แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Topics - admin

หน้า: [1]
1
ข่าวสมาพันธ์ / เว็บโดนแฮก
« เมื่อ: 16 ตุลาคม 2011, 21:20:13 »
แก้ไขแล้วครับ ขอบคุณพี่ประดิษฐ์ที่ช่วยแจ้ง
หากใครพบเห็นความผิดปกติของเว็บ รบกวนช่วยแจ้งมาที่ webmaster@thaihospital.org ให้ด้วยนะครับ
ขอบคุณครับ  :)

2
ข่าว รพศ./รพท. / ยินดีต้อนรับ om2196
« เมื่อ: 26 มกราคม 2010, 00:35:00 »
ได้รับ e-mial แล้วครับ ยินดีต้อนรับเข้าสู่เว็บสมาพันธ์  :)

3
ข่าวเกี่ยวกับวงการแพทย์ / สมัครสมาชิก
« เมื่อ: 27 พฤศจิกายน 2009, 14:58:29 »
 :) ตอนนี้ เปิดให้สมัครสมาชิกได้อิสระครับ  :)

แต่เพื่อให้ identify ได้ว่าสมาชิกเป็นใคร หลังจากสมัครสมาชิกแล้ว กรุณา ส่งอีเมล์มายัง

webmaster@thaihospital.org

พร้อมกับ แนะนำตัว, สถานที่ปฏิบัติงาน และ log-in มาด้วยครับ

หรือจะส่งข้อความส่วนตัวมายัง admin ก็ได้ครับ

4
แถลงการณ์สมาพันธ์แพทย์รพศ/รพท กรณีงบไทยเข้มแข็งของกระทรวงสาธารณสุข (9 ตค.52)

5
หนังสือจากสมาพันธ์ฯ ถึงปลัดกระทรวงฯ (1 กค.52)

6
หนังสือข้อเสนองบประมาณสำหรับงานสุขภาพถ้วนหน้า ประจำปีงบประมาณ 2553 (30 เมย.52)

7
สรุปผลการร่วมประชุมกับคณะกรรมการพิจารณาการธำรงรักษาและการสร้างขวัญกำลังใจบุคลากรด้านการแพทย์และสาธารณสุข ของกระทรวงสาธารณสุข

8
ข่าว รพศ./รพท. / สมาชิกใหม่
« เมื่อ: 18 พฤศจิกายน 2009, 16:55:28 »
คือตอนนี้ ผมไม่ทราบว่าใครเป็นใคร หลายคนที่สมัครสมาชิกเข้ามา

จริงๆ คือผมต้องการ identify ได้ว่าใครเป็นใคร

เอาอย่างนี้ดีไหมครับ ถ้าสมัครสมาชิกมาแล้ว ให้อีเมล์ถึงผมหน่อยว่า
ชื่ออะไร ทำงานอยู่ที่ไหน มีรายละเอียดอะไรบ้าง จะได้รู้จักกัน

ส่งมาที่ webmaster@thaihospital.org

9
สธ.ชี้การจ่ายค่าตอบแทนบุคลากรที่จะเริ่มกค.52 ใช้เพียงชั่วคราว 15 เดือน และเตรียมปรับใหม่ทั้งระบบครอบคลุมทุกสาขาวิชาชีพ เริ่มใช้ตค.53

 โฆษกกระทรวงสาธารณสุข ชี้การจ่ายค่าตอบแทนบุคลากรที่จะเริ่มใช้ กค. 2552 เป็นข้อสรุปร่วมกันของทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง จ่ายทั้งตามอายุการทำงานและตามภาระงาน เพื่อสร้างขวัญกำลังใจ ดึงบุคลากรให้อยู่ในระบบนานขึ้น แก้ไขปัญหาการขาดแคลนบุคลากร โดยจะใช้ชั่วคราวแค่ 15 เดือน และจะปรับใหม่ทั้งระบบ เพื่อให้ครอบคลุมทุกกลุ่มบุคลากร ทั้งบริหาร บริการ และวิชาการ ให้มีผลใช้ทันในตุลาคมปีหน้า

จากกรณี พญ.เชิดชู อริยศรีวัฒนา ประธานสมาพันธ์ผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมแห่งประเทศไทย และที่ปรึกษาสมาพันธ์แพทย์โรงพยาบาลศูนย์/โรงพยาบาลทั่วไป กล่าวถึงการจ่ายค่าตอบแทนสำหรับโรงพยาบาลศูนย์ โรงพยาบาลทั่วไปว่า เป็นการบริหารงานที่ไม่เป็นธรรม โดยให้ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข โฆษกกระทรวง และยังมีนพ.เกรียงศักดิ์ วัชระนุกูลเกียรติ นายแพทย์อารักษ์ วงศ์วรชาติ ซึ่งเป็นแพทย์โรงพยาบาลชุมชน และประธานชมรมแพทย์ชนทบ เป็นผู้มีส่วนได้ส่วนเสียโดยตรง เป็นตัวแทนในการเจรจา โดยค่าตอบแทนนี้จะให้เฉพาะโรงพยาบาลในสังกัดสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข เท่านั้น ส่วนโรงพยาบาลสังกัดกรมอื่นๆ ต้องไปเรียกร้องเอาเอง พร้อมระบุว่าไม่พยายามแก้ไขปัญหาขาดแคลนบุคลากรนั้น

