กระทู้เมื่อเร็วๆ นี้

หน้า: 1 ... 4 5 [6] 7 8 ... 10
51
เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 29 ก.พ. ร.ต.ท.มารุต นิตย์จินต์ รอง สว. (สอบสวน) สภ.เมืองจันทบุรี ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุกู้ภัยสมาคมสว่างกตัญญูธรรมสถาน จันทบุรี ว่า มีอุบัติเหตุรถเก๋งเฉี่ยวชนคนเดินเท้าริมถนนได้รับบาดเจ็บ ส่วนรถเก๋งพุ่งตกร่องน้ำข้างทาง มีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัสติดภายใน เหตุเกิดริมถนนสุขุมวิท ขาเข้าเมือง พื้นที่หมู่ 14 ต.คลองนารายณ์ อ.เมือง หลังรับแจ้งได้ประสานทีมแพทย์ฉุกเฉิน รถอุปกรณ์ตัดถ่างและกำลังเจ้าหน้าที่กู้ภัยฯ ร่วมเดินทางตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุพบรถพ่วง 22 ล้อ บรรทุกท่อซีเมนต์ขนาดใหญ่เสียหลักตกอยู่ในร่อง ขณะกำลังเจ้าหน้าที่กู้ภัยเร่งให้การช่วยเหลือนำร่างผู้บาดเจ็บ เบื้องต้นเป็นชายอายุประมาณ 50 ปี ขึ้นมาจากร่องน้ำข้างทาง ในสภาพขาด้านขวาผิดรูปมีอาการทางกระดูก ก่อนรีบทำการปฐมพยาบาลและนำตัวส่งโรงพยาบาลพระปกเกล้าฯ ห่างกันประมาณ 10 เมตร พบรถเก๋ง ฟอร์ดสีดำ ทะเบียน กต 852 จันทบุรี อยู่ในสภาพเสียหลักพุ่งชนหมุนฟาดกับเสาป้ายและโคนเสาไฟฟ้าแรงสูง พุ่งตกลงไปในร่องน้ำข้างทาง พังยับเสียหาย โดยภายในรถพบร่างผู้เสียชีวิตเป็นหญิง 1 ราย ถูกแรงอัดติดอยู่บนที่นั่งคนขับ ทราบชื่อ น.ส.เพ็ญพิชชา บุญรักษา อายุ 33 ปี เป็นพยาบาลวิชาชีพปฏิบัติการ แผนกกุมารเวชกรรม รพ.พระปกเกล้าจันทบุรี กู้ภัยฯ ใช้เครื่องตัดถ่างงัดซากรถนำร่างผู้เสียชีวิตออกมาชันสูตร โดยใช้เวลาประมาณ 10 นาที

จากการสอบสวน นายบี ไหมทอง อายุ 36 ปี ชาว จ.สระแก้ว ผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ ให้การว่า ขณะเกิดเหตุ ตนพร้อมกับชายผู้บาดเจ็บ กำลังช่วยกันยืนโบกรถให้สัญญาณจราจรว่ามีรถพ่วง 22 ล้อบรรทุกท่อซีเมนต์ ที่เสียหลักตกลงไปในร่อง ต่อมาได้มีรถเก๋งสีดำ ที่ขับมาทางตรงเสียหลักพุ่งเฉี่ยวชนลุงที่ยืนโบกรถอยู่ท้ายพ่วง ก่อนเสียหลักพุ่งชนเสาป้ายตกลงไปในร่องน้ำจนทำให้เสียชีวิตดังกล่าว

ทั้งนี้ จากการตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติมพบว่า น.ส.เพ็ญพิชชา เพิ่งจะลาคลอดลูกไปได้เพียงไม่กี่เดือน ก่อนจะมาประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต อย่างไรก็ตาม สาเหตุยังอยู่ในระหว่างการสอบสวนของตำรวจอีกครั้ง

29 กุมภาพันธ์ 2567
dailynews
52
เมื่อวันที่ 3 มี.ค. ร.ต.อ.อินทร์ศร พรมหอม รองสารวัตรสอบสวน สภ.บางสะพาน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์​ ได้รับแจ้งเกิดอุบัติเหตุรถยนต์พลิกคว่ำมีผู้บาดเจ็บติดภายในรถ จึงประสานเจ้าหน้าที่กู้ชีพเทศบาลตำบลร่อนทองลงพื้นที่ช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ ที่เกิดเหตุบนถนนเพชรเกษม ฝั่งขาขึ้น กทม. หลัก กม.380 พื้นที่ หมู่ 3 ต.ร่อนทอง อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ พบรถยนต์โตโยต้ายาริสสีดำ ทะเบียน 3ขก 8904 กรุงเทพมหานคร พลิกคว่ำล้อชี้ฟ้าอยู่ไหล่ทางซ้ายของถนน มีผู้บาดเจ็บภายในรถ ทราบชื่อต่อมาคือ นายปราโมทย์ คำตื้อ อายุ 24 ปี อยู่บริเวณเบาะที่นั่งคนขับ สภาพไม่รูัสึกตัว เจ้าหน้ากู้ชีพจึงรีบนำผู้ได้รับบาดเจ็บส่งโรงพยาบาลบางสะพาน

