ผู้เขียน หัวข้อ: คำต่อคำ นายแพทย์ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เปิดใจ (๑๒ มีนาคม ๒๕๕๘)  (อ่าน 1552 ครั้ง)

story

  • Staff
  • Hero Member
  • ****
  • กระทู้: 9742
    • ดูรายละเอียด


สวัสดีครับ เดี๋ยวๆ ผมจะเดินพบทุกคนละกันนะครับ ไม่ใช่เดินไปลานะครับ เพราะผมเป็นปลัดกระทรวงสาธารณสุขอยู่นะครับ ผมยังเป็นข้าราชการ วันนี้ผมจะไปพบท่านรัฐมนตรีกประจำสำนักนายกตอนเที่ยงนะครับ เพื่อไปปฏิบัติภาระกิจตามที่ท่านนายกมอบหมาย แต่ตำแหน่งของผมยังเป็นปลัดกระทรวงสาธารณสุขอยู่ครับ ผมจะอยู่ข้างบนครับ  ผมอยากคุยกับพวกเรา กระทรวงสาธารณสุขครับ

ก่อนอื่นขอบคุณนะครับพี่ๆน้องๆ ไม่เป็นไรครับ ผมไม่ได้จำเป็นที่จะออกกล้องนะครับ ผมอยากคุยกับพี่น้องชาวสาธารณสุขมากกว่าครับ เพราะตลอดระยะเวลาที่เราพยายามเสนอว่า มีอะไรอยู่ในกระทรวง สื่อไม่เคยบอกอะไรให้เราเลย ไม่เคยบอกอะไรกับประชาชน ว่ามันมีอะไรในกระทรวงสาธารณสุข หรือว่าถูกซื้อไปหมดแล้ว ผมอยากเรียนอย่างนี้นะครับ วันนี้ขออนุญาตคุยกับพี่น้องชาวสาธารณสุขจากหัวใจนะครับ ผมไม่คิดว่าผมจะต้องมายืนตรงนี้เกือบทุกปีเลยนะครับ ผมน่าจะเป็นปลัดกระทรวงสาธารณสุขที่มันที่สุดในโลกล่ะนะครับ นะครับ จริงๆอยากจะเอาไว้เขียนตอนหนังสืองานศพ นะครับ ว่าผมเจออะไรบ้างตลอดระยะเวลาที่เป็นปลัดกระทรวงสองปีกว่า แต่วันนี้ผมจะลองเล่าให้พวกเราฟังละกันว่าผมเจออะไร ละก็ผมคิดว่ากระทรวงสาธารณสุขจะเดินต่อไปอย่างไรเนี่ย ผมหวังจากพวกเราทุกคนในที่นี้ ผมหวังจากพวกเราที่อยู่ในภูมิภาค ผมหวังจากพวกเราที่อยู่หน้างาน อยู่กับปัญหา เป็นคนที่ให้บริการประชาชนโดยไม่เคยเอาประชาชนเป็นตัวประกัน เป็นคนให้บริการกับประชาชนโดยไม่เคยเอามาประชาสัมพันธ์ เป็นคนที่ทำงานหนักโดยไม่ต้องขึ้นป้าย เป็นคนที่ทำงานหนักโดยไม่ต้องซื้อสื่อ นะครับ

ผมอยากคุยกับพวกเรา แล้วผมว่าอนาคตกระทรวงไม่ได้อยู่ที่ผู้บริหารส่วนกลางเลยครับ อยู่ที่พวกเราที่อยู่ในภูมิภาคทุกคน ผมเชื่อว่าสิ่งที่เรากำลังเดินมานะครับ ผมคิดว่าพวกเราเชื่อเหมือนกัน ว่าเขตสุขภาพจะเป็นทางออกสำหรับทศวรรษนี้ในการที่จะทำให้บริการที่มันกระจุกกระจายไม่ดี ทำงานให้มีประสิทธิภาพที่สุด เพื่อให้ประชาชนได้รับบริการที่ดี ตั้งแต่ระดับสถานีอนามัยจนถึงโรงพยาบาลศูนย์กลางที่เป็นโรงพยาบาลขนาดใหญ่ ผมคิดว่าเราเชื่ออย่างนั้น แล้วความเชื่อนี้ปรากฎอยู่ในนโยบายของรัฐบาลนะครับ ข้อห้าจุดสองผมอยากให้ไปเปิดดูครับ ห้าจุดสอง รัฐบาลท่านนายกประยุทธ์ เขียนไว้ว่าจัดให้มีกลไกการบริหารจัดการสุขภาพในระดับเขตโดยไม่ให้กระจุกตัวที่ส่วนกลาง ผมคิดว่าหัวใจของนโยบายสาธารณสุขของรัฐบาลชุดนี้อยู่ที่ข้อนี้นะครับ ซึ่งพวกเราทำตามนโยบายมาตลอดสองสามปีนี้ ใช่ไหมครับ? และผมไม่เคยเห็นนโยบายรัฐมนตรีเขียนเรื่องเขตเลยครับ ( “ใช่ถูกต้อง” เสียงจากผู้ชุมนุม) ไม่เคยแม้กระทั่งจะกล้าพูดด้วยว่าจะทำงานในรูปเขต นะครับ ไม่เคยแม้แต่กล้าพูดว่าจะทำงานในรูปเขต เพราะมีใครบางคนบอก ถ้าใครพูดเรื่องเขต“ตาย”  ผมไม่เคยรู้ว่ากระทรวงนี้อยู่ด้วยอะไรครับ เพราะฉะนั้นผมเชื่อว่าสิ่งที่เราทำมาเรื่องเขตสุขภาพ ให้ตายผมก็จะเดินหน้าทำอย่างนี้ต่อครับ ครับ เพราะฉะนั้นข้อกล่าวหาว่าไม่เคยทำตามนโยบายรัฐบาล ผมอยากให้ดูข้อห้าจุดสอง  ห้าจุดสอง ชัดๆ นะครับว่า ใครกันแน่ที่ไม่ทำตามนโยบายรัฐบาล ( “ผลประโยชน์ทับซ้อน”..เสียงจากที่ชุมนุมแทรกขึ้นมา) มีอะไรรึเปล่า

เดี๋ยวผมคิดว่าค่อยๆคุยกันนะครับ เราค่อยๆคุยกัน ว่าขณะนี้เกิดอะไรขึ้นในระบบของเรา ผมคิดว่าสิ่งที่เราเห็นตรงกัน
ข้อที่หนึ่ง คือ เรื่องเขตสุขภาพ ตรงกับนโยบายรัฐบาลแน่นอน นะครับ
ข้อที่สองที่เรากำลังคุยกันและเดินหน้ากันเนี่ย คือ เรื่องปฏิรูปการเงินการคลัง สิบสองปีเนี่ยผมคิดว่าได้บทเรียนมากมายแล้วนะครับ เราไปเจอข้อมูลบางอย่าง ผมนำเสนอข้อมูลที่บอกว่าบอร์ดน่าจะต้องตัดสินใจหรือน่าจะต้องรับฟัง ผมคิดว่าที่รัฐมนตรีที่เป็นประธานบอร์ด คือการที่ต้องเอาข้อมูลที่เราไปพบมา ไปตอบ ไม่ใช่มายืนยันว่าถูกต้องหมดแล้ว ผมไม่แน่ใจว่าเป็นประธานบอร์ดหรือเป็นรัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขครับ ผมคิดว่าเรื่องนี้สำคัญ นะครับ เงินประมาณแสนล้าน เป็นภาษีอากรของพวกเรา เราพบเหตุการณ์ที่ดูเหมือนว่าน่าจะต้องตรวจสอบ ต้องตรวจสอบสิครับ ในเมื่อรัฐบาลนี้ออกมาได้เพราะไล่คนโกง เพราะฉะนั้นสิ่งที่เป็นข้อมูลที่เราเห็นว่าน่าจะไม่ชอบมาพากล ควรต้องตรวจสอบซึ่งขณะนี้ตรวจสอบแล้วครับ นะครับ ตรวจสอบแล้วนะครับ เพราะฉะนั้นอันนี้ก็คงเป็นประเด็นที่อย่างไรก็ตามเรื่องนี้น่าจะเป็นประเด็นสำคัญ หลายคนบอกว่าผมน่าจะถูกย้ายเพราะเรื่องนี้อะนะ ไม่รู้จริงรึเปล่านะครับ เพราะเรากำลังไปดูในหัวใจ กล่องหัวใจของใครบางกลุ่ม นะครับ ทิ่คิดว่านี้เป็นอำนาจทางการเงินที่จะนำระบบบริการ โดยทิ้งหัวใจของความเป็นมนุษย์ไปหมดแล้ว วัฒนธรรมการเอางานมาแลกเงิน เอางานมาแลกเงิน ผมคิดว่าผมได้เสนอไปแล้วว่าควรจะต้องแก้ไข มีการโอนเงินไปสิ้นปีงบประมาณวันที่ยี่สิบเจ็ด กันยายนประมาณพันกว่าล้าน แล้วโอนกลับมาด้วยตัวเลขเดียวกันทุกบาททุกสตางค์ ในสามเดือนต่อมา แล้วบอกว่าเป็นการโอนเพื่อไปช่วยก่อน นี่ละครับ ครับผมคิดว่าเรื่องเหล่านี้ต้องตรวจสอบ ผมคิดว่าพวกเราคงไม่ยอมนะครับ ไม่ใช่เงินของเรานะครับ เป็นเงินภาษีที่ประชาชนเสีย แล้วเอามาให้หน่วยบริการ ในการให้บริการประชาชนครับ ไม่ใช่เอาไปทำอะไรตามใจชอบ นะครับ ไม่ใช่เอาไปให้มูลนิธิอะไรก็ตาม ตั้งเป็นเงินเดือนของผู้จัดการโครงการ ทั้งๆที่เป็นเงินค่าหัวของประชาชนนะครับ ผมคิดว่าเรื่องนี้ถึงแม้ผมจะเกษียณ ผมก็จะตามดูต่อนะครับ แล้วผมอยากให้พวกเราตามดูต่อในทุกๆพื้นที่ครับ ว่าเงินที่มาถึงเราเนี่ย มันมายังไง เต็มเม็ดเต็มหน่วยไหม หายไปไหน ผมอยากให้ประชาชนช่วยดูเรื่องนี้ครับ ถ้าสื่อจะบอกก็บอกขอให้ประชาชนช่วยกันมาดูกองทุนหลักประกันสุขภาพหน่อยครับ ว่าบริหารอย่างไร มีธรรมาภิบาล มีประสิทธิภาพแค่ไหน นะครับช่วยตอบพวกเราหน่อย ในฐานะที่เราเป็นผู้ให้บริการแล้วพบเหตุการณ์ไม่ชอบมาพากล อยากให้พวกเราดูต่อนะครับ เรื่องนี้คงเป็นหนังยาวนะครับ

เรื่องที่สามที่เราคุยกันเสมอ ธรรมาภิบาล ใช่ไหมครับ เราเริ่มทำอะไรเยอะแยะเลย หลายคนบอกว่าคนที่ทำมา ทำเรื่องธรรมาภิบาลกำลังจะถูกย้าย อย่าไปกังวลเลยครับ เพราะผมคิดว่า สิ่งที่พวกเราทำมา มันอยู่ในทุกองค์กรแล้ว การที่เป็นหน่วยงานที่จะต้องถูกตรวจสอบได้นะครับ การที่จะต้องลงทุนบริหารอย่างมีส่วนร่วม การที่จะต้องมีธรรมาภิบาลในการใช้จ่าย ในการจัดซื้อจัดจ้าง ในเมื่อเรากล้าออกมาไล่รัฐบาลที่โกงประชาชน ผมก็เชื่อว่าเราต้องปัดกวาดบ้านเรา ตลอดระยะเวลาหนึ่งปีที่ผ่านมา เราปัดกวาดบ้านเราแล้ว ถึงแม้ว่า ผมเชื่อว่าพวกเราคงไม่มีใครโกงมากหรอกครับนะครับ ผมไม่เห็นรัฐมนตรีชุดนี้พูดเรื่องธรรมาภิบาลเลยครับ และผมให้ตรวจสอบเพื่อธรรมาภิบาลก็ยังไม่มีกระบวนการตรวจสอบ แต่กลับมาตรวจสอบว่าโรงพยาบาลขาดทุนเพราะเหตุไร.....