ผู้เขียน หัวข้อ: บำรุงส่วนขาด ทำลายส่วนเกิน  (อ่าน 1711 ครั้ง)

seeat

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 470
    • ดูรายละเอียด
บำรุงส่วนขาด ทำลายส่วนเกิน
« เมื่อ: 15 มกราคม 2011, 09:11:39 »
ชาวจีนเชื่อว่า ชีวิตมนุษย์เป็นหนึ่งเดียว ชีวิตมีพลังในตัวเองที่เรียกว่า “ซี่” ประกอบด้วย “หยาง” (ร้อน) และ “หยิน” (เย็น) ซึ่งต้องมีความสมดุลกัน หากพลังใดมีมากกว่าจะก่อให้เกิดความผิดปกติต่อร่างกาย

ดังนั้น แนวทางการรักษาโรคของแพทย์แผนจีน จึงเป็นการปรับหยินและหยางให้เข้าสู่สมดุลโดยวิธีการ “บำรุงส่วนขาด ทำลายส่วนเกิน”
 การ ตรวจเพื่อรับรู้ความสมดุลของร่างกายในการแพทย์แผนจีนนั้น ใช้การตรวจแบบพื้นฐานโดยไม่ใช้เครื่องมือใดๆ ใช้ประสบการณ์ และความเชี่ยวชาญเฉพาะตัว ที่น่าอัศจรรย์เป็นอย่างยิ่งได้แก่ การดู การฟัง การซักถามประวัติและอาการ และสุดท้ายคือ การสัมผัสการเต้นของชีพจรที่ข้อมือ หรือที่เรียกว่า “แมะ” เพื่อบ่งบอกการทำงานของอวัยวะต่างๆ จากนั้นจึงจะประมวลผลการตรวจเข้าด้วยกัน และใช้แนวทางการรักษาแบบจีนเพื่อช่วยปรับสมดุลให้แก่อวัยวะต่างๆ
ยาที่ใช้ในการรักษาแบบจีน
 มี ทั้งส่วนประกอบของพืช เช่น ราก กิ่ง ก้าน ใบ ดอก ผล เมล็ด เป็นสมุนไพรที่ปลูกในประเทศจีน ยาแต่ละชนิดจะสั่งจากแหล่งจำหน่ายสมุนไพรจีนที่มีมาตรฐานเชื่อถือได้ เพื่อให้มั่นใจว่า ได้ยาที่มีคุณภาพ จากนั้นจะมีเจ้าหน้าที่คัดเลือกทำความสะอาดและจัดเก็บให้เหมาะสมกับชนิดของ ยาเพื่อรักษาคุณสมบัติและคุณภาพไว้ตลอดเวลา
การใช้ยารักษา
 แพทย์แผน จีนจะสั่งยาให้แก่ผู้ป่วยแต่ละคนตามอาการ และสภาวะร่างกาย แต่ละคนจะมีสูตรในการรับยาแตกต่างกันไป หรือแม้แต่ในคนไข้คนเดียวกัน ก็จะได้รับปริมาณยาแตกต่างกันในแต่ละครั้งของการรักษา ขึ้นอยู่กับสภาพร่างกาย และความสมดุลของหยินและหยางในวันที่รับการตรวจ ในสมัยก่อนจะใช้วิธีการต้มยา และเคี่ยวให้น้ำงวดลงจนเหลือปริมาณที่ต้องการซึ่งต้องใช้เวลา 2-3 ชม. อีกทั้งรสชาติก็จะขมและฝาด ยากในการดื่ม
 ในปัจจุบันมีการบดเป็นผงละลาย น้ำดื่ม หรือบรรจุเป็นแคปซูล เพื่อให้ง่ายในการกิน แต่ก็ยังมียาบางชนิดที่จะต้องกินโดยการต้มเท่านั้นจึงจะได้ผลเต็มที่ ซึ่งก็ได้มีบริการต้มยาบรรจุซองเพื่อความสะดวกของคนไข้ด้วย
การรักษาโดยการฝังเข็ม
 ผู้ ป่วยบางโรค หรือบางอาการ แพทย์จีนจะใช้วิธีการฝังเข็มในการรักษาตามศาสตร์ของแพทย์แผนจีนที่มี ตำรามากกว่าพันปี โดยการใช้เข็มที่สะอาดปราศจากเชื้อปักบริเวณต่างๆ ของร่างกาย และหมุนขยับเข็มเป็นระยะๆ ซึ่งเชื่อว่า จะไปกระตุ้นการทำงานของอวัยวะนั้นๆ เพื่อบรรเทาและรักษาอาการ และต่อมาได้มีการประยุกต์ใช้เครื่องกระตุ้นเพื่อให้การรักษามีประสิทธิภาพ มากขึ้น โดยเฉพาะในการรักษาอาการปวดต่างๆ เช่น ปวดศีรษะ ปวดกล้ามเนื้อต้นคอ ไหล่ ข้อศอก ข้อมือ เข่า ข้อเท้า เอว
การแพทย์แผนจีนเน้นความสำคัญในการรักษาโรคแบบองค์รวม
 - ปรับความสมดุลของร่างกาย โดยเฉพาะตับและไตให้ทำงานปกติ ไม่ร้อน หรือเย็นเกินไป
 - ทะลวงเส้นเลือดและเส้นลมปราณทั่วร่างกาย เพื่อให้เลือดไหลเวียนดี นำพาออกซิเจนเข้าสู่เซลล์ และรับคาร์บอนไดออกไซด์ขับถ่ายออกจากร่างกาย เมื่อร่างกายมีความสมดุล เลือดไหลเวียนดี ก็จะช่วยในการรักษาโรคต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเบาหวาน คอเลสเตอรอล ความดันโลหิตสูง อัมพฤกษ์ อัมพาต โรคภูมิแพ้ โรคอ้วน
 หากร่างกายยังไม่เจ็บป่วย การแพทย์แผนจีนก็ยังช่วยในการบำรุงร่างกาย ทำให้อวัยวะต่างๆ ทำงานได้ดีขึ้น เหมาะสมกับเด็ก ผู้สูงอายุ สตรีตั้งครรภ์และหลังคลอด "เพราะความสมดุลของชีวิต...คือธรรมชาติ”
คม ชัด ลึก
13 มกราคม 2554