เบื้องต้นทราบว่า นายปราโมทย์ ซึ่งเป็นแพทย์ที่ รพ.บางสะพาน ก่อนเกิดเหตุเมื่อช่วงสาย นายปราโมทย์เพิ่งลงเวรและกำลังจะเดินทางไปรับเวรต่อที่ รพ.ประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งมีระยะทางห่างกันประมาณ 90 กิโลเมตร เมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุซึ่งห่างจากโรงพยาบาลบางสะพานมาได้ประมาณ 20 กม. เป็นช่วงทางตรงยาว คาดว่านายปราโมทย์น่าจะเกิดอาการหลับใน จึงทำให้รถเสียหลักพลิกคว่ำลงข้างทาง พนักงานสอบสวนได้เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ และจากการสอบสวนเบื้องต้นคาดว่าสาเหตุน่าจะเกิดจากการหลับใน

และล่าสุดเมื่อเวลาประมาณ 12.30 น. นายปราโมทย์ ยังไม่รู้สึกตัว แพทย์จึงได้ส่งตัวไปรักษาต่อที่ รพ.ประจวบคีรีขันธ์


3 มีนาคม 2567
dailynews
53
ปลัดสธ.แจงปม นพ.สสจ.กักขัง ลวนลาม สาวใช้ พบเป็นข้าราชการ สธ.เกษียณไปแล้ว ยินดีให้ข้อมูล หากเกี่ยวข้องกับ สธ. ต้องตรวจสอบดำเนินการทางวินัย

เมื่อวันที่ 4 มี.ค.67 นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยถึงกรณีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ จ.อุดรธานี เข้าให้ความช่วยเหลือสาวแม่บ้าน ชาวลาววัย 18 ปี ที่ถูกกักขังและลวนลามโดยผู้เป็นนายจ้าง เมื่อวันที่ 3 มี.ค.ที่ผ่านมา

ซึ่งระบุว่านายจ้างคนดังกล่าวเป็นนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดแห่งหนึ่ง ว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่านายแพทย์สาธารณสุขรายดังกล่าวนั้น เป็นข้าราชการในสังกัดกระทรวงสาธารณสุขจริง แต่เกษียณอายุราชการไปแล้ว จึงเป็น "อดีตข้าราชการ" และปัจจุบันไม่ได้รับตำแหน่งใดๆ ในกระทรวงสาธารณสุข

ตร.อุดรฯ บุกช่วยสาวลาว วัย 18 ถูกลวนลาม-กักขัง ช็อกเป็นบ้านแพทย์ สธ.
นพ.โอภาส กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตาม หากเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องการข้อมูลเพิ่มเติม ทางกระทรวงฯ ยินดีให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่ ทั้งนี้ จากเหตุการณ์ดังกล่าวนั้น ตนยืนยันว่าหากเกิดกรณีดังกล่าวขึ้นจริงและมีความเกี่ยวข้องกับกระทรวงสาธารณสุข ก็จะต้องตรวจสอบเพื่อดำเนินการทางวินัยต่อไป

4 มี.ค.67
ข่าวสด
54
สภาพัฒน์ จับตา 3 โรคร้าย คนไทยเสี่ยงเป็นซึมเศร้า-มะเร็งเต้านม-มะเร็งปอด พบชาว กทม.ป่วยเยอะสุด

เมื่อวันที่ 4 มีนาคม นายดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการ สภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) หรือสภาพัฒน์ รายงานภาวะสังคมไทยไตรมาส 4/2566 และภาพรวมปี 2566 ว่า ปัญหาด้านสุขภาพและการเจ็บป่วยไตรมาส 4/2566 การเจ็บป่วยด้วยโรคเฝ้าระวังมีจำนวนผู้ป่วย 3.4 แสนคน เพิ่มขึ้น 170% จากการเพิ่มขึ้นของผู้ป่วยด้วยโรคไข้หวัดใหญ่และโรคไข้เลือดออก ดังนั้น จะมีการดูแลด้านการฉีดวัคซีนเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหามากขึ้น สำหรับภาพรวมปี 2566 มีผู้ป่วยด้วยโรคเฝ้าระวังรวม 999,243 ราย เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่ 116.7% และจำนวนผู้ป่วยสูงสุดคือโรคไข้หวัดใหญ่

