ผู้เขียน หัวข้อ: คำสั่งให้ปลัดกระทรวงสาธารณสุขไปปฏิบัติราชการสำนักนายกรัฐมนตรี  (อ่าน 2789 ครั้ง)

story

  • Staff
  • Hero Member
  • ****
  • กระทู้: 9742
    • ดูรายละเอียด

story

  • Staff
  • Hero Member
  • ****
  • กระทู้: 9742
    • ดูรายละเอียด
นกหวีด ปรี๊ดแตก 30 บาทรักษาไม่ทุกโรค
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: 11 มีนาคม 2015, 18:42:39 »
นกหวีด ปรี๊ดแตก 30 บาทรักษาไม่ทุกโรค
 
 
 เรื่องราวของ สงครามระหว่าง คนดี กับ คนดี เป็นอย่างไร รีบอ่านโดยพลัน
 
 ...อย่าประหลาดใจหากจะทุบโต๊ะตั้งแต่เริ่มเลยว่าเหตุใดโครงการ30บาท จึง "ไม่" รักษาทุกโรค ก็ด้วยเพราะ "โรค" นี้
 
เป็นโรคการเมือง ยาขนานไหนก็แก้ยาก
 
ยิ่งเป็นกรณีการเมืองระหว่าง "คนดี" กับ "คนดี" ยิ่งยาก
 
นพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ผู้นำองค์กรสูงสุดขณะนี้ถึงกับโอดครวญว่า "น่าแปลกใจที่ตอนนี้เราไม่มีนักการเมือง แต่กลับมีกระบวนการเช่นนี้"
 
 
"กระบวนการเช่นนี้" คงไม่ต้องตีความอะไรมาก
 
หากแต่คือโรคการเมืองที่มุ่งสู่ "การโค่นล้มทำลาย" นั่นเอง
 
ว่าไป คำว่า โค่นล้มทำลาย นี้ นพ.ณรงค์ ก็คงคุ้นๆ อยู่เช่นกัน
 
เพราะเมื่อช่วงสมัยรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นพ.ณรงค์ ชูธงคุณธรรมขึ้นเพื่อ โค่นทำลายรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ และระบอบทักษิณอย่างแข็งขัน
 
โดยประสานเสียงไปกับ "กปปส." ภายใต้การนำของ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ
 
 
นพ.ณรงค์ ถือเป็นบิ๊กข้าราชการแรกๆ ที่ประกาศ "อารยะขัดขืน" ต่อรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ อย่างอาจหาญ
โดยมี ประชาคมสาธารณสุข สนับสนุน
 
รวมถึง ชมรมแพทย์ชนบท และบุคลากรในตระกูล "ส." ด้วย แม้จะเป็นลักษณะ "แสวงจุดร่วม สงวนจุดต่าง" ก็ตาม
จุดยืนอันแจ่มชัดนี้ ทำให้นายสุเทพต้องมอบ "นกหวีดทองคำ" ให้ นพ.ณรงค์ ในฐานะเป็นแนวร่วม "วีไอพี" ที่น้อยคนจะได้รับเกียรตินี้
 
 
บทบาทของ นพ.ณรงค์ จึงโดดเด่น เหนือกว่าทุกฝ่ายในกระทรวงสาธารณสุข
 
แม้แต่ ชมรมแพทย์ชนบท ที่ได้อุทิศตนและทุ่มเทกำลังในทุกองคาพยพ ในการสนับสนุน กปปส. อย่างสุดจิตสุดใจไม่ต่างกัน
 
ความโดดเด่นนี้สืบเนื่องมา แม้มีการรัฐประหารเกิดขึ้นก็ตาม
 
 
โดยขณะที่กระทรวงอื่น ต่างฝุ่นตลบ บิ๊กข้าราชการถูก คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ย้ายไม่เว้นแต่ละวัน
 
 
โครงการเมกะโปรเจ็กต์ ถูกเบรก ถูกยกเลิกจนวุ่นไปหมด
 
 
แต่กระทรวงสาธารณสุข "สงบ-มั่นคง-ราบรื่น"  จึงมองเป็นอื่นใดไม่ได้
 
 
นอกจาก "ต้นทุนแห่งการอารยะขัดขืน" ภายใต้ธงคุณธรรมและความดี เข้าตา "ทหาร"
 
 
ทำให้ชื่อ นพ.ณรงค์ ไม่เพียงมั่นคงที่ "ปลัด สธ." เท่านั้น ยังถูกกล่าวขานว่าอาจเป็นแคนดิเดตรัฐมนตรีสาธารณสุขคนใหม่ด้วย!
 
