ผู้เขียน หัวข้อ: 8 เครือข่ายสุภาพหยัน อภ.ไม่ต่างนักการเมือง โยนบาปผู้บริหารชุดก่อน  (อ่าน 527 ครั้ง)

story

  • Staff
  • Hero Member
  • ****
  • กระทู้: 9755
    • ดูรายละเอียด
 8 เครือข่ายสุขภาพ หยัน อภ. แก้ตัวไม่ขึ้น โยนความผิดให้ผู้บริหารชุดที่แล้วไม่ต่างจากนักการเมือง ถามกลับรู้ล่วงหน้าว่าจะขาดแคลนยาทำไมไม่แจ้งล่วงหน้า ปล่อยโรงพยาบาลเผชิญหน้าแก้ปัญหาเอง ย้ำเป็นหน้าที่ อภ. ต้องทำทุกวิถีทางไม่ให้ยาขาดแคลน ทั้งที่สามารถจ้างโรงงานเอกชนผลิตได้ ซัดหยุดผลิตยาเม็ดหญิงตั้งครรภ์ ส่อเจตนาให้ไปซื้อจาก บ.เอกชน หรือไม่ ตั้งข้อสังเกตไม่เอาผิดบริษัททิ้งงานก่อสร้างโรงงานวัคซีนที่รังสิต แต่กลับจ้างเข้ามาใหม่อีก

       วันนี้ (8 ก.ค.) นพ.วชิระ บถพิบูลย์ ชมรมแพทย์ชนบท กล่าวว่า การที่ นพ.พิพัฒน์ ยิ่งเสรี ประธานคณะกรรมการองค์การเภสัชกรรม (อภ.) ออกมาชี้แจงว่า เหตุการณ์โรงพยาบาลขาดแคลนยาหลายตัวนั้น เกิดจากการปรับปรุงโรงงานผลิตยาที่มีปัญหา โดยโยนว่าเกิดขึ้นคุณภาพการผลิตยาเกิดขึ้นจากการบริหารงานของผู้บริหารชุดก่อน เป็นการแก้ตัวที่ฟังไม่ขึ้น ให้เหตุผลข้ออ้างแก้ตัวน้ำขุ่นๆ เหมือนนักการเมืองทั่วไปนิยม ทั้งที่การขาดแคลน และผลประกอบการที่ตกต่ำลงเกิดขึ้นในยุคนี้ ในยุคผู้บริหารชุดก่อนแทบไม่มีเลย โดยประเด็นนี้ นพ.พิพัฒน์ ไม่ยอมชี้แจง ซึ่งโดยระเบียบการจัดซื้อยาของหน่วยงานรัฐต้องซื้อจาก อภ. ดังนั้น บอร์ด อภ. ต้องบริหารจัดการทุกวิถีทาง ไม่ให้เกิดผลกระทบจนเกิดการขาดแคลนขึ้น เช่น การจ้างโรงงานเอกชนผลิต เป็นต้น ดังนั้น จึงถือเป็นการยอมรับโดยดุษณีแล้วว่า ตลอด 1 ปีที่ผ่านมา อภ. ไม่สามารถดำเนินการตามพันธกิจของ อภ. ไว้ได้
       
       นพ.วชิระ กล่าวอีกว่า ทั้งนี้ ทาง 8 เครือข่ายองค์กรสุขภาพขอตั้งคำถามให้ อภ. ตอบ 6 ข้อ ดังนี้ 1. เหตุใด อภ. จึงปล่อยให้โรงพยาบาลแก้ปัญหาขาดแคลนยาเบาหวานและความดันเอง ทั้งที่ อภ. รู้ว่าจะขาดแคลนแต่ทำไมจึงไม่แจ้งล่วงหน้า การที่ อภ. ยกเลิกใบสั่งซื้อหรือที่เรียกว่า “ตัดจ่าย” ทีละเดือนๆ นั้น ทำให้วางแผนยากว่าจะซื้ออย่างไร และ อภ. จะหันกลับมาสนับสนุนได้เมื่อไร 2. ยาผู้ป่วยจิตเวช จะต้องรอนานอีกเท่าไร จึงจะเพียงพอแก่การบริการ 3. ยาเม็ด Triferdine สำหรับหญิงตั้งครรภ์ ที่ต้องกินตลอดอายุการตั้งครรภ์ ทำไม อภ. จึงหยุดผลิต เหมือนเป็นการบังคับให้โรงพยาบาลต้องไปซื้อยาสูตรผสมของบริษัทเดียว เท่ากับเป็นการเอื้อประโยชน์ให้กันหรือไม่ 4. ยาต้านไวรัสไข้หวัดใหญ่ โอเซลทามิเวียร์ ที่ผลิตไม่ได้ และมีวัตถุดิบเหลืออีก 500 ล้านบาทนั้น จะเร่งแก้ปัญหาอย่างไร เพื่อให้มียาเพียงพอก่อนจะเกิดการระบาดขึ้นอีก ดังที่เกิดปัญหาขึ้นเมื่อ 3 เดือนก่อนที่จังหวัดใหญ่ภาคอีสาน 5. ยาต้านไวรัสเอดส์ที่ อภ. ขาดส่งให้ สปสช. งวด เม.ย.- มิ.ย. 57 ส่งผลต่อคนไข้เอดส์ทั่วประเทศจะจัดการต่ออย่างไร และ 6. แผนงานระยะยาว เรื่องโรงงานผลิตที่รังสิต โรงงานผลิตวัคซีน ผ่านมา 1 ปี การก่อสร้างไม่คืบหน้า ไม่มีการแจ้งขึ้นบัญชีดำบริษัททิ้งงาน จะดำเนินการอย่างไรต่อ
       