นายดนุชากล่าวว่า ขณะที่ส่วนที่ต้องให้ความสำคัญมากขึ้นคือสุขภาพจิตของคนไทย โดยไตรมาส 4/2566 คนไทยป่วยเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปี 2565 จาก 12.92% เป็น 17.36% และภาพรวมปี 2566 เพิ่มสูงขึ้นจาก 12.81% ในปี 2565 เป็น 29.87% โดยมีปัญหาความเสี่ยงซึมเศร้ามากที่สุด

ดังนั้น เรื่องนี้ต้องให้ความสำคัญในการเฝ้าระวังการใช้ความรุนแรงของผู้ป่วยจิตเวช เพราะมีความเสี่ยงสูงในการก่อความรุนแรงในกลุ่มผู้ป่วยจิตเวช โดยปี 2566 ผู้ป่วยจิตเวชมีความเสี่ยงสูงต่อการก่อความรุนแรงจำนวน 9,639 ราย เพิ่มขึ้นจากปี 2565 อยู่ที่ 46.4%
นายดนุชากล่าวว่า ขณะเดียวกัน โรคมะเร็งเต้านมพบมากเป็นอันดับ 1 ของมะเร็งในผู้หญิงไทย ปี 2566 ผู้หญิงไทยป่วยเป็นโรคมะเร็งเต้านมจำนวน 40,297 ราย เพิ่มขึ้นต่อเนื่องเช่นเดียวกับจำนวนผู้เสียชีวิต ซึ่งมีปัจจัยเสี่ยง ได้แก่ การถ่ายทอดทางพันธุกรรม ภาวะอ้วน การดื่มแอลกอฮอล์ สูบบุหรี่ และการไม่ออกกำลังกาย ดังนั้น ควรตรวจเต้านมด้วยตัวเองเป็นประจำ และหากพบในระยะแรกเริ่มมีโอกาสในการรักษาให้หายขาดได้สูงถึง 95%

และปัญหาฝุ่น PM2.5 ต่อสุขภาพของประชาชน ปี 2566 คนไทยมีผู้ป่วยที่เกี่ยวข้องกับมลพิษทางอากาศ 10.5 ล้านราย โรคที่พบผู้ป่วยเพิ่มขึ้นสูงสุดคือ โรคหลอดลมอักเสบเรื้อรัง เพิ่มขึ้น 39.1% ซึ่งพบมากที่สุดในจังหวัดนครราชสีมา แล้วรองลงมาคือ โรคมะเร็งปอด ที่เพิ่มขึ้น 19.7% พบผู้ป่วยมากสุดในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ทั้งนี้ ปี 2567 ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม-13 กุมภาพันธ์ พบผู้ป่วยที่เกี่ยวข้องกับมลพิษทางอากาศแล้ว 9.1 แสนราย

“ทางรัฐบาลมีมาตรการจะช่วยเหลือ เช่น การลดการเผา โดยเฉพาะการประสานงานกับประเทศเพื่อนบ้าน หากดูภาพถ่ายดาวเทียม จุดความร้อนส่วนใหญ่มาจากประเทศเพื่อนบ้าน แต่ในไทยเผาน้อยลงจากปีก่อนหน้า และต้องมีการดำเนินต่อเนื่องเพื่อลดปัญหานี้” นายดนุชากล่าว

นายดนุชากล่าวว่า สำหรับการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และบุหรี่ในไตรมาส 4/2566 การบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และบุหรี่เพิ่มขึ้น 2.8% โดยการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เพิ่มขึ้น 4.9% ขณะที่การบริโภคบุหรี่ลดลง 0.7% สำหรับภาพรวมปี 2566 การบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และบุหรี่เพิ่มขึ้น 2.8% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ตามการฟื้นตัวของการบริโภคและการเพิ่มขึ้นของนักท่องเที่ยวต่างชาติ

“นอกจากนี้ ยังมีประเด็นที่ต้องติดตามและให้ความสำคัญคือ การปรับปรุงโครงสร้างภาษีสรรพสามิตในกิจการบันเทิงหรือหย่อนใจ ที่อาจดึงดูดให้มีการเปิดสถานบันเทิงเพิ่มขึ้น ซึ่งทำให้นักดื่มมีโอกาสเข้าถึงได้ง่ายขึ้นและการสูบบุหรี่ส่งผลต่อภูมิคุ้มกันและเพิ่มโอกาสการติดเชื้อ” นายดนุชากล่าว

