E0%B8%A5%E0%B8%B9%E0%B8%81%E0%B8%AA%E0%B8%B2%E0%B8%A7%E0%B8%99%E0%B8%B3%E0%B8%A8%E0%B8%9E%E0%B9%81%E0%B8%A1%E0%B9%88%E0%B9%81%E0%B8%AB%E0%B9%88%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%97%E0%B9%89%E0%B8%A7%E0%B8%87-%E0%B9%84%E0%B8%A1%E0%B9%88%E0%B8%9E%E0%B8%AD%E0%B9%83%E0%B8%88-%E0%B8%A3%E0%B8%9E-%E0%B8%9B%E0%B8%A5%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%A2%E0%B9%83%E0%B8%AB%E0%B9%89%E0%B9%81%E0%B8%A1%E0%B9%88%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%96%E0%B8%B9%E0%B8%81%E0%B8%87%E0%B8%B9%E0%B8%81%E0%B8%B1%E0%B8%94-%E0%B9%80%E0%B8%AA%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%8A%E0%B8%B5%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%95/vi-BBjQAkR

story

  • Staff
  • Hero Member
  • ****
  • กระทู้: 9742
    • ดูรายละเอียด
ประธาน นปช.อำเภอรัตนบุรีนำญาติร่วม 100 คนแห่โลงศพประท้วงเรือนจำรัตนบุรี-พร้อมยื่นหนังสือถึงผู้ว่าเร่งสั่งติดตามคดี หลังครอบครัวติดใจการเสียชีวิตของลูกชาย อ้างถูกซ้อมในเรือนจำแต่เรือนจำกลับปิดบังไม่ยอมบอก

18 เม.ย. 2557 เมื่อเวลา 10.30 น.ที่หน้าศาลากลาง จ.สุรินทร์ นางคำนวน แสงสว่าง อายุ 62 ปี พร้อมด้วย พระสุวรรณ แสงสว่าง อายุ 63 ปี พระลูกวัดบ้านโนนสะเดา อยู่บ้านเลขที่ 7 ม.11 บ.โนนสะเดา ต.หนองเทพ อ.โนนนารายณ์ จ.สุรินทร์ ได้นำโลงศพบุตรชาย คือนายครรชิต แสงสว่าง อายุ 22 ปีขึ้น บรรทุกใส่รถตู้ของหน่วยกู้ชีพสลักได เดินทางมาพร้อมญาติพี่น้องและชาวบ้านด้วยรถกระบะอีกนับ 10 คัน รวม กว่า 100 คน มายังศาลากลาง จ.สุรินทร์ เพื่อแห่โลงศพประท้วงเรียกร้องขอความเป็นธรรมให้กับบุตรชาย พร้อมนำเอกสารหลักฐานต่างๆ พร้อมใบผ่าชันสูตรของแพทย์ ยื่นหนังสือต่อผู้ว่าราชการ จ.สุรินทร์ให้ช่วยเร่งรัดติดตามคดี กรณีการเสียชีวิตที่แท้จริง ของบุตรชาย โดยทั้งหมดได้นำป้ายเขียนข้อความโจมตีและขอความตอบที่ชัดเจนจากเรือนจำรัตนบุรีต่างๆนาๆถึงสาเหตุของการเสียชีวิตของนายครรชิต แสงสว่าง

