ผู้เขียน หัวข้อ: 7ธ.ค. รำลึก 73 ปี แห่งการสูญเสีย "เพิร์ล ฮาร์เบอร์" จุดเริ่มสหรัฐสู่สงครามโลก2  (อ่าน 934 ครั้ง)

science

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 184
    • ดูรายละเอียด
อีก 2 วันข้างหน้า จะเป็นอีกวันประวัติศาสตร์ที่โลกไม่อาจลืม กระทั่ง ครั้งหนึ่งเหตุการณ์นี้ถูกหยิบจับออกมาเรียบเรียงเล่าเป็นภาพยนตร์เรื่องดังของฮอลลีวูด "เพิร์ล ฮาร์เบอร์" โศกนาฏกรรมระหว่างสหรัฐฯ กับญี่ปุ่น ที่คร่าชีวิตคนนับพัน

เช้าวันอาทิตย์ที่ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2484 (ค.ศ. 1941) เวลา 07.55 น. ตามเวลาท้องถิ่น จักรวรรดิญี่ปุ่นได้เปิดการโจมตีฉับพลันโดยส่งเครื่องบินทิ้งระเบิดกว่า 150 ลำ โจมตีอ่าวเพิร์ลฮาร์เบอร์ เกาะโออาฮู เกาะใหญ่ลำดับที่ 3 ของรัฐฮาวาย ในสหรัฐอเมริกา 

การโจมตีระลอกแรกใช้เวลานาน 35 นาที และอีกเพียงครึ่งชั่วโมงหลังระลอกแรก ก็เกิดการโจมตีอีกครั้ง ด้วยเครื่องบิน 100 ลำ ต่อเนื่องนานนับชั่วโมง ส่งผลให้สหรัฐฯ สูญเสียทหาร 2,408 นาย เรือรบ 18 ลำ เครื่องบิน 400 ลำ สร้างความเดือดดาลให้ประชาชนชาวอเมริกันเป็นอย่างมาก  ทำให้ประธานาธิบดีแฟรงคลิน ดี. รูสเวลท์ ประกาศสงครามกับจักรวรรดิญี่ปุ่นในที่สุด  และเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้สหรัฐอเมริกาเข้าร่วมกับฝ่ายสัมพันธมิตรอย่างเป็นทางการในสงครามโลกครั้งที่ 2

หากย้อนกลับไป สหรัฐฯ ได้ถูกร้องขอความช่วยเหลือจากอังกฤษที่ถูกเยอรมนีทิ้งระเบิดไม่เว้นแต่ละวัน และกำลังจะเป็นฝ่ายเพลี่ยงพล้ำ ส่วนจีนที่ขณะนั้นถูกจักรวรรดิญี่ปุ่นรุกรานและทำการสังหารหมู่ชาวจีนอย่างโหดเหี้ยมจนเป็นโศกนาฎกรรมมาจนถึงทุกวันนี้ แต่ในขณะนั้น สหรัฐฯเพิกเฉยกับข้อเรียกร้องดังกล่าว โดยพยายามวางตัวเป็นกลางไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวใดๆ ด้วยเหตุผลที่ประชาชนชาวอเมริกันส่วนใหญ่มองว่า สงครามที่เกิดขึ้นในขณะนั้นเป็นเรื่องของคนอื่น สหรัฐฯไม่ควรเข้าไปยุ่ง

ขณะเดียวกัน แถลงการณ์ของสันนิบาตชาติได้ประณามการกระทำของญี่ปุ่น และออกคำสั่งให้ญี่ปุ่นถอนกองทัพออกจากจีน ทำให้ญี่ปุ่นไม่พอใจพร้อมประกาศถอนตัวออกจากสันนิบาตชาติ 

สหรัฐฯ จึงมีเหตุผลชอบธรรมในการให้ความช่วยเหลือจีน (มีการวิเคราะห์กันว่าที่จริงสหรัฐฯ มีความต้องการเข้าร่วมสงครามอยู่แล้วเพื่อบทบาทประเทศผู้นำโลกในอนาคต) จึงยุติการส่งออกสินค้าไปยังญี่ปุ่นเช่น น้ำมัน เหล็ก ทำให้ญี่ปุ่นขาดปัจจัยในการบำรุงกองทัพโดยเฉพาะน้ำมัน กระทบแผนการบุกยึดดินแดนประเทศในเอเชียทั้งหมดจนต้องหยุดชะงักลง

ญี่ปุ่นจึงตัดสินใจโจมตีที่อ่าวเพิร์ลฮาเบอร์  เพื่อเปิดเส้นทางการขยายอำนาจในภาคพื้นทะเลแปซิพิก  หลังการโจมตีเสร็จสิ้น นายพลเรืออิโซโรกุ ยามาโมโต ผู้วางแผนและรับผิดชอบการโจมตีอ่าวเพิร์ลฮาร์เบอร์ทั้งหมด ถึงกับกล่าวว่า "การกระทำของญี่ปุ่นในครั้งนี้ เปรียบเสมือนการปลุกยักษ์ให้ตื่น" และก็เป็นจริงดั่งคำพูด เพราะอีก 4 ปี ถัดมา ทั้งญี่ปุ่นและเยอรมนี (พันธมิตรร่วมกันฝ่ายอักษะ)  ต่างก็ถูกพิชิตลงด้วยแสนยานุภาพอันเกรียงไกรของกองทัพสหรัฐฯ

ปัจจุบัน โศกนาฏกรรม "เพิร์ล ฮาร์เบอร์" ได้สร้างเป็นอนุสรณ์สถานให้ผู้ที่สนใจศึกษาประวัติศาสตร์เดินทางมาเยี่ยมชม โดยการมาเยือนสถานที่แห่งนี้ต้องจองคิวก่อนล่วงหน้า สามารถจองได้ทางเวปไซต์ www.nps.gov/valr/index.htm หรือ สามารถมารอต่อคิวได้ตั้งแต่ตี 5 โดยเคาน์เตอร์แจกบัตรเริ่มเปิดทำการ 7 โมงเป็นต้นไป

"เพิร์ล ฮาร์เบอร์" การโจมตีที่เกิดขึ้นระหว่างญี่ปุ่น-สหรัฐฯ เป็นเพียงส่วนหนึ่งของ สงครามโลกครั้งที่ 2 ที่ได้ชื่อว่า เป็นสงครามที่มีผู้เสียชีวิตมากที่สุดในประวัติศาสตร์มนุษยชาติ  คร่าชีวิตผู้คนทั่วโลกทั้งทหารและพลเรือนไปกว่า 65 ล้านคน

และแม้ว่าเหตุการณ์จะผ่านมานานกว่า 73 ปี แล้วก็ตาม  แต่บาดแผลและอิทธิพลจากสงครามโลกครั้งที่ 2 ยังคงอยู่ในอนุสรณ์สถานและพิพิธภัณฑ์ต่างๆ ณ สถานที่ที่เคยเกิดเหตุทั่วโลก เพื่อให้ผู้คนได้ระลึกถึงความโหดร้าย ความสูญเสียที่มนุษย์ได้เคยกระทำต่อกัน  และเพื่อเตือนสติคนรุ่นหลังว่าอย่าให้เหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นอีกเลย

ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก pantip.com

5 ธ.ค. 2557
ประชาชาติธุรกิจออนไลน์