ผู้เขียน หัวข้อ: หมอชนบทจวก เมกะโปรเจกต์แสนล้าน สธ.แค่ปาหี่ขายฝัน  (อ่าน 750 ครั้ง)

story

  • Staff
  • Hero Member
  • ****
  • กระทู้: 9745
    • ดูรายละเอียด
หมอชนบทจวกโครงการเมกะโปรเจกต์แสนล้านของ สธ.ขายฝัน ทำจริงไม่ได้ ลากไส้ตั้งแต่งบครุภัณฑ์ถูกหั่นกระจาย 9,000 ล้านบาทเหลือ 4,700 ล้านบาท แต่ได้จริงแค่ 600 ล้านบาท มั่นใจแค่ปาหี่ ด้าน ร.ร.แพทย์ สพศท. รพ.สังกัด สธ.ร่วมหนุน บอกแชร์ทรัพยากรช่วยประหยัดงบ
       
       วันนี้ (14 พ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นพ.เกรียงศักดิ์ วัชรนุกูลเกียรติ ประธานชมรมแพทย์ชนบท และ นพ.พรเจริญ เทียมบุญศรี ประธานชมรมผู้อำนวยการโรงพยาบาลชุมชน ได้ทำจดหมายเปิดผนึก เรื่อง “ขอให้รัฐมนตรีประดิษฐ หยุดเล่นปาหี่งบแสนล้านเมกะโปรเจกต์ของระบบสาธารณสุข” มีใจความบางช่วงว่า สืบเนื่องจาก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นายแพทย์ประดิษฐ สินธวณรงค์ ได้ทำแผนเมกะโปรเจกต์เพื่อพัฒนาสาธารณสุข ซึ่งมีการขายฝันว่าจะใช้งบประมาณ 1-2 แสนล้านบาทใน 10 ปี โดยเริ่มตั้งแต่ปี 2558 เป็นต้นไป เพื่อพัฒนาโครงสร้างระบบสาธารณสุขของประเทศ
   
       ทางชมรมแพทย์ชนบทขอสะท้อนความเห็นว่า การทำแผนเมกะโปรเจกต์งบแสนล้านครั้งนี้ เป็นเพียงละครฉากหนึ่ง ที่สร้างขึ้นมาในยุคที่รัฐบาลตกต่ำ ชมรมแพทย์ชนบทมั่นใจว่าเมกะโปรเจกต์นี้เป็นโครงการขายฝัน งบแสนล้านเป็นเพียงเกมการเมือง เพราะปัจจุบันกระทรวงสาธารณสุขได้มีการตัดงบครุภัณฑ์ที่จำเป็นของโรงพยาบาลเปิดใหม่หรือตึกเปิดใหม่ที่สร้างด้วยงบไทยเข้มแข็งหรืองบประมาณประจำปี ซึ่งโรงพยาบาลหรือตึกเหล่านั้นล้วนสร้างเสร็จแล้ว แต่กลับไม่สามารถใช้งานได้เต็มที่ และมีเป็นจำนวนมากเปิดให้บริการไม่ได้ เพราะขาดครุภัณฑ์ เครื่องมือแพทย์ เนื่องจากงบครุภัณฑ์ที่ขอทางกระทรวงสาธารณสุขไปจำนวน 9,000 ล้านบาทนั้น เมื่อผ่านการกลั่นกรองแล้วถูกตัดเหลือเพียง 4,700 ล้านบาท แต่เมื่อมีการจัดสรรงบจริงในปีงบ 2557 กลับได้รับงบสนับสนุนมาเพียง 600 ล้านบาทเท่านั้น
       
       ชมรมแพทย์ชนบท เห็นว่า การจัดทำเมกะโปรเจกต์อย่างรีบเร่งและขายฝันครั้งนี้ มีขึ้นมาเพื่อการแก้เกมทางการเมือง เป็นปาหี่ฉากใหญ่ หากรัฐบาลและกระทรวงสาธารณสุขมีความจริงใจ ก็ไม่ต้องกู้เงินมาทำโครงการแสนล้าน เพียงแค่จัดสรรงบประมาณจำนวน 4,700 ล้าน จัดซื้อครุภัณฑ์ให้ตามรายการเดิมที่กระทรวงมีอยู่ ก็จะทำให้หลายสิบโรงพยาบาลสามารถเปิดบริการได้อย่างเต็มศักยภาพมากขึ้น ไม่ขายฝัน ไม่หลอกลวง
       