นายประยงค์ สร้อยศรีหา ประธาน นปช.อ.รัตนบุรี จ.สุรินทร์ กล่าวว่า ตนขอร้องเรียนของความเป็น ผ่านสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมเอเชียอัพเดท และช่องทางสื่อของคนเสื้อแดง ตนเป็น นปช.รุ่นแรกนำพาพี่น้องมาร้องทุกข์ต่อผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ เพราะขณะนี้เกิดความเป็นเป็นธรรมเกิดขึ้นกับประชาชน ซึ่งเขาเหล่านั้นยังไม่ถึงเวลาอันควรที่จะต้องถึงแก่ความตาย เมื่อมีคดีความได้ถูกจับติดคุกจองจำตามกฎหมายแล้ว พอกำลังจะได้ขึ้นศาลเพื่อพิพากษาคดี ที่เรือนจำรัตนบุรี ได้นำผู้ต้องหาไปคุมขัง มีการซ้อมจนตับแตกตาย วิงวอนของความเป็นธรรมถึงท่านณัฐวุฒิ ใส่เกื้อ และท่านจตุพร พรหมพันธุ์ ขอให้รับเรื่องนี้ไว้พิจารณา เพราะพี่น้องชาวรากหญ้าที่สนับสนุนพรรคเพื่อไทย และพรรคไทยรักไทยในอดีต ขอให้ท่าดูแลความเดือนร้อนของชาวบ้านและพี่น้องคนเสื้อแดงด้วย

นางดวงจันทร์ แสงทอง อายุ 41 ปี พี่สาวผู้เสียชีวิต อยู่บ้านเลขที่ 37 /3577 หมู่บ้านพฤกษา 13 ต.คลองสาม อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี กล่าวทั้งน้ำตานองหน้าว่า เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 8 เม.ย.57 ที่ผ่านมา นายครรชิต แสงสว่าง ผู้เสียชีวิตถูกคุมขังด้วยคดีตาม พ.ร.บ.ยาเสพติด เนื่องจากตรวจพบปัสสาวะสีม่วง และถูกนำตัวออกจากเรือนจำไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลรัตนบุรี ก่อนถูกส่งต่อไปยังโรงพยาบาลสุรินทร์ อาคาร 4/3 โดยไม่ทราบสาเหตุ ต่อมาเวลาประมาณ 15.00 น.ของวันเดียวกันครอบครัวและญาติพี่น้องพึ่งได้รับแจ้งจากเรือนจำรัตนบุรีว่า ผู้ตายถูกส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลสุรินทร์ โดยระบุว่าเกิดอาการลงแดง อยากยาเสพติด อย่างรุนแรง จากนั้นครอบครัวและญาติพี่น้องจึงเดินทางไปเยี่ยมผู้ตายที่โรงพยาบาลสุรินทร์ พอไปถึงผู้ตายพูดไม่ได้แต่ยังรู้สึกตัว และถามว่าเจ็บปวดตรงไหน ผู้ตายจึงชี้ให้ดูว่า เจ็บบริเวณท้อง และซี่โครง รวมทั้งที่คางและแก้ม พวกตนจึงถามหมอที่รักษา ก็บอกว่าเอ็กซเรย์สมองแล้วไม่เป็นอะไร ทั้งที่ผู้ตายไม่ปวดหัว บอกปวดท้องและที่อื่น ก็ไม่ยอมเอ็กเซรย์ดู และขอย้ายไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลรวมแพทย์ก็ไม่ให้ย้ายอีก

จากนั้นวันที่ 15 เม.ย.นายครรชิต จึงเสียชีวิตลง ญาติพี่น้องจึงติดใจ ต้องการให้แพทย์ผ่าพิสูจน์ สุดท้ายแพทย์จึงผ่าพิสูจน์และลงความเห็นเพื่อลงบันทึกในใบมรณะบัตรว่า ตับแตกเนื่องจากถูกทำร้ายร่างกาย ซึ่งตรงกันกับที่ผู้ตายเคยบอกกับพ่อและแม่ของผู้ตายขณะนำอาหารเข้าเยี่ยมลูกชายเมื่อวันที่ 31 มี.ค.โดยนายครรชิต ได้บอกกับพ่อแม่ขณะนั้นว่า ช่วยประกันตนเองออกไปที เพราะถูกซ้อม จนอ้วกเป็นเลือด แต่พ่อและแม่ของผู้ตายไม่ได้ถามว่าถูกใครซ้อม ประกอบกับเงินประกันตัวไม่มีต้องใช้เงินประกันตัวออกมาถึง 4.9 แสนบาท โดยที่มารดาเองก็รู้สึกสงสารและอยู่ระหว่างหาเงินประกันตัวแต่ลูกชายกลับต้องมาตายเสียก่อน