(เสียงจากผู้ร่วมชุมนุมแทรกเข้ามา) ขอบคุณครับๆ ยังไม่ได้ย้ายครับ ผมยังเป็นปลัดอยู่ครับ ผมคิดว่าสามเรื่องนี้เป็นสามเรื่องที่เราเดินหน้านะครับ เรื่องทศวรรษพัฒนาสถานีอนามัย ผมคุยกับสมาคมของอนามัย คุยกับชมรมสาธารณสุขแห่งประเทศไทยแล้ว เรื่องนั้นเป็นเรื่องที่เราทำมาอยู่แล้วครับ นะครับ

เรื่องอื่นที่เป็นนโยบายรัฐมนตรีที่พวกเราเห็นว่าเป็นงานประจำ ผมเชื่อว่าพวกเราทำอย่างเต็มกำลังอยู่แล้ว รัฐบาลยุคนี้เป็นรัฐบาลปฏิวัติ มีเวลาสั้น สิ่งที่รัฐบาลหรือรัฐมนตรีชุดนี้โดยเฉพาะกระทรวงสาธารณสุขต้องทำ คือ การทำในเรื่องใหญ่ๆครับ ไม่ใช่ทำในเรื่องเล็กๆ เรื่องใหญ่ๆก็คือเรื่องสิ่งที่เราเห็นตรงกันไปแล้วสองสามเรื่อง เรื่องเขต เรื่องการเงินการคลัง เรื่องธรรมาภิบาล เรื่องของกำลังคน แล้วเรื่องที่ผมเสนอในเรื่องประชาชนนะครับ ผมเสนอตั้งแต่วันแรกที่เจอกัน คือเรื่องพัฒนาการเด็ก เรามีเด็กพัฒนาการล่าช้านี่ถึงสามสิบเปอร์เซ็น นะครับต่ำกว่าห้าขวบ ผมเสนอเรื่องนี้ให้กำหนดเป็นเชิงนโยบาย อยากให้เป็นของขวัญปีใหม่ครับที่ท่านนายกประยุทธ์อยากจะให้กับประชาชน เชื่อไหมครับว่า ไม่เอาครับ บอกว่ากำลังทำนำร่องในห้าจังหวัด ผมบอกรัฐบาลชุดนี้ไม่น่าจะมีอะไรนำร่องนะครับ ควรจะทำทั้งประเทศใช่ไหมครับ พึ่งมายอมรับทำเมื่อสัปดาห์ที่แล้วเองครับ เสนอในที่ประชุมกระทรวง พึ่งจะยอมรับทำ ผมคิดว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญ ท่านนายกประยุทธ์อยากเห็นเด็กไทยฉลาด กำลังปฏิรูปการศึกษา เราคุยกันในผู้บริหารภาคข้าราชการประจำนะครับว่า เราน่าจะส่งมอบเด็กเข้าโรงเรียนที่มีพัฒนาการสมบูรณ์ แต่เขาไม่เอาอะครับ แล้วเขาบอกว่าผมไม่ทำตามนโยบาย ผมไม่รู้ใครไม่ทำตามปัญหาของประเทศกันแน่

เพราะฉะนั้นผมคิดว่าสี่ห้าเรื่องนี้ เป็นสิ่งที่พวกเราเดินอยู่นะครับ แล้วผมคิดว่าต้องเดินต่อไป เรื่องเขต เรื่องการจัดบริการร่วมกัน เรื่องการบริการจัดการร่วมกันนะครับ เรื่องธรรมาภิบาล เรื่องของสามสี่เรื่องนะครับ ผมถ้าจะให้ผมกราบก็กราบนะครับว่า เรื่องนี้จะเป็นช่วงจังหวะสิบปีนี้ ที่กระทรวงสาธารณสุขกับระบบสาธารณสุขควรจะเดินแบบนี้ ในมุมมองที่เราเห็นร่วมกัน หลายคนบอกว่ากระทรวงสาธารณสุขพยายามจะรวบอำนาจกลับมา นะครับ ผมคิดว่าเรื่องเงินเราพูดเสมอนะครับ แล้วก็ถูกเบี่ยงเบนตลอดว่ากระทรวงสาธารณสุขจะเอาเงินมาไว้ที่กระทรวง ผมบอกว่าเอาตัวเลขไว้ที่เขตครับ แล้วให้เขตไปนั่งคุยกันว่าประชาชนในเขตควรจะได้อะไร แล้วจะเอาเงินไปจัดยังไง ไม่ใช่จัดจากส่วนกลางครับ จัดจากส่วนกลางโดยบอร์ด สปสช ผมคิดว่าไม่ตรงกับปัญหา เราเสนอเอาไว้ที่เขตซึ่งตรงกับนโยบายรัฐบาล แต่ปรากฏว่าไม่มีครับ เล่นลูกเล่นกันตลอดเวลา ห้าหกเดือนนี้ยึกยักกันไป ยึกยักกันมา ประชาชนเสียโอกาสแล้วก็มาบอกว่าเราเอาประชาชนเป็นตัวประกัน ผมเชื่อว่าเราไม่เคยไม่บริการประชาชนเลยนะครับ เราบริการเหมือนเดิม ไม่เคยคิดว่ามีเงินหรือไม่มีเงิน แต่มีคนเบี่ยงเบนครับ มีคนเบี่ยงเบน ผมเชื่อว่าหัวใจของเราทุกคนที่ทำงานในกระทรวงสาธารณสุข ทำบริการโดยไม่คิดนะครับว่าจะมีเงินหรือไม่มีนะครับ เพราะฉะนั้นอย่ามาดูถูกหัวใจคนสาธารณสุขนะครับ อย่ามาดูถูกว่าเราเอาประชาชนเป็นตัวประกัน เราไม่เคยครับ ถึงแม้จะเงินไม่มี ถึงแม้จะถูกตัดเงินโดยไม่รู้อิโหน่อิเหน่ ถามว่าตัดอะไรเจ็ดสิบกว่าล้าน ตอบกันไม่ได้สักคน แต่เราก็ยังทำงาน กลับซะอีกว่าเราขอ เราจะประหยัดขึ้น นี่ละครับหัวใจคนสาธารณสุข นะครับ ไม่เคยคิดถึงว่ามันจะได้อะไร เพียงแต่ว่าเท่าที่มีอยู่นี่ มีแค่ไหน ทำแค่นั้นให้ดีที่สุด แล้วมีคนมาเบี่ยงเบนเรา มีคนมาตั้งกลุ่ม มีคนมาประณามเราว่าพวกเราเห็นแก่เงิน ผมไม่รู้ใครครับเห็นแก่เงิน นะครับ เพราะฉะนั้นผมคิดว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญ นะครับ

ขณะนี้มีความพยายามบอกว่ามีความขัดแย้งระหว่างบุคคล ผมเรียนอย่างนี้ครับ เรื่องนี้ผมได้เรียนกับผู้บริหารทุกระดับว่าเป็นเรื่องแนวคิดและหลักการที่ไม่เหมือนกัน ตลอดระยะเวลาสิบกว่าปีที่ผ่านมา ผมเชื่อว่ามีคนกลุ่มหนึ่ง เชื่อว่ากระทรวงสาธารณสุขหรือข้าราชการสาธารณสุขเนี่ย มันไม่มีประสิทธิภาพต้องไปตั้งองค์กรใหม่และเอาเงินไปบริหาร แล้วก็บอกว่าคนกระทรวงสาธารณสุขมันแย่ลงทุกวัน จะตั้งเป็นเขต ก็ปรามาสผู้ตรวจว่าไหวเร้อ นะครับ ผมไม่รู้ว่าผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุขอยู่เฉยๆกันได้อย่างไรนะครับ นะครับ หรือว่ามันจริง แต่ผมไม่เชื่อภูมิภาคจะจริง ถ้าผมคิดว่าทำงานอย่างเต็มที่แล้ว เพราะฉะนั้นเรื่องนี้เป็นเรื่องของมีความเห็นในเชิงหลักการและแนวคิดที่แตกต่าง