ผู้เขียน หัวข้อ: ไรจิ๋วจอมพลัง-สารคดี-เนชั่นแนลจีโอกราฟฟิก  (อ่าน 994 ครั้ง)

pani

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 756
    • ดูรายละเอียด

ภาพ : ไรจิ๋วจอมพลัง
ภาพโดย : มาร์ติน เอิกแกร์ลี
คำบรรยายภาพ : ในภาพที่ได้รับการขยายหลายร้อยเท่าภาพนี้ ไรดินซึ่งเป็นสัตว์นักล่าคือความน่าพรั่นพรึงในโลกใบจิ๋วของพวกมัน PARAZERCON SP. ขยาย 556 เท่า

พวกมันคืบคลานและออกลูกออกหลานในถิ่นอาศัยแสนพิสดาร บ้างตั้งฐานปฏิบัติการบนร่างกายสิ่งมีชีวิตชนิดอื่น เช่น บนใบหน้าของคุณ

หลายปีก่อนผมเคยคาดเดาเรื่องไรผิวหนังซึ่งเป็นสัตว์ที่อาศัยอยู่ในปุ่มรากผมของมนุษย์เอาไว้  พวกมันมีขนาดเล็กมากถึงขนาดที่ว่าไร 12 ตัวสามารถล้อมวงเต้นรำอยู่บนหัวเข็มหมุดได้  แต่พวกมันน่าจะออกมาเริงร่าอยู่บนใบหน้าคุณมากกว่า พวกมันทำเช่นนั้นในเวลากลางคืนเพื่อผสมพันธุ์  ก่อนคลานกลับเข้าไปในปุ่มรากผมตอนกลางวันเพื่อกินอาหาร ที่นั่นแม่ไรจะวางไข่สองสามใบซึ่งมีขนาดค่อนข้างใหญ่เมื่อเทียบกับขนาดตัว  ไข่รูปร่างเหมือนตัวไรจะฟักเป็นตัว จากนั้นลูกไรจะลอกคราบหลายต่อหลายครั้งซึ่งเป็นกระบวนการที่ไรทุกตัวทำกัน นั่นคือการสลัดโครงสร้างแข็งด้านนอกออก ก่อนจะคืบคลานออกมาโดยมีขนาดตัวใหญ่ขึ้นเล็กน้อย  ไรใช้ชีวิตระยะตัวเต็มวัยอยู่เพียงไม่กี่สัปดาห์ ความตายจะมาเยือนทันทีที่ภายในตัวไรซึ่งไม่มีทวารหนักอัดแน่นไปด้วยมูล

ทุกวันนี้ เรารู้จักไรผิวหนังอยู่ด้วยกันสองชนิด ผมคาดเดาว่าเพียงแค่สุ่มตัวอย่างผู้ใหญ่จำนวนไม่ต้องมากมายอะไร เราน่าจะพบไรมากชนิดขึ้นกว่าเดิม และเป็นชนิดใหม่ๆที่วงการวิทยาศาสตร์ไม่เคยรู้จักมาก่อนด้วย

การคาดเดาของผมตั้งอยู่บนพื้นฐานความเข้าใจในเรื่องวิวัฒนาการและพฤติกรรมมนุษย์  วิวัฒนาการมีแนวโน้มจะทำให้สิ่งมีชีวิตขนาดเล็กมีความหลากหลายมากที่สุด  ในทางกลับกัน มนุษย์มีแนวโน้มจะมองข้ามสิ่งเล็กๆ ตัวอย่างเช่น ไรน้ำซึ่งอาศัยอยู่ตามแหล่งน้ำต่างๆ เช่น ทะเลสาบ หนองบึง หรือแม้แต่แอ่งน้ำเล็กๆ มักอยู่รวมกันนับร้อยนับพันตัวต่อหนึ่งลูกบาศก์เมตร แต่น้อยคนนักจะเคยได้ยินเกี่ยวกับไรน้ำ ซึ่งก่อนหน้านี้ไม่นานยังรวมถึงตัวผมด้วย ทั้งๆที่ผมมีอาชีพศึกษาสิ่งมีชีวิตขนาดเล็กจ้อยแท้ๆ

