ผู้เขียน หัวข้อ: ทรานส์เอเชียระส่ำ! นักบินเกือบครึ่งสอบตกรับมือเหตุฉุกเฉิน ญาติผู้เสียชีวิตปฏิเสธ  (อ่าน 1055 ครั้ง)

story

  • Staff
  • Hero Member
  • ****
  • กระทู้: 9759
    • ดูรายละเอียด
 เอเจนซี/รอยเตอร์ส - สืบเนื่องจากกรณีเครื่องบินโดยสารของสายการบินทรานส์เอเชีย แอร์เวย์ส (TransAsia Airways) ตกลงแม่น้ำของกรุงไทเปในสัปดาห์ก่อน ที่คร่าชีวิตผู้โดยสารและลูกเรืออย่างน้อย 42 ราย จากทั้งหมด 58 คน นำไปสู่การตรวจสอบคุณภาพ ‘นักบิน’ ซึ่งผลลัพธ์นั้นน่าตกใจด้วยพบว่าเกือบครึ่งหนึ่งสอบตก!
       
       สถาบันการบินพลเรือน (CAA) ของไต้หวันเปิดเผย (11 ก.พ.) ว่านักบินประจำเครื่องบินใบพัดสองเครื่องยนต์เทอร์โบพรอบ รุ่น ATR ของสายการบินทรานส์เอเชียฯ จำนวน 10 นาย ไม่ผ่านการสอบสัมภาษณ์ที่วัดประสิทธิภาพในการรับมือกรณีฉุกเฉินหากเครื่องยนต์ของเครื่องบินเกิดเหตุขัดข้อง
       
       ส่วนนักบินอีก 19 นาย ไม่ได้เข้าร่วมการทดสอบดังกล่าว เนื่องจากขอลาป่วยหรือไม่ได้พำนักอยู่ในไต้หวันระหว่างมีการทดสอบ โดยเบื้องต้นนักบินทั้ง 29 นายข้างต้นถูกสั่งพักงานเป็นการชั่วคราวแล้ว ทั้งนี้สายการบินทรานส์เอเชีย แอร์เวย์ส มีนักบินปฏิบัติหน้าที่อยู่ทั้งหมด 49 นาย
       
       “บางคนเตรียมตัวสำหรับการทดสอบเกือบทั้งคืน เพราะผลลัพธ์จะส่งผลกระทบต่อความก้าวหน้าในอาชีพอย่างมิอาจหลีกเลี่ยง” นักบินรายหนึ่งที่ไม่ขอเปิดเผยชื่อกล่าว “คนที่สอบตกจะถูกพักงานเป็นเวลาหนึ่งเดือน และให้เวลาอีกเดือนเพื่อเตรียมตัวสอบใหม่ หากยังสอบตกอีกก็จะถูกไล่ออก”
       
       ด้านรัฐบาลไต้หวันออกคำสั่งให้ทุกสายการบินท้องถิ่นดำเนินการพิจารณาทบทวนกฎระเบียบด้านความปลอดภัยทางการบินอย่างเข้มงวด โดยนายเฉิน เจียนอี้ว์ รัฐมนตรีกระทรวงคมนาคม กล่าวในงานแถลงข่าวว่า “ช่วงวันหยุดยาวของเทศกาลตรุษจีนใกล้เข้ามา … เราได้แจ้งให้ทุกสายการบินตรวจเช็คการดำเนินงานอย่างละเอียดรอบคอบ”
       
       ทางการไต้หวันสั่งให้มีการทดสอบคุณภาพนักบินทุกคนของสายการบินทรานส์เอเชีย แอร์เวย์ส หลังจากที่สัปดาห์ก่อนเกิดเหตุเครื่องบินโดยสาร รุ่น ATR 72-600 เที่ยวบิน GE235 ของสายการบินฯ สูญเสียการควบคุมกลางอากาศจนบินฉวัดเฉวียนผ่าหมู่ตึกสูง ก่อนแฉลบชนสะพานทางหลวงและตกลงในแม่น้ำคีลุงทางตอนเหนือของเกาะไต้หวัน ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 42 ราย
       
