แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Topics - story

หน้า: 1 ... 452 453 [454] 455 456 ... 534
6796
ขอเรียนก่อนว่า ทีมงานฯ ไม่ได้จะเปิดคอลัมน์วาบหวิวให้ท่านผู้อ่านกลุ่มเป้าหมายเข้าใจผิด แต่เป็นอีกหนึ่งการสอบถามความเห็นของสาวๆ ที่มีอายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไปจำนวน 1,031 คนของ HealthyWomen เกี่ยวกับมุมมองของการมีเพศสัมพันธ์ของพวกเธอ โดยสาวๆ เริ่มมองว่า การมีเพศสัมพันธ์นั้น เป็นแค่ “หน้าที่ที่ต้องทำ” มากกว่าจะทำไปเพื่อให้ได้รับความสุขความพึงพอใจกลับมา
       
       ในวันที่หลายประเทศมีปัญหาการตั้งครรภ์ก่อนวัยอันควร รวมถึงประเทศไทย แต่การสำรวจความคิดเห็นสาวๆ บางส่วนกลับพบว่า พวกเธอไม่ค่อยมองเห็นความสำคัญของการมีเพศสัมพันธ์นัก บ้างก็มองว่ามันเป็นหน้าที่ที่ต้องทำ โดยเมื่อสอบถามถึงความถี่ของการมีกิจกรรมทางเพศที่ควรจะเป็นจากสาวๆ เหล่านี้พบว่า 66 เปอร์เซ็นต์ระบุว่ามีเพศสัมพันธ์อาทิตย์ละครั้ง หรือบางทีก็ไม่มีเลยก็ได้ ขณะที่ 51 เปอร์เซ็นต์บอกว่า การมีเพศสัมพันธ์สัปดาห์ละ 2-3 ครั้งก็ถือว่าดีต่อสุขภาพแล้ว และมีเพียง 30 เปอร์เซ็นต์ที่บอกว่าควรจะมีความถี่มากกว่านั้นจึงจะดีต่อสุขภาพ
       
       นอกจากนี้ ผู้หญิง 42 เปอร์เซ็นต์เท่านั้นที่เชื่อว่า การมีความสุขในเพศรสมีความสำคัญต่อสุขภาพของเธอ
       
       ทั้งนี้ สาวๆ ให้ความสำคัญกับการมีเพศสัมพันธ์เพื่อช่วยกระชับความสัมพันธ์ระหว่างเธอและคนรักเป็นประเด็นใหญ่ มีเพียงบางส่วนเท่านั้นที่มีเพศสัมพันธ์เพื่อความพึงพอใจของตนเอง
       
       อย่างไรก็ดี ก็มีผู้เชี่ยวชาญบางท่านออกมาเผยถึงข้อดีของการมีความสุขกับกิจกรรมทางเพศที่ผู้หญิงจะได้รับนั่นก็คือ การชะลอความแก่ให้ดูอ่อนกว่าวัย
       
       “การที่ผู้หญิงมีเพศสัมพันธ์อย่างน้อย 4 ครั้งต่อสัปดาห์จะช่วยให้ดูอ่อนกว่าอายุที่แท้จริงได้ถึง 10 ปี แถมยังช่วยลดความเครียด เผาผลาญแคลอรี ช่วยให้กล้ามเนื้อบางส่วนแข็งแรงขึ้น นอกจากนั้นยังช่วยให้พวกเธอเกิดความใกล้ชิดกับคนรัก หรือสามีได้มากขึ้นด้วย” Naomi Greenblatt ประธานกรรมการ และผู้เชี่ยวชาญพิเศษของ women’s health กล่าว
       
       สุดท้ายแล้ว จะมีกิจกรรมทางเพศให้มีความสุขอย่างไรนั้น รบกวนแต่ละครอบครัวพิจารณาตามความเหมาะสมนะคะ
       
       เรียบเรียงจากเดลิเมล

ASTVผู้จัดการออนไลน์    10 พฤศจิกายน 2554

6797
ปฏิเสธไม่ได้ว่าในโลกปัจจุบันนี้ เราพบเห็นผู้หญิงประสบความสำเร็จในชีวิต"มากมาย" พวกเธอมีหน้าที่การงานดี ๆ ทำ สามารถซื้อบ้านได้ด้วยน้ำพักน้ำแรงของตนเอง และมีเงินมากพอจะจับจ่ายใช้สอยได้ตามปรารถนา โดยที่โอกาสเหล่านั้น ผู้ชายยุคนี้บางคนอาจทำได้แค่มองตาปริบ ๆ
       
       แต่ก็ใช่ว่าสาว ๆ เหล่านี้จะมีแต่ความสุข - ความสมหวังในชีวิตเสมอไป เพราะเป็นไปได้ว่า เมื่อต้องแต่งงาน สาว ๆ เหล่านี้อาจต้องเลือกหนุ่ม ๆ ที่มีคุณสมบัติต่ำกว่าตนเองมาเป็นคู่ครอง และเทรนด์ดังที่กล่าวมานี้อาจเป็นตัวเร่งให้โครงสร้างครอบครัวเข้าสู่ช่วงเวลาแห่งการเปลี่ยนแปลง สลับขั้ว สลับบทบาท โดยผู้หญิงอาจเป็นฝ่ายเลือกผู้ชายที่สามารถเป็น "ช้างเท้าหลัง" (อาจจะมีรายได้ หรือตำแหน่งหน้าที่การงานด้อยกว่า) คอยดูแลบ้าน ดูแลลูก ๆ ในขณะที่พวกเธอเป็นทัพหน้าออกไปทำงานหารายได้เข้าบ้านนั่นเอง
       
       โดยศูนย์วิจัยจากแดนอินทรีอย่าง Pew Research ระบุว่า ปัจจุบัน ผู้หญิงสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีเพิ่มมากขึ้น หรือประมาณ 50 เปอร์เซ็นต์ และมีหน้าที่การงานดีขึ้น ขณะที่เหล่าผู้ชายนั้น ตัวเลขการสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีอยู่ที่ 30 - 40 เปอร์เซ็นต์ ทำให้โอกาสในการเข้าทำงานในตำแหน่งดี ๆ นั้นยากมากขึ้น ซึ่งจากช่องว่างที่ทิ้งห่างกันขึ้นเรื่อย ๆ นี้ อาจเป็นคำตอบได้ดีว่า เพราะเหตุใด รายได้ของสองเพศจึงแตกต่างกันไปเรื่อย ๆ
       
       ดังนั้น สิ่งที่อาจเกิดในอนาคตอันใกล้นี้อาจมีดังนี้
       
       - ผู้หญิงเริ่มเข้ามามีบทบาทในด้านต่าง ๆ เหนือผู้ชายมากขึ้น ทั้งในด้านการศึกษา และการทำงาน
       - โครงสร้างครอบครัวในแบบเดิม ๆ อาจมาถึงจุดเปลี่ยนแปลง สลับขั้ว สลับหน้าที่กัน เมื่อผู้หญิงทำสิ่งต่าง ๆ ได้ดี และมีรายได้สูงกว่าผู้ชาย
       - ผู้หญิงที่ประสบความสำเร็จมีความเป็นไปได้ว่าจะแต่งงานกับผู้ชายที่มีตำแหน่งหน้าที่การงาน หรือมีรายได้ต่ำกว่า
       - เป็นไปได้ว่า ผู้หญิงอาจต้องเลือกผู้ชายจากความสามารถในการสนับสนุนเธอด้านครอบครัวมากกว่าด้านการเงินเหมือนในอดีต
       - ผู้หญิงรับหน้าที่หลักในการหารายได้เข้าบ้าน
       
       เทรนด์ดังกล่าวอาจส่งผลดีก็เป็นได้ เพราะทุกวันนี้มีคุณพ่อบ้านที่ไม่มีเวลาอยู่กับลูกกันมากมาย หลายคนแม้จะเบื่องานแต่ก็ต้องทนทำกันไปเพื่อครอบครัว ถ้าคุณแม่บ้านมีหน้าที่การงานดีพอ การสลับบทบาทดังกล่าวนี้อาจดีทั้งต่อครอบครัว และสุขภาพจิตของสามีภรรยาก็เป็นได้ค่ะ
       
       เรียบเรียงจากเดลิเมล

ASTVผู้จัดการออนไลน์    8 พฤศจิกายน 2554

6798
หากคุณเคยไว้ใจใครสักคนอย่างมาก มากพอที่คุณจะเล่าความลับที่คุณปิดมาตลอดชีวิตของคุณให้เขาฟัง คุณจะทำอย่างไร เมื่อพบว่า วันรุ่งขึ้น แทบทุกคนรอบตัวคุณรู้เรื่องลับ ๆ ของคุณเข้าเสียแล้ว
       
       สำหรับผู้หญิง กรณีดังกล่าวนี้อาจเกิดขึ้นได้ง่ายมาก เพราะการทำตัวให้น่าไว้ใจพอที่ใครสักคนจะเล่าเรื่องในชีวิตให้ฟังนั้นไม่ยากเท่าใดนัก โดยเฉพาะกับเพื่อนหญิงรอบ ๆ ตัว จากนั้นก็หักหลังเขาด้วยการนำมันไปบอกต่อกับคนอื่น ๆ เพื่อที่ตนเองจะได้ดูเหมือนคนสำคัญในวงซุบซิบ
       
       จากการสอบถามความคิดเห็นของสาว ๆ จำนวน 3,000 คนของผลิตภัณฑ์ดูแลผิวหน้ายี่ห้อหนึ่ง พบว่า 85 เปอร์เซ็นต์ของผู้หญิงนั้นชอบเรื่องซุบซิบเป็นอย่างมาก และพวกเธอก็ไม่สามารถเก็บความลับได้อยู่เสียด้วย ไม่สำคัญว่าเรื่องนั้นจะเป็นเรื่องของใคร หรือลับมากแค่ไหน โดยนักวิจัยพบว่า ความอดทนในการเก็บความลับนี้มีอยู่ราว 32 นาทีเท่านั้น
       
       ผลที่ปรากฏออกมานี้ ทำให้ผู้หญิงเสี่ยงที่จะถูกมองว่าพวกเชื่อถือไม่ได้ ไม่รู้จักรักษาความลับ หรือคำสัญญา แต่เกือบครึ่งของสาว ๆ ระบุว่า เมื่อพวกเธอได้ยินสิ่งที่เป็นความลับมา มันเหมือนมีอะไรบางอย่างหนัก ๆ ให้ต้องแบกไว้ และการแบ่งความหนักนี้ให้กับใครสักคนช่วยให้เธอรู้สึกดีขึ้น
       