มติชน
4 มีนาคม 2567
55
เรียกได้ว่าเป็นเรื่องราวที่ทำเอาชาวเน็ตต่างสนใจอย่างมาก เมื่อคุณครูสาวท่านหนึ่งได้ออกมาโพสต์ภาพการบ้านของนักเรียน เห็นคำตอบแต่ละข้อน้ำตาตกใน ดิ่งขั้นสุด ชาวเน็ตแห่เห็นใจทั้งโซเชียล โดยคุณครูท่านนี้ได้เผยหัวเรื่องในโพสต์ว่า 

"ใครอ่อนไหวเรื่องสิทธิเด็กเลื่อนผ่านไปค่ะ ไม่ต้องแวะ" และรายละเอียดทั้งหมดว่า ...แค่อยากบอกความรู้สึกในมุมของครูผู้สอนบ้าง เมื่อเจอครูใจดี ควรเกรงใจ ไม่ใช่มักง่ายจะทำอะไรก็ได้ แล้วคิดว่ายังไงครูก็ให้ผ่านอยู่แล้ว

(....เขียนคำตอบแบบอ่านไม่ออก เหมือนสักแต่ว่าเขียนส่งๆไป ไม่ตั้งใจเขียน....)
   
  ใครเคยเรียนกับครูจะรู้ว่าครูสุชญาไม่ใช่คนเรื่องมาก แต่แบบนี้มันเกินจะรับไหว รู้มั้ยว่าสิ่งที่นักเรียนบางคนทำ (ย้ำว่าบางคน) มันบั่นทอนความเป็นครูมากแค่ไหน นอกจากไม่ใฝ่รู้ใฝ่เรียน ไม่คิด ไม่อ่าน ไม่มีความเพียรแล้ว ระเบียบวินัยก็ไม่ผ่าน ความรับผิดชอบก็ไม่มี มารยาทก็ติดลบ แบบนี้จะเรียกตัวเองว่านักเรียน ได้ยังไง

ในฐานะครูคนหนึ่ง ครูได้ทำหน้าที่ของครูอย่างสุดความสามารถแล้ว แต่มันคงไม่มากพอที่จะขัดเกลาบางคนให้ฉลาดหลักแหลมได้ แม้แต่ตัวเธอเองเธอยังไม่รัก ไม่พยายามทำเพื่อตัวเอง อย่างอื่นก็คงไม่ต้องพูดถึง

ขอเป็นอีกหนึ่งเสียงสนับสนุนให้โรงเรียนประกาศนโยบาย #เรียนซ้ำชั้น สักทีเถอะ อย่าปล่อยให้เด็กพูดต่อหน้าครูว่า “ไม่ทำ ไม่ส่ง เพราะยังไงก็ผ่านอยู่แล้ว” คนเป็นครูน้ำตาตกใน ดิ่งขั้นสุด ไฟมอดดับลงทุกวันเกาให้ถูกที่คัน ไม่ใช่สรรหาแต่คำมาบั่นทอนครูผู้สอน #ผู้ปกครองร้องเรียน บ้างหละ #ครูไม่ใส่ใจ บ้างหละ #ครูไม่ติดตามเด็ก บ้างหละ ยกเด็กขึ้นหิ้ง แล้วเหยียบครูให้จมดิน#การศึกษาไทย

Thainewsonline
4มีค2567
56
เจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ มส.5 แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน วูบเส้นเลือดในสมองแตก ขณะดับไฟป่าในอ.แม่สะเรียง ล่าสุดอาการยังน่าห่วง นอนไอซียู

เมื่อวันที่ 4 มี.ค.67 นายเกษม คำมา ผู้อำนวยการสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 1 สาขาแม่ฮ่องสอน เดินทางเข้าเยี่ยม นายทวีศิลป์ กุณะ พนักงานจ้างเหมารายปี TOR ปฏิบัติหน้าที่ เจ้าหน้าที่ตรวจป่า ที่เข้ารับการรักษาตัวที่ โรงพยาบาลประสาทเชียงใหม่ หลังจากเกิดวูบเนื่องจากเส้นเลือดในสมองแตก ขณะทำการดับไฟป่าในพื้นที่รับผิดชอบเมื่อค่ำวานที่ผ่านมา ล่าสุด อาการตอนนี้ยังอยู่ในห้อง ICUภาพรวมดีขึ้น ต้องอยู่ห้อง ICU ประมาณ 3 วัน และย้ายพักฟื้นต่อในห้องปกติ

