ผู้เขียน หัวข้อ: เปลี่ยนไส้ใน เรื่องของคนใจดำ  (อ่าน 641 ครั้ง)

story

  • Staff
  • Hero Member
  • ****
  • กระทู้: 9759
    • ดูรายละเอียด
เปลี่ยนไส้ใน เรื่องของคนใจดำ
« เมื่อ: 27 ตุลาคม 2014, 11:05:04 »
กลไกการเงินหลักประกันสุขภาพ ตอนที่ 1 ว่าด้วย “เปลี่ยนไส้ใน เรื่องของคนใจดำ”

.....มีหลายท่านสอบถามว่า เปลี่ยนไส้ในของงบ UC ขาลง หมายถึงอะไร ท่านที่ติดตามข่าวคราวเรื่องความขัดแย้งเกี่ยวกับการจัดสรรงบหลักประกันสุขภาพ UC ที่มีความเห็นแตกต่างกันระหว่างสปสช. (ผู้ที่ได้รับมอบหมายให้บริหารจัดการงบนี้ หรือคงไม่ผิดถ้าจะบอกว่าก็คือเงินภาษีที่เราๆท่านๆจ่ายทุกเดือนทุกปีครับ) กับกระทรวงสาธารณสุข (ผู้ที่มีหน้าที่ให้บริการสุขภาพประชาชนทุกกลุ่ม ถือเป็นผู้ให้บริการหลักในระบบสุขภาพ เนื่องจากงานทั้งหมดในการส่งเสริม ป้องกัน รักษา ฟื้นฟู กว่า 90% ดำเนินการโดยหน่วยบริการภายใต้การบริหารของกระทรวงสาธารณสุข)ุ

.....งปม.UC ทุกคนยอมรับว่าไม่เพียงพอ ในขณะที่ยอดผู้รับบริการมากขึ้นทุกปี (เช่นผป.นอกปีละ 110 ล้านครั้ง เพิ่มเป็น 170 ล้านครั้งภายในไม่กี่ปี) ค่ายาแพงขึ้น ค่าจ้าง เงินเดือนสูงขึ้นทุกปี จนทำให้สถานการณ์การเงินของรพ.กระทรวงสาธารณสุขเข้าขั้นวิกฤติ ระดับ 7 (เรียกง่ายๆ ใกล้ล้มละลาย) กันหลายร้อยแห่ง หลายรพ.โดยเฉพาะรพ.ขนาดใหญ่ ยังพออยู่ได้ เนื่องจากมีทุนเดิมที่สะสม ประหยัดไว้ และยังคงมีรายรับจากสิทธิอื่นๆ แต่ทุนเดิมที่มีอยู่ตอนนี้ลดลงกันถ้วนหน้า เท่านั้นยังไม่พอ รายรับจากสิทธิอื่นเริ่มลดลง จนอยู่ในภาวะชักหน้าไม่ถึงหลัง เชื่อว่าอีกไม่นานคงเห็นรพ.รัฐบาลที่ใกล้ล้มละลายมากขึ้นเรื่อยๆ

.....ลองมาดูรายรับของรพ.รัฐที่มาจากงปม.UC หลักๆ ส่วนใหญ่มาจาก งบผป.นอก ซึ่งมากน้อยตามจำนวนประชากรในเขตที่รับผิดชอบ และงบผป.ใน ซึ่งได้มาเป็นภาพรวมของเขตฯ คำนวนต่อรายหัวเหมือนกัน แต่รพ.ได้มากน้อยขึ้นกับการให้บริการของรพ.แต่ละแห่ง เมื่อรักษาผป.ใน 1 รายจะคำนวนออกมาเป็นหน่วย RW (คิดจากความยาก ซับซ้อน และการใช้ทรัพยากรมากน้อย) โรคที่ยาก ค่า RW จะมากกว่า

.....ปีที่ผ่านๆมา รพ.ที่รักษาผป.ใน ได้รับเงินประมาณหน่วย RW ละ 7-8 พันบาท แต่ต้องหักเงินเดือน คงเหลือประมาณ 3-4 พันบาทต่อหน่วย RW ดูตัวอย่างง่ายๆ ผ่าตัดไส้ติ่ง คิดเป็น 1.003 หน่วย RW หรือเป็นเงินประมาณ 8 พันบาท พอหักเงินเดือนออก หมายถึงรพ.จะได้รับเงินค่ารักษาผ่าตัดไส้ติ่งประมาณ 4 พันบาท (ต่อรายนะครับ)