       ผลการตรวจสอบกล่องบันทึกข้อมูลทางการบิน หรือกล่องดำในเบื้องต้นชี้ว่า เครื่องยนต์ตัวหนึ่งเกิดไฟลุกไหม้ หลังจากทะยานบินออกจากท่าอากาศยานซงซันของกรุงไทเปได้ไม่กี่นาที ขณะที่เครื่องยนต์อีกตัวถูกนักบินสั่งปิดการทำงาน และแม้จะพยายามเปิดการทำงานอีกครั้งก็ไม่เป็นผล ซึ่งจุดนี้ทำให้บรรดาเจ้าหน้าที่และผู้เชี่ยวชาญตั้งคำถามว่า “นักบินอาจปิดเครื่องยนต์ผิดตัวหรือไม่?” เพราะปกติเครื่องบินยังคงสามารถบินต่อไปได้แม้มีเครื่องยนต์ทำงานเพียงตัวเดียว
       
       อนึ่ง เหตุการณ์เครื่องบินตกครั้งนี้นับเป็นโศกนาฏกรรมหนที่สองของทรานส์เอเชีย ที่เกิดขึ้นในรอบเจ็ดเดือนหลังจากเครื่องบินโดยสารรุ่นเดียวกัน เที่ยวบิน GE222 ตกกระแทกพื้นบริเวณหมู่บ้านซีชุน ใกล้สนามบินหม่ากงบนเกาะเผิงหู่ของไต้หวัน ในเดือนก.ค. ปีก่อน เป็นผลให้มีผู้เสียชีวิตกว่า 48 ราย
       
       ขณะที่บรรดาญาติของผู้เสียชีวิตปฏิเสธรับเงินชดเชยจากสายการบินทรานส์เอเชีย แอร์เวย์ส หลังจับเข่าเจรจากันนานราวสามชั่วโมงในวันพุธที่ผ่านมา โดยนายหลิว จงจี้ ตัวแทนของสายการบินฯ กล่าวว่า “เราเสนอเงินจำนวน 13.5 ล้านดอลลาร์ไต้หวัน ให้กับครอบครัวของเหยื่อแต่ละราย และยังจะจ่ายอีกราว 1.2 ล้านดอลลาร์ไต้หวัน เป็นเงินช่วยเหลืองานฌาปนกิจศพ รวมเป็นเงินราว 14.9 ล้านดอลลาร์ไต้หวัน (ประมาณ 15 ล้านบาท)”
       
       หลิวเสริมว่าแม้จะมีการปฏิเสธรับเงินชดเชย แต่ทางสายการบินจะยังคงติดต่อสื่อสารกับครอบครัวของผู้เสียชีวิตต่อไป “เราเต็มใจจัดส่งเจ้าหน้าที่ของเราไปยังบ้านเกิดของเหยื่อเพื่อเสนอความช่วยเหลือ ทั้งยังจะช่วยจัดหาทนายให้ เพื่อรับประกันสิทธิอันชอบธรรม”

 ASTVผู้จัดการออนไลน์    12 กุมภาพันธ์ 2558

story

  • Staff
  • Hero Member
  • ****
  • กระทู้: 9759
    • ดูรายละเอียด
ไขปริศนา ‘กล่องดำ’ เครื่องบินทรานส์เอเชีย แอร์เวย์ส เที่ยวบิน GE235 พบเครื่องยนต์ทั้งสองตัวหยุดการทำงานก่อนดิ่งแม่น้ำ ขณะยอดผู้เสียชีวิตล่าสุดเขยิบไปที่ 35 ศพ เจ้าหน้าที่ยังคงระดมกำลังค้นหาผู้สูญหายอีก 8 ราย ท่ามกลางอุปสรรคจากสภาพอากาศเลวร้ายและซากปรักหักพัง
       
       สภากำกับดูแลความปลอดภัยทางการบินของไต้หวัน ซึ่งทำหน้าที่สืบสวนเหตุโศกนาฏกรรมครั้งนี้ เผย (6 ก.พ.) รายงานการตรวจสอบเครื่องบันทึกข้อมูลการบิน (กล่องดำ) ของเครื่องบินใบพัดสองเครื่องยนต์เทอร์โบพรอบ รุ่น ATR72 เที่ยวบิน จีอี235 ระบุเครื่องยนต์ตัวหนึ่งเกิดไฟลุกไหม้ ขณะที่เครื่องยนต์อีกตัวถูกนักบินสั่งปิดการทำงาน
       
       “ไฟสัญญาณแจ้งเหตุเพลิงไหม้ที่เครื่องยนต์ตัวหนึ่งสว่างขึ้น ณ เวลา 10.53.28 น. ระหว่างเครื่องบินกำลังไต่ระดับความสูงขึ้นไปที่ 1,200 ฟุต” โทมัส หวัง ประธานสภาฯ กล่าวถึงเครื่องยนต์ปีกขวาของเครื่องบิน
       