แข็งแกร่งเช่นนี้เอง
 
ทำให้นพ.ณรงค์เร่งเดินหน้าผลักดัน แนวทางที่เคยประกาศไป 3 เรื่อง คือ 1.การปฏิรูประบบสุขภาพ เช่น เขตสุขภาพ กลไกการเงินการคลังสุขภาพ 2.การปฏิรูปประเทศไทย และ 3.การสร้างความเข้มแข็งระบบราชการ ระบบคุณธรรม การจัดระบบและสร้างกลไกถ่วงดุลฝ่ายการเมือง
 
เพราะ "คืบหน้า" เท่าไหร่ นพ.ณรงค์ ก็ยิ่งโดดเด่น "เข้าตา" มากขึ้นเท่านั้น
แต่ก็นั่นแหละ โลกนี้ไม่ได้มีแต่ด้านบวก
เพราะการขับเคลื่อนดังกล่าว ได้สร้างความไม่สบายใจให้กับ "แนวร่วม กปปส." อีกฟากคือ ชมรมแพทย์ชนบท และองค์กรเหล่าตระกูล ส. ด้วย
เนื่องจากเห็นว่า แนวทางที่ นพ.ณรงค์ ผลักดัน กระทบกระเทือนต่อแนวทางและสถานะของตนอย่างรุนแรง 
เหตุนี้เองจึงทำให้มีข้อมูลของ"คนดี"จากอีกฟากปรากฏออกมา อย่างเช่น "10 ทุรลักษณ์ ผู้ที่จะเป็นผู้นำในการปฏิรูประบบสาธารณสุข ไม่ควรมี"
 
 
เป็น10 ทุรลักษณ์ ที่ นพ.สุวัฒน์ วิริยะพงษ์สุกิจ ผู้นำแพทย์ชนบท ชูขึ้นมานำเสนอ "คสช."
ประกอบด้วย
 
 
1. เป็นเด็กสร้างนักการเมืองที่ขึ้นสู่อำนาจด้วยการวิ่งเต้น
 
 
2. เป็นคู่หูกับนักการเมือง ผลักดันนโยบายทำลายโรงพยาบาลชุมชน เอื้อประโยชน์โรงพยาบาลเอกชนในเมืองใหญ่
 
 
3. รับนโยบายทางการเมือง เพื่อทำลายระบบหลักประกันสุขภาพ หน่วยงานตระกูล ส. และระบบสาธารณสุขของชาติ หยุดกระแสปฏิรูป หยุดทำซีแอลยา เอื้อประโยชน์ให้บริษัทยาข้ามชาติ
 
 
4. ออกนโยบาย P4P ทำลายระบบค่าตอบแทนเหมาจ่ายที่จูงใจให้แพทย์และเจ้าหน้าที่ทำงานในชนบท
 
 
5.ขัดขวางรถกู้ชีพของโรงพยาบาลต่างๆจากทุกภาคที่ช่วยดูแลการต่อสู้ของมวลมหาประชาชน สั่งให้รถทุกคันจอดรอไว้ที่ สธ. หรือโรงพยาบาลสงฆ์ ที่ไม่ใช่จุดเกิดเหตุ
 
 
6. ร่วมกับผู้มีอำนาจทางการเมืองในสาธารณสุข ทำลายภาพลักษณ์และงานขององค์การเภสัชกรรม (อภ.) ทำลายโรงงานผลิตวัคซีนของไทยที่ใกล้สร้างเสร็จ แต่งตั้งตัวเองและพวกพ้องเข้าเป็นบอร์ดและผู้บริหาร อภ. ทำให้ธุรกิจถูกกระทบอย่างหนัก ยอดจำหน่ายยาลดลง
 