จากรายงาน จุดความร้อนประจำวันที่ 3 มีนาคม 2567 (เมื่อวานนี้) จำนวน 90 จุด, จุดความร้อนสะสมตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม - 3 มีนาคม 2567 จำนวน 1,153 จุด สูงสุดที่อำเภอปาย จำนวน 646 จุด โดยเกิดขึ้นสูงสุดในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ จำนวน 760 จุด ส่งผลให้คุณภาพอากาศ ค่า PM 2.5 สถานีอำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน เท่ากับ 52.9 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร (ค่ามาตรฐานเกิน 37.5 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร คุณภาพอากาศโดยรวมอยู่ในระดับเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ),

ค่า PM2.5 สถานีอำเภอแม่สะเรียง เท่ากับ 34.9 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร (ค่ามาตรฐานเกิน 37.5 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร คุณภาพอากาศโดยรวมอยู่ในระดับปานกลาง), ค่า PM2.5 สถานีอำเภอปาย เท่ากับ 68.2 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร (ค่ามาตรฐานเกิน 37.5 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร คุณภาพอากาศโดยรวมอยู่ในระดับมีผลกระทบต่อสุขภาพ)

สถานการณ์ไฟป่าของแม่ฮ่องสอน โดยรวมยังถือว่าไม่ลดลงและมีจุดไฟป่าเกิดขึ้นทุกวันต่อเนื่องมานับเดือนแล้ว ขณะที่เจ้าหน้าที่พยายามประชาสัมพันธ์ให้ประชาชน ยุติการลอบเผาป่าหรือหาของป่า แต่ไม่ค่อยจะประสบความสำเร็จเท่าใดนัก ทุกหน่วยงานต้องออกไปดับไฟป่าตลอดเวลา

ทั้งนี้ไฟป่าที่ตรวจพบจากดาวเทียมจะง่ายเข้าไปควบคุมไฟ เนื่องจากทราบพิกัดที่ชัดเจน แต่ไฟป่าที่เกิดและดาวเทียมยังไม่ตรวจพบ (วงรอบโคจรยังมาไม่ถึง) จุดไฟป่าพวกนี้จะไม่ค่อยมีใครพบเห็น ยกเว้นเป็นเวลากลางคืนที่จะเห็นแสงไฟลุกโชนบริเวณเทือกเขาต่างๆ แต่ก็เข้าไปดับยากเนื่องจากเป็นเทือกเขาสูงชัน

4 มี.ค.67
ข่าวสด
57
อุทาหรณ์! ชายอังกฤษดับ หลังทานวิตามินดีปริมาณสูง นาน 9 เดือน ทำเป็นพิษต่อร่างกายจนเกิดภาวะหัวใจล้มเหลว

สำนักข่าวต่างประเทศ รายงาน กรณีทางการแพทย์ที่อาจเกิดขึ้นได้ในชีวิตประจำวันของผู้ที่รักสุขภาพ โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญกำลังส่งสัญญาณเตือนเรื่องการทานอาหารเสริม หลังจากชายคนหนึ่งเพิ่งเสียชีวิตจากการกินวิตามินดีเกินขนาด

เดวิด มิทเชนเนอร์วัย 89 ปี เสียชีวิตในย่านชานเมืองลอนดอน ประเทศอังกฤษ หลังจากรับประทานอาหารเสริมวิตามินดีในปริมาณสูงเป็นเวลาเก้าเดือน ก่อนที่เขาจะเสียชีวิต การทดสอบพบว่าระดับวิตามินดีในร่างกายอยู่ที่ 380 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดที่ห้องปฏิบัติการบันทึกไว้ได้

การไต่สวนคดีการเสียชีวิตของนายเดวิดที่โรงพยาบาลอีสต์เซอร์เรย์พบว่า เดวิดเสียชีวิตด้วยอาการวิตามินดีเป็นพิษต่อ แคลเซียมในเลือดสูง รวมถึงภาวะหัวใจล้มเหลว ไตวาย และโรคหัวใจขาดเลือด ซึ่งเลือดไม่สามารถไหลเวียนไปยังอวัยวะได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกต่อไป
ดังนั้นสมาชิกของชุมชนการแพทย์ในท้องถิ่นกำลังถือโอกาสเตือนสาธารณชนถึงความเสี่ยงของการรับประทานอาหารเสริมทั่วไป

“ไม่มีคำเตือนบนหรือในบรรจุภัณฑ์ที่ให้รายละเอียดเกี่ยวกับความเสี่ยงหรือผลข้างเคียงของการรับประทานอาหารเสริมวิตามินดี” เจ้าหน้าที่ชันสูตรศพ โจนาธาน สตีเวนส์ เขียนในรายงานอย่างเป็นทางการ

ในแง่ของปริมาณการทานวิตามินดี ปริมาณที่แนะนำคือ 600 IU (15 ไมโครกรัม) สำหรับผู้ใหญ่ ซึ่งไม่ควรรับประทานวิตามินดี มากกว่า 100 ไมโครกรัม (4,000 IU) ต่อวัน เพราะอาจทำให้แคลเซียมในเลือดสูงและเป็นอันตรายต่อร่างกาย พร้อทั้งการรับประทานวิตามินดี 60,000 IU ขึ้นไปต่อวันเป็นเวลาหลายเดือนอาจทำให้เกิดการใช้ยาเกินขนาดได้

4 มีค 2567
ข่าวสด
58
อุทยานฯ เขาแหลม ประกาศปิดน้ำตกเกริงกระเวีย ชั่วคราว ปมน้ำน้อยเพราะปัญหาภัยแล้ง

เมื่อวันที่ 1 มีนาคม นายอภิสิทธิ สมบัติมาศ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาแหลม อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี กล่าวว่า ด้วยอุทยานแห่งชาติเขาแหลมมีแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติจำนวนหลายแห่ง ซึ่ง น้ำตกเกริงกระเวีย ตั้งอยู่ริมทางหลวงหมายเลข 323 (ทองผาภูมิ-สังขละบุรี) หลักกิโลเมตรที่ 232 ท้องที่หมู่ 4 ต.ปรังเผล อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี ที่ผ่านมาน้ำตกเกริงกระเวียเป็นหนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวที่มีนักท่องเที่ยวเข้ามาเที่ยวชมและใช้บริการเป็นจำนวนมาก

แต่จากสถานการณ์ปัญหาภัยแล้งในปัจจุบันส่งผลให้ปริมาณน้ำในน้ำตกเกริงกระเวียมีปริมาณน้อย ไม่เพียงพอต่อการประกอบกิจกรรมต่างๆ ของนักท่องเที่ยวที่จะเข้ามาใช้บริการและพักผ่อนหย่อนใจ อาจส่งผลกระทบต่อความพึงพอใจของนักท่องเที่ยวได้

ดังนั้น อุทยานแห่งชาติเขาแหลมพิจารณาแล้ว เพื่อเป็นการรักษาสภาพธรรมชาติ ระบบนิเวศทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และเพื่อการบริการด้านการท่องเที่ยว จึงอาศัยอำนาจตามความในมาตรา 20 แห่งพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ.2562 ประกอบระเบียบกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืชว่าด้วยการเข้าไปในอุทยานแห่งชาติ พ.ศ.2563 ข้อ 3

จึงประกาศปิดแหล่งท่องเที่ยวน้ำตกเกริงกระเวีย ในอุทยานแห่งชาติเขาแหลม ตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2567 เป็นต้นไป จนกว่าสถานการณ์จะเข้าสู่ภาวะปกติ

แต่หากนักท่องเที่ยวและประชาชนทั่วไปที่ผ่านมาต้องการหยุดรถเพื่อพักผ่อนให้หายเพลียจากการขับรถระยะไกล ยังสามารถเข้ามาใช้บริการซื้อน้ำ หรือกาแฟ หรือนั่งเล่นที่ร้านสวัสดิการอุทยานแห่งชาติเขาแหลมและลานจอดรถบริเวณน้ำตกเกริงกระเวียได้ตามปกติ

© Matichon
1 มีนาคม 2567
59
สาวเตือนอุทาหรณ์ รพ.จ่ายยาผิด แม่กินมา 2 เดือนเพิ่งรู้ เอะใจทำไมแผงยาไม่เหมือนเดิม

วันที่ 2 มี.ค.67 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีหญิงรายหนึ่งโพสต์เตือนภัยไว้เป็นอุทาหรณ์ลงในกลุ่ม “พวกเราคือผู้บริโภค” หลังโรงพยาบาลจ่ายยาผิดมาให้แม่กิน แต่เพิ่งรู้หลังผ่านมาแล้ว 2 เดือน โดยเธอเล่าว่า

โพสต์นี้…อยากฝากถึงทุกคนเลยค่ะ ซึ่งไม่คิดว่าจะเจอกับตัว นั่นคือการจ่ายยาผิดให้คนไข้ และความสะเพร่าของตัวเอง คุณแม่เป็นโรคเบาหวานค่ะ ซึ่งหน้าซองยาระบุไว้ชัดเจนว่า “ยาลดน้ำตาล” กินติดต่อกันมา 2 เดือน..คือเดือนมกรา-กุมภา