ความคืบหน้าใน เรื่องดังกล่าว นายแพทย์สุพรรณ ศรีธรรมมา โฆษกกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ว่า เรื่องดังกล่าวเป็นความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน โดยผู้ที่ได้รับมอบหมายให้เจรจากับตัวแทนสหวิชาชีพจากโรงพยาบาลศูนย์และโรง พยาบาลทั่วไป เมื่อวันที่ 3 กรกฎาคมที่ผ่านมา คือตนและนายแพทย์ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุขเท่านั้น ส่วนแพทย์ชนบททั้ง 2 ท่านนั้น เป็นเพียงผู้เข้าร่วมประชุมกับหัวหน้าพยาบาล/รองผู้อำนวยการฝ่ายการพยาบาล โรงพยาบาลศูนย์และโรงพยาบาลทั่วไป และผู้แทนพยาบาลโรงพยาบาลชุมชนเท่านั้น ไม่ได้เป็นตัวแทนการเจรจาของกระทรวงสาธารณสุขแต่อย่างใด ผลการประชุมได้ข้อสรุป และปลัดกระทรวงสาธารณสุขได้เห็นชอบในหลักการแล้ว โดยจะประกาศหลักเกณฑ์การจ่ายค่าตอบแทนสำหรับโรงพยาบาลศูนย์ โรงพยาบาลทั่วไป และโรงพยาบาลชุมชนสังกัดสำนักงานปลัดกระทรวง เริ่มใช้ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค. 2552 เป็นต้นไป

หลักเกณฑ์ในการจ่ายค่าตอบแทนดังกล่าว พิจารณาจ่ายให้ 2 ส่วน ได้แก่ จ่ายตามอายุการปฏิบัติงาน และจ่ายตามภาระงาน

การจ่ายตามอายุการปฏิบัติงาน ได้แก่

แพทย์/ทันตแพทย์
ทำงานปีที่ 1 – 3 เดือนละ 10,000 บาท
ปีที่ 4 ขึ้นไป 15,000 บาท

เภสัชกร
ปีที่ 1 – 3 เดือนละ 3,000 บาท
ปีที่ 4 ขึ้นไป 4,500 บาท

พยาบาลวิชาชีพและสาขาอื่น ๆ ระดับปริญญาตรี
รับเท่ากันคือปีที่ 1 – 3 เดือนละ 1,200 บาท
ปีที่ 4 ขึ้นไป 1,800 บาท

ส่วนบุคลากรต่ำกว่าปริญญาตรี
ปีที่ 1-3 เดือนละ 600 บาท
ปีที่ 4 ขึ้นไป 900 บาท

ส่วนการจ่ายตามภาระงาน จะพิจารณาที่ความยุ่งยากซับซ้อนแตกต่างกัน ขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างเร่งพิจารณาให้เสร็จสิ้นโดยเร็ว

และมีผลบังคับใช้ย้อนหลังตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2552 เช่นกัน

ทั้ง นี้ ในส่วนของโรงพยาบาลสังกัดกรมวิชาการต่าง ๆ ในสังกัดของกระทรวงสาธารณสุขซึ่งเป็นนิติบุคคล สามารถนำหลักเกณฑ์ตามประกาศดังกล่าวนี้ไปใช้เป็นแนวทางจัดทำหลักเกณฑ์ของ หน่วยงานได้ ตามระเบียบเงินบำรุงของกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งอธิบดีเป็นผู้มีอำนาจตัดสินใจ

นายแพทย์สุพรรณกล่าวต่อว่า อัตราค่าตอบแทนดังกล่าวนี้ จะใช้ชั่วคราวเพียง 15 เดือนจนถึงวันที่ 30 กันยายน 2553 หลังจากนั้นกระทรวงสาธารณสุขจะใช้แนวทางใหม่ ซึ่งจะจ่ายค่าตอบแทนครอบคลุมบุคลากรทุกคน ทั้งกลุ่มบริการ กลุ่มบริหาร และกลุ่มวิชาการ ที่ทำงานในส่วนกลาง ศูนย์วิชาการต่างๆ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด สำนักงานสาธารณสุขอำเภอ และสถานีอนามัย โดยจะยึดตามภาระงาน ความขาดแคลนบุคลากร ความยุ่งยากของงาน พื้นที่ในการทำงาน เป็นหลักในการพิจารณา เพื่อรักษาความสามัคคีในการทำงานร่วมกันของทีมสุขภาพในโรงพยาบาล และเป็นธรรมที่สุด

ที่มา : http://www.moph.go.th/ops/iprg/iprg_new/include/admin_hotnew/show_hotnew.php?idHot_new=26519
วันที่ 10 กรกฎาคม  2552

