ผู้เขียน หัวข้อ: ตื่นตาตื่นใจกับ 5 "ภูเขาไฟ"ชื่อก้องโลก สัมผัสธรรมชาติมหัศจรรย์อันสวยงาม  (อ่าน 747 ครั้ง)

story

  • Staff
  • Hero Member
  • ****
  • กระทู้: 9753
    • ดูรายละเอียด
“ภูเขาไฟ” สถานที่ที่ธรรมชาติได้สรรสร้างให้ตระหง่านขึ้นมาเหนือพื้นโลก พร้อมกับซ่อนอันตรายของเปลวไฟให้แฝงอยู่ภายใน แต่ถึงอย่างไรสถานที่แห่งนี้ก็ได้กลับกลายมาเป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก และเป็นสถานที่ท่องเที่ยวในฝันของใครหลายคน ที่อยากจะมาสัมผัสในความยิ่งใหญ่อันน่ามหัศจรรย์นี้
       
       สำหรับ “ภูเขาไฟ” นั้นเกิดขึ้นมาจากหินหนืดหรือลาวาที่อยู่ใต้เปลือกโลกซึ่งมีความร้อนสูง และถูกแรงอันดันให้แทรกตามรอยแตกของเปลือกโลกขึ้นสู่ผิวโลกโดยจะมีแรงปะทุหรือระเบิดขึ้นเป็นระยะ หากแรงดันไม่มากจะมีหินหลอมเหลวปะทุและไหลออกจากปากปลองภูเขาไฟนั้น แต่หากเกิดมีแรงดันมากก็จะเกิดการระเบิดที่รุนแรงและเกิดความเสียหายเป็นวงกว้างจนถึงขั้นเป็นภัยพิบัติได้
       
       ภูเขาไฟ ถูกแบ่งออกเป็น 3 ประเภทด้วยกันคือ “ภูเขาไฟที่ยังคุกกรุ่นอยู่" โดยเป็นภูเขาไฟที่พร้อมจะระเบิดได้ทุกเวลา ซึ่งทั่วโลกมีอยู่ประมาณ 1,300 ลูก “ภูเขาไฟที่สงบ” เป็นภูเขาไฟที่นานๆจะมีการระเบิดเกิดขึ้น และ “ภูเขาไฟที่ดับแล้ว” ก็คือภูเขาไฟที่ไม่ปรากฏว่ามีการระเบิดเกิดขึ้นในช่วงเวลาหนึ่งร้อยปีที่ผ่านมา
       
       นอกจากนี้ภูเขาไฟยังได้จำแนกออกตามรูปร่าง และตามส่วนประกอบที่ทำให้เกิดรวมถึงชนิดของการประทุ โดยสรุปได้ 3 ลักษณะคือ
       1.แบบ “กรวยภูเขาไฟสลับชั้น” เป็นภูเขาไฟซึ่งเกิดจากการสลับหมุนเวียนของชั้นลาวา ภูเขาไฟชนิดนี้อาจจะดันลาวาไหลออกมาเป็นเวลานาน และจะเปลี่ยนแปลงรูปแบบการประทุอย่างกะทันหัน มีรูปร่างเช่น ภูเขาไฟฟูจิ ภูเขาไฟมายอน เป็นต้น
       2.แบบ“ภูเขาไฟรูปโล่” เป็นภูเขาไฟที่มีขนาดใหญ่ โดยพื้นฐานแล้วภูเขาไฟชนิดนี้เกิดจากลาวาที่ไหลด้วยความหนืดต่ำที่ไหลมาจากปล่องกลางและไม่กองสูงชัน ภูเขาไฟชนิดนี้มักจะเป็นภูเขาไฟที่ใหญ่
       และ แบบ 3.“กรวยกรวดภูเขาไฟ” เกิดจากลาวาที่พุ่งออกมาทับถมกัน ที่พุ่งออกมาจากปล่องเดี่ยวและทับถมกันในบริเวณรอบปล่อง ภูเขาไฟชนิดนี้จะสูงชันมาก