       นพ.สุภัทร ฮาสุวรรณกิจ ผอ.โรงพยาบาลจะนะ จ.สงขลา และกรรมการชมรมแพทย์ชนบท กล่าวว่า เป็นการขายฝันแน่นอน เพราะจากปัญหาที่ผ่านมาทำให้ไม่เชื่อว่าเรื่องนี้จะเกิดขึ้น เห็นได้ชัดจากโครงการลงทุนภายใต้แผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง ที่แม้จะมีการก่อสร้างอาคารในบางพื้นที่ แต่เมื่อมีการของบครุภัณฑ์ทางการแพทย์ รวมแล้วกว่า 4 พันล้านบาท กลับได้จริงเพียง 600 ล้านบาท แสดงว่ารัฐบาลไม่มีงบประมาณสนับสนุน ขนาดงบครุภัณฑ์ยังถูกตัด แล้วงบแสนล้านบาทจะดำเนินการอย่างไร
       
       นพ.วรวิทย์ ตันติวัฒนทรัพย์ ผอ.รพ.อุ้มผาง จ.ตาก กล่าวว่า หากทำโครงการนี้ได้จริงจะเป็นเรื่องที่ดีมาก เพราะเป็นการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า เช่น เชียงใหม่ มีโรงพยาบาลสังกัดมหาวิทยาลัยและมีศักยภาพจัดตั้งศูนย์โรคหัวใจ โรงพยาบาลในสังกัด สธ.ก็ไม่จำเป็นต้องจัดตั้ง ก็จะช่วยประหยัดงบประมาณ ไม่จำเป็นต้องทุ่มงบเพื่อการลงทุนเพิ่ม แต่อาจไปสนับสนุนงบเพิ่มเติมให้ รพ.สังกัดมหาวิทยาลัยแทน โดยให้ผู้ป่วยของโรงพยาบาล สธ.ไปใช้บริการร่วมกัน และหากทำงานประสานกันได้ก็จะลดความเหลื่อมล้ำระหว่างโรงพยาบาลแต่ละสังกัด เพราะที่ผ่านมาจะทำงานแยกส่วนกัน การจะให้ผู้ป่วยจาก รพ.สังกัด สธ.ไปอยู่ในสังกัดอื่นโดยใช้สิทธิหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าค่อนข้างยาก แต่หากมีการคุยและตกลงกันได้ก็จะทำให้ประชาชนเข้าถึงบริการได้ครอบคลุม
       
       “การทำงานจะผ่านรูปแบบเขตบริการสุขภาพ 12 พื้นที่ ซึ่งแต่ละพื้นที่จะต้องไปหารือกันเอง โดยมีผู้ตรวจราชการฯ เป็นผู้ประสานระหว่างโรงพยาบาลสังกัดต่างๆ ซึ่งจะพิสูจน์ฝีมือด้วย เพราะไม่มีอำนาจสั่งการ รพ.นอกสังกัด จึงต้องใช้วิธีประสานงานให้ได้ประโยชน์ร่วมกันทุกฝ่ายอย่างไรก็ตาม ต้องมีกลไกการทำงานที่โปร่งใส ตรวจสอบได้ เพราะต้องใช้เงินมหาศาล” นพ.วรวิทย์ กล่าว
       
       พญ.ประชุมพร บูรณ์เจริญ ประธานสมาพันธ์แพทย์โรงพยาบาลศูนย์/โรงพยาบาลทั่วไปแห่งประเทศไทย (สพศท.) กล่าวว่า โรงพยาบาลสังกัดมหาวิทยาลัย และ สธ.มีการทำงานร่วมกันมานาน แต่ขึ้นอยู่กับ ผอ.โรงพยาบาลตกลงกันว่าจะทำงานร่วมกันอย่างไร เช่น ส่งคนไข้ไปผ่าตัดและส่งกลับพักฟื้น ซึ่งทั้งหมดเป็นเรื่องที่ดีในการช่วยเหลือซึ่งกันและกัน การที่ สธ.มีแผนพัฒนาเช่นนี้ ถือเป็นเรื่องดีในการจัดระบบให้เหมือนกันทั้งประเทศ ทำให้ประชาชนได้รับการบริการที่ดีขึ้น และทั่วถึงทุกระดับ
       
