“ปรียนันท์” โอด “ผู้การแต้ม” พร้อม จนท.กว่า 100 นาย รื้อป้าย เต็นท์ ไล่พ้นหน้ารัฐสภา หลังตั้งใจปักหลักพักค้าง เรียกร้อง “มาร์ค” ทำตามสัญญาหยิบร่าง พ.ร.บ.คุ้มครองผู้เสียหายฯ เข้าพิจารณา ระบุโดนขู่ตะคอก “ไอ้พวกสร้างความเดือดร้อน ไม่เคารพกฎหมาย” สุดท้อ จนปัญญาผลักดันต่อ หาก นายกฯ ไม่รักษาคำพูด
นางปรียนันท์ ล้อเสริมวัฒนา ประธานเครือข่ายผู้เสียหายทางการแพทย์ เปิดเผยว่า ตนต้องล้มเลิกการปักหลักพักค้างบริเวณหน้ารัฐสภา เพื่อเรียกร้องให้ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี หยิบยกร่าง พ.ร.บ.คุ้มครองผู้เสียหายจากการรับบริการสาธารณสุข เข้าสู่การพิจารณาตามที่รับปากไว้ เนื่องจากถูก พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ผู้บังคับการกองบังคับการตำรวจนครบาล 1 พร้อมเจ้าหน้าที่กว่า 100 นาย เข้าไล่รื้อป้าย และเต็นท์กลางดึกของวันที่ 26 ก.พ.ที่ผ่านมา
นางปรียนันท์ กล่าวต่อว่า พล.ต.ต.วิชัย ให้เหตุผลว่า บริเวณหน้ารัฐสภาเป็นพื้นที่ความมั่นคงไม่สามารถชุมนุมได้ จึงร้องขอกลับไปว่ามีกันอยู่เพียง 3 คน คงไม่สร้างความวุ่นวายใดๆ แต่ พล.ต.ต. วิชัยกลับมีอารมณ์โมโหฉุนเฉียวพูดจาเสียงดังขู่ตะคอกสารพัด เช่น ตรงนี้เป็นพื้นที่ต้องห้ามไม่รู้หรือไงไอ้พวกชอบสร้างความเดือดร้อน พวกนี้พูดดีด้วยก็ไม่รู้เรื่องแล้วบอกการศึกษาสูงกฎหมายบ้านเมืองไม่เคารพ คิดหรือว่ามาอยู่ตรงนี้แล้วพวกเขาจะสนใจคุณ ทำให้อดหลับอดนอนมาปฏิบัติหน้าที่ ถ้าไม่ออกมาเดี๋ยวจะให้ลูกน้องไปลากคุณออกมาแล้วตั้งข้อหาให้
“ดิฉันก็กลัวเพราะอยู่กลับเพื่อน 2 คน และเด็กพิการอีก 1 คน ประมาณ 5 ทุ่มเศษ เราก็เข้าใจว่าท่านวิชัยปฏิบัติตามหน้าที่ แต่ก็น่าจะพูดคุยกันด้วยดีได้ เพราะนี่ไม่ใช่การชุมนุมทางการเมือง” นางปรียนันท์ กล่าว
นางปรียนันท์ กล่าวอีกว่า ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจทำการรื้อไล่ ลูกน้องของ พล.ต.ต.วิชัย ได้ถ่ายวิดีโอเอาไว้หมด ตรงนั้นจะเป็นหลักฐานอย่างดีว่าทุกคำพูดนี้ไม่ใช่เรื่องโกหก ยืนยันว่าตลอดชีวิตที่ผ่านมาประพฤติตนเป็นพลเมืองที่ดี เคารพกฎหมายอย่างเคร่งครัด และการประท้วงครั้งนี้ไม่ได้ต้องการสร้างความเดือดร้อนให้ใคร เพียงแต่ขอต่อสู้เพื่อผลักดันกฎหมายให้แก่ประชาชนทุกคน
“ขอประกาศว่า ตัวเองจะไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ กับเงินหรือกองทุนตามพ.ร.บ.ฉบับนี้ ยืนยันว่าทำทุกอย่างโดยไม่มีผลประโยชน์ส่วนตัว แต่หากนายกฯ ยังไม่สนใจหรือไม่รักษาคำพูด ก็คงจะต้องเลิกผลักดัน เพราะไม่รู้จะทำวิธีไหนแล้ว” นางปรียนันท์ กล่าว
ASTVผู้จัดการออนไลน์ 27 กุมภาพันธ์ 2554
