เจ้าหน้าที่แพทย์และพยาบาลนับร้อยชีวิตรวมกลุ่มประท้วง ร้องขอ ความปลอดภัยในการทำงาน หลังเกิดเหตุคนไข้หนุ่มไม่สบอารมณ์ ลงมือสังหารหมอดับสยองกลางโรงพยาบาลในเจ้อเจียง
สื่อท้องถิ่นจีนแห่งหนึ่ง รายงานว่า แพทย์และพยาบาลในชุดเครื่องแบบสีขาว สวมใส่หน้ากากอนามัยสีน้ำเงินเข้ม ยืนประท้วงอยู่ด้านนอกโรงพยาบาลประชาชน หมายเลข 1 เมืองเวิ่นหลิง มณฑลเจ้อเจียงทางภาคตะวันออกของประเทศ เมื่อวันจันทร์ (28 ต.ค.) ที่ผ่านมา โดยชูธงเรียกร้อง ความปลอดภัยในการปฏิบัติงาน และความเคารพยำเกรงระหว่างเจ้าหน้าที่และผู้ป่วยให้มากขึ้น
การลุกฮือของหมอและพยาบาลในครั้งนี้ เกิดขึ้นจากเหตุสะเทือนขวัญเมื่อวันศุกร์ (25 ต.ค.) ที่ผ่านมา หลังจากนายเหลียน เอินชิง วัย 33 ปี ผู้ป่วยรายหนึ่งของโรงพยาบาลที่ไม่พอใจกับผลการผ่าตัดศัลยกรรมจมูก ได้ใช้อาวุธมีดตรงเข้าทำร้ายแพทย์ประจำการรักษาจนเสียชีวิต 1 ราย และบาดเจ็บสาหัส 2 คน โดยทางโรงพยาบาลฯ ได้แถลงผ่านเวย ปั๋ว เว็บไมโครบล็อค (คล้ายทวิตเตอร์) ของจีนว่า นายแพทย์ทั้ง 3 ราย ถูกทำร้ายร่างกายขณะกำลังตรวจเช็คอาการของคนไข้
ขณะที่ซินหวา สื่อทางการจีน อ้างคำกล่าวสมาชิกครอบครัวของนายเหลียนว่า นายเหลียนมีอาการปวดศีรษะ หายใจไม่สะดวก และเจ็บปวดบริเวณบาดแผลหลังทำการผ่าตัด จึงได้เดินทางกลับไปยังโรงพยาบาลเพื่อสอบถามสาเหตุและการแก้ไข ทว่า กลุ่มนายแพทย์ก็ปฏิเสธการรักษาเพิ่มเติมอยู่หลายครั้ง โดยระบุว่า การผ่าตัดประสบผลสำเร็จดี
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าจับกุมตัวนายเหลียน พร้อมพยานหลักฐานมัดตัวในวันก่อเหตุทันที
ทั้งนี้ กรณีการทำร้ายแพทย์หรือพยาบาลในจีนปรากฏบ่อยครั้งขึ้นในช่วงหลายปีที่ผ่านมา โดยจากสถิติของสมาคมโรงพยาบาลของจีนเผยว่า ในปี 2555 พบอัตราเฉลี่ยเหตุทำร้ายร่างกายแพทย์หรือพยาบาลเพิ่มขึ้นร้อยละ 27.3 สูงขึ้นจากปี 2551 ซึ่งอยู่ที่ร้อยละ 20.8
สมาคมฯ รายงานเสริมอีกว่า ปัจจัยหลักของการก่อเหตุความรุนแรงนั้นมาจากปัญหาของการสื่อสารระหว่างแพทย์และผู้ป่วย ค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างสูง และความไม่พอใจส่วนตัวของคนไข้ รวมถึงการที่มีจำนวนผู้ป่วยในการรักษาล้นมือจนไม่สามารถดูแลได้อย่างทั่วถึง และค่าตอบแทนที่มีทีท่าลดลงเรื่อยๆ ซึ่งเป็นเหตุให้เกิด การรับสินบน ระหว่างหมอกับคนป่วยมากขึ้น
ASTVผู้จัดการออนไลน์ 29 ตุลาคม 2556