ในโลกของไร สัตว์ประหลาดตัวจริงบางชนิดอาศัยอยู่ในดินที่ซึ่งเราอาจพบไรนักล่าที่ส่วนปากมีลักษณะคล้ายอาวุธในยุคกลาง บ้างมีขากรรไกรคมกริบเหมือนฟันฉลาม บ้างมีปากคล้ายใบมีดที่งับเข้าหากันด้วยแรงมหาศาล สัตว์ร้ายเหล่านี้ย่องไปตามรูหนอนและแทรกตัวไปตามช่องว่างเล็กๆระหว่างเม็ดทราย

ไรบางชนิดอาศัยอยู่ตามเรือนยอดไม้ในป่าฝน บนใบไม้ และในดินที่ทับถมอยู่ตามง่ามไม้ รวมทั้งตามกอพืชอิงอาศัย

คงไม่เป็นการกล่าวเกินจริงเลยว่า ไรเปลี่ยนโลกนี้ไป พวกมันสามารถพลิกหน้าดินให้เร็วขึ้นหรือช้าลง เร่งหรือชะลอการย่อยสลายของอินทรียสาร ทำให้พืชผลเป็นโรคหรือแข็งแรง

ปัจจุบันเรายังไม่ทราบแน่ชัดว่า โลกมีไรอยู่มากมายกี่ชนิด คลังตัวอย่างในพิพิธภัณฑ์เต็มไปด้วยไรชนิดพันธุ์ที่ยังไม่มีใครมีโอกาสศึกษา บางชนิดจะช่วยให้เราเข้าใจวิวัฒนาการของพวกมันอย่างไม่ต้องสงสัย บางชนิดกินแมลงกินพืช และอาจเป็นประโยชน์ทางการเกษตรหรือการแพทย์ กระนั้น บางชนิดก็อาจเป็นพาหะของโรคร้ายเสียเอง

การคาดเดาของผมยังมีเหตุผลสนับสนุนอีกประการหนึ่ง กล่าวคือ ไรเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการปรับตัวจนสามารถอยู่ได้ในแทบทุกสิ่งแวดล้อม ตั้งแต่หลอดลมของผึ้ง ก้านขนนก ทวารหนักของเต่า ต่อมผลิตกลิ่นเหม็นของแมลงหลายชนิด ระบบย่อยอาหารของเม่นทะเล ปอดของงู ไขมันในตัวนกพิราบ ลูกตาของค้างคาวกินผลไม้ เรื่อยไปจนถึงขนรอบอวัยวะเพศผู้ของค้างคาวดูดเลือด การใช้ชีวิตในถิ่นอาศัยเหล่านี้ส่งผลให้ไรจำเป็นต้องมีอวัยวะหรือคุณลักษณะพิเศษบางอย่าง เช่น ขน สารเคมี แผ่นเท้า ส่วนปาก และกลเม็ดต่างๆ

ไม่ว่าเราจะนิยามถิ่นอาศัยอย่างไร เล็ก ใหญ่ หรือแคบแค่ไหน ก็จะพบไรได้เสมอ

ทว่าถิ่นอาศัยที่เหมาะสมกับไรมากที่สุดคือร่างกายสัตว์ ไม่ว่าจะเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม นก แมลง หรือสิ่งมีชีวิตอื่นที่มีขนาดใหญ่กว่าไร ไรที่อาศัยร่างกายสัตว์เป็นบ้านจะปรับตัวอย่างเฉพาะเจาะจงเพื่อให้สามารถเกาะอยู่กับเจ้าบ้านได้อย่างเหนียวแน่นในทุกสถานการณ์

จากความหลากหลายและความสามารถเฉพาะตัวเช่นนี้ จึงไม่ใช่เรื่องยากที่จะนึกวาดภาพว่า ผู้คนที่อยู่กันเต็มห้อง (คิดถึงถิ่นอาศัยทั้งหมดสิ!) จะเป็นแดนสวรรค์สำหรับการค้นพบไรมากแค่ไหน

 เรื่องโดย ร็อบ ดันน์
กุมภาพันธ์