ผู้เขียน หัวข้อ: คารวะอาจารย์หมอวิทุร (เดลินิวส์02-มีค-53)  (อ่าน 2472 ครั้ง)

rabb

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 157
    • ดูรายละเอียด

คุณหมอแท้จริง ศิริพานิช เลขาธิการมูลนิธิเมาไม่ขับ ส่งข้อเขียนคารวะอาจารย์หมอวิทุรคนดีที่จากไป ผู้คิดริเริ่มโครงการเมาไม่ขับและศูนย์นเรนทร พ.ศ.นี้ ถ้าเอ่ยถึงมูลนิธิเมาไม่ขับ คงไม่มีใครไม่รู้จัก แต่ถ้าถามถึงผู้อยู่เบื้องหลัง ผู้ที่มีส่วนผลักดันให้เกิดมูลนิธิเมาไม่ขับขึ้น น้อยคนนักที่จะรู้ว่า นายแพทย์วิทุร แสงสิงแก้ว อดีตปลัดกระทรวงสาธารณสุข คือบุคคลสำคัญที่เป็นผู้วางรากฐานให้องค์กรแห่งนี้เจริญเติบโต ทำงานรับใช้สังคมมา 14 ปี จวบจนถึงปัจจุบัน
   
ผมยังจำได้ดีสมัยที่นายแพทย์วิทุร เป็นอธิบดีกรมการแพทย์ ท่านเป็นผู้บริหารที่มีวิสัยทัศน์ที่กว้างไกล โดยเฉพาะ ประเด็นเรื่องอุบัติเหตุ นายแพทย์วิทุรมองว่าเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้คนไทยเสีย ชีวิตมากแต่หมอในสมัยนั้นไม่สนใจเรื่องนี้เลย ท่านจึงได้ก่อตั้งสถาบันการแพทย์ด้านอุบัติเหตุและสาธารณภัยขึ้นซึ่งรวมไป ถึงศูนย์นเรนทร เพื่อทำการศึกษาวิจัยข้อมูล และทำงานบูรณาการเชิงรับ ในการช่วยเหลือผู้บาดเจ็บจากอุบัติเหตุร่วมกับองค์กรภาคเอกชนอย่างมูลนิธิ ป่อเต็กตึ๊ง มูลนิธิร่วมกตัญญู
   
จากการดำเนินงานเชิงรับยิ่งทำยิ่งพบว่าผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บจาก อุบัติเหตุมีมากขึ้น และเมื่อวิเคราะห์ลึกลงไปก็พบว่าสาเหตุสำคัญมาจากเมาแล้วขับ เนื่องจากสมัยนั้นยังไม่มีการบังคับใช้กฎหมายเมาไม่ขับ แม้ว่ากฎหมายจะมีออกมาแล้ว ตำรวจขาดเครื่องมือ ขาดการสนับสนุนทั้งกำลังคนและงบประมาณ
   
จากเหตุผลดังกล่าวข้างต้น นายแพทย์วิทุร จึงมอบให้ผมไปคิดโครงการเพื่อรณรงค์ลดอุบัติเหตุจากการดื่มเครื่องดื่ม แอลกอฮอล์ พร้อมทั้งยังแนะนำให้ด้วยว่า โครงการนี้ต้องทำให้ยั่งยืน โดยให้ประชาชนมีส่วนร่วม และมีความรู้สึกว่าเป็นเจ้าของ พร้อมกันนี้ยังแนะนำให้เชิญบุคคลที่มีชื่อเสียงมาเป็นประธานเพื่อจะทำให้ โครงการเป็นที่รู้จัก ซึ่ง นายแพทย์วิทุรแนะนำ คุณดำรง พุฒตาล นับจากนั้นจึงเกิดโครงการรณรงค์เมาไม่ขับและเกิดชมรมคนรุ่นใหม่ไม่ขับรถ เมื่อเมาสุราภายใต้การสนับสนุนของกระทรวงสาธารณสุขขึ้น
   
จากวันนั้นถึงวันนี้ มูลนิธิเมาไม่ขับและศูนย์นเรนทรก็ได้เติบโตเป็นที่รู้จักกันโดยทั่วไปในนาม สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ สิ่งที่นายแพทย์วิทุรได้วางรากฐานไว้เมื่อ 14 ปีที่แล้ว ได้ผลิดอกออกผลยังประโยชน์ให้กับสังคมไทยอย่างใหญ่หลวง
   
แม้นายแพทย์วิทุร แสงสิงแก้ว จะจากพวกเราไปแล้วแต่สิ่งที่ท่านได้ทำยังจะคงอยู่ตลอดไป.