       โพลล์นี้ชี้ชัดว่า สาว ๆ มีปัญหากับการเก็บความลับของคนอื่น ๆ การทนเก็บความลับเอาไว้ได้แค่เพียง 32 นาทีเป็นตัวบอกได้ดีว่า พวกเธอจัดลำดับความสำคัญของสิ่งต่าง ๆ ในชีวิตอย่างไร ยิ่งในโลกไฮเทค มีเครื่องมือต่าง ๆ มากมายที่จะช่วยเผยแพร่ความลับนั้นอย่างรวดเร็ว แถมยังแพร่ได้ทั่วโลกอีกด้วย
       
       อย่างไรก็ดี เราทุกคนล้วนรู้สึกผิดกับการบอกต่อความลับของคนอื่น ซึ่งดร.คริสทีน บันดี้ อาจารย์ด้านจิตวิทยาและสุขภาพแห่งมหาวิทยาลัยแมนเชสเตอร์ให้คำแนะนำว่า "การจะตัดสินใจว่าเรื่องนั้นควรบอกต่อหรือเก็บไว้เป็นความลับทำได้ไม่ยาก ให้ผู้หญิงหรือคนที่ตกอยู่ในสถานการณ์ดังกล่าวลองนึกภาพว่า คนที่มาเล่าเป็นเพื่อนสนิทของตนเอง หรือเป็นคนในครอบครัวของคุณ"
       
       "หากการเล่าต่อเป็นการทำให้คน ๆ นั้นเสียใจ ก็ควรจะเก็บเอาไว้ไม่บอกใคร โดยเฉพาะเรื่องที่สำคัญ หรือเรื่องส่วนตัว"
       
       ที่สำคัญ แม้คุณจะดูเริ่ด ดูเด่นยามได้แพร่งพรายเรื่องลับ ๆ ของใครสักคน แต่สิ่งที่คู่สนทนาจดจำคุณได้ตลอดไปก็คือ ความไม่น่าไว้ใจ ไม่น่าเชื่อถือที่มีอยู่ในตัวคุณนั่นเอง
       
       บางทีเรื่องแบบนี้ป้องกันได้ด้วยการไม่รู้เสียดีกว่าค่ะ
       
       เรียบเรียงจากเดลิเมล

ASTVผู้จัดการออนไลน์ 13 พฤศจิกายน 2554

6799
ผอ.รพ.รามาธิบดี วอน รพ.รัฐและเอกชนที่มีศักยภาพและยังไม่ถูกน้ำท่วม อย่าผลักภาระคนไข้กรณีอุบัติเหตุฉุกเฉินมาให้ เพราะเริ่มรับไม่ไหว ปรึกษาผู้ใหญ่ใน สธ. ยันไม่ได้สั่งการ ย้ำให้ทุก รพ.ที่ยังมีศักยภาพ รักษาผู้ป่วยเต็มที่

วันที่ 13 พ.ย. รศ.นพ.ธันย์ สุภัทรพันธุ์ ผอ.รพ.รามาธิบดี กล่าวกับกับทีมข่าวไทยรัฐออนไลน์ วอน รพ. ใหญ่ที่มีศักยภาพในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ทั้งอยู่ในสังกัดรัฐบาล กระทรวงสาธารณสุข และ รพ.เอกชน ที่ยังไม่ประสบปัญหาน้ำท่วม อย่าได้ผลักภาระคนไข้อุบัติเหตุฉุกเฉิน ที่ต้องรับการผ่าตัดแต่ยังสามารถรอรักษาได้ ทั้งในพื้นที่ยังไม่ถูกน้ำท่วม และในพื้นที่คนไข้ที่ได้รับอุบัติเหตุจากน้ำท่วม

 เพราะตอนนี้ รพ.รามาธิบดีต้องรับรักษากรณีคนไข้แบบนี้ทุกวัน วันละกว่า 10 ราย ซึ่งปกติ รพ.เองก็มีงานเต็มไม้เต็มมืออยู่แล้ว ทำให้คนไข้ที่ถูกแนะให้มาที่รพ.รามาฯ บางคน ต้องรอนานกว่าปกติมาก น่าสงสาร เพราะบุคลากร ทั้งแพทย์และพยาบาลที่เข้าเวรอยู่ มีจำนวนไม่เพียงพอ ทำให้รับผ่าตัดรักษาไม่ทัน

อย่างไรก็ตาม รศ.นพ.ธันย์ กล่าวอีกว่า จากการที่ตนเองได้ปรึกษาหารือกับผู้ใหญ่ในกระทรวงสาธารณสุข ยืนยันว่า กระทรวงสาธารณสุขไม่ได้สั่งการให้ รพ.ที่ไม่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมในพื้นที่กทม.ดำเนินการในลักษณะดังกล่าว

รศ.นพ.ธันย์ ยืนยันอีกว่า ผู้ใหญ่ในกระทรวงสาธารณสุขระบุว่า จะอย่างไร ทุกโรงพยาบาลที่ยังมีศักยภาพ จะต้องรับรักษาคนไข้อย่างเต็มที่ แต่อาจเป็นเพราะ รพ.หลายแห่งที่มีศักยภาพเทียบเท่ากับรพ.รามาธิบดี อาจอ้างกรณีที่ รพ.ที่ยังไม่ถูกน้ำท่วม ต้องเตรียมรับมือน้ำท่วม จึงปฏิเสธไม่รับการรักษาแล้วกลายเป็นว่า ต้องผลักภาระมาให้กับ รพ.รามาธิบดีแทน ดังนั้น จึงวอนขอให้ รพ.เหล่านั้น รับรักษาผู้ป่วยในกรณีเหล่านี้ด้วย

ไทยรัฐออนไลน์ 14 พย 2554

6800
เอ่ย​ถึงมะดันพลันน้ำลายสอ ​เปรี้ยวจี๊ดจ๊าดขึ้นมาทันที ​เรียก​ได้ว่า​เมื่อนึก​ถึง​หรือ​เห็นมะดันต้องนึก​ถึง​ความ​เปรี้ยวก่อน​เป็นอันดับ​แรก ยิ่งอากาศ​เย็น​และลมหนาว​โชยมา​เยือนรู้สึกคอ​แห้ง ​และ​ไออยู่ด้วย​แล้ว ​จึงอยาก​ได้น้ำมะดันสัก​แก้วจิบ​ให้ชุ่มชื่นคอ

มะดัน​เป็นผล​ไม้​และ​เครื่องปรุงที่มีรส​เปรี้ยวคู่กับครัว​ไทยมาช้านาน มักนำผล​และยอดอ่อนมาปรุง​แต่งรส​เปรี้ยว​ในต้มยำปลา ​ได้รสชาติจี๊ดถูก​ใจ บ้าง​ก็​เอาลูก​ทำน้ำพริกมะดัน ​หรืออาหาร​เก่าๆ ค่อน​โบราณ​ก็พวก​แกง​เผ็ดมะดันหมูย่าง​หรือ​เป็ดย่าง ส่วนยอดอ่อน​ก็นำ​ไปจิ้มน้ำพริก ​แต่ปัจจุบัน​การนำมะดันมาปรุงอาหารลดน้อยลง จะพบ​แค่​เพียงนำมา​ทำมะดัน​แช่อิ่ม มะดันจิ้มพริก​เกลือ​หรือน้ำปลาหวาน

มะดันจัด​เป็นต้น​ไม้คู่บ้านคู่​เรือนคน​ไทยอีกประ​เภทหนึ่งที่มักปลูกข้างบ้าน ​โดย​เฉพาะบ้านที่​เป็นสวนท้องร่อง​หรืออยู่ติดชายน้ำ จะ​เห็นต้นมะดัน​เจนตา คน​ในวัยปู่ย่าตายาย​เรา​จึงมี​เรื่อง​เล่าสนุกสนาน​ถึง​ความซุกซน​ในวัย​เด็กกับ​การ​เ​ก็บมะดันมาลิ้มรส

พืชที่มีรส​เปรี้ยว​และนำมาปรุง​แต่งรสอย่าง​เช่นมะดันนั้นมีหลายอย่าง ​เช่น ตะลิงปลิง มะนาว มะนาวควาย มะงั่ว ​แตกต่างกัน​ไปตามประ​เภทของอาหาร ​แต่ปัจจุบันคน​ไทยรุ่น​ใหม่ๆ ติด​ความ​เปรี้ยวของมะนาว ​เลยลิ้มรส​เปรี้ยวของพืชอย่างอื่น​แล้ว​ไม่ถูก​ใจ ​ใน​การ​แพทย์​แผน​ไทยจัดว่ามะดัน​เป็นพืชมหัศจรรย์ตัวหนึ่งที่มี​ความ​เปรี้ยวทุกส่วนของต้น ​เรียกว่า​เปรี้ยว​ทั้ง ราก ต้น ดอก ​ใบ ผล ครบตั้ง​แต่รากจรดปลายยอด ​ซึ่งต่างจากพืชสมุน​ไพร​ในกลุ่ม​เดียวกันที่อาจมีราก ดอก ​ใบ รสอื่น ​แม้ผลจะมีรส​เปรี้ยว​ก็ตาม

สรรพคุณของมะดัน ราก รส​เปรี้ยว ​แก้​เบาหวาน ​แก้​ไข้หวัด ​แก้​ไข้ทับระดู ขับฟอก​โลหิต ขับ​เสมหะ​ในลำคอ ​แก้กระษัย ​แก้ระดู​เสีย ​เป็นยาระบายอ่อนๆ ​เปลือกต้น รส​เปรี้ยว ​แก้​ไข้ทับระดู ​แก้

​โลหิตระดู ​ใบ รส​เปรี้ยว ​แก้หวัด ​แก้​ไอ ​แก้กระษัย ​แก้​เสมหะพิ​การ รกมะดัน รส​เปรี้ยว ​แก้หวัด ​แก้​ไข้ทับระดู ​และขับฟอก​โลหิต ผล รส​เปรี้ยว ล้าง​เสมหะ ​แก้สอ​เสมหะ กัด​เสมหะ ฟอก​โลหิต ​แก้​ไอ ​แก้ประจำ​เดือนพิ​การ ​ทั้งห้า กัด​เสมหะ ฟอก​โลหิตประจำ​เดือน ​แก้กระษัย ​แก้​ไข้หวัด

​การนำ​ไปปรุง​เป็นยารับประทานส่วนมากนิยม​ใช้วิธี​การต้ม ถ้าต้มตามหลัก​การ​แพทย์​แผน​ไทยคือต้ม 3 ​เอา 1 ​โดย​ใช้น้ำ 3 ส่วน ต้ม​เคี่ยวจน​เหลือ 1 ส่วน ​แล้ว​เอายานั้นมาผสมกับน้ำอุ่นรับประทาน​ใช้​แก้​เสมหะ ​แก้กระษัย ขับฟอก​โลหิตประจำ​เดือน​ได้ ​เป็นยาระบายอ่อนๆ ​แต่ข้อควรระวังคือ​ผู้ที่มีภาวะ​โลหิตจาง​ไม่ควรรับประทานพวกยา​และอาหารที่มีรส​เปรี้ยว​เพราะจะยิ่ง​ไปกัดฟอก​โลหิตมากขึ้น จะ​ทำ​ให้​เกิดอันตรายต่อร่างกาย​ได้