รอบล่าสุดไปหาหมอตามนัดเมื่อวาน ได้ยามาใหม่ เพิ่งสังเกตดูว่าทำไมแผงยาถึงไม่เหมือนเดิม เลยกลับไปถามหมอดู สรุป ได้ยาผิด แม่กินยาผิดมา 2 เดือน #ฝากพี่ๆ เช็คให้ละเอียดก่อนกินยาทุกตัวด้วยนะคะ #ปล.แม่ไม่มีอาการข้างเคียง หรือผิดปกติใดๆ นะคะ

พร้อมกับโพสต์ภาพเปรียบเทียบแผงยาที่ได้ครั้งก่อนกับแผงยาที่เพิ่งได้มาใหม่ โดยตัวยาคั้งก่อนเป็นยารักษาโรคเก๊าท์ นอกจากนี้ยังมีหลายคนแนะนำว่าควรเอาเรื่อง เพราะอาจจะเกิดอันตราย หรือผลข้างเคียงได้

ยาที่ต้องกิน   Glipizide 
ยาที่ให้ผิด    Colchicine

2 มี.ค. 2567
ข่าวสดออนไลน์
60
สามีภรรยาขี่ จยย.ตามหาลูกชาย โดนจับเสพยาบ้าต้องมารายงานตัวที่ศาลอุดรธานี หายสาบสูญไป 5 เดือน พร้อมอธิษฐาน “อุ๋งอิ๋ง เพชรบ้านแพง” ถ้าวาจาศักดิ์สิทธิ์จริง ขอให้เห็นลูก ก่อนพบนั่งในวัด ดีใจจนร้องไห้ แต่ลูกชายกลายเป็นคนเสียสติ จำใครไม่ได้แม้แต่พ่อแม่ตัวเอง

เวลา 12.30 น. วันที่ 2 มีนาคม 2567 ร.ต.อ.ถิรโยธิน ทรัพย์สินธ์ รอง สวป.สภ.เมืองอุดรธานี ได้รับแจ้งจากนายธนิต สุคำภา 41 ปี นางสุภาวรรณ วงวิพา อายุ 39 ปี อยู่บ้านเลขที่ 25 หมู่ 7 ต.บ้านชัย อ.บ้านดุง จ.อุดรธานี มาตามหานายโชคชัย สุคำภา หรือหนึ่ง อายุ 24 ปี ลูกชาย ซึ่งเดินทางมารายงานตัวที่ศาลจังหวัดอุดรธานี ข้อหา เสพยาเสพติดประเภท 1 (ยาบ้า) เมื่อวันที่ 20 กันยายน 2566 แต่หายตัวไป ไม่กลับบ้าน จึงได้ขี่รถจักรยานยนต์จากบ้านมาตามหาลูก และพบลูกอยู่ที่หน้าโบสถ์วัดมัชฌิมาวาส เขตเทศบาลนครอุดรธานี แต่ลูกจำพ่อแม่ไม่ได้ เหมือนคนเสียสติ จึงมาขอความช่วยเหลือตำรวจช่วยนำตัวไปรักษา

จากนั้น ร.ต.อ.ถิรโยธิน นำกำลังสายตรวจ 191 ไปที่หน้าโบสถ์วัดมัชฌิมาวาส แต่ไม่พบนายโชคชัย จึงได้ออกตามหา พบนายโชคชัยแต่งกายมอมแมม เดินถือถุงเก็บขวดพลาติกอยู่ถนนอุดรดุษฎี หน้าวงเวียนหอนาฬิกา จึงเข้าไปสอบถามแต่นายโชคชัยบอกว่าจำไม่ได้ ซึ่งนายโชคชัยบอกว่าทั้งสองคนไม่ใช่พ่อแม่ พอพ่อแม่ชวนกลับบ้านก็ไม่ยอมกลับ ด่าว่าพ่อแม่และตำรวจ พยายามวิ่งลงถนน ตำรวจ 4 นายตัดสินใจเข้าไปล็อกตัวขึ้นท้ายกระบะรถตราโล่เพื่อนำตัวไปบำบัดรักษา แต่นายโชคชัยก็พยายามขัดขืนพุ่งลงถนน เมื่อนายธนิต พ่อ ขึ้นไปนั่งบนท้ายกระบะด้วย นายโชคชัยก็ด่าทอและพยายามพุ่งจะเข้าทำร้าย สุดท้ายต้องให้นายธนิต มาขี่รถจักรยานยนต์ตามไปที่โรงพยาบาลศูนย์อุดรธานี

