ผู้เขียน หัวข้อ: อึ้ง! คนเมินฉีดวัคซีนหวัดใหญ่เพิ่มขึ้น 40% เชื่อร่างกายแข็งแรงพอ  (อ่าน 561 ครั้ง)

story

  • Staff
  • Hero Member
  • ****
  • กระทู้: 9721
    • ดูรายละเอียด
โพลชี้ ปชช. เมินฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่เพิ่มขึ้น 40% เหตุคิดว่าร่างกายแข็งแรง ไม่จำเป็นต้องฉีด กระแสไข้หวัดใหญ่ปีนี้ไม่แรงพอ กรมควบคุมโรคจ่อสร้างความเข้าใจ จัดวัคซีน 3.4 ล้านโดส ฉีดกลุ่มเสี่ยง พ.ค. นี้ ด้านหมอจุฬาฯชี้ต้องป้องกันในวัยหนุ่มสาวป่วย ช่วยสกัดผู้สูงอายุป่วยตาม

   
อึ้ง! คนเมินฉีดวัคซีนหวัดใหญ่เพิ่มขึ้น 40% เชื่อร่างกายแข็งแรงพอ
        วันนี้ (31 มี.ค.) นพ.โสภณ เมฆธน อธิบดีกรมควบคุมโรค (คร.) แถลงข่าว “ผลสำรวจทัศนคติโรคไข้หวัดใหญ่” ว่า จากการสำรวจความคิดเห็นของประชาชนต่อโรคไข้หวัดใหญ่ โดย DDC Poll ว่ามีความรู้ความเข้าใจเพียงใด เนื่องจากช่วง พ.ค. เป็นต้นไป จะเข้าสู่ช่วงพบการระบาด โดยสำรวจกลุ่มตัวอย่าง 3,024 ตัวอย่าง ช่วงอายุ 15 ปีขึ้นไป ใน 24 จังหวัด ระหว่างวันที่ 9 - 20 มี.ค. 2558 พบว่า ร้อยละ 31.9 เข้าใจว่าโรคไข้หวัดใหญ่ ติดต่อกันจากการไอและจามรดกัน ส่วนเมื่อมีอาการป่วยจะปฏิบัติตัวอย่างไรนั้นพบว่า ร้อยละ 31.5 เข้าใจถูกต้องคือต้องรีบไปพบแพทย์เพื่อรับยาต้านไวรัสไข้หวัดใหญ่ และร้อยละ 28.1 หยุดเรียน/หยุดงาน พักผ่อนอยู่บ้าน ขณะที่ร้อยละ 60.4 ทราบว่าต้องสวมหน้ากาก เพื่อป้องกันการแพร่เชื้อโรคให้ผู้อื่น แต่กลับพบว่ายังมีคนรังเกียจเมมื่อพบเห็นผู้สวมหน้ากากอนามัยอยู่ ร้อยละ 6.5 มากกว่าปี 2557 ที่อยู่ที่ ร้อยละ 5.11 ซึ่งกรณีนี้ไม่ควรเกิดขึ้น
       
       “จากผลสำรวจดังกล่าว ชัดเจนว่าต้องมีการรณรงค์สร้างความเข้าใจเรื่องนี้เพิ่มขึ้นว่า การสวมหน้ากากอนามัยเป็นการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคม ป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อโรค เป็นเรื่องที่ควรยกย่องมากกว่ารังเกียจ นอกจากนี้ ที่น่าสนใจคือ เมื่อสอบถามกลุ่มตัวอย่างเกี่ยวกับการฉีดวัคซีนป้องกันโรค พบว่า มีประชาชนอยากฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่เพียงร้อยละ 33 ลดลงจากปี 2557 ที่อยากฉีดวัคซีนถึงร้อยละ 73 แต่กลับลดลงถึงร้อยละ 40 แสดงให้เห็นว่าการป้องกันโรคในประชาชนกลุ่มตัวอย่างเริ่มลดลงเรื่อยๆ ซึ่งอาจมาจากไม่สนใจการป้องกันโรค คิดว่าตัวเองสุขภาพแข็งแรง ประกอบกับปีนี้กระแสไข้หวัดใหญ่ไม่แรงมากก็เป็นได้” อธิบดี คร. กล่าว
       
       นพ.โสภณ กล่าวว่า ปีนี้จึงต้องเน้นรณรงค์ให้ประชาชนยึดหลักกินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือ ออกกำลังกาย พักผ่อนเพียงพอ และฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ในกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูง เพราะหากป่วยแล้วอาการจะรุนแรงกว่าคนทั่วไป มี 4 กลุ่ม ได้แก่ ผู้สูงอายุ 65 ปีขึ้นไป หญิงตั้งครรภ์อายุครรภ์ 4 เดือนขึ้นไป เด็กอายุ 6 เดือนถึง 2 ขวบ และผู้ป่วยโรคเรื้อรัง ได้แก่ โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง โรคหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง ไตวาย หอบหืด เบาหวาน โรคมะเร็งที่อยู่ระหว่างทำเคมีบำบัด นอกจากนี้ ต้องป้องกันในกลุ่มบุคลากรทางการแพทย์ และผู้มีหน้าที่กำจัดสัตว์ปีก ซึ่งมีโอกาสเสี่ยงติดเชื้อสูงกว่ากลุ่มอื่น ส่วนวัคซีนไข้หวัดใหญ่จะเริ่มฉีดในกลุ่มเสี่ยงตั้งแต่ พ.ค.- ก.ค. นี้ จำนวน 3.4 ล้านโดส
       
       ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการโรคทางสมอง คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า การป้องกันการป่วยไข้หวัดใหญ่ในผู้สูงอายุต้องป้องกันในกลุ่มวัยหนุ่มสาวด้วย เพื่อตัดวงจรการแพร่กระจายเชื้อ เพราะการรักษาผู้ป่วยสูงอายุส่วนใหญ่จะพบว่า มีการติดเชื้อไข้หวัดมาจากลูกหลานที่ป่วยเพียงเล็กน้อย แต่เมื่อผู้สูงอายุติดเชื้อกลับมีอาการรุนแรง


ASTVผู้จัดการออนไลน์    31 มีนาคม 2558