​ความ​เด่นของมะดันอยู่ที่​ความ​เปรี้ยว ​ซึ่งมีพวกกรดอินทรีย์จำพวกวิตามินซีสูง ​ซึ่งช่วย​ใน​เรื่องของ​การสร้างภูมิคุ้มกัน​ให้กับร่างกาย มีรายงานทาง​เภสัชวิทยาว่าสารสำคัญ​ในมะดันมีฤทธิ์ยับยั้ง​การ​เจริญของ​เนื้องอก​ได้  ​และ​เนื่องจาก​เป็นกลุ่มกรดอินทรีย์ สามารถนำมา​ใช้​ใน​การดู​แลผิวพรรณ​หรือกระบวน​การผลัด​เซลล์ผิว​ได้ ​เพราะมีสารกลุ่ม AHA ​และ BHA ​จึงนำมา​ใช้​ในวง​การ​เครื่องสำอาง ​ซึ่งอาจนำ​ไป​ทำ​โทน​เนอร์​หรือสบู่ ส่วนผสม​ในครีมบำรุงผิว จะช่วย​ให้ผิวขาว ​ซึ่ง​เป็นที่นิยม​ใช้​แพร่หลาย​ในขณะนี้​ก็มีมะ​เฟือง มะขามป้อม

วิธีง่ายๆ ที่คนทั่ว​ไปนิยม​ทำคือ​การนำมะดันมา​ทำน้ำหมักชีวภาพ​แล้วกรอง​เอาน้ำมา​ใช้ บ้าง​ก็​ใช้​เป็นหัว​เชื้อปรุง​ใน​เครื่องดื่ม บ้าง​ก็นำ​ไป​ทำ​โทน​เนอร์​ใช้​เช็ดหน้า ​ซึ่ง​การหมักน้ำหมักถือ​เป็นวิธีง่ายๆ ที่​ทำกันทั่ว​ไป ​แต่ที่สำคัญต้อง​เน้นที่​ความสะอาด​และ​การคัด​เลือกวัตถุดิบที่สะอาดจริงๆ น้ำหมักที่​ได้​จึงมีประสิทธิภาพตามที่​เราต้อง​การ

​การ​ใช้ประ​โยชน์จากสมุน​ไพรจะกว้างขวาง​แค่​ไหน​ก็ขึ้นอยู่กับปัญญา​และ​ความรู้ที่จะนำ​ไป​ใช้ ​เช่น​เดียวกับมะดันถ้ามี​การพลิก​แพลงนำ​ไป​ใช้​เป็นยา อาหาร ​เครื่องสำอาง ​ได้อย่าง​เหมาะสม ​ก็​เป็น​การส่ง​เสริม​การ​ใช้อย่าง​เกิดประ​โยชน์ ​ไม่​เช่นนั้นต้นมะดันอาจหาย​ไปตามกาล​เวลา​ก็​เป็น​ได้.

ไทย​โพสต์ 13 พฤศจิกายน 2554

6801
รพ.ศิริราชไม่สนข้อกังขาอีเอ็มแก้น้ำเน่าเสียได้หรือไม่ นำร่องใช้แก้ปัญหาน้ำเน่าชุมชนรอบโรงพยาบาล หลังได้รับการช่วยเหลือจากองค์การเภสัชกรรม และความร่วมมือจากเขตบางกอกน้อย แต่ทั้งหมดที่ใช้เป็นชนิดน้ำไม่ใช่อีเอ็มบอล
    ศ.คลินิก นพ.ธีรวัฒน์ กุลทนันทน์ คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ม.มหิดล, นพ.วิทิต  อรรถเวชกุล ผอ.องค์การเภสัชกรรม (อภ.) และนายอภิรัฐ ตราดุษฎี ผอ.เขตบางกอกน้อย ร่วมเปิดโครงการนำร่องการใช้จุลินทรีย์บำบัดน้ำเสียเพื่อแก้ไขปัญหาน้ำเสียในชุมชนเขตบางกอกน้อย ซึ่งเป็นชุมชนโดยรอบศิริราช ณ สำนักงานเขตบางกอกน้อย ถ.จรัญสนิทวงศ์ ซอย 32 (วัดสุวรรณาราม)
            คณบดีคณะแพทยศาสตร์ฯ เปิดเผยว่า อภ.มอบจุลินทรีย์บำบัดน้ำเสียให้กับคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาลสำหรับใช้ในกิจการของ รพ.ศิริราช และดูแลชุมชนโดยรอบ รพ.ศิริราช เพื่อแก้ปัญหาน้ำเน่าท่วมขังตามบ้านเรือนและชุมชน จึงได้พิจารณาเห็นสมควรให้จัดทำเป็นโครงการนำร่องการใช้จุลินทรีย์บำบัดน้ำเสียในชุมชนเขตบางกอกน้อย 
    ทั้งนี้ จากการสำรวจมีจำนวน 43 ชุมชน และมอบให้สำนักงานเขตบางกอกน้อยเป็นฝ่ายดำเนินการ โดยได้รับมอบจุลินทรีย์บำบัดน้ำเสีย ที่เป็นผลิตภัณฑ์ชีวภาพกำจัดกลิ่นเหม็นและช่วยย่อยสลายของเสียประเภทสารอินทรีย์ ซึ่งเป็นตัวเร่งและกระตุ้นปฏิกิริยาการย่อยสลายให้เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องและสมบูรณ์แบบ อีกทั้งยังมีความปลอดภัยต่อคน สัตว์ พืช และสิ่งแวดล้อม ได้แก่ จีพีโอ เมกะคลีนพลัส (GPO MEGAKLEAN PLUS) ชนิดซองขนาด 10 กรัม จำนวน 3,000 ซอง, ชนิดซองขนาด 1 กิโลกรัม จำนวน 10 กก., ชนิดน้ำขนาด 1 ลิตร จำนวน 500 ลิตร และจีพีโอคลีน (GPO KLEAN) ชนิดซองขนาด 200 กรัม จำนวน 500 ซอง.

ไทยโพสต์ 13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

6802
นพ.​ไพจิตร์ วราชิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ​เปิด​เผยว่า กระทรวงสาธารณสุข ​ได้จัด​ทำ​โครง​การ ​เยียวยาบริ​การปฐมภูมิ​ถึงบ้าน​และครัว​เรือน ​ผู้ประสบภัยน้ำท่วม​ในพื้นที่ที่ถูกน้ำท่วมหนัก นำร่อง 7 จังหวัด คือ
อยุธยา
ลพบุรี
นนทบุรี
ปทุมธานี
สิงห์บุรี
นครสวรรค์
​และนครปฐม ​
โดย​ให้​เจ้าหน้าที่สาธารณสุข ​ใน​โรงพยาบาลส่ง​เสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) ​และสำนักงานสาธารณสุขอำ​เภอ จากจังหวัด​ในภาค​เหนือ ​และตะวันออก​เฉียง​เหนือ จัดทีม​เคลื่อนที่ลงดำ​เนิน​การฟื้นฟู​ในตำบลที่​ได้รับผลกระทบหนัก ​เน้น​ในกลุ่มประชาชน​และ​ผู้ป่วยที่อยู่นอกศูนย์พักพิง ที่ติดอยู่ตามบ้าน ​ผู้พักพิงริมถนน ​ผู้พักพิง​ในวัด ​ทั้งดู​แลสุขภาพกาย​และจิต​ใจ พร้อม​ทั้งดำ​เนิน​การฟื้นฟูสิ่ง​แวดล้อม ​และป้องกันควบคุม​โรค ช่วย​ให้กำลัง​ใจ​เจ้าหน้าที่ รพ.สต.​และฟื้นฟู รพ.สต.​ให้กลับมา​ให้บริ​การ​ได้ตามปกติ ​โดยปฏิบัติ​การต่อ​เนื่อง​ถึงสิ้นปี ​หรือจนกว่าสถาน​การณ์จะกลับ​เข้าสู่ภาวะปกติ

​แนวหน้า -- ​เสาร์ที่ 12 พฤศจิกายน 2554

6803
กรีนพีซ​เรียกร้องรัฐบาล​ไทยออกมาตร​การจัด​การปัญหามลพิษ​ในสถาน​การณ์น้ำท่วม​โดยด่วน ​และรณรงค์​ให้ประชาชนร่วมช่วย​แก้ปัญหา​โดยลด ​แยก ​และยุติ​การทิ้งขยะลงสู่​แหล่งน้ำ น้ำท่วมครั้งนี้​ได้นำพาสารมลพิษ​และขยะจำนวนมหาศาลมารวมกัน​ในน้ำท่วมขัง ​เกิดปัญหาน้ำ​เน่า​เสีย​ในหลายพื้นที่​ซึ่งอาจก่อ​ให้​เกิดผลกระทบด้านสุขภาพ​ได้อย่างร้าย​แรง สถาน​การณ์น้ำท่วม​ในประ​เทศขณะนี้ยัง​ไม่ดีขึ้น​และ​ได้ขยายวงกว้างสู่กรุง​เทพมหานคร​ซึ่งมีประชากรอาศัยหลายล้านคน ปัญหาที่น่ากังวลขณะนี้คือมลพิษ​และผลกระทบทางสุขภาพ ​โรคที่​เกี่ยวข้องกับน้ำ อย่าง​เช่น อหิวาตก​โรค ฉี่หนู ​ไทฟอยด์ ​และ​โรคอื่นๆ ​เป็นปัญหาที่ต้อง​เฝ้าระวัง นอกจากนี้ยังมี​ความ​เสี่ยงจาก​การปน​เปื้อนสาร​เคมีอันตราย​ใน​แหล่งน้ำอุป​โภคบริ​โภค อย่าง​เช่น​ใน​แม่น้ำ​เจ้าพระยา ​และคลองต่างๆที่​เป็นภัยคุกคามต่อประชาชน​ได้​ทั้ง​ในระยะสั้น​และระยะยาว “​เหตุ​การณ์น้ำท่วม​ในครั้งนี้​เป็น​เครื่อง​เตือนคน​ไทย​ให้ตระหนัก​ถึงผลกระทบด้านมลพิษทางน้ำ ​และดังนั้น​เราทุกคน​จึงควรมอง​ถึงต้น​เหตุของปัญหา​และป้องกันมิ​ให้​เกิดขึ้น สิ่งที่​เรา​เกี่ยวข้อง​โดยตรงกับต้น​เหตุของปัญหา​ก็คือขยะที่​เกิดจาก​การบริ​โภคของ​เรา​เอง” นายพลาย ภิรมย์ ​ผู้ประสานงานรณรงค์ด้านสารพิษ กรีนพีซ ​เอ​เชียตะวันออก​เฉียง​ใต้ กล่าว