.....น้อยมากครับ แค่ค่าผ่าตัดยังไม่พอเลย ยังมีค่ายาฆ่าเชื้อ ค่าพักรพ. ค่าอะไรต่อมิอะไรอีก ขาดทุนแน่นอนครับ ยิ่งรักษาผู้ป่วยในมาก ยิ่งขาดทุนมากครับ แต่เชื่อว่าไม่มีรพ.ไหนปฏิเสธการรักษาด้วยเหตุผลนี้

...เปลี่ยนไส้ในของงบ UC ปี 58 คืออะไร?...
ย้อนกลับมา ที่งบ UC ปีนี้ครับ หลังจากมีความเห็นแตกต่างกันระหว่าง ผู้ถือเงิน กับผู้ให้บริการ ยังตกลงกันไม่ได้ รมว.รัชตะเข้ารับตำแหน่งไม่ถึงเดือน เรียกประชุมคกก.หลักประกันสุขภาพ เพื่อพิจารณาการจัดสรรงบ UC ปี 58 มีมติ จัดสรรให้งบผู้ป่วยใน น้อยลง 30 บาทต่อหัวประชากร โดยไปเพิ่มให้กองทุนเฉพาะโรค หมายถึงอะไรครับ การปรับเปลี่ยนงบผู้ป่วยในลดลง ทำให้เงินก้อนนี้ที่จัดสรรลงไปที่เขตฯ น้อยลง ซึ่งทำให้เงินที่รพ.ซึ่งดูแลผู้ป่วยในได้รับลดลง เช่น ผู้ป่วยไส้ติ่งอักเสบที่เคยได้รับเงิน 4 พันบาทต่อราย (น้อยมากๆอยู่แล้ว) จะยิ่งได้รับน้อยลงไปอีก
เมื่อทดลองคำนวนง่ายๆ ประชากร UC ที่รพ.รัฐ(กระทรวงสาธารณสุข)ดูแล มีประมาณ 42.9 ล้านคน เงินหมวดผู้ป่วยใน ถูกขโมยไป 30 บาทต่อหัว คิดเป็นเงินรวมประมาณเกือบ 1,300 ล้านบาท หรือคิดรายเขต เงินผู้ป่วยในหายไปเขตละประมาณ 100 กว่าล้านบาทครับ ไม่น้อยทีเดียว

.....แล้วเงินที่หายไปนี้ไปอยู่แถวไหนครับ ไปเพิ่มที่ กองทุนเฉพาะโรค ซึ่งบริหารจัดการโดยสปสช.ส่วนกลาง คงมีหลายคนตั้งคำถามว่า ทำไมสปสช.คิดอะไร ถึงเอาเงินที่รพ.ภูมิภาคซึ่งได้รับน้อยมากอยู่แล้วออกไป เพื่อไปเพิ่มในหมวดที่ส่วนกลางดูแล หรือมีผลประโยชน์อะไรอยู่เบื้องหลัง จัดซื้อร่วมอะไรกันบ้างหรือไม่ หรือนโยบายอะไรที่เอื้อให้ภาคเอกชนที่ตนเองมีผลประโยชน์ร่วมด้วยหรือไม่ ทั้งหมดนี้สาธารณชนทั่วไปกำลังตั้งคำถามกับสปสช.

.....ท่านคิดว่าทำอย่างนี้ พอจะเรียกว่า ใจดำ มั๊ยครับ คงต้องถามท่านรมว.ด้วยครับ ในฐานะประธานคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติที่ลงนามการจัดสรรครั้งนี้

....ชมรมแพทย์ชนบทครับ ท่านมีความเห็นอย่างไรต่อการจัดสรรครั้งนี้
https://www.facebook.com/pages/Page%E0%B8%A7%E0%B8%87%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%81%E0%B8%9E%E0%B8%97%E0%B8%A2%E0%B9%8C%E0%B9%81%E0%B8%A5%E0%B8%B0%E0%B8%AA%E0%B8%B2%E0%B8%98%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%93%E0%B8%AA%E0%B8%B8%E0%B8%82%E0%B9%84%E0%B8%97%E0%B8%A2/441959992553380?hc_location=timeline