       “จากนั้นเครื่องยนต์อีกตัว (ปีกซ้าย) ก็ถูกสั่งปิดการทำงานลงโดยนักบิน และแม้นักบินพยายามเปิดการทำงานอีกครั้งก็ไม่เป็นผล ซึ่งหมายความว่าช่วงเวลาสุดท้ายของการบิน ไม่มีเครื่องยนต์ตัวไหนช่วยส่งแรงผลักให้กับเครื่องบินเลย โดยเราได้รับสัญญาณ ‘เมย์เดย์’ (Mayday) ณ เวลา 10.54.35 น.”
       
       หวังกล่าวว่า ยังไม่มีข้อสรุปชัดเจนว่าทำไมเครื่องยนต์ปีกซ้ายจึงถูกนักบินสั่งปิดการทำงานลง โดยปัจจุบัน “เรายังไม่ชี้ชัดตัดสินความใดๆ ทั้งสิ้น”
       
       ขณะที่ไฟล์ทเรดาร์24 (Flightradar24) เว็บไซต์ผู้ให้บริการข้อมูลการจราจรทางอากาศยอดนิยมแสดงความเห็นว่า “เหมือนนักบินจะปฏิบัติงานผิดพลาด” โดยเว็บฯ ทวีตข้อความบนโลกออนไลน์ไว้ว่า “ข้อมูลจากกล่องดำชี้ว่านักบินอาจปิดเครื่องยนต์ผิดตัว ทำให้สูญเสียพลังงานทั้งหมดลงในเวลาหนึ่งนาทีหลังจากออกบิน”
       
       รายงานฯ ฉบับแรกข้างต้นประกาศออกมาไม่นาน หลังมีรายงานเจ้าหน้าที่กู้ภัยค้นพบศพนักบินอยู่ในสภาพมือทั้งสองข้างยังคงกุมคันบังคับแน่น ซึ่งแสดงให้เห็นว่าเขาพยายามควบคุมเครื่องบินหลบหลีกพื้นที่ชุมชนอย่างสุดกำลังความสามารถ

        ภาพและคลิปวีดีโอที่ประชาชนในละแวกใกล้เคียงที่เกิดเหตุบันทึกไว้ได้ เผยให้เห็นเครื่องบินของสายการบินทรานส์เอเชีย ซึ่งเพิ่งทะยานออกจากท่าอากาศยานซงซันของกรุงไทเปได้ไม่กี่นาที ร่อนเอียงผ่านหมู่ตึกสูงก่อนแฉลบชนสะพานทางหลวง และตกลงกลางแม่น้ำคีลุงทางตอนเหนือของเกาะไต้หวัน
       
       ผู้โดยสารและลูกเรือรวม 58 คน ต่างประสบชะตากรรมอันเลวร้ายแตกต่างกันไป โดยมีผู้รอดชีวิตเพียง 15 คน ส่วนที่เหลือเสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 35 ราย และอีก 8 ราย อยู่ระหว่างการค้นหาตามลำน้ำและซากปรักหักพังของเจ้าหน้าที่กู้ภัย
       
       เหลียว เฉียนซุง (Liao Chien-tsung) นักบินผู้ขับเครื่องบินลำเกิดเหตุ ได้รับการยกย่องเป็น ‘ฮีโร่’ สำหรับความพยายามครั้งสุดท้ายที่จะประคับประคองเครื่องบินให้พ้นพื้นที่อาคารอันเป็นแหล่งชุมชน โดยไชน่า ไทม์ส สื่อจีนรายงานว่า ร่างของเขาถูกพบในห้องนักบิน สภาพที่มือทั้งสองข้างยังกุมคันบังคับ แต่ส่วนขาถูกบดขยี้แหลกละเอียดไปแล้ว
       
       “เขาดิ้นรนจับยึดคันบังคับจนกระทั่งวินาทีสุดท้ายก่อนเครื่องบินดิ่งกระแทกแม่น้ำ พยายามจะควบคุมทิศทางการบิน เพื่อลดการบาดเจ็บและสูญเสียชีวิต” รายงานข่าวอ้างเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนรายหนึ่ง
       