       ศ.คลินิก นพ.อุดม คชินทร คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ม.มหิดล กล่าวว่า ศิริราชสนับสนุนแนวคิดดังกล่าวและยินดีที่จะเข้าร่วมแชร์ทรัพยากร พร้อมเป็นพี่ใหญ่ในงานวิชาการและการบริการ เช่น กรณีคนไข้ที่รักษายากก็พร้อมที่จะรับมารักษา นอกจากนี้ การแบ่งเป็น 12 เขต ก็จะทำให้การทำงานดีขึ้น เพราะต้องยอมรับว่าแต่ละเขตบริการของ สธ.ไม่มีโรงพยาบาลใหญ่พอที่จะเป็นพี่เลี้ยง จึงจำเป็นต้องใช้โรงเรียนแพทย์ ที่มีความเชี่ยวชาญในการรักษาและมีแพทย์เชี่ยวชาญเฉพาะทาง เป็นการเชื่อมโยงต้นน้ำและปลายน้ำ เพราะโรงเรียนแพทย์ผลิตแพทย์ออกไปทำงานกับ สธ.อยู่แล้ว ดังนั้น ไม่เฉพาะเรื่องการใช้ทรัพยากรที่จะเกิดความคุ้มค่า แต่การดูแลผู้ป่วยก็ยังจะมีความเชื่อมโยงด้วย
       
       นพ.อุดม เชาวรินทร์ ผอ.รพ.ราชวิถี กล่าวว่า การจัดเขตบริการดังกล่าวน่าจะมีผลดีกว่าผลเสีย เนื่องจากทำให้งบประมาณใช้ได้คุ้มค่าขึ้น เช่น หากมีการจัดซื้อเวชภัณฑ์ร่วมกันหลายโรงพยาบาลก็จะทำให้มีอำนาจในการต่อรองราคาได้ ส่วนการใช้ทรัพยากรร่วมกัน ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ดี ทำให้มีการใช้ทรัพยากรเกิดประโยชน์มากขึ้น แต่ก็ควรต้องมีการประเมินผลการทำงานด้วย โดยอาจตั้งว่าภายใน 2-3 ปี ทำงานได้ประสิทธิภาพตามที่คาดหวังหรือไม่

ASTVผู้จัดการออนไลน์    14 พฤศจิกายน 2556

story

  • Staff
  • Hero Member
  • ****
  • กระทู้: 9745
    • ดูรายละเอียด
เมื่อวันที่ 14 พ.ย.56 ชมรมแพทย์ชนบท นำโดย นายแพทย์เกรียงศักดิ์ วัชรนุกูลเกียรติ ประธานชมรมแพทย์ชนบท และชมรมผู้อำนวยการโรงพยาบาลชุมชน นายแพทย์พรเจริญ เจียมบุญศรี ประธานชมรมผู้อำนวยการโรงพยาบาลชุมชน ออกจดหมายเปิดผนึก ถึงพี่น้องประชาชนทั้งประเทศ เรื่อง ขอให้รัฐมนตรีประดิษฐ์ หยุดเล่นปาหี่งบแสนล้านเมกะโปรเจกของระบบสาธารณสุข รายละเอียดดังนี้

 

จดหมายเปิดผนึก ถึงพี่น้องประชาชนทั้งประเทศ

เรื่อง ขอให้รัฐมนตรีประดิษฐ์ หยุดเล่นปาหี่งบแสนล้านเมกะโปรเจกของระบบสาธารณสุข

 

                                                                        14 พฤศจิกายน 2556

เรื่อง รัฐมนตรีประดิษฐ สินธวณรงค์ กำลังเล่นปาหี่งบแสนล้านสำหรับเมกะโปรเจกของระบบสาธารณสุข

เรียน พี่น้องประชาชนทั้งประเทศ

สืบเนื่องจาก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นายแพทย์ประดิษฐ สินธวณรงค์ ได้ทำแผนเมกะโปรเจกต์เพื่อพัฒนาสาธารณสุข ซึ่งมีการขายฝันว่าจะใช้งบประมาณ 1-2 แสนล้านบาทใน 10 ปี โดยเริ่มตั้งแต่ปี 2558 เป็นต้นไป เพื่อพัฒนาโครงสร้างระบบสาธารณสุขของประเทศ

