ผู้เขียน หัวข้อ: “เขตสุขภาพ กระจายหรือกระชับอำนาจ”  (อ่าน 987 ครั้ง)

story

  • Staff
  • Hero Member
  • ****
  • กระทู้: 9753
    • ดูรายละเอียด
 กระทรวงสาธารณสุขในยุครัฐมนตรี นพ.ประดิษฐ สินธวณรงค์และปลัดกระทรวง นพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ มีการชูธงการปฏิรูปกระทรวงสาธารณสุขในหลายด้าน และหัวใจประการหนึ่งซึ่งเป็นกลไกใหม่ที่จะสถาปนาให้มีความสำคัญขึ้นมาคือ “เขตสุขภาพ”
       เขตสุขภาพของกระทรวงสาธารณสุขนั้นก็คือการรวมเอาหลายจังหวัดในภูมิภาคเดียวกันมารวมกันนั่นเอง แบ่งออกมาเป็น 12 เขตสุขภาพ คือภาคเหนือ มี 2 เขต ภาคกลาง-ตะวันออก 4 เขต ภาคอีสาน 4 เขต และภาคใต้ 2 เขต โดยมีผู้ตรวจราชการ 12 คนรับผิดชอบบริหารจัดการในเขตสุขภาพนั้นๆ ซึ่งโดยหลักคิดก็ดูจะมีเสน่ห์ไม่น้อย ถือเสมือนเป็นความก้าวหน้าในการกระจายอำนาจจากกรุงเทพ-นนทบุรีในส่วนกลาง กระจายมาที่เขตสุขภาพในแต่ละภูมิภาคแทน แต่แท้จริงหาได้สวยหรูเช่นนั้นไม่
       การจัดการอำนาจนั้นมีหลายระดับ ตั้งแต่ระดับมากที่สุดคือการออกนอกระบบ ปกครองตนเอง เฉกเช่นกรณีของโรงพยาบาลบ้านแพ้ว(มหาชน) ระดับมากคือการกระจายอำนาจ โดยยกอำนาจส่วนใหญ่ในตัดสินใจการบริหารจัดการให้แก่องค์กรในพื้นที่ โดยส่วนกลางทำหน้าที่เพียงการควบคุมกำกับทิศทางและผลลัพธ์เป็นสำคัญ ซึ่งสำหรับกระทรวงสาธารณสุขแล้ว ยังไม่เคยมีกระจายอำนาจในลักษณะนี้ให้เห็น ส่วนรูปแบบการจัดการอำนาจที่กระจายน้อยสุดก็คือการมอบอำนาจ หมายความว่าอำนาจยังอยู่ที่ส่วนกลาง หรือปลัดกระทรวงเช่นเดิม แต่มอบอำนาจบางส่วนที่ปลัดมีให้กับผู้ตรวจราชการในแต่ละเขตเป็นผู้ใช้อำนาจแทน แต่อำนาจเหล่านี้ยังถูกกำกับและขอคืนได้จากส่วนกลาง
       ด้วยกรอบคิดการจัดการอำนาจที่มี 3 รูปแบบหลักนี้ เขตสุขภาพที่กระทรวงสาธารณสุขตั้งขึ้นมานี้เป็นเพียงการจัดการอำนาจแบบการมอบอำนาจเท่านั้น จากเดิมที่มอบนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด ก็มาเพิ่มขั้นตอนอีกชั้นผ่านระดับเขตก่อนถึงกระทรวง ผู้ตรวจราชการทุกคนยังต้องรอสัญญาณการหันซ้ายหันขวาจากกรุงเทพ ยังต้องฟังเสียงและทำตามแนวทางหรือข้อตกลงที่สั่งการจากกรุงเทพไม่ใช่ฟังจากพื้นที่ การมีส่วนร่วมของโรงพยาบาลต่างๆ ในพื้นที่ที่มาเป็นกรรรมการก็เป็นเพียงผู้แบ่งเค้กภายใต้กรอบและกติกาที่ส่วนกลางกำหนดมาแล้ว จึงหาได้เป็นการกระจายอำนาจไม่ แต่คือการกระชับอำนาจมากกว่า
       นพ.บรรพต พินิจจันทร์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมโนรมย์ จังหวัดชัยนาท ได้กล่าวไว้อย่างชัดเจนว่า “ ถ้าให้ สธ.จัดสรรเงิน แทน สปสช.สิ่งที่น่ากลัวคือ การจัดสรรหรือไม่จัดสรรตามใจผู้มีอำนาจ ดังเช่นที่โรงพยาบาลมโนรมย์โดนมาแล้ว ที่ผู้ตรวจราชการไม่จัดสรรเงินงบประมาณเพิ่มส่วนที่ควรจะได้เหมือนโรงพยาบาลอื่นให้ เพราะเป็นโรงพยาบาลที่ไม่ยอมทำ P4P ซึ่งลักษณะดังกล่าวเป็นเรืิ่องที่ สปสช.ไม่เคยทำ สปสช.จะยึดหลักเกณฑ์จากบอร์ดแล้วจัดสรรตามหลักเกณฑ์นั้น ไม่ใช้อำนาจส่วนตัวหรือความเห็นส่วนตนมาบิดเบือนเหมือนผู้ใหญ่ของ สธ.”
       เขตสุขภาพไม่ใช่การกระจายอำนาจ แต่แท้จริงคือการกระชับอำนาจ จัดแถวปราบกบฏ และเพิ่มขั้นตอนการควบคุม ไม่ได้ทำเพื่อประชาชน ภาคประชาชนไม่มีที่ยืนในกรรมการระดับเขต หรือแม้แต่โรงพยาบาลชุมชนและโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลก็ยังหาที่ยืนยาก ไม่ได้มีส่วนร่วม ไม่มีหลักประกันว่า ผู้ใหญ่ในกระทรวงจะมีความเป็นกลางและเป็นธรรมในการจัดสรรทรัพยากร ไม่มีหลักประกันว่า การมีเขตสุขภาพที่ยึดอำนาจการจัดสรรงบประมาณมาจาก สปสช.จะไม่ละเลงงบด้วยระบบพรรคพวกและมือใครยาวสาวได้สาวเอา
       
นพ.สุภัทร ฮาสุวรรณกิจ
ASTVผู้จัดการออนไลน์    8 ตุลาคม 2556