“ช่วง​เวลานี้ตรงกับประ​เพณีลอยกระทง ​ซึ่ง​เราควรระลึก​ถึงคุณูป​การของสายน้ำ​และขอขมาที่​เรา​ได้ล่วง​เกิน ทุกคนสามารถที่จะร่วมลดมลพิษ​ใน​แหล่งน้ำ​โดยช่วยกัน​การ​เ​ก็บขยะ​ทั้งบนบก​ใน​ในน้ำที่ท่วมขัง รวม​ถึง​การ​แยกขยะหลัง​การบริ​โภค” นายพลายกล่าว​เสริม

จาก​การสำรวจของกรีนพีซพบว่าพื้นที่น้ำท่วมหลาย​แห่งกำลัง​เผชิญกับปัญหามลพิษทางน้ำที่รุน​แรง ​ซึ่งมีหลายปัจจัยที่​เราควรพิจารณา​เพื่อจัด​การ​แก้​ไข นั่นคือ น้ำที่​ไหลมาจากพื้นที่อุตสาหกรรม ​การ​เกษตร ​และชุมชน ที่อาจนำพาสารมลพิษต่าง ๆ รวม​ถึงสาร​เคมีอันตรายที่อาจมี​ความ​เสี่ยงที่จะปน​เปื้อนลงสู่น้ำอุป​โภคบริ​โภคของประชาชน ขยะหลัง​การ​ใช้อย่าง​เช่น กล่อง​โฟม​และพลาสติกมีปริมาณ​เพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล ขยะ​เปียก​และของ​เสียขับถ่ายจะ​เป็น​เป็น​แหล่งสะสมของ​เชื้อ​โรคต่างๆหากถูกทิ้งลงสู่​แหล่งน้ำ นอกจากนี้ หลังจากน้ำลดจะมีขยะอันตรายจากบ้าน​เรือนอย่าง​เช่น ​แบต​เตอรี่​และขยะอิ​เล็กทรอนิกส์ที่ล้วน​เป็นขยะอันตรายจำนวนมหาศาลที่จะ​เป็นปัญหาต่อสิ่ง​แวดล้อม ​ทั้งนี้ กรมควบคุมมลพิษคาดว่าจะมีปริมาณขยะที่​เกิดขึ้น​ในช่วงน้ำท่วม​ทั้งสิ้นราว 3 ล้านตัน

“​เป็นสิ่งที่ท้าทายอย่างยิ่งสำหรับหน่วยงานที่รับผิดชอบ​ใน​การจัด​การกับขยะจำนวนมหาศาล ขยะบางประ​เภทที่​เป็นขยะอันตรายจะต้องมีวิธี​การจัด​การที่​แตกต่างออก​ไป นอกจากนี้ หน่วยงานภาครัฐควรตรวจสอบคุณภาพของ​แหล่งน้ำที่​ใช้​เพื่อ​การผลิตน้ำดื่ม อย่าง​เช่น​ใน​แม่น้ำ​เจ้าพระยา ​เนื่องจากน้ำที่​ไหลท่วมมาจากหลายพื้นที่นั้นมีสาร​เคมีหลากหลายชนิด​และท้ายสุด​ได้​ไหลลงสู่​แม่น้ำ”

กรีนพีซ​เรียกร้อง​ให้รัฐบาลลงมือจัด​การปัญหามลพิษที่มาจากอุทกภัยอย่าง​เร่งด่วน ตั้ง​แต่​การ​เ​ก็บขยะ​และกระบวน​การจัด​การอย่าง​เป็นมิตรต่อสิ่ง​แวดล้อม ​และ​ในระยะยาว​เราควรนำปัญหาด้านมลพิษ​ในครั้งนี้มา​เป็นบท​เรียน​เพื่อ​และพัฒนามาตร​การรับมือป้องกัน​แก้​ไข มีมาตร​การตรวจสอบ​และ​เปิด​เผยข้อมูลด้านมลพิษ​ให้รู้​ถึง​การ​ใช้​และปลดปล่อยสาร​เคมีอันตราย รวม​ถึงมาตร​การปกป้อง​แหล่งน้ำจากมลพิษ

ThaiPR.net -- พฤหัสบดีที่ 10 พฤศจิกายน 2554

6804

แผนที่ทหารบ่งชี้เขตไหนน้ำไม่ผ่าน และเส้นทางนำไหล พบมวลใหญ่ถล่มพระรามสอง ขณะบางชันและนิคมลาดกระบังมวลน้ำหลายเส้นมุ่งตรง ราชมังฯจ่อโดน

แผนที่ของ"กรมแผนที่ทหาร "ประกอบด้วยข้อมูลจาก 2 หน่วยงาน คือ ข้อมูลเกี่ยวกับน้ำที่กำลังท่วม เป็นข้อมูลจากภาพถ่ายดาวเทียมของสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) หรือ GISTDA กับข้อมูลความสูงภูมิประเทศ และข้อมูลแผนที่กรุงเทพฯของกรมแผนที่ทหาร


แผนที่ฉบับนี้เป็นการนำข้อมูลน้ำล่าสุดมาทาบซ้อนกับข้อมูลที่กรมแผนที่ทหารมีอยู่ เพื่อประเมินทิศทางน้ำว่าจะไหลไปทางไหน โดยแบ่งน้ำไหลลูกศรขนาดใหญ่ แสดงถึงมวลน้ำใหญ่ และลดระดับกันไปตามปริมาณน้ำ ขณะที่สีฟ้าคือพื้นที่น้ำท่วมขัง

 จากแผนที่อัพเดท 11 พ.ย.พบว่า ถนนพระรามสอง มีมวลน้ำขนาดใหญ่ไหลพุ่งตรงเข้ามา สองทิศทาง มาจากทั้งบางแค และหนองแขม  ขณะเดียวกันยังมีน้ำก้อนใหญ่จากภาษีเจริญ จอมทอง มุ่งตรงสู่ดาวคะนอง
 ขณะที่ทางฝั่งตะวันออกของเจ้าพระยา คาดว่าจะมีมวลน้ำที่ผ่าน ศปภ.มาแล้วอาจจะไหลเข้ามาถึงคลองสามเสน ขณะเดียวกันจะมีน้ำจากลาดพร้าว และ บึงกุ่มมุ่งสู่เดอะมอลล์บางกะปิ  นอกจากนั้น ยังคาดว่าอาจจะมีน้ำไหลมุ่งสู่มังคลาอีกด้วย

รายงานข่าวแจ้งว่า ระบบระบายน้ำบริเวณมังคลาและถนนรามคำแหงในปีนี้ มีประสิทธิภาพ เนื่องจากสามารถดึงเข้าสู่อุโมงค์ยักษ์ที่พระราม9 จึงทำให้หลายฝ่ายประเมินว่า แม้น้ำจะไหลเข้าสู่รามคำแห่ง แต่โอกาสท่วมจะน้อยเพราะระบบระบายน้ำ มีประสิทธิภาพ

ส่วนสถานการณ์ 2 นิคมอุตสาหกรรม บางชันและลาดกระบัง หากพิจารณาจากแผนที่ทหารแล้ว พบว่ามีมวลน้ำหลายเส้นทางทั้งเล็กและใหญ่ มุ่งสู่ 2 นิคมฯดังกล่าว

 อย่างไรก็ตามหากพิจารณาจากแผนที่เส้นทางน้ำ  จะพบว่ากทม.ชั้นในหลายเขตที่คาดว่าน้ำจะไม่ไหลผ่าน ซึ่งนั้นเท่ากับว่าโอกาสรอดน้ำท่วมมีสูงมาก ไม่ว่าจะเป็น
เขตบางซื่อ 
ดุสิต 
วังทองหลาง
ห้วยขวาง 
ราชเทวี
ปทุมวัน
บางรัก
สาธร
ห้วยขว้าง
วัฒนา 
คลองเตย
บางคอแหลม
ยานนาวา
คลองสาน
พระโขนง
บางนา

กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ 12 พฤศจิกายน 2554

6805

ผอ.สำนักผังเมือง กทม.ซัดกลุ่มทุนรุกฟลัดเวย์ ยันผังเมืองรวมฉบับล่าสุดห้ามผุดหมู่บ้านจัดสรร แต่มีสนามบินสุวรรณภูมิ นิคมอุตสาหกรรม ถนนบางนา-ตราด มอเตอร์เวย์ โผล่ขวางทางน้ำ เชื่อหลังจากนี้ไม่มีใครกล้ามาล็อบบี้ให้ปรับผังเมือง ขณะที่นักวิชาการจ่อฟ้องศาลเรียกค่าเสียหายรัฐบาลมั่วทำน้ำท่วมเร็ว ๆ นี้ "หนูไม่รู้" ครวญ เห็นใจหน่อยค่ะ

          ม.ร.ว.เปรมศิริ เกษมสันต์ ผู้อำนวยการสำนักผังเมือง กทม. กล่าวถึงกรณีการทำฟลัดเวย์ตามแนวพระราชดำริพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ว่า กทม.ได้ออกข้อบัญญัติ กทม.ตั้งแต่ปี 2525 กำหนดให้พื้นที่นอกแนวกั้นน้ำบริเวณ กทม.ฝั่งตะวันออก เขตมีนบุรี หนองจอก ลาดกระบัง และคลองสามวา ขนาด 72 ตารางกิโลเมตร เป็นพื้นที่รับน้ำของกรุงเทพฯ ก่อนระบายออกสู่ทะเล จากนั้นได้กำหนดผังเมืองรวม กทม. เป็นพื้นที่สีขาวทแยงสีเขียว คือปลูกสร้างได้เฉพาะบ้านเดี่ยวเท่านั้น และห้ามทำหมู่บ้านจัดสรร โดยขณะนี้ผังเมืองรวม กทม.ฉบับล่าสุดประกาศใช้แต่ปี 2549 และสิ้นสุดในปี 2556 ยังเป็นหลักการเดิม

          ผอ.สำนักผังเมืองบอกว่า สาเหตุที่ขณะนี้พื้นที่ดังกล่าวไม่สามารถรับน้ำได้ เนื่องจากน้ำมีปริมาณมาก อีกทั้งบริเวณโดยรอบพื้นที่ดังกล่าวมีการปลูกสิ่งก่อสร้างขวางทางน้ำ อาทิ สนามบินสุวรรณภูมิ นิคมอุตสาหกรรมลาดกระบัง ถนนมอเตอร์เวย์ ถนนบางนา-ตราด ส่งผลให้เส้นทางระบายน้ำติดขัด และทำให้พื้นที่รับน้ำกลายเป็นพื้นที่หน่วงน้ำแทน