อย่ามาโยงเป็นเรื่องของความขัดแย้งบุคคล ในเมื่อมีหลักการแนวคิดแตกต่างของสองกลุ่มเกิดขึ้นในกระทรวงสาธารณสุข หน้าที่รัฐมนตรีคืออะไรครับ เข้ามาฟังข้อมูลแล้วตัดสินใจ แล้วดูว่าอะไรคือสิ่งที่ควรจะเป็น เป็นคนกลางใช่ไหมครับ รัฐบาลต้องการให้เข้ามาเป็นคนกลาง แต่ผมไม่รู้คนกลางยังไง นะครับ เพราะฉะนั้นผมคิดว่าเรื่องนี้พวกเราคาดหวังคนที่เป็นรัฐมนตรีครับ ว่าจะเข้ามาช่วยดูแนวคิดที่ต่างกันโดยสิ้นเชิง สองแนวคิดนี้ อะไรไปด้วยกันได้ อะไรไปด้วยกันไม่ได้ เป็นทั้งประธานบอร์ดและเป็นทั้วรัฐมนตรี ควรจะต้องนั่งดูข้อมูลให้รอบด้านแล้วตัดสินใจ พวกเราก็คงเห็นนะครับว่า ขณะนี้เกิดอะไรขึ้นในกระทรวง เพราะฉะนั้นอย่ามาโยนว่าเป็นความขัดแย้งบุคคลนะครับ ผมคิดว่าเรื่องนี้สำคัญ ประเด็นความเป็นผู้นำซึ่งผมเคยบอกไปแล้วครับ จนถึงเดี๋ยวนี้ยังตั้งผู้ตรวจไม่ได้เลยครับ รู้ไหมครับว่าเรื่องนี้คุยกันเรื่องแต่งตั้งบุคคลวันที่เท่าไหร่ ( “ออกไป รัฐมนตรีออกไป” เสียงจากผู้ชุมนุม) เดี๋ยวครับ เดี๋ยวๆ เดี๋ยวเราคุยกัน ผมอยากคุยกับพวกเรา อยากคุยกับหัวใจข้าราชการประจำด้วยกัน รัฐมนตรีเข้ามาวันที่สิบสาม กันยายนครับ วันเสาร์ เย็นวันนั้นขอคุยกับผมเรื่องตั้งแต่งโยกย้าย สิบสาม กันยานะครับ ถ้าใครจำได้ว่าวันเสาร์ ทีนี่ มีข้อเสนอว่าจะขอให้มีรองอธิบดีที่คนนึงเป็นรองปลัด ผมบอกว่าไม่ได้ ผมนี่แหละครับเป็นรองอธิบดีที่ถูกแต่งตั้งให้เป็นรองปลัด แต่ผมไม่เป็นครับ แล้วจะให้ผมแต่งตั้ง ผมเลยบอกไม่ได้ครับ ผมเสนอชื่อใครบางคนที่จะเป็น มีคนปฏิเสธครับว่าคนนี้ไม่ให้เป็นผู้ตรวจ นะครับ วันอาทิตย์ครับโทรจิกผมทั้งวัน วันจันทร์ฮะ ไปนั่งคุยกัน สองคน มีที่ปรึกษาใหญ่เข้ามาร่วมด้วยครับ สามคนครับ ครับ แล้วบอกว่าให้ทำไปตามนี้เถอะครับ ผมบอกว่าถ้าท่านจะเอาตามนี้ผมลาออก ถ้าท่านจะเอารองอธิบดีเป็นรองปลัด ผมขอลาออก ก็เปลี่ยนกันไป สุดท้ายคนที่ผมเสนอชื่อเป็นผู้ตรวจที่เขาไม่เอา มีกลุ่มที่ปรึกษากลุ่มนึงครับ ไปปลุกระดมรองอธิบดีว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม ทั้งๆที่คนเนี่ยผมเสนอชื่อให้เป็นผู้ตรวจ ผมเตรียมเรื่องนี้ไว้ตั้งแต่ตอนปฏิวัติครับตาม ว.ยี่สิบ ผมคิดว่านี่เป็นเบื้องหลังที่ผมไม่อยากเล่าให้ฟัง แต่ผมต้องเล่าว่านี้คือความเป็นผู้นำ

