ผู้เขียน หัวข้อ: สลด สาวเสียลูกตาซัด รพ.-รักษาผิด ต้องควักทิ้ง1ข้าง(ข่าวสด10มีค2553)  (อ่าน 2342 ครั้ง)

story

  • Staff
  • Hero Member
  • ****
  • กระทู้: 9721
    • ดูรายละเอียด
"ลีน่า จัง" พาสาวรามฯบุกร้อง กองปราบฯ แจ้งจับโรงพยาบาลบางมด 1 เอาผิดรูดตั้งแต่ผอ. แพทย์ที่รักษาและบุคลากรที่เกี่ยวข้อง ระบุวินิจฉัยโรคผิด ปวดขมับแต่บอกเกิดจากฟันผุ สุดท้ายต้องส่งศิริราชผ่าควักตาทิ้งไปข้างหนึ่ง ด้านผอ.โรงพยาบาลบางมด 1 โต้ ยันรักษาคนไข้อย่างดี แต่ผู้ป่วยมีอาการซับซ้อนทำให้ต้องหารือทีมแพทย์เฉพาะทาง สุดท้ายต้องควักตาทิ้งแต่ก็พยายามเยียวยาใส่ตาเทียมให้แต่คนไข้ไม่พอใจ แต่เมื่อถูกแจ้งจับก็พร้อมสู้คดี

เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 9 มี.ค. ที่กองปราบ ปราม นางลีนา จังจรรจา ประธานมูลนิธิลีน่าจัง ได้พา น.ส.กรศิริ พระศรีรัมย์ อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่ 86 หมู่ 11 ต.ตาพระยา อ.ตาพระยา จ.สระแก้ว นักศึกษาคณะศึกษาศาสตร์ ชั้นปีที่ 1 มหาวิทยาลัยรามคำแหง เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ. พรศักดิ์ สุริสทธิ์ ผกก.1 บก.ป. เพื่อแจ้งความให้ดำเนินคดีผู้อำนวยการโรงพยาบาลบางมด 1 แพทย์ผู้ทำการรักษา พยาบาล และนักศึกษาแพทย์ ในความผิดฐานกระทำการโดยประมาท เป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายแก่กายหรือจิตใจ เนื่องจากน.ส.กรศิริ เข้ารับการรักษาอาการปวดศีรษะที่ร.พ.ดังกล่าว แต่แพทย์กลับวินิจฉัยโรคผิด จนเป็นเหตุให้ตาข้างขวาบอด ต้องควักลูกตาออกทิ้งไป

จากการสอบสวนน.ส.กรศิริ ให้การว่า เมื่อประมาณเดือนพ.ย.2550 ขณะนั้นทำงานที่โรงงานถุงพลาสติก ย่านบางมด กทม. เกิดมีอาการปวดที่ขมับข้างขวาจึงใช้สิทธิประกันสังคม ไปหาหมอที่
ร.พ.บางมด 1 หลังจากรับการตรวจแล้ว แพทย์ที่รักษาได้วินิจฉัยว่าสาเหตุมาจากอาการฟันผุ ต้องนอนพักเพื่อดูอาการอยู่ที่โรงพยาบาล 2 วัน ระหว่างนั้นรู้สึกปวดตามากขึ้น ก็มีพยาบาลกับนักศึกษาแพทย์สลับกันนำน้ำแข็งและน้ำร้อนมาช่วยประคบตา เพื่อลดอาการปวดให้ หลังจากครบสองวันแพทย์อนุญาตให้กลับบ้านได้ ตนได้ขอใบรับรองแพทย์ เพื่อจะนำไปเบิกกับสำนักงานประกันสังคม ในใบรับรองแพทย์ระบุมีอาการโรคฟันผุ ติดเชื้อในช่องปาก ทำให้ตาบวม

น.ส.กร ศิริให้การต่อว่า หลังจากนั้นไม่นาน อาการปวดศีรษะก็ไม่หาย และเป็นมากยิ่งขึ้น จึงต้องกลับไปหาแพทย์อีกครั้ง ในครั้งนี้แพทย์ผู้ตรวจระบุว่าตาขวาติดเชื้อราโรงพยาบาลไม่สามารถรักษาได้ ต้องส่งต่อไปรักษาที่ร.พ. ศิริราช จนในวันที่ 16 พ.ย. 2550 แพทย์ของศิริราช ก็ต้องควักดวงตาข้างขวาของตนออก เมื่อผอ.ของร.พ.ดังกล่าวทราบเรื่อง ก็โทรศัพท์มาหามารดาตน แสดงความเสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น ส่วนตนหลังจากถูกควักดวงตาออกไปแล้ว ทางร.พ.เอกชนแห่งนี้ก็มารับตัวกลับ แต่ก็ไม่ได้รักษาหรือใส่ดวงตาเทียมให้ จนเกิดอาการอักเสบมีน้ำหนองไหลออกมา ต่อมาร.พ.แจ้งว่าได้ติดต่อไปที่ร.พ.สมเด็จพระปิ่นเกล้า เพื่อจะส่งตัวไปรักษาต่อ และขอให้ย้ายไปใช้สิทธิประกันสังคมที่โรงพยาบาลดังกล่าวแทน แต่ตนไม่ตกลงจึงเข้าปรึกษากับนางลีนา และแจ้งความเพื่อดำเนินคดีกับโรงพยาบาล แพทย์ และผู้เกี่ยวข้องในครั้งนี้