 
7. เป็นนักฉวยโอกาส เปลี่ยนขั้วทางการเมือง เมื่อเห็นนักการเมืองที่ยึดเกาะกำลังจะหมดอำนาจลง ประกาศตัวเป็นฮีโร่นำการปฏิรูปสาธารณสุข เอาผลงานที่เคยคัดค้าน เช่น การพัฒนาระบบบริการปฐมภูมิ การมีส่วนร่วมของประชาชน มาโฆษณาเป็นผลงานปฏิรูปของตัวเอง
 
 
8. เสนอแผนปฏิรูปสร้างเขตบริหารสุขภาพ ยึดอำนาจที่เคยกระจายให้นายแพทย์สาธารณสุข 76 จังหวัด ผอ.โรงพยาบาล กว่า 1,000 แห่ง มารวมศูนย์ที่ผู้ตรวจราชการ 12 เขต เพื่อง่ายต่อการสั่งการ เปิดช่องแสวงหาประโยชน์จากการจัดซื้อจัดจ้างได้ง่ายขึ้น
 
 
9. สั่งให้หน่วยบริการและเจ้าหน้าที่ไม่ให้ส่งข้อมูลการบริการ ไม่ให้เข้าร่วมงานและร่วมประชุมพัฒนางานกับ สปสช. เอาผู้ป่วยเป็นตัวประกันเพื่อเป็นเกมต่อรองอำนาจของตน
 
 
10. ประกาศยุบบทบาทและดึงหน่วยงานตระกูล ส. อาทิ สปสช., สสส., สช., สพฉ. ให้กลับไปอยู่ภายใต้อำนาจ สธ. เปิดยุคความขัดแย้งครั้งใหญ่ในระบบสาธารณสุข
 
ถือเป็น 10 ทุรลักษณ์ อันน่ารังเกียจ
 
แม้แกนนำหมอชนบทจะไม่ได้ระบุถึงใคร
 
แต่ใครๆก็รู้ว่าพุ่งเข้าหา นพ.ณรงค์ ถือเป็นการประกาศสงครามระหว่าง "คนดี" ต่อ "คนดี" อย่างไม่ปิดบังอำพราง
 
อันนำไปสู่ "การขยายผล" เพื่อหักโค่นอย่างดุเดือด
 
ไม่ว่าการที่ 8 เครือข่ายองค์กรสุขภาพ ได้เรียกร้องให้ คสช. ปลดคณะกรรมการองค์การเภสัชกรรม (บอร์ด อภ.) และผู้อำนวยการ อภ.
 
โดยอ้างว่า บริหารจนทำให้เกิดวิกฤติด้านยาและพฤติกรรมส่อว่าจะดำเนินการให้ อภ. อ่อนแอ เพื่อประโยชน์ของธุรกิจยาข้ามชาติ
 
ข้อเรียกร้องนี้กระทบชิ่งไปถึง นพ.ณรงค์ ในฐานะที่เป็นบอร์ด อภ. อย่างเลี่ยงไม่ได้
 
จนต้องแก้ลำด้วยการให้บอร์ด อภ. ลาออก 10 คน โดยอ้างว่าเพื่อสนองนโยบายการปรับปรุงประสิทธิภาพการทำ
 
งานรัฐวิสาหกิจของคสช.ไม่ใช่ทำตามข้อเสนอของ 8 เครือข่าย
 
แต่ยังให้ นพ.ณรงค์ และ นพ.สุวัช เซียศิริวัฒนา ผอ.อภ. อยู่ในคณะกรรมการ อภ. ต่อไป
 
ถือเป็นการรีบดับไฟ เพื่อไม่ให้ คสช. เข้ามายุ่งเกี่ยว อันอาจจะทำให้เรื่องบานปลายออกไปอีก
 