ทางชมรมแพทย์ชนบทขอสะท้อนความเห็นว่า การทำแผนเมกะโปรเจกงบแสนล้านครั้งนี้เป็นเพียงละครฉากหนึ่ง ที่สร้างขึ้นมาในยุคที่รัฐบาลตกต่ำ เพราะเจ้ากระทรวงกระทรวงสาธารณสุข ทั้งฝ่ายการเมือง และผู้บริหารสูงสุดของฝ่ายประจำ ขาดความน่าเชื่อถือและขาดการยอมรับจากผู้ปฏิบัติงานทุกระดับ ออกนโยบายรายวันที่สร้างความปั่นป่วนไปทั่วทุกหัวระแหง ปฏิบัติการรวบอำนาจ ใช้อำนาจข่มเหงจนเคยตัว จนกระทบต่อขวัญและกำลังใจของผู้ปฏิบัติงาน จนก่อให้เกิดกระแสการคัดค้าน พรบ.นิรโทษกรรมที่โรงพยาบาลต่างๆอารยะขัดขืนอย่างกว้างขวางทั่วประเทศ ยิ่ง รมต.ประดิษฐ์ออกมาห้ามเหมือนยิ่งยุยงส่งเสริมให้ท้าทายอำนาจที่ไม่ชอบธรรม ลิดรอนสิทธิในฐานะประชาชนคนไทยเจ้าของประเทศ และเมื่อทางกระทรวงสาธารณสุขได้รีบเร่งผลักดันเมกะโปรเจกนี้ออกมาขึ้นมา เพื่อฟื้นฟูกระชับอำนาจที่ลดทอนลงไปให้กลับคืนมา จะไม่เกิดประโยชน์ใดๆกับประเทศไทย และยิ่งจะส่งผลเสียเนื่องจากทำแผนไป รับปากไปแต่ไม่มีงบประมารที่จะมารองรับ เสียทั้งเวลาและเสียความรู้สึก เหมือนที่ผ่านๆมา

ชมรมแพทย์ชนบทมั่นใจว่าเมกะโปรเจกนี้เป็นโครงการขายฝัน งบแสนล้านเป็นเพียงเกมส์การเมือง เพราะปัจจุบันกระทรวงสาธารณสุขได้มีการตัดงบครุภัณฑ์ที่จำเป็นของโรงพยาบาลเปิดใหม่หรือตึกเปิดใหม่ที่สร้างด้วยงบไทยเข้มแข็งหรืองบประมาณประจำปี  ซึ่งโรงพยาบาลหรือตึกเหล่านั้นล้วนสร้างเสร็จแล้ว แต่กลับไม่สามารถใช้งานได้เต็มที่ และมีเป็นจำนวนมากเปิดให้บริการไม่ได้ เพราะขาดครุภัณฑ์ เครื่องมือแพทย์ เนื่องจากงบครุภัณฑ์ที่ขอทางกระทรวงสาธารณสุขไปจำนวน  9,000 ล้านบาท นั้นเมื่อผ่านการกลั่นกรองแล้วถูกตัดเหลือเพียง  4,700 ล้านบาท แต่เมื่อมีการจัดสรรงบจริงในปีงบ 2557 กลับได้รับงบสนับสนุนมาเพียง 600 ล้านบาทเท่านั้น ส่งผลให้หลายๆโรงพยาบาลต้องไปของบประมาณจากรายการของคุณสรยุทธ สุทัศนะจินดา แทนที่กระทรวงจะชื่นชมกลับถูกตำหนิ บอกว่าทำให้กระทรวงเสียภาพพจน์ และมีการข่มขู่ว่า หากใครที่ไปขอจะไม่ขึ้นเงินเดือนให้เป็นต้น

ชมรมแพทย์ชนบท เห็นว่า การจัดทำเมกะโปรเจกอย่างรีบเร่งและขายฝันครั้งนี้ มีขึ้นมาเพื่อการแก้เกมส์ทางการเมือง  เป็นปาหี่ฉากใหญ่ หากรัฐบาลและกระทรวงสาธาณสุขมีความจริงใจ ก็ไม่ต้องกู้เงินมาทำโครงการแสนล้านแต่อย่างไร เพียงแค่จัดสรรงบประมาณจำนวน 4,700 ล้าน จัดซื้อครุภัณฑ์ให้ตามรายการเดิมที่กระทรวงมีอยู่ ก็จะทำให้หลายสิบโรงพยาบาลสามารถเปิดบริการได้อย่างเต็มศักยภาพมากขึ้น ไม่ขายฝัน ไม่หลอกลวง

จึงเรียนมาเพื่อแจ้งให้ทราบถึงสถานการณ์ในปัจจุบัน

นายแพทย์เกรียงศักดิ์ วัชรนุกูลเกียรติ ประธานชมรมแพทย์ชนบท

นายแพทย์พรเจริญ เจียมบุญศรีประธานชมรมผู้อำนวยการโรงพยาบาลชุมชน