นายธนิต เล่าว่า ก่อนหายตัว ลูกชายโดนจับข้อหาเสพยาบ้า ศาลอุดรธานีให้มารายงานตัววันที่ 20 กันยายน 2566 ตนให้เงินลูกชาย 200 บาทเป็นค่าเดินทางมา จากนั้นลูกก็ไม่กลับบ้านอีกเลย เดือนแรกนึกว่าตำรวจจับตัวไว้ แต่พอผ่านเข้าเดือนที่ 2-3 ตนก็เห็นว่าผิดปกติ เพราะติดต่อไม่ได้ จึงได้ออกตามหาสถานที่ลูกเคยไปแต่ก็ไม่พบ ล่าสุดลงในเพจข่าวต่างๆ ซึ่งมีคนพบลูกชายเดินอยู่ห้างสรรพสินค้า แต่พอเรียกชื่อก็ไม่ขานตอบ วันนี้จึงชวนภรรยามาตามหาในเขตเทศบาลนครอุดรธานี โดยตามหาที่สวนสาธารณะหนองประจักษ์ แต่ไม่พบ จากนั้นก็เข้าไปในวัดมัชฌิมาวาส และพบลูกชายนั่งอยู่ศาลาหน้าโบสถ์ ตนและภรรยาดีใจจนร้องไห้ แต่ลูกจำพวกตนไม่ได้ ไม่ยอมรับว่าเป็นพ่อแม่ อาจจะเพราะเสพยา ก่อนหน้านี้ลูกชายหน้าตาดี เป็นคนขยัน ช่วยงานพ่อแม่ ไม่ก้าวร้าว ช่วงโควิดไปคบกับเพื่อนไม่ดี ชวนไปเสพยาบ้า หลังจากนั้นก็มีพฤติกรรมก้าวร้าว ไล่ตีพ่อแม่

“พอเห็นลูกก็ดีใจ ซึ่งไม่ได้บนบานสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ไหน เพียงแต่เห็นในเพจหมอลำอุ๋งอิ๋ง เพชรบ้านแพง ว่าอธิษฐานขอกับอุ๋งอิ๋งจะได้ตามนั้น ขณะที่ขับรถมาก็ได้พูดขึ้นลอยๆ ว่า ถ้าอุ๋งอิ๋งวาจาศักดิ์สิทธิ์จริง ก็ขอให้พบลูกชาย ถ้าพบจะยอมรับนับถือ พูดเล่นๆ ซึ่งภรรยาก็ได้ยิน ส่วนตัวไม่เคยดูหมอลำสาวน้อยเพชรบ้านแพง ไม่ได้รู้จักอุ๋งอิ๋งเป็นการส่วนตัว เห็นคนอื่นพูดก็เลยลอง และก็พบลูกจริงๆ”

ส่วนนางสุภาวรรณ เล่าว่า สามีชอบ “อุ๋งอิ๋ง เพชรบ้านแพง” ขณะขี่รถจากบ้านเข้ามาตัวเมืองอุดรธานี สามีได้พูดว่า “น้องอุ๋งอิ๋งเอ๊ย ถ้าปาฏิหาริย์มีจริง ถ้าอิหล่าช่วยพ่อได้จริงๆ อิหล่าก็ให้พ่อตามหาอ้ายหนึ่งเจอ นายโชคชัย สุคำภา ส่วนตนบอกว่าไม่เชื่อว่าอุ๋งอิ๋งจะช่วยได้ ถ้าเจอจริงๆ ถึงจะเชื่อ” แต่พอขี่ผ่านวัดมัชฌิมาวาส อะไรมาดลใจไม่รู้ เลี้ยวเข้าไปในวัดเพื่อไปหาลูก และก็ไปพบลูกนั่งอยู่ศาลาหน้าโบสถ์ แต่ลูกจำพ่อแม่ไม่ได้ ต่อต้าน จนตนร้องไห้ ชวนลูกกลับบ้าน ลูกก็ไม่ยอมกลับ แถมถามย้อนคืนว่า “มาตามหากูทำไม กูไม่ใช่ลูกมึง มึงเป็นบ้าเหรอ กูว่ากูบ้าแล้ว มึงยังบ้ากว่ากูอีก อย่ามาร้องไห้ใส่กู” จึงบอกว่าแม่คิดถึงจึงมาตามหา ก่อนหน้านี้ลูกต่อต้านพ่อแม่ แต่ก็ยังจำพ่อแม่ได้ แต่ครั้งนี้ร้ายแรง จำพ่อแม่ไม่ได้เลย

2 มีค 2567
ไทยรัฐ
หน้า: 1 ... 4 5 [6] 7 8 ... 10