ด้าน นางลีนา กล่าวว่า คดีนี้ผู้เสียหายต้อง การจะฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายทางแพ่ง แต่คดีก็ขาดอายุความไปแล้ว หากกองปราบปรามจะรับคดี ให้เป็นความผิดทางอาญาก็จะทำให้สามารถฟ้องร้องทางแพ่งใหม่ได้ เบื้องต้น พ.ต.อ.พรศักดิ์ ได้สั่งการให้ พ.ต.ต.สุกรี สินเย็น พงส. (สบ 2) กก.1 บก.ป. รับเรื่องและสอบปากคำผู้เสียหายไว้ เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงต่อไป

ด้าน น.พ.ธรภณ ตรีคุณประภา ผอ.ฝ่ายการแพทย์ ร.พ.บางมด 1 กล่าวถึงกรณีของน.ส.กรศิริ ว่า เราได้ให้การดูแลรักษาคนไข้อย่างเต็มที่ ไม่ได้ละเลย แต่เนื่องจากผู้ป่วยมีอาการของโรคที่ซับซ้อน ต้องอาศัยแพทย์ด้านอายุรกรรม แพทย์ที่เชี่ยวชาญเรื่อง หู ตา คอ จมูก และแพทย์อีกหลายกลุ่มมาช่วยรักษา ร่วมทั้งยังปรึกษากับอาจารย์แพทย์ ที่ร.พ.ศิริราช ตลอด

น.พ.ธรภณ กล่าวอีกว่า เมื่อคนไข้มีอาการปวดศีรษะมากขึ้น เราก็พยายามตรวจในหลายๆ จุดเพื่อหาสาเหตุ เอกซเรย์อยู่เป็นระยะๆ ก่อนที่จะส่งตัวไปที่ร.พ.ศิริราชนั้น อาการของเชื้อราลุกลามเร็วมาก เพราะผู้ป่วยมีน้ำตาลในเลือดสูง หากไม่ควักตาข้างขวาออกอาจลามไปที่ตาซ้าย และอาจส่งผลถึงชีวิตได้ แพทย์จึงให้ผู้ป่วยเซ็นชื่อยินยอมให้ผ่าเอาดวงตาออก การผ่าตัดก็เรียบ ร้อยดี ช่วงปี 2551 ผู้ป่วยก็เข้ารับรักษาอย่างต่อเนื่อง ต้องนอนอยู่ที่โรงพยาบาลกว่า 100 วัน สำนักงานประกันสังคมจึงให้ไปแจ้งเป็นกรณีผู้ป่วยทุพพลภาพ พอในปี 2552 ก็ไม่ได้รับการติดต่อจากผู้ป่วยรายนี้อีกเลย จนมาทราบว่าไปแจ้งความดำเนินคดีกับโรงพยาบาล แพทย์ และผู้เกี่ยวข้อง

"ระหว่าง การรักษาผู้ป่วยรายนี้ เราก็ได้ประสาน กับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่คณะแพทยศาสตร์ศิริราช มหาวิทยาลัยมหิดล เพื่อทำตาเทียม ซึ่งก็ดำเนินการให้จนเสร็จสิ้น แต่ผู้ป่วยอ้างว่าไม่สวย ไม่ถูกใจ ก็แก้ไขทำเบ้าลูกตาเทียมให้ใหม่ สามารถใช้สวมเข้าและถอดออกได้ ไม่ทราบว่าผู้ป่วยต้องการเรียกร้องอะไร เรายืนยันว่าการรักษาเป็นไปตามขั้นตอน ทำงานกันอย่างเต็มที่แล้ว เมื่อผู้เสียหายไปแจ้งความในคดีอาญาแล้วก็คงต้องต่อสู้คดีกันตามกระบวนการ เพราะคงไม่สามารถถอนแจ้งความได้แล้ว"
น.พ.ธรภณ กล่าว