ทั้งนี้หลังเกิดเหตุก็ไม่พบว่ามีการแสดงความรับผิดชอบจากเรือนจำ แม้แต่พวงหรีดสักอันก็ไม่มี มาทราบตอนหลังจากเรือนจำว่าได้แจ้งให้ผู้บังคับบัญชาทราบแล้วว่า สาเหตุของการตายเกิดจากการทะเลาะวิวาทย์ของผู้ตายกับผู้ต้องขังรายอื่น แต่ครอบครัวติดใจทำไมต้องปกปิดตั้งแต่แรก บอกว่านายครรชิตลงแดงอยากยา ทำไมต้องปิดบังแม้กระทั่งไปถึงโรงพยาบาลสุรินทร์ก็ไม่ยอมบอกจนเสียชีวิต ทั้งที่ก่อนหน้าที่ผู้ตายจะถูกส่งตัวมาคุมขังไว้ที่เรือนจำรัตนบุรี ก็ถูกคุมขังที่เรือนจำโคกตะบัล อ.เมือง จ.สุรินทร์ ถึง 21 วันแล้ว ก็ไม่เห็นมีอาการลงแดงอยากยา เป็นไปไม่ได้ที่นายครรชิตจะพึ่งมาลงแดงที่เรือนจำรัตนบุรี แถมหลังนายครรชิต เสียชีวิต จากการตรวจปัสสาวะก็ไม่พบว่ามีสารเสพติดอีกด้วย

และหากถูกผู้ต้องขังด้วยกันซ้อม แล้วทำไมผู้คุมจึงไม่ช่วยและห้ามปราบ ก็แค่พูดความจริงมาครอบครัวคงไม่ติดใจอะไรกับเรือนจำ จึงทนไม่ได้ที่เรือนจำนิ่งเฉยเกินไปและไม่ให้ความชัดเจนตั้งแต่แรก ครอบครัวและญาติพี่น้องจึงต้องการคำตอบที่ชัดเจนจากเรือนจำรัตนบุรีในวันนี้ และต้องการตัวผู้กระทำผิดที่แท้จริง

จากนั้น นายวรชัย ศรีสุวรรณวัฒนา ป้องกันจังหวัดสุรินทร์ ได้เป็นตัวแทนผู้ว่าราชการ จ.สุรินทร์ ลงมารับหนังสือแทน พร้อมรับปากว่า หลังจากได้รับหนังสือแล้วจะนำเสนอถึง นายนิรันทร์ กัลยาณมิตร ผวจ.สุรินทร์ เพื่อให้รับทราบ พร้อมส่งเรื่องถึงศูนย์อำนวยความเป็นธรรม ซึ่งจะได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนหาข้อเท็จจริงและต้องรู้ผลภายใน 15 วัน

หลังจากนั้นครอบครัวและญาติพี่น้องของผู้เสียชีวิต จึงพอใจและได้นำโลงศพนายครรชิต กลับบ้านเกิด เพื่อประกอบพิธีทางศาสนาตอไป และจะมีพิธีฌาปณกิจศพในวันที่ 20 เม.ย.57 นี้ สำหรับนายครรชิต มีบุตรสาว 1 คน และได้แยกทางกันกับภรรยาแล้ว

ทั้งนี้ครอบครัวผู้ตายได้เข้าแจ้งความร้องทุกต่อ ร.ต.ท.เสฏฐวุฒิ นิลจันทร์ ร้อยเวร สภ.โนนนารายณ์ อ.โนนนารายณ์ จ.สุรินทร์ แล้ว เมื่อวันที่ 13 เม.ย. ที่ผ่าน ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ลงพื้นที่เรือนจำรัตนบุรีเพื่อสืบสวนสอบสวน เพื่อหาตัวคนผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

Fri, 2014-04-18 17:08
ธนินท์ทัศน์ ภูแก้ว
http://www.prachatai.com/journal/2014/04/52776