ไม่เพียงเท่านั้น
 
ยังมีประเด็นร้อนแรงอีกเมื่อมี"มือมืด"เปิดเผยรายงานการประชุมของกระทรวงสาธารณสุขที่เสนอ พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย ผบ.ทร. ในฐานะหัวหน้าฝ่ายสังคมจิตวิทยา คสช. เมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม ทำนองว่า ปลัดกระทรวงสาธารณสุขเสนอแนวคิดให้ประชาชนร่วมจ่ายค่ารักษาพยาบาลร้อยละ 30-50 ในโครงการหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า
ปมนี้ ร้อนเป็นไฟขึ้นมาทันที
 
เพราะถูกขยายผลทันทีว่ากระทรวงสาธารณสุขกำลังจะร่วมมือกับคสช.ล้มโครงการหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าที่ชาวบ้านทั่วประเทศ 49 ล้านคนได้ประโยชน์
 
กรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติบางคนร่วมโหมไฟ โดยชี้ว่า ผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุข กำลังวางยา คสช. เพราะหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าไม่ใช่ผลไม้พิษของทักษิณ ดังนั้น อย่าทำร้ายประชาชน
 
เช่นเดียวกับ นพ.มงคล ณ สงขลา อดีต รมว.สาธารณสุข พี่ใหญ่ของฝ่ายตรงข้ามปลัดกระทรวงสาธารณสุข ได้ออกมานำเสนอข้อมูล 9 ข้อเพื่อคัดค้านกรณีนี้เช่นกัน
 
โดยย้ำว่าการประกันสุขภาพถ้วนหน้าเกิดจากกระทรวงสาธารณสุขนำโดยนายแพทย์สงวน นิตยารัมพงษ์ และภาคีเครือข่ายสาธารณสุขทั่วประเทศไม่ใช่ "ซากเดนระบอบทักษิณ"
 
"ระบบประกันสุขภาพถ้วนหน้าได้รับการยกย่องไปทั่วโลกเราจะทำลายเพชรเม็ดงามชิ้นนี้ไปเพื่อสนองกิเลส1,500 ตัณหา 108 ของคนบางกลุ่มอย่างนั้นจริงๆ หรือ" นั่นคือสิ่งที่ นพ.มงคล ระบุ
น่าสังเกตการออกมาของ นพ.มงคล ไม่ธรรมดา
 
เพราะอย่าลืมว่าในช่วงรัฐประหาร 19 กันยายน 2549 นพ.มงคล ถูกเลือกให้เป็นรัฐมนตรีสาธารณสุข ในรัฐบาล พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์
 
ทำให้แพทย์ชนบท ก้าวสู่ยุครุ่งเรือง ซึ่งแตกต่างจากยุค นพ.ณรงค์ ที่ชมรมแพทย์ชนบทถูกลดบทบาทลงตลอด
ขณะที่ สปสช. ซึ่งดูแลงบฯ 1.41 แสนล้านบาท และผู้ใช้บัตรทอง 49 ล้านคน ก็กำลังถูก นพ.ณรงค์ รื้อ-ลด-บทบาทลงไปเรื่อยๆ หากไม่รีบสกัดก็อาจจะสูญเสียการนำไปอย่างสิ้นเชิง
การออกมาของ นพ.มงคล จึงมีความหมาย
 
ความหมายที่จะให้ คสช. มองเห็น "คนดี" และพร้อมจะเป็น "คนทำงาน" เพื่อผลักดันโครงการ 30 บาทรักษาทุกโรคให้เดินหน้าต่อไป และจะทำให้ชมรมแพทย์ชนบท ยังคงมีบทบาสำคัญต่อไป
 
ขณะที่ นพ.ณรงค์ ก็ไม่ยอมเป็นฝ่ายถูกกระทำฝ่ายเดียว โดยออกมาตอบโต้ว่ากระทรวงสาธารณสุขไม่ได้เสนอประเด็นการร่วมจ่าย
 
