ผู้เขียน หัวข้อ: เร่งพัฒนาระบบแพทย์ฉุกเฉิน 3 จชต. ลดตายจากเหตุความไม่สงบ  (อ่าน 1072 ครั้ง)

pradit

  • Global Moderator
  • Sr. Member
  • *****
  • กระทู้: 322
    • ดูรายละเอียด
สธ.เร่งพัฒนาระบบการแพทย์ฉุกเฉิน 3 จังหวัดชายแดนใต้ ช่วยเหลือผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุความไม่สงบ เตรียมจัดอบรมหน่วยกู้ชีพเบื้องต้น ประเมินและช่วยเหลือผู้ป่วยจุดเกิดเหตุก่อนถึงโรงพยาบาล พร้อมเตรียมแพทย์ รพช.ทุกแห่งให้ดูแลผู้ป่วยฉุกเฉิน เชื่อมต่อระบบส่งต่อทั้งทางบก อากาศ ลดการเสียชีวิต
       
       ศ.นพ.รัชตะ รัชตะนาวิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) พร้อมด้วย นพ.สมศักดิ์ ชุณหรัศมิ์ รมช.สาธารณสุข และคณะตรวจเยี่ยม รพ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี เพื่อให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน มอบเงินเยียวยาบุคลากรและผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุความไม่สงบจำนวน 66 คน หลังจากนั้นเดินทางไปสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) ปัตตานี ติดตามการดำเนินงานการจัดบริการในพื้นที่พิเศษ การส่งต่อผู้ป่วย การเยียวยาบุคลากร ร่วมทั้งความร่วมมือกับกระทรวงกลาโหมและเครือข่ายบริการอื่นๆ
       
       ศ.นพ.รัชตะกล่าวว่า ได้ให้กำลังใจผู้ปฏิบัติงานที่ปฏิบัติงานด้วยความเสียสละทุ่มเท แม้มีความเสี่ยงสูงจากสถานการณ์ความรุนแรงจนบาดเจ็บ ทุพพลภาพ และเสียชีวิต โดยมีบุคลากรบาดเจ็บ 29 ราย เสียชีวิต 33 ราย จากการถูกวางระเบิด วางเพลิงสถานีอนามัยและบ้านพักรวม 27 ครั้ง แต่เจ้าหน้าที่ทุกคนก็ยืนหยัดที่จะดูแลสุขภาพประชาชนอย่างเต็มที่ ทั้งในสถานพยาบาลและชุมชน ตลอดจนการส่งรักษาต่อ แม้จะขาดแคลนบุคลากรทางการแพทย์โดยเฉพาะศัลยแพทย์ แต่ก็รับความร่วมมือจากโรงพยาบาลใกล้เคียงช่วยแก้ปัญหา โดยหมุนเวียนศัลยแพทย์ไปช่วยเหลือ รวมทั้งการสนับสนุนจากกองทัพบกส่งศัลยแพทย์ประจำในรพ.ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส แห่งละ 1 คน
       
       ศ.นพ.รัชตะกล่าวว่า สำหรับแผนพัฒนาระบบบริการ (Service Plan) ของเขตสุขภาพที่ 12 เรื่องสถานการณ์ความรุนแรงในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ ได้มีการจัดทำระบบฐานข้อมูลเฝ้าระวังการบาดเจ็บจากความรุนแรง การจัดระบบความปลอดภัย ทั้งด้านอาคารสถานที่ บุคลากร โดยการติดตั้งกล้องวงจรปิด ไซเรน รั้ว ระบบสื่อสารทางเลือก อบรมทักษะการบริหารความเสี่ยงแก่เจ้าหน้าที่จบใหม่ การเข้าช่วยเหลือ ณ จุดเกิดเหตุ รวมทั้งการสร้างขวัญกำลังใจ เยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบ ส่วนระบบการแพทย์ฉุกเฉินมีแผนพัฒนา ดังนี้ 1. ระบบการบริการผู้ป่วย ณ จุดเกิดเหตุก่อนถึงโรงพยาบาลที่มีศูนย์รับแจ้งเหตุและสั่งการและหน่วยกู้ชีพเบื้องต้น (First Responder) ได้รับความร่วมมือกับภาคเอกชนและกองทัพ โดยจะอบรมพัฒนาศักยภาพหน่วยกู้ชีพให้มีครบทุกพื้นที่ สามารถประเมินและช่วยเหลือผู้ป่วยที่จุดเกิดเหตุได้ปลอดภัย
       
       ศ.นพ.รัชตะกล่าวว่า 2. ระบบรองรับในโรงพยาบาล โดยแพทย์ทุกคนในโรงพยาบาลชุมชน จะได้รับการอบรมหลักสูตรการดูแลผู้บาดเจ็บฉุกเฉิน (Southern Trauma and Emergency Care Project) ที่จัดทำหลักสูตรร่วมกับมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ มีระบบให้คำปรึกษาผ่านทางแอพพลิเคชั่นไลน์ จัดทำข้อมูลการบาดเจ็บ รวมทั้งพัฒนามาตรฐานห้องฉุกเฉิน อบรมศัลยแพทย์ในการดูแลผู้ป่วยฉุกเฉิน รวมทั้งการฝึกปฏิบัติจำลองเหตุการณ์จริง นอกจากนี้ ได้จัดระบบส่งต่อ ทำงานเป็นเครือข่ายทั้งจากหน่วยงานในพื้นที่และภาคเอกชน รวมทั้งกลาโหม ตำรวจ ในการส่งต่อผู้ป่วยฉุกเฉินทั้งทางบกและทางอากาศ โดยมีโรงพยาบาลปลายทางรับส่งต่อคือสุไหงโกลก ยะลา นราธิวาส หาดใหญ่ รพ.สงขลานครินทร์ และรพ.พระมงกุฎฯ แผนการพัฒนาทั้งหมดมีเป้าหมายที่จะให้ผู้บาดเจ็บจากเหตุการณ์ได้รับการบริการที่มีคุณภาพ ปลอดภัย ลดการเสียชีวิตโดยไม่จำเป็น

ASTVผู้จัดการออนไลน์    9 พฤศจิกายน 2557