ขยับต่อมาครับ ผมจะแต่งตั้งโยกย้ายสาธารณสุขจังหวัด ขอดูชื่อครับ ทั้งๆที่เป็นอำนาจของปลัดนะครับ ทำยังไงรู้ไหมครับ เขาบอกขอดูก่อนว่าเห็นควรยังไง ผมก็ถือหนังสือถือชื่อ  เป็นผมพบกับใครรู้ไหมครับ มีนั่งอยู่ในนั้น หกคนครับ มีทั้งที่ปรึกษา มีทั้งอะไรต่างๆ ถามผมทีละคนครับ ว่าทำไมคนนี้ถึงได้เป็น ทำไมถึงไม่ย้าย ผมก็บอกผมมีกระบวนการ ผมมีธรรมาภิบาล ผมมีระบบซึ่งผมคิดว่าระบบเรากำลังเข็มแข็งขึ้น ผมต้องไปอธิบายความให้กับคนหกคนซึ่งไม่เกี่ยว ถ้าเป็นการเมืองสมัยก่อนต้องถอดถอนแล้วนะครับเนี่ย ผมพยายามจะเดินเพื่อให้เดินหน้าต่อได้ครับ ผมบอกเขาว่าอันเนี่ยเป็นอำนาจของผม เป็นอำนาจปลัด เขามีข้อตกลงกันว่างั้นขอให้แต่งตั้งพวกผู้บริหารระดับสูงก่อนแล้วค่อยแต่งตั้งปลัด เอ้ยแต่งตั้งสาธารณสุขจังหวัด ผมก็รอ ครับ เรามีประเพณีตอนหลังว่าเราจะแต่งตั้งกันภายในเดือนกันยายน เพื่อให้เดินทางเดือนตุลา ปีนี้ช้าไปใช่ไหมครับ เพราะผมรอว่าผู้บริหารระดับสูงที่กำลังพูดคุยกันว่าใครจะเอาใคร ไม่เอาที่ผมเสนอชื่อไป ไม่ออก ผมตัดสินใจครับ ผมไม่รอแล้วครับ ผมตั้งเลยครับ ทั้งๆ ที่เราคุยกันแบบลูกผู้ชายว่ารอให้ผู้บริหารระดับสูงก่อนแล้วค่อยตั้งระดับอำนวยการสูงคือ สสจ. ก็เลยช้าไปประมาณเดือนนึง นะครับ ผมว่านี่คือความจริงครับ ถามว่าการนำอยู่ตรงไหน การนำอยู่ตรงไหน ใครต้องตัดสินใจสำหรับเรื่องผู้คน สาธารณสุขนิเทศว่างสองตำแหน่งครับ ผมเสนอหลักการไปเพราะเป็นอำนาจของผู้ตรวจ ผมเสนอว่าให้มาจากผู้ตรวจเสนอชื่อ แล้วมีกระบวนการกรรมการคัดเลือกว่ากี่ตำแหน่ง ก็จะเสนอสามคน ผมเสนอไปแล้วครับ ใครบ้างตามกระบวนการหลักการ ผู้มีอำนาจให้ความเห็นชอบนะครับ ผมก็มาวางกระบวนการแล้วเดินต่อ เสนอชื่อไปแล้วครับ หกคน จนบัดนี้ยังไม่ลงมาเลยครับ ได้ข่าวว่าไม่ถูกใจ มีคนบางคนบอกทำไมถึงเป็นชื่อเหล่านี้ ก็กระบวนการมันมาแบบนี้ ผมมีผู้ตรวจสอบถาม ผมประชุมรองปลัด ผมคิดว่านี้เป็นประเด็นบุคคลนะครับที่ผมคิดว่ามีคำถามในเรื่องของธรรมาภิบาล

อย่าโยงว่าเป็นความขัดแย้งเรื่องนโยบายเลยครับ นโยบายที่รัฐบาลวางไว้ ไม่ได้เขียนเลยนะครับในนโยบายสิบข้อ เรื่องเขตนะครับ เราทำตามนโยบายรัฐบาล ขณะนี้กำลังบอกว่า ปลัดไม่ทำตามนโยบายรัฐบาล ผมไม่รู้ว่าใครไม่ทำนะครับ ใครไม่ทำไม่รู้จริงๆ ผมว่าถึงเวลานี้ก็ต้องเรียนพวกเราตรงไปตรงมาอย่างนี้ครับว่า