หมอณรงค์ฉุนสปสช.ตีกลับแนวทางกองทุน30บาท รมต.ย้ำยังต้องใช้เวลาทดลอง
เมื่อวันที่ 8 ธ.ค. ที่สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ศ.นพ.รัชตะ รัชตะนาวิน รมว.สาธารณสุข เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บอร์ดสปสช.) เพื่อพิจารณาแนวทางการบริหารจัดการกองทุนฯ ไตรมาสที่ 2/2558 ตามข้อเสนอของ นพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดสธ. ที่เสนอให้เปลี่ยนรูปแบบการบริหารจัดการงบประมาณเหมาจ่ายรายหัว ให้ลงไปยังเขตบริการสุขภาพของสธ.โดยตรงรวมถึงให้เปลี่ยนรูปแบบการบริหารจัดการกองทุนโรคเฉพาะ และกองทุนย่อย ให้ลงไปยังเขตบริการสุขภาพมากขึ้น เพื่อแก้ปัญหาโรงพยาบาลสังกัดสธ.ขาดทุน รวมถึงสามารถเฉลี่ยงบประมาณระหว่างโรงพยาบาลใหญ่และโรงพยาบาลเล็กในเขตสุขภาพได้มากขึ้น
ทั้งนี้ ข้อเสนอดังกล่าว ถูกเสนอขึ้นตั้งแต่เดือน ก.ย.ที่ผ่านมา โดย นพ.ณรงค์ระบุว่า เป็นความเห็นพ้องกันของ ชมรมผู้อำนวยการโรงพยาบาลศูนย์/โรงพยาบาลทั่วไป ชมรมนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด ชมรมผู้อำนวยการโรงพยาบาลชุมชนชมรมสาธารณสุขอำเภอ และชมรมหมออนามัยแห่งประเทศไทย
ศ.นพ.รัชตะ เปิดเผยว่า ขณะนี้คงเร็วเกินไป หากจะเริ่มใช้หลักการดังกล่าวในต้นไตรมาส 2 ของปีงบประมาณ 2558 เนื่องจากจะต้องปรับเพิ่มเติมข้อเสนอ และยังมีอีกหลายประด็นที่ต้องพิจารณาไม่สามารถทำได้ในทันที จึงขอให้มีการทดลอง และเจรจาเพื่อหาข้อสรุปต่อไป
ขณะที่นายคณิศ แสงสุพรรณ ผู้อำนวยการมูลนิธิสถาบันวิจัยนโยบายเศรษฐกิจการคลัง และผู้ทรงคุณวุฒิด้านการเงินการคลัง บอร์ดสปสช. กล่าวว่าข้อเสนอสธ.ต้องการให้มีการประสานงานระหว่างเขตสุขภาพ และสปสช.ให้ดียิ่งขึ้น รวมถึงให้ปรับหมวดการบริหารจัดการกองทุนย่อยโดยยังยึดหลักการตามเดิมทุกหมวด แต่ให้ปรับปรุงบางหมวดเพื่อให้ลงไปยังเขตบริการสุขภาพมากขึ้น
ทั้งนี้ บอร์ดสปสช. จะนำข้อเสนอของสธ.ไปทดลองใช้ในเขตบริการสุขภาพที่เขต 2 และเขต 10 โดยจะมีการทำ บัญชีเสมือน โดยงบประมาณที่ลงไปยังเป็นหลักการเดิม แต่ทดลองการใช้จ่ายตามข้อเสนอสธ.โดยยังไม่จ่ายงบประมาณลงไปจริง เพื่อทดลองประเมินผลว่าผลการดำเนินการเป็นอย่างไรโดยรมว.สธ.ได้ให้เวลา 1 เดือนในการทดลองและประเมินผล ก่อนนำมารายงานบอร์ดสปสช.เพื่อพิจารณาปรับปรุงหลักการและวิธีบริหารงบประมาณ
อย่างไรก็ตาม นพ.ณรงค์ แสดงความไม่พอใจ และขอให้บอร์ดสปสช.ตัดสินใจว่าจะใช้แนวทางของสธ.หรือไม่โดยทันที.เนื่องจากมีความพร้อม และได้ทดลองใช้จริงแล้วในหลายพื้นที่ ขณะเดียวกันหลักการก็ชัดเจนว่าเป็นประโยชน์ โดยจะแก้ปัญหาโรงพยาบาลขาดทุน รวมถึงปัญหาการใช้เงินเป็นตัวตั้งในการทำงาน ซึ่งหลายโรงพยาบาลกำลังประสบปัญหาขณะนี้
กรรมการกำลังใช้เงินภาษีของประชาชนในการหารือและก่อนหน้านี้มีมติว่าให้หาทางออกด้วยการเจรจา ผมก็ทำตามกติกาทุกอย่าง เราถอยหน้าถอยหลังมานานกับเรื่องดังกล่าว ผมเห็นว่าประเทศนี้ต้องได้รับรู้ข้อมูลนี้ต่อสาธารณะต่อไป ปลัดสธ.ระบุ
วันเดียวกัน นพ.ปพน ดีไชยเศรษฐผู้อำนวยการโรงพยาบาลนาหม่อม เป็นตัวแทนผู้ได้รับผลกระทบจากการบริหารงานของสปสช. ยื่นหนังสือต่อ ศ.นพ.รัชตะ เพื่อให้แก้ปัญหา โดยขอให้ยึด 3 หลักการได้แก่
1.เปลี่ยนการจัดสรรงบเหมาจ่ายรายหัวหลักประกันสุขภาพแห่งชาติจากส่งให้โรงพยาบาลโดยตรงมาให้เขตสุขภาพบริหารจัดการ โดยดูตามจำนวนประชากร
2.การจัดสรรงบเฉพาะ เพื่อช่วยเหลือโรงพยาบาลขาดสภาพคล่อง และ
3.แยกเงินเดือนบุคลากรด้านสาธารณสุขออกจากงบเหมาจ่ายรายหัว
พร้อมกับระบุว่าอยากให้แก้ปัญหาการเอาเงินนำหน้าและให้มองสภาพความเป็นจริงในพื้นที่
8 ธันวาคม 2557
โพสต์ทูเดย์