อีกมุมหนึ่งของ “ภูเขาไฟฟูจิ”
       ในบรรดาภูเขาไฟที่ยังคุกกรุ่นอยู่กว่า 1,300 ลูกที่ตั้งกระจัดกระจายอยู่บนโลกนี้ บางลูกก็ได้มีเรื่องราวเคียงคู่หน้าประวัติศาสตร์อันยาวนานเป็นที่เล่าขานต่อมาจนถึงปัจจุบัน ขณะที่อีกหลายลูกก็มีรูปทรงที่สวยงามโดยได้กลายมาเป็นสัญลักษณ์และสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมของผู้ที่ต้องการใกล้ชิดในความมหัศจรรย์ที่แฝงไปด้วยอันตราย อีกทั้งภูเขาไฟบางลูกก็ยังได้รับการประกาศให้เป็นมรดกโลกอีกด้วย
       
       และนี่ก็คือภูเขาไฟที่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวขึ้นชื่อของโลก 5 แห่งที่น่าสัมผัส น่ายลไปด้วยความสวยงามและความมหัศจรรย์อันน่าตื่นตาตื่นใจ
       
       “ภูเขาไฟฟูจิ“ ตั้งอยู่ที่ประเทศญี่ปุ่น ภูเขาไฟลูกนี้มีรูปร่างแบบกรวยภูเขาไฟสลับชั้น สูงขึ้นเสียดฟ้าในความสูงราว 3,776 เมตร และได้กลายมาเป็นทัศนียภาพที่เป็นเอกลักษณ์ของประเทศแห่งนี้มาอย่างช้านาน อีกทั้งยังรับได้ประกาศให้เป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรม ในปี พ.ศ. 2556 จากองค์การยูเนสโก และในปัจจุบันก็ยังคงเป็นสัญลักษณ์อันโดดเด่นและเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมอย่างมาก ของผู้ที่ได้มาเยือนประเทศญี่ปุ่นแห่งนี้

ซากเมืองปอมเปอีด้านหลังคือ “ภูเขาไฟวิสุเวียส”
       “ภูเขาไฟวิสุเวียส” นับเป็นภูเขาไฟอีกหนึ่งลูกที่ยังคงทรงพลังอยู่ อีกทั้งยังมีเรื่องราวจารึกในหน้าประวัติศาสตร์มาอย่างยาวนานอีกด้วย โดยตั้งอยู่ที่ประเทศอิตาลี ซึ่งเป็นภูเขาไฟที่ยังไม่ดับเพียงแห่งเดียวในแผ่นดินใหญ่ของทวีปยุโรป มีความสูง 1,281 เมตร และได้สร้างเรื่องราวความเกรงขามด้วยการระเบิดเมื่อ วันที่ 24 สิงหาคม ปี พ.ศ. 622 ซึ่งได้กลืนกินเมืองปอมเปอีและเฮอร์คิวเลเนียมที่ตั้งอยู่ในระแวกใกล้เคียงทั้งหมด ซึ่งได้มีหักฐานให้เห็นอย่างชัดเจนในปัจจุบัน จนได้กลายมาเป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์อีกแห่งของประเทศอิตาลี

รูปลักษณ์ที่สวยงามของ “ภูเขาไฟมายอน “
       “ภูเขาไฟมายอน” หนึ่งในภูเขาไฟที่ได้รับการกล่าวถึงในเรื่องรูปทรงที่สวยงาม ตั้งอยู่ที่ประเทศฟิลิปปินส์ มีความสูง2,462 เมตร โดยมีชื่อเสียงไปทั่วโลกว่าเป็นภูเขาไฟที่เกิดขึ้นอย่างสมบูรณ์แบบที่สุดในโลก ด้วยรูปร่างทรงกรวย เป็นรูปสมมาตรที่สวยงามเหมือนภูเขาไฟฟูจิ และด้วยความสง่างามแบบธรรมชาติ จึงได้รับความนิยมจากเหล่านักท่องเที่ยวที่ต้องการมาดูความสมบูรณ์แบบของภูเขาไฟแห่งนี้