          ถามว่า สิ่งปลูกสร้างที่ขวางทางน้ำนั้นสร้างถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ ม.ร.ว.เปรมศิริตอบว่า สิ่งก่อสร้างดังกล่าวมีการก่อสร้างก่อนที่ข้อบัญญัติ กทม.ปี 2525 ประกาศใช้ จึงสามารถก่อสร้างได้ อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ได้มีภาพถ่ายทางอากาศยืนยันว่ามีโครงการหมู่บ้านจัดสรรเกิดขึ้นในพื้นที่ฟลัดเวย์ แต่จะสร้างก่อนการประกาศใช้ข้อบัญญัติ กทม.ปี 2525 หรือไม่ ตนไม่ทราบเป็นเรื่องต้องตรวจสอบต่อไป

          เมื่อถามว่า ก่อนหน้านี้กลุ่มนายทุนจัดสรรที่ดิน อาทิ นายวิชาญ มีนชัยนันท์ ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย มีที่ดินในพื้นที่ดังกล่าวจำนวนมาก ต้องการล็อบบี้ให้รัฐบาลและ กทม.เปลี่ยนสีร่างผังเมืองรวมของ กทม. จากสีขาวทแยงเขียวเป็นสีเหลือง เพื่อสามารถก่อสร้างหมู่บ้านจัดสรรหรือพัฒนาพื้นที่ได้แทนให้เป็นพื้นที่รับน้ำ ผู้อำนวยการสำนักผังเมือง กทม.ยืนยันว่า กทม.ได้ทำตามข้อบัญญัติของ กทม. และไม่ได้มีการเปลี่ยนสีตามกระแสข่าวแต่อย่างใด ส่วนสาเหตุนั้นอาจเกิดขึ้นเพราะกลุ่มนายทุนแต่ก่อนคิดว่าไม่มีน้ำท่วมใหญ่เหมือนที่เกิดขึ้นปัจจุบันนี้ จึงต้องการพัฒนาพื้นที่ แต่หลังจากนี้เมื่อเกิดเหตุน้ำท่วมกรุงเทพฯ คงไม่มีใครล็อบบี้เปลี่ยนสีร่างผังเมืองรวมอีกแล้ว

          ขณะที่วิทยุเสียงอเมริกาภาคภาษาไทย อ้างความเห็นนายพาลากริสนัน ราชโคปาล ผู้เชี่ยวชาญด้านการพัฒนาผังเมือง จากสถาบันเทคโนโลยีแห่งแมสซาชูเซตส์ (เอ็มไอที) ว่า การเตรียมการรับมือพิบัติภัยทางธรรมชาติอาจจะยังไม่เพียงพอ  หลายเมืองจำเป็นต้องตระหนักถึงลักษณะการเติบโตของเมือง และลักษณะเทคโนโลยีที่ใช้แก้ปัญหาพิบัติภัยไว้ล่วงหน้า รวมไปถึงมาตรการที่จะใช้ป้องกันเพื่อตัดไฟแต่ต้นลมตั้งแต่จุดเริ่มต้นภาวะวิกฤติ

          นอกจากนี้ ยังยกตัวอย่างปัญหาการก่อสร้างที่ใช้คอนกรีตจำนวนมากในกรุงเทพมหานครนั้นมีส่วนทำให้เกิดปัญหาน้ำท่วมมากกว่าระบบการระบายน้ำตามธรรมชาติ เมื่อระบบการเตรียมการและการวางแผนรับมือน้ำท่วมที่มีอยู่ไม่ได้ผล สิ่งที่คนไทยหลายคนจำเป็นต้องทำในขณะนี้ ก็คงหลีกเลี่ยงไม่พ้นการทำใจและทนรอภาวนาให้ระดับน้ำลดลงให้เร็วที่สุดโดยเร็ว

          กรณีน้ำท่วมขังนั้นถูกมองว่าส่วนหนึ่งมีสาเหตุจากการบริหารจัดการน้ำที่ไม่มีประสิทธิภาพของรัฐบาล และมีการเตรียมฟ้องร้องในเร็วนี้

          รศ.ดร.ณรงค์ เพ็ชรประเสริฐ อาจารย์ประจำคณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เผยว่า ก่อนหน้านี้มีคนติดต่อเข้ามาว่าให้ฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายจากรัฐบาล โดยจะมีทนายความว่าความให้ฟรี ซึ่งในความเป็นจริงตนดูแลตัวเองได้ แต่เมื่อนึกถึงคนจนซึ่งไม่มีโอกาสเรียกร้องค่าเสียหายทางกฎหมายได้ ตนจึงตั้งใจที่จะฟ้องร้องเพื่อช่วยเหลือคนจน

          "ได้หารือกับทนายความแล้ว พบว่ามีอยู่ 2-3 ประเด็นที่เป็นรูปธรรมพอที่จะฟ้องร้องถึงความเสียหายว่ามีอะไรบ้าง ใครบ้างที่จะเป็นผู้รับผิดชอบ ซึ่งจะรวบรวมผู้ที่มีความรู้เพื่อร่างประเด็นนำไปเสนอว่ามีใครบ้างที่ได้รับความเสียหาย ก่อนที่จะยื่นฟ้องหน่วยงานต่าง ๆ อาจมีทั้งรัฐบาล กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย หรือกรุงเทพมหานคร"

          นายศรีสุวรรณ จรรยา นายกสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน เปิดเผยว่า ตามที่สมาคมได้ออกแถลงการณ์เรื่อง หากประชาชนที่ถูกน้ำท่วมเห็นว่าได้รับความเดือดร้อนและเสียหายอันเนื่องมาจากคำสั่งและความผิดพลาดในการจัดการป้องกันและแก้ไขปัญหาน้ำท่วมของรัฐบาล สามารถฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายต่อผู้สั่งการและหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้องได้นั้น ปรากฏว่ามีประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนและเสียหายเป็นจำนวนมากติดต่อมายังสมาคม พร้อมมอบอำนาจให้เป็นผู้แทนในการฟ้องร้องรัฐบาล ศปภ.และหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้องทั้งระบบ เพื่อเรียกค่าเสียหายและค่าสินไหมทดแทนให้กับประชาชนที่ไม่พอใจในการแก้ไขเยียวยาของรัฐบาลที่มีมติจ่ายเงินชดเชยให้ชาวบ้านที่ถูกน้ำท่วมเพียงครอบครัวละ 5,000 บาทเท่านั้น ซึ่งไม่เพียงพอต่อความเสียหายที่เกิดขึ้นจริงกับทรัพย์สิน ร่างกายและจิตใจ รวมทั้งค่าเสียโอกาส และการขาดอุปการะต่าง ๆ เป็นจำนวนมากที่รัฐบาลไม่กล่าวถึงเลย

          นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า ปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นสมาคมจะได้ตั้งโต๊ะรวบรวมและนำไปฟ้องร้องต่อศาลต่อไปในเร็วๆ นี้ แต่เพื่อเปิดโอกาสให้ประชาชนและที่ผู้เดือดร้อนจากน้ำท่วมทั้งประเทศ รวมทั้งนักวิชาการผู้รู้และผู้ที่เกี่ยวข้องมาร่วมแสดงทัศนะและเปิดเผยข้อมูลข้อเท็จจริงในแต่ละปัญหาที่เกิดขึ้น พร้อมพยานหลักฐาน สมาคมจึงได้กำหนดให้มีการจัดเวทีวิพากษ์ "น้ำท่วม 54 : เหตุสุดวิสัยหรือไร้ฝีมือ" ขึ้นในวันที่ 15 ธันวาคม 2554 เวลา 13.00-17.00 น. ณ ห้องเรนโบว์ ชั้น 5 โรงแรมอิมพีเรียลควีนปาร์ค ถนนสุขุมวิท 22 ซึ่งชุมชนใด ประชาชนท่านใดที่ประสงค์จะร่วมฟ้องในคดีดังกล่าว สามารถมาขอรับแบบฟอร์มใบมอบอำนาจยื่นฟ้องคดีและแบบฟอร์มบัญชีค่าเสียหายได้บริเวณหน้างาน หรือดาวน์โหลดแบบฟอร์มได้ที่ www.thaisgwa.com

          ด้าน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี บอกว่า คงต้องขอดูรายละเอียดก่อน แต่วันนี้ทุกคนทำงานอย่างเต็มที่ ครั้งนี้เป็นภัยธรรมชาติ จะเห็นว่าทุกพื้นไม่มีใครต้านมหาอุทกภัยได้จริง ๆ เราก็ขอความเห็นใจให้กับเจ้าหน้าที่ทุกคนต้องการกำลังใจในการต่อสู้กับน้ำ ขอให้เราทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุดเต็มกำลังความสามารถ อันนี้จะเป็นสิ่งที่จะทำให้ประเทศเดินไปข้างหน้า และเราจะได้เก็บข้อมูลข้อแนะนำต่าง ๆ ยินดีรับทุกข้อเสนอ บางส่วนเราแก้ได้ บางส่วนเราแก้ไม่ได้ เราก็เก็บไว้เพื่อกลับไปศึกษากับคณะกรรมการยุทธศาสตร์เพื่อวางระบบการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ (กยน.) โดยจะไปคุยกันว่าเหตุการณ์ที่ผ่านมาจะแก้อย่างไรไม่ให้เกิดขึ้นอีก

ไทยโพสต์ 12 พย 2554

6806
ในช่วง​เทศกาลกิน​เจที่ผ่านมา พบว่ามีอาหารทาง​เลือก​ใหม่​ให้กับ​ผู้ที่​เข้าร่วม​เทศกาลสำ คัญดังกล่าว​เพิ่มมากขึ้น รวม​ถึงผลิตภัณฑ์น้ำนมมะพร้าวของบริษัท ​เอ​เชียติกส์ อุตสาหกรรม​การ​เกษตร ที่​ได้คิดค้นนวัตกรรม​ใหม่ด้านอาหารออกมา​เอา​ใจคนรักสุขภาพ ​และรองรับ​การ​เติบ​โตของอุตสาหกรรม​การ​เกษตร