เพียงแต่ในการประชุมช่วงที่เปิดให้เสนอความคิดเห็นนั้นมีคนเสนอแต่ก็เป็นข้อเสนอทั่วไป ไม่ใช่มติที่ประชุม
"เรื่องที่เกิดขึ้นผมตั้งข้อสังเกตว่า มีกระบวนการทางการเมืองหรือไม่" นั่นคือสิ่งที่ ปลัดสาธารณสุข ตั้งข้อสังเกต
 
ขณะที่ นพ.ธวัชชัย กมลธรรม อธิบดีกรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก แอ่นอกออกมารับว่าเป็นผู้เสนอความเห็นดังกล่าว แต่ไม่ได้เสนอว่า ต้องจัดเก็บในสัดส่วนร้อยละ 30-50 เพียงแต่เสนอว่า ระบบสาธารณสุขมีปัญหา ต้องแก้ไขด้วยวิธีการร่วมจ่าย พร้อมกับเขียนเผยแพร่ในไลน์ของเครือข่ายกระทรวงสาธารณสุขว่า "คนที่พูดคือผมเอง ไม่อยากให้พุ่งเป้าที่ท่านปลัด เพราะขณะนี้มีคลื่นใต้น้ำพยายามล้มล้างปลัด"
 
ทำไมต้องล้มล้างปลัด
 
อันนี้ก็ต้องย้อนกลับไปอ่านเรื่องทั้งหมดแล้วจะเห็นชัดถึงการพยายามช่วงชิงอำนาจของเหล่าคนดีในสาธารณสุขโดยมีตำแหน่ง"รัฐมนตรี" และชิงธงการนำในสาธารณสุข เป็นเดิมพัน
 
 
ซึ่ง คสช. คงรับรู้ เพราะเสียง "นกหวีด" ปรี๊ดแตกจนแสบแก้วหูปานนั้น

พญ.เชิดชู อริยศรีวัฒนา
11 มีค 2588

story

  • Staff
  • Hero Member
  • ****
  • กระทู้: 9742
    • ดูรายละเอียด
136/37หมู่บ้านเชียงรายคันทรี่โฮม บ.ป่างิ้ว ต.รอบเวียง อ.เมือง เชียงราย

วันที่ 11 มีนาคม พ.ศ. 2558

เรียน รมต.ว่าการกระทรวงสาธารณสุข

ตามที่ท่านได้มีหนังสือแต่งตั้งให้ผมอยู่ในทีมที่ปรึกษารมต.และรมช.กระทรวงสาธารณสุขนั้น ผมขอขอบคุณที่ท่านให้เกียรติและให้โอกาสผมได้ทำงานเพื่อประเทศชาติ ผมได้เรียนท่านตั้งแต่วันแรกที่พบกันให้ทราบถึงปัญหาความขัดแย้งที่เกิดขึ้นภายในกระทรวงสาธารณสุขและขอให้ท่านซึ่งเป็นคนนอกน่าจะเป็นคนกลางที่สามารถแก้ไขความขัดแย้ง สร้างความสามัคคีให้เกิดขึ้นจะเป็นประโยชน์ต่อการทำงานเพื่อดูแลปัญหาสุขภาพของประชาชน และได้ขอให้ท่านจัดเป็นงานรีบด่วนที่ต้องทำก่อนงานอื่นๆ

ผมได้เข้าร่วมประชุมกับทีมที่ปรึกษาฯหลายครั้งและได้พยายามเสนอความเห็นให้ทีมที่ปรึกษาฯได้เข้าใจถึงความสำคัญของปัญหาความขัดแย้งภายในกระทรวงสาธารณสุขซึ่งต้องการ การแก้ไขโดยเร็วก่อนที่จะลุกลามจนก่อให้เกิดความเสียหายได้ ท่านรมต.เป็นคนกลางที่มาจากนอกกระทรวงสธ.น่าจะเป็นกาวใจสมานรอยร้าวนี้ได้โดยอาศัยข้อมูลที่ถูกต้องจากทุกฝ่าย แต่ก็ไม่ได้รับความสนใจจากทีมที่ปรึกษาฯเท่าใดนัก ส่วนใหญ่เห็นว่าไม่น่าจะเป็นปัญหาในการทำงานของรมต. จนกระทั่งเกิดความขัดแย้งกันมากขึ้นทั้งทางความคิดและหลักการในการบริหารงบประมาณและการจัดบริการเขตสุขภาพ ทำให้การทำงานไม่ไปในแนวทางเดียวกันของทางรมต.และปลัดฯ ผมรู้สึกผิดหวังมากที่รมต.และรมช.ไม่สามารถทำให้เกิดความสามัคคีภายในกระทรวงฯและยังเป็นเหตุให้เกิดความขัดแย้งมากขึ้น ทั้งๆที่ปลัดฯเป็นคนที่ทุกคนทั้งในและนอกกระทรวงสธ.ให้ความเคารพและเชื่อถือในฐานะผู้นำที่มีธรรมาภิบาล กล้ายืนหยัดต่อสู้กับความไม่มีคุณธรรมจนกระทั่งเกิดการยึดอำนาจของคณะคสช.เพื่อการปฏิรูปประเทศ