ภูเขาคิลิมันจาโร
       “ภูเขาคิลิมันจาโร” นับเป็นอีกหนึ่งในภูเขาไฟที่มีความป็นเอกลักษณ์เฉพาะ โดยตั้งอยู่ที่ประเทศแทนซาเนีย ภูเขาแห่งนี้เป็นภูเขาไฟที่สงบที่สูงที่สุดในโลก อีกทั้งยังเป็นยอดเขาที่สูงที่สุดในทวีปแอฟริกา ด้วยความสูงถึง 5,895 เมตร จึงทำให้ภูเขาแห่งนี้มีเอกลักษณ์ที่โดดเด่นในด้านความหลากหลายทางภูมิศาสตร์ ซึ่งบริเวณฐานนั้นจะมีภูมิประเทศและอากาศแบบเขตร้อน และเมื่อไต่ระดับขึ้นไปในระดับ 2,000 เมตร ก็จะเป็นเขตอบอุ่น และที่บริเวณยอดเขานั้นจะเป็นอากาศแบบเขตหนาว โดยที่บริเวณยอดเขาแห่งนี้ยังถูกปกคลุมด้วยธารน้ำแข็งที่ใหญ่ที่สุดในทวีปแอฟริกาอีกด้วย ภูเขาแห่งนี้จึงได้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมจากนักปีนเขามากมายจากทั่วโลก

 “ภูเขาไฟโบรโม่” เป็นส่วนหนึ่งของเทือกเขาเทงเกอร์มาสซีฟ บนเกาะชวา ประเทศอินโดนีเซีย มีความสูง 2,329 เมตร เป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมของนักท่องเที่ยวมากมาย เนื่องจากความสูงที่ไม่มากนักและสามารถเดินทางถึงยอดเขาเพื่อชมปากปล่องภูเขาไฟได้โดยง่าย บริเวณโดยรอบยังมีทัศนียภาพที่แปลกตาที่น่าตื่นตาตื่นใจ อีกทั้งบริเวณใกล้เคียงยังเป็นที่ตั้งของภูเขาไฟซูเมรุและภูเขาไฟบาตอกอีกด้วย ซึ่งนับเป็นจุดเด่นของแหล่งท่องเที่ยวแห่งนี้ (คลิกติดตามเรื่องเที่ยว “ภูเขาไฟโบลโม่” ได้ที่ลิงค์นี้)
       
       และที่ประเทศอินโดนีเซียแห่งนี้ ยังนับได้ว่าเป็นประเทศที่มีภูเขาไฟมากที่สุดในโลกด้วย เช่น ภูเขาเมราปี, ภูเขาไฟกรากะตัว , ภูเขาไฟตัมโบรา , ภูเขาไฟซินาบุง เป็นต้น


ภูเขาไฟเมราปี

       นับได้ว่า “ภูเขาไฟ” เป็นอีกหนึ่งสถานที่มหัศจรรย์ที่เกิดจากการสรรค์สร้างโดยธรรมชาติ ซึ่งถึงแม้จะแฝงไว้ด้วยอันตรายอยู่ภายใน แต่เมื่อยามสงบแล้วก็นับได้ว่าเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่งดงามแปลกตาแลบะแฝงไว้ด้วยความน่าเกรงขาม แต่อย่างไรก็ตามก็ขอภาวนาอย่าให้ภูเขาเหล่านี้ได้พิโรจขึ้นมา เพราะความสวยงามจะแปรเปลี่ยนมหันตภัยอันน่าสะพรึงกลัวจากอำนาจการทำลายล้างของมัน

ASTVผู้จัดการออนไลน์    12 มีนาคม 2557