       ด้าน นายนิมิตร์ เทียนอุดม ผู้อำนวยการมูลนิธิเข้าถึงเอดส์ กล่าวว่า จากการที่ประธานบอร์ด อภ. และ นพ.สุวัช เซียศิริวัฒนา ผอ.อภ. ชี้แจง ยังพบว่าตอบได้ไม่ชัดเจน เลี่ยงประเด็น โดยเฉพาะกรณีโรงงานผลิตวัคซีนที่รังสิต อย่าเบี่ยงเบนประเด็น ขอให้ตอบมาว่าทำไม อภ. จึงไม่ดำเนินการใดๆ กับบริษัทที่ทิ้งงาน และทำไมยังมีความพยายามจะเลือก บริษัทที่ทิ้งงานให้ได้รับการว่าจ้างใหม่กลับเข้ามาอีก เท่ากับว่าเข้าข่ายเอื้อประโยชน์ให้บริษัท หรือ บกพร่องในการบริหารงานหรือไม่
       
       นายนิมิตร์ กล่าวอีกว่า ส่วนกรณีที่ว่ามีวัตถุดิบผลิตยาต้านไวรัสเอชไอวี AZT พอใช้อีก 6 เดือน และลามิวูดีน (lamivudine) 6 ตันนั้น เท็จจริงแค่ไหน เพราะเท่าที่ทราบมา วัตถุดิบลามิวูดีนมีเหลือแค่ 2 ตัน ที่สั่งอีก 4 ตันจนถึงขณะนี้ ผอ.อภ. ยังไม่ยอมเซ็นสัญญา ทั้งที่ยาเม็ดลามิวูดีน (lamivudine tab) เหลือในสต๊อกยาแค่ 2 เดือน ซึ่งฝ่ายผลิตขอเอาลามิวูดีนที่มีมาผลิตยาเม็ดลามิวูดีน แต่จริงหรือไม่ที่ นพ.สุวัช กลับสั่งให้ไปผลิต GPOVIR Z 250 ทั้งที่มีสต๊อกอยู่ถึง 6 เดือน แต่เพราะราคาแพงกว่ายาเม็ดลามิวูดีน และได้กำไรมากกว่าจึงเลือกผลิต อยากให้ตอบคำถามประเด็นดังกล่าวให้ชัดเจนด้วย
       
       ด้าน นพ.พิพัฒน์ กล่าวว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นเราเพียงแต่ชี้แจงลำดับเหตุการณ์ว่าเป็นอย่างไร และไม่กล่าวโทษใคร ส่วนที่ต้องเอ่ยถึงอดีตผู้บริหารเก่า เพราะต้องเท้าความว่าปัญหาแต่ละอย่างที่เกิดขึ้นนั้นมีที่มาอย่างไร หากไม่กล่าวถึงก็จะชี้แจงไม่ได้ว่าปัญหานั้นสะสมมาอย่างไร ขออย่าแปลเจตนาในแง่ลบ ส่วนกรณีการไม่ชี้แจงปัญหาต่อโรงพยาบาลว่าจะมีการหยุดผลิตยาหรือลดกำลังการผลิตยาบางชนิดลง อย่างยาเบาหวานนั้น เป็นขั้นตอนของฝ่ายปฏิบัติการคือ ผู้อำนวยการ อภ. ซึ่งตนเข้าใจว่าอาจจะมีการชี้แจงสื่อสารแล้ว แต่เข้าใจไม่ตรงกัน เพราะปัญหาเช่นนี้ก็ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น ส่วนข้อสงสัยเรื่องจ้างบริษัททิ้งงานให้กลับเข้ามาดูแลการก่อสร้างโรงงานที่รังสิตใหม่นั้น ต้องชี้แจงว่าช่วงขณะที่ให้ประกวดราคานั้น ยังไม่มีการประกาศว่าบริษัทดังกล่าวเป็นบริษัทผู้ทิ้งงาน เพราะกำลังอยู่ในขั้นตอนที่ฝ่ายปฏิบัติกำลังเสนอเรื่องพิจารณา จึงทำให้บริษัทมีสิทธิ์ที่จะเสนอเข้ามา ขอยืนยันว่าเราไม่ได้เอื้อประโยชน์ให้ใคร ซึ่งขณะนี้กำลังมุ่งแก้ไขทุกอย่างให้ดีขึ้น และพยายามทำหน้าที่อย่างดีที่สุด
       
       ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามไปยัง นพ.สุวัช เซียศิริวัฒนา ผอ.อภ. แต่ยังไม่สามารถติดต่อเพื่อสอบถามเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวได้