การปฏิรูปวิถีชีวิตของตนเอง โดยตระหนักถึงสาเหตุและปัจจัยที่ทำให้คนไทยยังคงเจ็บป่วยโดยไม่จำเป็น เป็นประเด็นปฏิรูปสุขภาพที่คนไทยทุกคนสามารถร่วมกันทำได้ทันที ด้วยบริโภคอย่างมีสติ ลดการใช้สารเคมีกำจัดศัตรูพืช เพิ่มพื้นที่การทำเกษตรแบบอินทรีย์ เพิ่มจำนวนชุมชนในสังคมที่สามารถพึ่งพาตนเองได้ในด้านอาหาร
ปัจจุบันประเทศไทยเป็นประเทศที่มียอดการนำเข้าของสารเคมีทางการเกษตรสูงติดอันดับโลก และยังมีแนวโน้มว่าจะมีปริมาณมากขึ้นเรื่อยๆ จากรายงานการสำรวจขององค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ พบว่าประเทศไทยมีเนื้อที่ทำการเกษตรมากเป็นอันดับที่ 48 ของโลก แต่ใช้ยาฆ่าแมลงมากเป็นอันดับ 5 ของโลก และใช้ยาฆ่าหญ้าเป็นอันดับ 4 ของโลก
จากรายงานข้างต้นทำให้เห็นว่าประเทศไทยมีความนิยมใช้สารเคมีเพื่อการเกษตรมากขึ้นแม้ว่าพื้นที่ทางการเกษตรจะไม่ได้มากกว่าประเทศอื่นๆแต่อย่างใด
มีงานวิจัยจำนวนมากที่สนับสนุนว่าการใช้สารเคมีทางการเกษตรเหล่านี้ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของเกษตรกรผู้ใช้รวมไปถึงผู้บริโภค ไม่ว่าจะเป็นลักษณะการเป็นพิษแบบเฉียบพลันหรือพิษสะสมในร่างกายซึ่งส่งผลระยะยาว
แม้จะทราบว่าสารเคมีที่ใช้ในประเทศหลายชนิดมีความรุนแรงของผลลัพธ์ และสารบางชนิดร้ายแรงจนกระทั่งประเทศผู้ผลิตเองเป็นผู้สั่งห้ามใช้ในประเทศของตน แต่กลับพบว่าสารเหล่านี้ยังตกค้างอยู่ในผัก ผลไม้ ในประเทศไทย
ผลการศึกษาวิจัยพบว่า หนึ่งในสาเหตุที่สำคัญของโรคมะเร็งและโรคเรื้อรังต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง มีสาเหตุจาก การบริโภคอาหารไม่ปลอดภัย เพราะปนเปื้อน สารเคมี และโลหะหนัก จากทั้งภาคเกษตรและภาคอุตสาหกรรม
คนไทยยังมีการบริโภคน้ำตาลมากเกินไป นำไปสู่โรคอ้วน น้ำหนักเกิน เบาหวาน ความดันโลหิตสูง และภาวะแทรกซ้อนต่างๆ รวมทั้ง ในกระบวนการผลิตอ้อยและน้ำตาลมีการใช้สารเคมี ตั้งแต่การปลูกและการฟอกขาว สร้างมลภาวะทางสิ่งแวดล้อมของชุมชน มีการใช้ยาฆ่าหญ้าอย่างกว้างขวาง ก่อให้เกิดภาวะต้านอินสุลิน และเป็นโรคเบาหวาน
นอกจากนี้ คนไทยหลายกลุ่มยังนิยมสูบบุหรี่และดื่มสุรา ทั้งที่ทราบกันดีว่า ในบุหรี่มีสารนิโคตินและสารเคมีเกษตรสารพัดชนิดที่ฉีดพ่นระหว่างการปลูก การเก็บเกี่ยว และการบ่มรมควัน ในสุรามีเอทิลแอลกอฮอล์และสารเคมีต่างๆ ที่ใช้ในกระบวนบ่มวัตถุดิบกันมด มอด แมลง และสารเคมีในกระบวนการผลิต
ในส่วนอุบัติเหตุจราจร ข้อมูลจากญี่ปุ่น พบว่า คนญี่ปุ่นจำนวน 120 ล้านคน เสียชีวิตจากอุบัติเหตุเพียงปีละไม่ถึง 3,000 คน แต่คนไทยซึ่งมีเพียงจำนวน 65 ล้านคน เสียชีวิตจากอุบัติเหตุถึงปีละมากกว่า 14,000 คน เกิดผู้พิการมากกว่า 65,000 คน เกิดความสูญเสียทางเศรษฐกิจมากกว่าปีละ 200,000 ล้านบาท
ท่ามกลาง ภาวะทางสังคมและเศรษฐกิจ ที่บีบรัด เร่งรีบ ทิ้งปัญหาสังคมและสิ่งแวดล้อม มีคนเพียงบางส่วนในสังคมเท่านั้น ที่สามารถเอาตัวรอดได้ ลองทบทวนตนเองดูนะคะ ว่าเราสามารถที่จะปรับวิถีชีวิตเพื่อลดปัจจัยเสี่ยงและเพิ่มปัจจัยปกป้องให้แก่สุขภาพของตนเองในแง่มุมใด ได้บ้าง
ASTVผู้จัดการออนไลน์ 22 กรกฎาคม 2557