       คลาร์ก หลิน หัวหน้ากองมาตรฐานการบิน สถาบันการบินพลเรือน (CAA) ของไต้หวัน เผยว่า เครื่องบินลำดังกล่าวเคยประสบปัญหาเกี่ยวกับเครื่องยนต์มาก่อนหน้านี้ ระหว่างเที่ยวบินส่งมอบจากบริษัทผู้ผลิต เอทีอาร์ (ATR) สัญชาติอิตาลี-ฝรั่งเศส โดยต้นทางจากเมืองตูลูซของฝรั่งเศสผ่านเกาะมาเก๊า และสิ้นสุดปลายทางที่เกาะไต้หวัน
       
       “เครื่องยนต์ตัวหนึ่งเกิดเสียพลังงานระหว่างเที่ยวบิน ต่อมามันถูกสับเปลี่ยนเครื่องยนต์ตัวใหม่โดยซัพพลายเออร์รายหนึ่ง” หลินกล่าวพร้อมเสริมว่าเครื่องยนต์ Pratt & Whitney อาจมีปัญหาด้านการประกอบชิ้นส่วน
       
       ด้านหน่วยงานการบินพลเรือนของฝรั่งเศสเปิดเผยว่า จะจัดส่งทีมเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนสองนายและเจ้าหน้าที่ของเอทีอาร์อีกสี่นาย เดินทางไปช่วยเหลือการทำงานของเจ้าหน้าที่ไต้หวัน

        ขณะที่นักกฎหมายจำนวนมากในไต้หวันได้เรียกร้องให้มีคำสั่งระงับการดำเนินงานของสายการบินทรานส์เอเชีย แอร์เวย์ส โดยประเด็นนี้หัวหน้าหลินระบุว่า สายการบินฯ ล้มเหลวจะตอบสนองต่อข้อกำหนดต่างๆ ของสถาบันการบินพลเรือน
       
       “สิ้นสุดเดือนธ.ค. ที่ผ่านมา ทรานส์เอเชียยังไม่สามารถทำตามข้อกำหนดราวหนึ่งในสาม ที่ต้องการให้สายการบินยกระดับความปลอดภัย พัฒนาการฝึกหัดบุคลากร และทบทวนการปฏิบัติงาน” หลินกล่าว โดยสำทับว่าหากยังทำไม่ได้ก่อนขีดเส้นตายเดือนมิ.ย. นี้ ก็ต้องเผชิญบทลงโทษหนักเบาไปตามขอบเขตของการละเมิดกฎข้อบังคับ
       
       สถาบันฯ เผยอีกว่า พบนักบินของทรานส์เอเชียสองนาย ทำงานเกินกำหนดเวลา 32 ชั่วโมงบินต่อสัปดาห์ แต่ไม่ใช่นักบินสองนายที่ขับเครื่องบินลำเกิดเหตุล่าสุด ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้สั่งตรวจเช็คความปลอดภัยของเครื่องบิน ATR จำนวนทั้งหมด 22 ลำ ของสองสายการบินไต้หวัน ขณะเดียวกันก็สั่งห้ามทรานส์เอเชียร้องขอเปิดเส้นทางบินใหม่เป็นเวลาหนึ่งปีเต็ม
       
       ด้านสายการบินทรานส์เอเชียเผยว่า สายการบินฯ ได้เสนอ “เงินปลอบขวัญ” จำนวน 1.2 ล้านดอลลาร์ไต้หวัน (ราว 1.2 ล้านบาท) ให้กับครอบครัวของเหยื่อผู้เสียชีวิตทุกคน และเงินจำนวน 2 แสนดอลลาร์ไต้หวัน (ราว 2 แสนบาท) ให้กับผู้บาดเจ็บจากเหตุเครื่องบินตกนี้
       
       อนึ่ง เหตุการณ์เครื่องบินตกครั้งนี้นับเป็นโศกนาฏกรรมหนที่สองของทรานส์เอเชีย ที่เกิดขึ้นในรอบเจ็ดเดือนหลังจากเครื่องบินโดยสารรุ่นเดียวกัน เที่ยวบิน GE222 ตกกระแทกพื้นบริเวณหมู่บ้านซีชุน ใกล้สนามบินหม่ากงบนเกาะเผิงหู่ของไต้หวัน ในเดือนก.ค. ปีก่อน เป็นผลให้มีผู้เสียชีวิตกว่า 48 ราย

ASTVผู้จัดการออนไลน์    7 กุมภาพันธ์ 2558