เครือข่ายผู้เสียหายฯ แอ่นอก ให้ สธ.เดินหน้าตรวจกรณีเผยแพร่ข้อมูลผ่าน เฟซบุ๊ก ฉะหมอเดินหน้าทวงสิทธิเบิกจ่ายยา ขรก.ทั้งที่สิทธิเหนือกว่าสิทธิอื่นยังมีคนรับฟัง แต่เครือข่ายฯ ซึ่งสวัสดิการสู้ไม่ได้กลับเงียบฉี่ วอนกลุ่มแพทย์-รัฐ เห็นใจประชาชนบ้าง
จากกรณีที่ สมาพันธ์แพทย์โรงพยาบาลศูนย์และโรงพยาบาลทั่วไป ได้ออกแถลงการณ์ประณามเครือข่ายฯ ว่า มีการนำเสนอข้อมูลที่มีเจตนาหลอกลวงประชาชนให้หลงเชื่อสนับสนุนร่าง พ.ร.บ.คุ้มครองฯ รวมทั้งกรณีที่สำนักนโยบายและยุทธศาสตร์ (สนย.) กระทรวงสาธารณสุข ได้ชี้แจงถึงกรณีที่มีการวางข้อมูลบนเฟซบุ๊ก (Face Book) ว่า สถิติสาเหตุการตายของคนไทยปี 2549 เกิดจากความผิดพลาดทางการแพทย์ 65,000 คน เป็นความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนของผู้นำเสนอข้อมูลนั้น
ล่าสุด นางปรียนันท์ ล้อเสริมวัฒนา ประธานเครือ ข่ายผู้เสียหายทางการแพทย์ ได้ออกแถลงการณ์ว่า ข้อมูลบนเฟซบุ๊กนั้น ตนได้เผยแพร่ในรูปแบบแฟนเพจ เพื่อปกป้องสิทธิของประชาชน ด้วยกับการผลักดันร่าง พ.ร.บ.คุ้มครองผู้เสียหายฯ ถึงแม้จะเป็นเพียงข้อมูลสองโรงพยาบาล ก็ไม่ได้หมายความว่า จะเอาไปเทียบเคียงทั่วประเทศไม่ได้เลย เพราะแม้ในการศึกษาระยะแรกของมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ก็ไม่ได้ทำทั่วประเทศ (ตำราแพทย์ patient safety in emergency medicine LIPPINCOTT WILLIAM & WILKINS 2009 หน้า
นางปรียนันท์ กล่าวด้วยว่า การรับรองเอชเอในความเป็นจริงแล้วก็ยังสามารถเกิดความผิดพลาดได้อีก แม้กระทั่งโรงพยาบาลใหญ่ๆ ชื่อดังระดับโลกอย่างมหาวิทยาลัยจอห์น ฮอปกิ้น และฮาร์วาร์ด ก็ยังมีกรณีที่ผิดพลาดได้ รวมทั้งในความเป็นจริงที่ดิฉันพบเจอ มี รพ.เอกชนชื่อดังที่ผ่านการรับรองเอชเอและไอเอสโอแล้ว ก็ยังเกิดเหตุการณ์ซ้ำกับกรณีที่ศาลพิพากษาจำคุกแพทย์และพยาบาลของโรงพยาบาล สมุย ทั้งที่เป็นข่าวรับรู้กันดีในวงการแพทย์มาแล้ว (มีหลักฐานเป็นคำพิพากษา และสำเนาเวชระเบียน ยืนยัน) ในประเทศสหรัฐอเมริกาหลังปี ค.ศ.1999 ที่สถาบันไอโอเอ็มรายงานสถิติคนไข้ตายจากความผิดพลาดทางการแพทย์ ว่า เป็นสาเหตุการตายอันดับต้นๆ แล้ว ต่อมาเขาก็ยังรายงานก็ว่าความผิดพลาดก็ยังมีเหมือนเดิม ในเว็บ
http://www.consumersunion.org/pub/2009/05/011324print.html “เรื่องนี้อันนี้โทษดิฉันไม่ได้ เนื่องจากท่านไม่ได้ให้รายละเอียดแบบนี้ในข้อมูลที่เป็นจริง ส่วนปฏิกิริยาต่อต้านของสมาพันธ์แพทย์นั้น เครือข่ายฯ เห็นว่า ไม่ใช่เรื่องที่ผิดปกติแต่ประการใด การที่สมาพันธ์แพทย์ฯ ออกมาประณามเครือข่ายฯ ตลอดจนข่มขู่จะเอาคนไข้เป็นตัวประกันนั้น ไม่ใช่เรื่องที่ผิดปกติ แต่เป็นไปเพื่อพยายามจะปกปิดความจริง พยายามทำลายความน่าเชื่อถือของเครือข่ายฯ เพื่อให้ส่งผลไปถึงการล้มร่าง พ.ร.บ.คุ้มครองผู้เสียหายฯ ที่รัฐบาลยืนยันจะนำร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวเข้าสู่การพิจารณาของสภา ในเดือนกุมภาพันธ์นี้ ในส่วนที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข จะตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จริงนั้น เครือข่ายฯ ยินดีเข้าชี้แจงหากได้รับโอกาส” นางปรียนันท์ กล่าว
ประธานเครือข่ายฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า จะเห็นว่า ปฏิกิริยาที่แพทย์กลุ่มต่างๆ มีการเคลื่อนไหวนั้นมุ่งแต่ประโยชน์ของตนเองเป็นหลัก ขณะที่ภาคประชาชนหลายองค์กร มุ่งดำเนินการทุกอย่างเพื่อประโยชน์ส่วนรวม ล่าสุด กรณีที่กรมบัญชีกลางได้มีแผนจะมีมาตรการคุมเข้มการใช้ยา 8 กลุ่มนั้น เห็นได้ว่า แพทย์กลุ่มเดิมพยายามลุกขึ้นมาทักท้วง เพื่อสิทธิของตนเอง ทั้งๆ ที่สิทธิการรักษาของข้าราชการเหนือกว่าสิทธิการรักษาอื่นๆ อยู่แล้ว โดยทุกครั้งที่มีการเคลื่อนไหวดูเหมือนว่ามีคนรับฟังมากกว่าภาคประชานเสีย อีก ตรงนี้อยากให้แพทย์และภาครัฐบาลเห็นใจประชาชนที่การศึกษาน้อยบ้าง เพราะเสียงเราไม่ดังพอ
ASTVผู้จัดการออนไลน์ 16 กุมภาพันธ์ 2554