เมื่อมีคำสั่งย้ายนพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสธ.เข้าประจำสำนักนายกฯและแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงดังปรากฏในหนังสือคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่75/2558

ผมในฐานะทีมที่ปรึกษาฯไม่เห็นด้วยในการแก้ปัญหาความขัดแย้งด้วยวิธีที่ทำร้ายคนดีของแผ่นดินเช่นนี้ ผมจึงขอลาออกจากทีมที่ปรึกษารมต. รมช.กระทรวงสาธารณสุขตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป

ขอแสดงความนับถือ

นพ.พิษณุ ขันติพงษ์


story

  • Staff
  • Hero Member
  • ****
  • กระทู้: 9742
    • ดูรายละเอียด
ช่วงเย็นวันเดียวกัน ที่สโมสรทหารบก วิภาวดีฯ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมร่วม คสช., คณะรัฐมนตรี (ครม.), สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.), สภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) และคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ กรณีการตั้งกรรมการสอบ นพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ว่า "อ๋อ มันมีปัญหา ทางกระทรวงเขาบอกว่ามีปัญหาในการทำงานนานแล้ว ตั้งแต่เข้ามาทำงานนานแล้ว"

เมื่อถามว่า การโยกย้ายแบบนี้จะสามารถแก้ไขปัญหาได้หรือ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า "ท่านเคยบอกแล้วว่าถ้ามีปัญหาจะขอมาช่วยราชการ ท่านเคยพูดไว้แล้ว เพราะฉะนั้นสื่อก็ต้องไปช่วยอธิบายด้วยว่าตามที่ท่านเคยบอกถ้าไม่แก้ปัญหาก็ไม่ได้ ผมก็เคยบอกว่าให้ไปพูดคุยกันก่อนให้รู้เรื่อง ให้ไปพูดคุยกันมา 8 เดือนแล้วก็ต้องหยุด คราวนี้มันมีปัญหาในเรื่องอะไรบ้าง งบประมาณในการดูแลซึ่งตรงนั้นมันมีกติกาและระเบียบอยู่แล้วว่าตอนนี้การจ่ายเงินสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ซึ่งเดิมมันเป็นของกระทรวงสาธารณสุข

แต่วันนี้กลับมาคณะนี้มาทำงาน เขากำลังเข้าสอบสวนตรงนี้อยู่ แต่การดูแลตรงนี้เดี๋ยวจะต้องไปปรับคณะกรรมการใหม่ว่ามีในส่วนของกระทรวงสาธารณสุขให้มันมากขึ้น และในส่วนของแพทย์ชนบทตรงนี้ด้วย จะได้ใช้เงินตรงนี้ให้ถูกต้อง วันนี้ต้องถามว่าถ้าเกิดมีคำสั่ง 2 คำสั่ง คือคำสั่งของรัฐมนตรีและคำสั่งของปลัดกระทรวงสาธารณสุข ข้าราชการจะปฏิบัติงานได้หรือไม่ ก็ต้องให้ความเป็นธรรมกับเขาด้วย ผมไม่ได้รังเกียจอะไรเขา เดี๋ยวมาช่วยงานที่ผมนะ ไม่ต้องกังวล อย่าไปปลุกม็อบมา เดี๋ยวจะทำงานกันไม่ได้" พล.อ.ประยุทธ์กล่าว


หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์ -- พฤหัสบดีที่ 12 มีนาคม







story

  • Staff
  • Hero Member
  • ****
  • กระทู้: 9742
    • ดูรายละเอียด
พิพาท 'หมอณรงค์' ถูกเด้งเข้ากรุ
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: 14 มีนาคม 2015, 01:47:47 »
กลุ่มชมรมแพทย์บางส่วน นัดชุมนุมต่อต้านคำสั่งย้ายนายแพทย์ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ที่กระทรวงสาธารณสุขเช้านี้ (12 มี.ค. 58) ขณะนายกรัฐมนตรีไม่กังวล ยืนยันนายแพทย์ณรงค์ สมัครใจย้ายเองหนีปัญหาภายใน
   
พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ขออย่ากังวลเรื่องการโยกย้าย นายแพทย์ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข มาช่วยราชการสำนักนายกรัฐมนตรี เพราะสมัครใจขอให้ย้ายมาช่วยราชการประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเอง และเรื่องนี้เป็นปัญหาภายในการทำงาน ที่มีปัญหาตั้งแต่นายณรงค์ เข้ามารับตำแหน่ง

ขณะเดียวกัน ไม่กังวลว่ากลุ่มชมรมแพทย์บางส่วน นัดรวมตัวที่กระทรวงสาธารณสุข ให้กำลังใจ นายแพทย์ณรงค์และขับไล่รัฐมนตรีสาธารณสุข ในเวลา 08.00 น. เพื่อเรียกร้องขอความเป็นธรรมอย่างถึงที่สุด


http://news.voicetv.co.th/thailand/178068.html

story

  • Staff
  • Hero Member
  • ****
  • กระทู้: 9742
    • ดูรายละเอียด
12 มี.ค. 58 เมื่อเวลา 12.15 น.ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ได้อธิบายถึงกรณีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ลงนามคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรีให้นพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข มาปฏิบัติราชการสำนักนายกรัฐมนตรีว่า การใช้คำว่า“เด้ง”หรือ“ย้ายฟ้าผ่า”เป็นความเข้าใจคลาดเคลื่อน เพราะขณะนี้ไม่มีคำสั่งย้าย เพียงแต่เอาตัวมาช่วยราชการที่ทำเนียบรัฐบาลเท่านั้น โดยยังคงตำแหน่งปลัดกระทรวงสาธารณสุขอยู่ ไม่สามารถแต่งตั้งใครมาดำรงตำแหน่งแทนได้ และไม่จำเป็นต้องเข้าที่ประชุมครม.โดยนายกฯใช้อำนาจตามระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน มาตรา 11(4) ว่าด้วยการสั่งให้ข้าราชการสังกัดกระทรวง ทบวง กรม มาปฏิบัติราชการสำนักนายกรัฐมนตรี โดยจะให้ขาดจากอัตราเงินเดือนสังกัดเดิมหรือไม่ก็ได้ ซึ่งในอดีตก็เคยใช้มาแล้วกับการให้พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ อดีตผบ.ตร.มาช่วยราชการ แล้วได้กลับไปดำรงตำแหน่งเดิม
         