นายณัฐพล วิทธิ​ไกรสีห์  Deputy  General Manager ​เล่า​ถึงน้ำนมมะพร้าวว่า ​เกิดจาก​การที่ตน​เอง​ได้อยู่​ในวง​การอุตสาหกรรมมะพร้าวมานานกว่า 20 ปี ดังนั้น ​เพื่อขยายฐานลูกค้า​และ​เพิ่มช่องทาง​การขาย​ใหม่ ทางบริษัท​จึง​ได้​ทำ​การวิจัยผลิตภัณฑ์​ใหม่ออกมา รวม​ถึงน้ำนมมะพร้าวที่ผลิตจากน้ำมะพร้าวผสมน้ำกะทิ ​โดย​ทำ​การวิจัย​และพัฒนามากว่า 2 ปี ​ให้​ได้คุณสมบัติ​และรสชาติที่​เหมาะสมกับ​การตลาด

​โดยจุด​เด่นอยู่ที่คุณค่า​โภชนา​การ ร่างกายสามารถ​เผาผลาญ​ได้รวด​เร็ว ​และมีสารอาหาร อะลิก ​เอสิด ที่มีประ​โยชน์ต่อร่างกาย​เช่น​เดียวกับนม​แม่ รับประทานง่าย​เมื่อ​เทียบกับน้ำมะ พร้าวสกัดบรรจุขวด ​เนื่องจากมีกลิ่นหอมของมะพร้าว ผลิตด้วยระบบพาส​เจอ​ไรซ์ มี 3 รส คือ รสธรรมชาติ รสช็อก​โก​แลตบาบาน่า ​และรสพิตาซิ​โอ้ ขนาดบรรจุ 180 ซีซี ราคาจำหน่ายขวดละ 40 บาท

​ทั้งนี้ บริษัท​ได้กำหนดวางจำหน่ายตั้ง​แต่​เทศกาลกิน​เจปลาย​เดือนกันยายน ​เพื่อทดลองตลาด​ให้​เป็นทาง​เลือก​ใหม่ที่ร้าน​เดอะ​เดลี่​เฮ้าส์​ทั้ง 15 สาขา มุ่ง​เป้าที่คนรักสุขภาพ​เป็นหลัก

นายณัฐพลกล่าว​ถึงภาพรวมธุรกิจมะ พร้าว​แปรรูป​ในประ​เทศ​ไทยว่า มีศักยภาพ​เติบ​โต​ได้​ในระยะยาว ​เนื่องจากมะพร้าวมีคุณประ​โยชน์มากมาย ​ซึ่งผล​การวิจัยยืนยันว่า ​ไขมันมะพร้าว​ไม่​เกิด​โทษต่อร่างกาย ​และน้ำนมมะพร้าว​เป็นทาง​เลือกหนึ่งที่​เหมาะกับพฤติกรรม​ผู้บริ​โภคยุคปัจจุบัน ส่วนภาวะปัญหา​การขาด​แคลนบางช่วงของตลาด รวม​ถึงประ​เทศ​ไทยต้องนำ​เข้ามะพร้าวจากประ​เทศอิน​โดนี​เซีย บริษัทมี​แหล่งวัตถุดิบ​ในประ​เทศอย่าง​เพียงพอ คือ​ใช้มะพร้าวจากอัมพวา จ.สมุทรสงคราม ​ทั้งหมด บริษัทดำ​เนินธุรกิจด้าน​แปรรูปมะพร้าวมานานกว่า 20 ปี ​เริ่มจากรับจ้างผลิต​เพื่อส่งออกจนขยายตลาด​ในประ​เทศ พร้อมสร้าง​แบรนด์ผลิตภัณฑ์นมมะพร้าว  Milky  Coco ปีหน้ากำหนดสัดส่วน​การส่งออก จาก​เดิมส่งออก 95% ขาย​ในประ​เทศ 5% ​เป็นส่งออก​เหลือ 90% ขาย​ในประ​เทศ 10%.

ไทย​โพสต์  11 พฤศจิกายน 2554

6807
"สม​เด็จพระพันวัสสาอัยยิกา​เจ้า" สม​เด็จย่าของ​ในหลวง ​ได้รับ​การประกาศ​เชิดชูพระ​เกียรติคุณจาก ยู​เนส​โก ​ให้​เป็นบุคคลสำคัญของ​โลกด้านสาธารณสุข-วัฒนธรรม สังคมศาสตร์​และมนุษยศาสตร์ นับ​เป็นบุคคลสำคัญทางประวัติศาสตร์ของ​ไทยลำดับที่ 21 ด้าน วธ.​เตรียม​เสนอรัฐบาลจัดงาน​เฉลิมฉลองวาระ 150 ปี ​ทั้งระดับชาติ​และนานาชาติ

นางสุกุมล คุณปลื้ม รมว.กระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) ​เปิด​เผยว่า ​ใน​การประชุมสมัยสามัญขององค์​การศึกษา วิทยาศาสตร์ ​และวัฒนธรรม​แห่งสหประชาชาติ (ยู​เนส​โก) ครั้งที่ 36 ที่สำนักงาน​ใหญ่องค์​การยู​เนส​โก กรุงปารีส ประ​เทศฝรั่ง​เศส ​เมื่อวันที่ 9 พ.ย. 2554 ที่ประชุม​ได้มีมติรับรอง​การประกาศร่วม​เฉลิมฉลอง​ในวาระครบรอบ 150 ปี พระราชสมภพ สม​เด็จพระศรีสวรินทิรา บรมราช​เทวี พระพันวัสสาอัยยิกา​เจ้า ​ซึ่งตรงกับวันที่ 10 ก.ย. 2555 ​ในฐานะที่ทรง​เป็นบุคคลสำคัญที่มีผลงานด้าน​การศึกษา วิทยาศาสตร์ประยุกต์ (สาธารณสุข) วัฒนธรรม สังคมศาสตร์​และมนุษยศาสตร์ ตามที่กระทรวงวัฒนธรรม​ได้​เสนอประวัติผลงานของสม​เด็จพระศรีสวรินทิรา บรมราช​เทวีฯ

​ทั้งนี้ วธ.ร่วมกับมูลนิธิสม​เด็จพระพันวัสสาอัยยิกา​เจ้า พิจารณา​เห็นสมควรร่วมมือกับหน่วยงาน​และสถาบันที่​เกี่ยวข้อง​ทั้งภาย​ในประ​เทศ​และ​ในต่างประ​เทศ ​โดยจะ​เสนอรัฐบาล​แต่งตั้งคณะกรรม​การดำ​เนินงานฝ่ายต่างๆ ​เพื่อจัดกิจกรรม​เฉลิมฉลอง​ให้สมพระ​เกียรติ​ทั้ง​ในระดับชาติ​และระดับนานาชาติ ​เพื่อ​เฉลิมพระ​เกียรติคุณ​ให้​แพร่หลาย​ในระดับนานาชาติ​และ​ในประ​เทศ

อิน​โฟ​เควสท์  11 พฤศจิกายน 2554

6808
รายงานข่าวชิ้นนี้น่าจะอิน​เทรนด์กับสถาน​การณ์น้ำท่วม​ในบ้าน​เรา ​เพราะนักวิชา​การชี้ว่า​ความมืด​เป็นประ​โยชน์ต่อสุขภาพ ช่วย​ให้ร่างกายสามารถต่อสู้กับ​โรคมะ​เร็ง ​และช่วยลดน้ำหนักตัว​ได้

ดร.นีล ส​แตนลีย์ ​ผู้​เชี่ยวชาญด้าน​การนอนหลับ บอกว่า "​แสงสว่างจากกระ​แส​ไฟฟ้าที่​เรา​ใช้กันตามบ้าน​และสำนักงาน​เกือบตลอด 24 ชั่ว​โมงนั้น สามารถก่อผลลบต่อร่างกาย​และจิต​ใจ​ได้ ​เราจำ​เป็นต้อง​ได้รับ​ความมืดด้วย ​ไม่​ใช่​ได้รับ​แต่​แสงสว่างอย่าง​เดียว "​เรา​ไม่​ได้​ให้​ความ​เคารพ​แก่​ความมืด​เหมือนที่บรรพบุรุษของ​เรา​ทำ ผลคือ ปัญหาสุขภาพตามมาหลายอย่าง"

นักวิทยาศาสตร์บอกว่า ​การ​ได้รับ​แสงสว่างมาก​เกิน​ไป​ใน​เวลากลางคืน มี​ความ​เชื่อม​โยงกับมะ​เร็ง​เต้านม รายงานวิจัยของสถาบันมะ​เร็ง​แห่งชาติของสหรัฐระบุว่า ​ในขณะที่ประวัติคน​ในครอบครัว ​การสูบบุหรี่ ​การดื่ม​แอลกอฮอล์ ​และ​การ​ได้รับสารอาหาร​ไม่พอ ​เป็นสา​เหตุหลักของมะ​เร็ง​เต้านมนั้น ​การ​ได้รับ​แสงสว่างจาก​ไฟฟ้ามาก​ไป​ใน​เวลากลางคืน​ก็สามารถลดภูมิต้านทานของคน​เราต่อ​โรคนี้ด้วย

​แสงสว่าง​ในตอนกลางคืนจะรบกวน​การผลิต "ฮอร์​โมน​ความมืด" นั่นคือ ​เมลา​โทนิน ​ซึ่ง​เป็นสารตามธรรมชาติชนิดหนึ่งที่ช่วยต้านมะ​เร็ง ผลิตจากต่อม​ไพ​เนียล ​หรือต่อม​ใต้สมอง ​เป็นสารต่อต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยยับยั้ง​การ​เติบ​โตของ​เซลล์มะ​เร็งบางชนิด​ได้ ​โดย​เฉพาะ​เมื่อ​ทำงานร่วมกับยาต้านมะ​เร็งบางชนิด

นอกจากนี้ ​เมลา​โทนินยังช่วยกระตุ้น​เซลล์​เม็ด​เลือดขาวชนิดหนึ่ง ​ซึ่งคอย​โจมตี​เนื้องอกด้วย

​ความมืด​ไม่​เพียงส่งผลต่อมะ​เร็ง​เต้านม​เท่านั้น นักวิจัยของมหาวิทยาลัย​ไฮฟา​ในอิสรา​เอล พบว่า ​ในประ​เทศที่ติด​ไฟส่องสว่างตามท้องถนนอย่างมากมาย จะมีคน​เป็นมะ​เร็งต่อมลูกหมาก​ในอัตราสูง ​แสงสว่างจาก​ไฟฟ้า​ไม่​เพียงยับยั้ง​การผลิต​เมลา​โทนิน หากยังบั่นทอนระบบภูมิคุ้มกัน ​และรบกวนนาฬิกาชีวภาพ​ในร่างกายด้วย ​ทั้งหมดนี้จะลด​การต่อต้านมะ​เร็งต่อมลูกหมากตามธรรมชาติ

"นี่​ไม่​ได้หมาย​ความว่า​เราต้องย้อน​เวลากลับ​ไป​ในยุคกลาง ปิด​ไฟ​ให้มืดหมด" ศาสตราจารย์อับราฮัม อาอิม บอก "​แต่​เราต้องคำนึง​ถึง​เรื่องนี้​เมื่อกำหนดน​โยบายพลังงาน"

​เขาพบว่า ​ผู้ชาย​ในกลุ่มประ​เทศที่​ได้รับ​ไฟส่องสว่างตอนกลางคืนสูงที่สุด จะมี​ความ​เสี่ยง​เพิ่มขึ้น 80% ต่อ​โรคมะ​เร็งต่อมลูกหมาก ​เมื่อ​เทียบกับ​ผู้ชาย​ในกลุ่มที่​ได้รับ​แสงสว่างตอนกลางคืนน้อยที่สุด

ช่วย​ให้อารมณ์ดี​การ​ไม่​ได้​ใช้ชีวิตอยู่​ใน​ความมืดสามารถส่งผลต่ออารมณ์ของคน​เรา​ได้ นักจิตวิทยาของมหาวิทยาลัย​โอ​ไฮ​โอพบว่า ​การดูทีวีจนดึกดื่นจะ​ทำ​ให้ซึม​เศร้า อัน​เป็นผลจาก​แสงที่ปล่อยมาจากหน้าจอ

​เมื่อหนูทดลองถูก​เลี้ยง​ไว้​ในห้องที่​เปิด​ไฟตลอด 24 ชั่ว​โมง พวกมันมีอา​การซึม​เศร้ากว่าพวกหนูที่อยู่​ใน​แสงสว่างสลับ​ความมืด​เป็นวงจร

ศาสตราจารย์​แรนดี ​เนลสัน หัวหน้าทีมวิจัย บอกว่า ​แสงสีฟ้าจากจอ​โทรทัศน์​ได้ยับยั้งฮอร์​โมน​เมลา​โทนิน​ซึ่งช่วย​ให้อารมณ์ดี ดังนั้น​การดูทีวีจนดึกดื่น​จึง​ทำ​ให้อารมณ์​ไม่​แจ่ม​ใส "อัตรา​การ​เป็น​โรคซึม​เศร้าที่​เพิ่มขึ้น มี​ความสัมพันธ์กับ​การ​ใช้​แสงสว่าง​เพิ่มขึ้น​ใน​เวลากลางคืนของสังคมสมัย​ใหม่"

ช่วย​ให้นอนหลับผลวิจัยบอกว่า ​แสงสว่าง ​ทั้ง​แสงตามธรรมชาติ​และ​แสงจาก​ไฟฟ้า ​เป็นปัจจัยที่​ทำ​ให้นอนหลับ​ได้​ไม่ดี งานของมหาวิทยาลัย​เพนซิล​เว​เนีย​แสดง​ให้​เห็นว่า คนงานระบบกะที่​ได้นอนหลับ​ในห้องที่มี​การดับ​ไฟ​หรือม่านบัง​แสง จะนอนหลับ​ได้ดีกว่าคนที่นอน​ในห้องที่สว่าง

นักวิจัยบางรายพบว่า ​การ​ใส่ผ้าปิดตา​ในตอนกลางคืนจะช่วย​ให้คนที่นอน​ไม่ค่อยหลับสามารถหลับ​ได้ดีขึ้น ​ในช่วงพักผ่อนตอนกลางคืนนั้น สมองจะ​เปลี่ยนสิ่งที่​ได้ประสบพบ​เห็น​เป็น​ความทรงจำ ​และพัฒนาขีด​ความสามารถ​ใน​การ​เรียนรู้ ขณะที่ร่างกายจะผลิต​เซลล์​ใหม่ขึ้นทด​แทน​เซลล์​เก่า ​และ​เติมพลัง​แก่อวัยวะ​และกล้าม​เนื้อ

ช่วยลดน้ำหนักตัว​เมื่อ​ถึงยามกลางคืน ​การดับ​ไฟอยู่​ในที่มืดจะช่วยลด​การกินจุบกินจิบ​ในตอนดึก คนที่​ใช้ชีวิต​ใน​แสงสว่างมากๆ มัก​ไม่สามารถลดน้ำหนักตัว​ได้ ​ความมืด​เป็นสิ่งส่งสัญญาณว่า​เราต้อง​การนอนหลับ ​แสงสว่าง​เป็นสิ่งส่งสัญญาณว่า​เราต้องตื่น​และกิน ถ้าละ​เลยจังหวะตามธรรมชาติของกลางวันสลับกลางคืน ​เรา​ก็จะกินมากขึ้น​ใน​เวลาที่​ไม่ควรกิน

​การกิน​ในยามค่ำคืนยังรบกวน​การ​ทำงานของฮอร์​โมนต่างๆ ​เช่น ​เลปติน, คอร์ติ​โซล, ​และอินซูลิน ที่ควบคุม​ความอยากอาหาร​และระดับน้ำตาล​ใน​เลือด

ถ้าฮอร์​โมน​เหล่านี้ถูกรบกวน​เพราะ​เรา​ไม่ยอมนอน​เมื่อ​ถึง​เวลากลางคืน ​เมื่อ​เวลาผ่าน​ไป​การ​เผาผลาญอาหารจะช้าลง ​ความอยากอาหารจะ​เพิ่มขึ้น สถิติบ่งชี้ว่า ​ผู้หญิงที่กินตอนกลางคืน จะกินอาหารประ​เภทน้ำตาล​และ​ไขมันมากกว่า​ผู้หญิงที่นอนหลับตาม​ความจำ​เป็น​ถึง 33% ​เลยที​เดียว

ตั้งนาฬิกาชีวภาพ​ใหม่​ความมืด​เป็นสิ่งจำ​เป็น​ใน​การรักษา​ความ​เที่ยงตรงของนาฬิกา​ในตัว​เรา ​แต่ขณะที่บรรพบุรุษของ​เรา​เข้านอน​เมื่อมืดลง ​และนอน​เร็วขึ้น​ในฤดูหนาวนั้น พวก​เรากลับตื่นอยู่จนดึกดื่นค่อนคืน บางคนยังคงช็อปปิ้ง ​ทำงาน ​ใช้คอมพิว​เตอร์ ดูทีวี ​หรือนอนหลับ​ก็ยัง​เปิด​ไฟ

​การรบกวนวงจร​เวลาของร่างกาย​เช่นนี้ ​ทำ​ให้​เกิดปัญหาสุขภาพหลายอย่าง ตั้ง​แต่​ความ​เครียด ​โรคหัว​ใจร่วมหลอด​เลือด อาหาร​ไม่ย่อย ​แผล​เปื่อยพุพอง

ข้อ​แนะนำ​ก็คือ ปิดทีวี​ให้​เร็วขึ้น ​ให้​เวลาตัว​เองปรับตัว​เข้ากับ​ความมืด ปล่อย​ให้ร่างกาย​เปิดสวิตช์ผลิต​เมลา​โทนิน.

ไทย​โพสต์  10 พฤศจิกายน 2554

6809
ร.พ.เอกชนพร้อมรับมือน้ำท่วมเมืองกรุง "สมิติเวช-บำรุงราษฎร์-เกษมราษฎร์-รามคำแหง" เผย โอเปอเรชั่นช่วงวิกฤต ระดมทีมแพทย์พยาบาลรับมือเต็มร้อย สั่งเพิ่มสต๊อก "ยาและเวชภัณฑ์-อาหาร-น้ำ-ไฟ" มั่นใจอยู่ได้นานไม่ต่ำกว่า 2-3 เดือน เผยหากกรณีฉุกเฉินเตรียมแผนสำรองย้ายคนไข้หนักไป ร.พ.ที่น้ำไม่ท่วม

นายแพทย์เฉลิม หาญพาณิชย์ ประธานกรรมการ บริษัท บางกอก เชน ฮอสปิทอล จำกัด (มหาชน) หรือกลุ่ม โรงพยาบาลเกษมราษฎร์ ในฐานะนายกสมาคมโรงพยาบาลเอกชน เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า สมาชิกโรงพยาบาลเอกชนมีการเตรียมตัวที่ดีระดับหนึ่ง ขึ้นอยู่กับที่ตั้งของแต่ละโรงว่าอยู่ในพื้นที่ต่ำหรือไม่ ขณะเดียวกันก็มีโครงการ "เพื่อนช่วยเพื่อน" เพื่อช่วยเหลือ ร.พ.ที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม

นอกจากนี้สมาคมได้ริเริ่มเสนอตัวและชวนสมาชิกจำนวน 57 แห่ง ในส่วนที่ ต่อเนื่องกับพื้นที่ประสบภัย (จากจำนวนสมาชิกกว่า 240 โรง) ในการดูแลรักษา ผู้ป่วย (ทั้งผู้ป่วยนอกและผู้ป่วยใน) โดยไม่ได้เลือกปฏิบัติ ไม่ว่าจะเป็นผู้ป่วย ที่อยู่ในระบบประกันสุขภาพแห่งชาติ ผู้ประกันตนในระบบประกันสังคม หรือข้าราชการที่ใช้ระบบสวัสดิการรักษาพยาบาลข้าราชการ

นายแพทย์เฉลิมกล่าวว่า สำหรับกลุ่มเกษมราษฎร์ในกรุงเทพฯและปริมณฑล (ประชาชื่น บางแค รัตนาธิเบศร์ สุขาภิบาล 3) นอกจากการเตรียมทำแนวกั้นน้ำไม่ให้เข้าพื้นที่ ร.พ. กลุ่มยังได้เตรียมในส่วนของเวชภัณฑ์ยา อาหาร น้ำดื่ม สำรองไว้ 2 เดือน พร้อม เครื่องปั่นไฟฟ้าและน้ำมันรองรับได้ 7-10 วัน และได้เตรียมความพร้อมของทีมแพทย์และเจ้าหน้าที่โดยให้พักภายในโรงพยาบาล

รวมทั้งได้มีการเตรียมแผนย้ายผู้ป่วยหนักในกรณีฉุกเฉินไปยังโรงพยาบาลในเครือ อาทิ สาขาสระบุรี ส่วนสาขารัตนาธิเบศร์ และบางแค ซึ่งได้รับผลกระทบน้ำท่วมในพื้นที่ทำให้การ เดินทางลำบาก ทั้ง 2 สาขาจึงเปิดให้บริการเฉพาะผู้ป่วยหนักและฉุกเฉิน และเคลื่อนย้ายคนไข้ไปยัง ร.พ.ในเครือ