อย่าเอาประเด็นที่เป็นการขัดแย้งในเรื่องหลักการ และวิธีการบริหารมาเป็นเรื่องความขัดแย้งระหว่างบุคคล หลายคนจะโยงยังงี้ว่าผมขัดแย้ง บางคนมโนไปซะอีกนะครับว่า ผมผิดหวัง ไม่ได้เป็นรัฐมนตรี ผมเคยตอบหลายทีครับ ตำแหน่งปลัดเป็นตำแหน่งที่มีเกียรติ เป็นข้าราชการประจำเบ็ดเสร็จ เป็นตำแหน่งที่ไม่ได้มาด้วยอะไรเลย มาด้วยการทำงานมาตลอดชีวิตราชการไม่ได้เข้ามาข้างๆ ครับ เป็นตำแหน่งที่มีเกียรติ วันนี้ผมคิดว่าสิ่งที่ผมต้องทำต่อมีอยู่สามสี่เรื่อง เรื่องแรกคือผมต้องกู้ศักดิ์ศรีของตระกูลผมนะครับ เพราะเหตุไร ผมถึงถูกตั้งกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง ผมยังไม่เห็นคำสั่งเลยครับ

อันที่หนึ่ง ผมต้องกู้ศักดิ์ศรีผดุงรักษาศักดิ์ศรีของตัวบุคคลของผมและตระกูลผม

เรื่องที่สอง สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นการคุกคามข้าราชการประจำครับ นี่คือศักดิ์ศรีข้าราชการประจำ เราคิดว่าอยู่ในช่วงปฏิรูประบบราชการเรื่องนี้สำคัญครับว่าปลัดที่ทำงานนะครับ แล้วมีกระบวนการแบบนี้ ผมคิดว่าเรื่องนี้เป็นศักดิ์ศรีของข้าราชการทุกคน ไม่ใช่เฉพาะกระทรวงสาธารณสุข มันจะเป็นอย่างนี้อีกหรือ แล้วยิ่งเลือกตั้งไปแล้ว ไม่ยิ่งหนักไปกว่านี้อีกหรอ เพราะฉะนั้นการแต่งตั้งผู้บริหารระดับสูง ผมคิดว่าพวกเราต้องเข้ามาดูครับ ว่าใครควรจะเป็นคนแต่งตั้ง เราควรจะมีสิทธิมีเสียงหรือป่าว หรือว่ารัฐมนตรีหยิบเอาคนเดียว ( “ไม่ให้” เสียงจากผู้ชุมนุม) คงต้องไปคุยกันต่อครับ ผมอยากให้เรื่องของผมเนี่ยเป็นเรื่องที่เราต้องคุยกันในฐานะศักดิ์ศรีข้าราชการประจำและการปฏิรูประบบราชการ เรื่องที่สามครับเป็นการผดุงศักดิ์ศรีของปลัดกระทรวงตำแหน่งปลัดกระทรวงนะครับ ว่าตำแหน่งปลัดกระทรวงที่เป็นตำแหน่งสูงสุดเนี่ย ไม่ควรจะถูกกระทำอะไรก็แล้วแต่แบบนี้ หลายคนนะที่เป็นอดีตปลัด โทรหาผมครับ บอกว่าอย่าลาออกเด็ดนะ เพราะนี้ไม่ใช่เป็นการต่อสู้ของบุคคลในเรื่องของตำแหน่งปลัดกระทรวง ศักดิ์ศรีตำแหน่งปลัดกระทรวง ศักดิ์ศรีของหัวหน้าข้าราชการประจำ นะครับ และผมก็คิดว่าไม่ว่าอะไรที่เกิดขึ้น คนที่จะมายืนต่อจากผม ขอให้มีศักดิ์ศรีเช่นเดียวกันนะครับ อย่ามาพร้อมกับยืนกุมเป้าเลยครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 15 มีนาคม 2015, 01:36:20 โดย story »