นายวิษณุ  กล่าวด้วยว่า การเข้ามาช่วยราชการที่ทำเนียบรัฐบาล ไม่มีตำแหน่งใหม่อะไร และในคำสั่งนั้นได้บอกชัดเจนว่าให้มาช่วยราชการทำเนียบชั่วคราวเท่านั้น ส่วนเรื่องของเงินเดือนและเงินประจำตำแหน่ง ตามมาตรา 11 (6) ว่าด้วยตั้งผู้ทรงคุณวุฒิเป็นประธานที่ปรึกษา ที่ปรึกษา และคณะที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี หรือเป็นคณะกรรมการเพื่อปฏิบัติราชการใดๆ และกำหนดอัตราเบี้ยประชุมหรือค่าตอบแทนให้แก่ผู้ซึ่งได้รับแต่งตั้ง นั้นนพ.ณรงค์ ยังได้รับเงินเดือนในตำแหน่งปลัดกระทรวงสาธารณสุข แต่ต้องการให้ท่านรักษาสิทธิเงินประจำตำแหน่ง 45,000 บาทต่อไป ก็ต้องกำหนดให้มาเป็นที่ปรึกษานายกฯด้านสาธารณสุขด้วย โดยเป็นการกำหนดเพื่อให้ท่านได้เงินประจำตำแหน่ง ดังนั้นก็เท่ากับว่า นพ.ณรงค์ ได้เงินเดือนและเงินประจำตำแหน่งเท่าเดิม เพียงแต่ไม่มีอำนาจสั่งการข้าราชการในกระทรวงเท่านั้น
         
ผู้สื่อข่าวถามว่า นพ.ณรงค์ จะได้กลับไปกระทรวงเมื่อไร  รองนายกฯ กล่าวว่า ไม่ทรบ  ไม่แน่ใจว่าจะย้ายกลับก่อนสอบเสร็จ หรือสอบเสร็จแล้วถึงย้ายกลับ ส่วนปัญหาที่เกิดขึ้นในกระทรวงสาธารณสุขตนไม่ทราบ เพราะไม่เคยเป็นรัฐมนตรีสาธารณสุขมาก่อน ไม่ทราบเลยว่ามีปัญหาอะไรกัน เมื่อถามว่า รัฐบาลจะเข้าไปดูปัญหาที่แท้จริงหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า มีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบ ที่มีน.ส.ชุติมา บุณยประภัศร ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธาน  ซึ่งคณะกรรมการชุดนี้จะรายงานว่าจะต้องแก้ปัญหาอย่างไร เมื่อถามว่า เป็นเพราะเงินกระทรวงนี้เยอะไปหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ไม่ทราบเลยว่ามีปัญหาอะไรกัน 


http://m.naewna.com/view/highlight/148847

story

  • Staff
  • Hero Member
  • ****
  • กระทู้: 9742
    • ดูรายละเอียด
นายแพทย์ณรงค์ ไม่หนักใจถูกโยกย้ายเข้าสำนักนายก ขณะปฏิเสธไม่ทราบ นายกฯ ให้สัมภาษณ์ เรื่องสมัครใจย้ายเอง - เลี่ยงตอบอำลาตำแหน่งพรุ่งนี้ เวลา 08.00 น.

น.พ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยกับสำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ถึงกรณีคำสั่งโยกย้ายให้ไปปฏิบัติหน้าที่เป็นที่ปรึกษาผู้ทรงคุณวุฒิ ด้านการวิจัยและการพัฒนาด้านสุขภาพแห่งชาติ สำนักนายกรัฐมนตรี ว่า ล่าสุดตนทราบข่าวจากสื่อมวลชนแล้วแต่ยังไม่มีหนังสือคำสั่งมายังตนและตนไม่หนักใจยังคงทำงานปกติ

ส่วนกรณีที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนที่สโมสรทหารบก ถ.วิภาวดี ว่า การโยกย้ายครั้งนี้เป็นความต้องการของตัวเอง นั้น น.พ.ณรงค์ ปฏิเสธว่า ไม่ทราบเรื่องดังกล่าว

ส่วนในวันพรุ่งนี้ที่มีกระแสข่าวว่า ข้าราชการกระทรวงสาธารณสุขจะนัดรวมตัวแต่งชุดดำ เพื่อคัดค้านการโยกย้าย ขับไล่รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุข และตัวเองจะอำลาตำแหน่งในวันพรุ่งนี้ เวลา 08.00 น. นั้น น.พ.ณรงค์ กล่าวเพียงสั้น ๆ ว่า พรุ่งนี้ยังทำงานตามปกติ

ข้อมูลจาก: news.sanook.com
11 มีนาคม 2558

story

  • Staff
  • Hero Member
  • ****
  • กระทู้: 9742
    • ดูรายละเอียด