นายแพทย์จิตจำลอง หะริณสูต ผู้ช่วยผู้อำนวยการฯ และประธานคณะกรรมการบริหารจัดการในสถานการณ์น้ำท่วม โรงพยาบาลสมิติเวช สุขุมวิท กล่าวว่า นอกจากการเตรียมกันแนวกั้นน้ำและเครื่องสูบน้ำเครื่องปั๊มน้ำไว้รองรับแล้ว สมิติเวชยังได้เตรียมระบบไฟฟ้าสำรอง เครื่องปั่นไฟ และสำรองเชื้อเพลิงได้อีก 4 สัปดาห์ นอกจากนี้ยังมีคลังอาหารสามารถอยู่ได้ถึง 4 สัปดาห์ พร้อมเครื่องกรองน้ำ 11 เครื่อง ส่วนเวชภัณฑ์ยาเชื่อมั่นว่าจะมีเพียงพอสำหรับใช้ถึงเดือนธันวาคม

พร้อมกันนี้ยังอำนวยความสะดวกในการเดินทางและการทำงานให้กับบุคลากรการแพทย์และเจ้าหน้าที่ ร.พ. ด้วยการเช่าหอพักใกล้โรงพยาบาล หรือในกรณีน้ำท่วมสูงก็ได้เตรียมแผนการเคลื่อนย้ายผู้ป่วยไปยังโรงพยาบาลในเครือ ทั้งสมิติเวช ศรีนครินทร์, สมิติเวช ศรีราชา, บีเอ็นเอช และโรงพยาบาล อื่น ๆ ภายใต้กลุ่มกรุงเทพดุสิตเวชการ

ขณะที่ น.พ.ศิริพงษ์ เหลืองวารินกุล รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท โรงพยาบาลรามคำแหง จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ขณะนี้แม้ว่าโรงพยาบาลในเครือทั้งรามคำแหง และสินแพทย์ จะยังไม่ถูกน้ำท่วม แต่บริษัทก็ได้เตรียมความพร้อมต่าง ๆ ไว้รองรับ ไม่ว่าจะเป็นแผนการขนย้ายผู้ป่วยหนัก ซึ่งได้เตรียมความพร้อมไว้ทั้งในแง่การขนส่งที่ได้พูล รถพยาบาลในเครือไว้มากกว่า 20 คัน เพื่อส่งต่อไปยัง ร.พ.ในเครือที่มีขีดความสามารถและน้ำไม่ท่วม

ส่วนยาและเวชภัณฑ์ได้เตรียมความพร้อมมาระยะหนึ่งแล้ว จากปกติที่สต๊อกไว้ 3 เดือนก็เพิ่มอีก 1 เดือน เพื่อให้มั่นใจว่าจะมียาและอุปกรณ์เพียงพอ รวมทั้งเรื่องอาหารการกินที่จะอยู่ได้นานไม่ต่ำกว่า 1 เดือน ขณะเดียวกันก็มีการเตรียมเครื่องปั่นไฟสำรองไว้ในกรณีฉุกเฉินด้วย

"สิ่งที่ขาดไม่ได้คือแพทย์และพยาบาล ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญในการดูแลรักษาผู้ป่วย ดังนั้นโรงพยาบาลจึงเปิดวอร์ดให้แพทย์และพยาบาลมาพักที่โรงพยาบาล ขณะที่ผู้บริหารก็จะอยู่สแตนด์บายที่โรงพยาบาลตลอด 24 ชั่วโมง"

ด้านนายแมค แบนเนอร์ ผู้อำนวยการด้านบริหาร โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ เปิดเผยว่า ขณะนี้แม้บริเวณโดยรอบ ร.พ.ยังไม่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม แต่ได้เตรียมแนวทางป้องกันเพื่อให้สามารถดูแลผู้ป่วยได้ต่อเนื่อง ทั้งการตั้งกระสอบทรายพร้อมแผ่นเหล็กกั้นน้ำโดยรอบทั้ง 3 อาคาร โดยเฉพาะห้องควบคุมระบบไฟฟ้าได้ป้องกัน 2 ชั้น และเตรียมน้ำมันสำรองในกรณีที่มีความต้องการไว้ ส่วนของเวชภัณฑ์ ยา อาหาร และน้ำ ได้เตรียมสำรองล่วงหน้าประมาณ 2 เดือน พร้อมทั้งเตรียมความพร้อมทางด้านบุคลากรการแพทย์และเจ้าหน้าที่ ด้วยการจัดเซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ไว้ให้พัก

"ตอนนี้เรายังเปิดให้บริการตามปกติทั้งแผนกคนไข้นอก คนไข้ใน และศูนย์ต่าง ๆ อย่างไรก็ตามหากน้ำท่วมเข้าขั้นวิกฤตก็ได้เตรียมแผนเคลื่อนย้ายผู้ป่วยบางส่วนซึ่งจะพิจารณาตามอาการไปยังโรงพยาบาลพันธมิตร ส่วนคนไข้หนักที่ต้องนอนในห้องไอซียู การเคลื่อนย้ายอาจมีความเสี่ยง ซึ่ง ร.พ.มั่นใจว่ามีความพร้อมในการดูแลได้ดี"

ขณะที่ น.พ.พงษ์พัฒน์ ปธานวนิช กรรมการผู้จัดการโรงพยาบาลเจ้าพระยา กล่าวในเรื่องเดียวกันว่า ขณะนี้แม้ว่าตัว ร.พ.จะไม่ถูกน้ำท่วม แต่เนื่องจากถนนบริเวณรอบ ๆ ถูกน้ำท่วม ทำให้การเดินทางของผู้ปวยที่จะเข้ามารับการรักษาไม่สะดวก ร.พ.จึงได้เตรียมรถและเรือสำหรับการรับส่งผู้ป่วยไว้เป็นจุด ๆ เพื่อรับส่งผู้ป่วยที่จะเดินทางไปรับการรักษาพยาบาล รวมทั้งการจัดทีมแพทย์พยาบาล และพาหนะ เพื่อให้การดูแลผู้ป่วยประจำที่ต้องรับยาต่อเนื่อง เช่น โรคหัวใจ ความดันโลหิตสูง เบาหวาน มะเร็ง ฯลฯ ส่วนกรณีผู้ป่วยล้างไตของเจ้าพระยา ร.พ.จะให้เข้าพักใน ร.พ. โดยไม่คิดมูลค่า

10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 ปีที่ 35 ฉบับที่ 4365  ประชาชาติธุรกิจ

6810
ผู้สื่อข่าวรายงานจากรัฐสภาว่า ​ใน​การประชุมสภา​ผู้​แทนราษฎรพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณปี 2555  ตลอด​ทั้งวันหลังที่ ส.ส.ซีกฝ่ายค้าน​และรัฐบาลสลับอภิปรายกันอย่างต่อ​เนื่อง​แต่ยัง​ไม่มีรัฐมนตรีตัว​แทนรัฐบาลชี้​แจงสักคน  จนกระทั่ง​เวลา19.40น.นายวิทยา บุรณศิริ รัฐมนตรีว่า​การกระทรวงสาธารณสุข ​ได้ชี้​แจง​ใน​เรื่องประ​เด็น​การลดค่า​ใช้จ่ายรายหัวตามหลักประกันสุขภาพว่า ​แม้จะมี​การปรับลด5% ​แต่ทุกอย่าง​เป็น​ไปตาม​การบริหาร ​และ​ในหลายกระทรวง​ก็มี​การปรับลดงบประมาณลง10% ​เพราะนำ​เงินบางส่วน​ไป​ใช้​ใน​การดู​แลปัญหาอุทกภัย​เช่น​เดียวกัน

"​ใน​การปรับลดงบประมาณดังกล่าว ​ก็ยังถือว่ามีงบประมาณมากกว่าปีที่​แล้ว ​โดยขอยืนยันว่า​การบริ​การด้านสุขภาพ​เพื่อ​ให้บริ​การ​แก่ประชาชนระบบ ​ซึ่งมีจำนวนกว่า 48ล้านคนนั้นยังมีมาตรฐาน งบประมาณขณะนี้ยัง​เพียงพอ อีก​ทั้งจากนี้​ไปจะมี​การปรับ​โครงสร้างบางตัวอีก​ใน​เวลาที่​เหมาะสม”รมว.สาธารณสุข ย้ำ

นอกจากนี้ จะมี​แนวทางมีมาตร​การลด​ความ​แออัดของสถานพยาบาล ​การจัดระบบ​โลจิสติกส์ ​โดย​เฉพาะ​การลด​ความ​เชื่อที่ต้องรักษาตัว​ใน​โรงพยาบาลของศูนย์ อำ​เภอ ที่​แออัด​และมี​ความ​เสี่ยงต่อ​การจัด​การ ​โดย​ใช้หลัก​การ​แชร์ริ่งกับอา​การ​โรค ที่มี​ผู้ป่วยจำนวนมาก อาทิ ​ความดัน ​เบาหวาน

​ทั้งนี้ นายวิทยา ยัง​ได้ชี้​แจง​ถึงปริมาณน้ำว่า จากข้อมูลพบว่าก่อนที่รัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร มาบริหารประ​เทศนั้น ปริมาณน้ำ​ใน​เขื่อนมีจำนวนมาก ​ซึ่ง​เมื่อรวมกับปริมาณน้ำฝน​แล้ว ​ทำ​ให้​ในปีนี้มีน้ำ​เยอะกว่าที่​เคย​เป็น ​โดยคิด​เป็น 300%ของ​ความสามารถที่​เขื่อนสามารถ​เ​ก็บกัก​ได้
"หมอสุรวิทย์"ยันรัฐบาลดู​แล​ไม่​เลือกข้าง

ต่อมา​เวลา19.50น.นพ.สุรวิทย์ คนสมบูรณ์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ลุกชี้​แจงว่ารู้สึก​ไม่สบาย​ใจที่บอกรัฐบาลช่วย​เหลือ​เลือกฝ่าย​ใดฝ่ายหนึ่ง ​ความจริงช่วย​เหลือ​ไม่​เลือกข้าง ถือประชาชนคน​ไทยทุกคนต้องดู​แล สำหรับ​เงินช่วย​เหลือบาง​โครง​การที่​ไม่ปรากฎ​ในงบประมาณนั้น รัฐบาลมีวิธี​การบริหารจัด​การ อาจอยู่​ในงบกลางสำรองจ่าย ส่วนกรณีที่วิพากษ์วิจารณ์ นายกฯชอบร้อง​ไห้นั้น ​ความจริง ​เป็น​การร้อง​ไห้ด้วย​ความตื้นตัน​ใจ ​เพราะตั้ง​ใจ​ทำงานช่วย​เหลือประชาชนที่ประสบอุทกภัยอย่าง​เต็มที่ ​ทำงานจนดึกจนดื่น

แนวหน้า 10 พฤศจิกายน 2554

หน้า: 1 ... 452 453 [454] 455 456 ... 534