10
ข่าวจาก ASTV ผู้จัดการออนไลน์ 1 กค.52


สธ.หารือเพิ่มค่าตอบแทนบุคลกรทางการแพทย์โรงพยาบาลศูนย์/โรง พยาบาลทั่วไปเคลียร์ ยกเว้นพยาบาลวิชาชีพ ยังไม่ยอมขอเพิ่มมากกว่าโรงพยาบาลชุมชน เตรียมนัดหารืออีกรอบสรุปให้จบ ก่อนประกาศมีผลบังคับใช้พร้อมกัน


        เมื่อเวลา 16.30 น.วันที่ 1 ก.ค. นายพิเชฐ พัฒนโชติ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวภายหลังหารือร่วมกับกลุ่มแพทย์และพยาบาลที่มาชุมนุมเรียกร้องขอเพิ่ม ค่าตอบแทน ว่า บุคลากรทุกสาขาวิชาชีพในโรงพยาบาลศูนย์/ทั่วไป ยอมรับตามข้อสรุปของ สธ.ที่ นพ.ปราชญ์ บุณยวงค์วิโรจน์ ลงนามเห็นชอบในหลักการเมื่อวันที่ 30 มิ.ย.2552 โดยแบ่งเป็น 2 กลุ่ม คือ 1.กลุ่ม ที่ทำงาน 1-3 ปี แพทย์/ทันตแพทย์ รับค่าตอบแทน 10,000 บาทต่อเดือน เภสัชกร 3,000 บาทต่อเดือน สาขาปริญญาตรี เช่น เทคนิคการแพทย์ สาธารณสุข 1,200 บาทต่อเดือน และสาขาต่ำกว่าปริญญาตรีใน 600 บาทต่อเดือน และ 2.กลุ่มที่ทำงาน 4 ปีขึ้นไป แพทย์/ทันตแพทย์ รับค่าตอบแทน 15,000 บาทต่อเดือน เภสัชกร 4,500 บาทต่อเดือน สาขาปริญญาตรี เช่น เทคนิคการแพทย์ สาธารณสุข 1,800 บาทต่อเดือน และสาขาต่ำกว่าปริญญาตรีใน 900 บาทต่อเดือน
      
       "ทุกกลุ่ม วิชาชีพยอมรับตามข้อสรุปของ สธ. ซึ่งค่าตอบแทบที่จะได้รับมีอัตราเดียวเทียบเท่ากับอัตราต่ำสุด ที่จ่ายให้กับบุคลากรวิชาชีพในโรงพยาบาลชุมชน ยกเว้นกลุ่มพยาบาลวิชาชีพที่ยังต้องการให้ สธ.จ่ายค่าตอบแทนให้มากกว่าที่จ่ายให้พยาบาลวิชาชีพในโรงพยาบาลชุมชน โดย สธ.สรุปให้จ่ายให้ในอัตรา 1,200 บาท หรือ 2,000 บาท และ 1,800 บาท หรือ 3,000 บาท แต่พยาบาลวิชาชีพบางกลุ่มต้องการให้เพิ่มเป็น 4,000 และ 6,000 บาททำให้ สธ.ต้องทบทวนใหม่"นายพิเชฐ กล่าว
      
       นาย พิเชฐ กล่าวต่อว่า สธ.จำเป็นต้องหารือร่วมกับพยาบาลวิชาชีพในทุกกลุ่ม รวมถึงพยาบาลในโรงพยาบาลชุมชนอีกครั้งหนึ่ง เพราะหากเพิ่มให้พยาบาลโรงพยาบาลศูนย์/ทั่วไป พยาบาลใน รพ.ชุมชนก็จะมาเรียกร้องขอเพิ่มอีก ปัญหาก็จะไม่จบ ซึ่งหากได้ข้อสรุปในส่วนของพยาบาลแล้วจึงจะสามารถออกเป็นประกาศ สธ.เรื่องค่าตอบแทนสำหรับโรงพยาบาลศูนย์/ทั่วไปได้ เนื่องจากประกาศต้องออกพร้อมกันทุกสาขาวิชาชีพ แต่จะมีผลย้อนหลังให้ถึงวันที่ 1 ก.ค.2552
      
       นายวิทยา แก้วภราดัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า สำหรับเงินค่าตอบแทนบุคลากรทางการแพทย์ของโรงพยาบาลศูนย์และโรงพยาบาลทั่วไป ให้ใช้เงินบำรุงของโรงพยาบาลโดยให้คณะทำงานผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุขใน แต่ละพื้นที่เป็นผู้ดำเนินการเกลี่ยเงินบำรุงโรงพยาบาลในแต่ละเขตพื้นที่จัด สรรไปยังโรงพยาบาลต่างในพื้นที่ดูแล เพื่อไม่ให้กระทบกับงบประมาณของภาครัฐ ซึ่งเงินบำรุงของโรงพยาบาลแต่ละแห่งถือว่ามีเพียงพอในการจ่ายค่าตอบแทนให้ กับบุคลากรทางการแพทย์ ส่วนที่เกรงว่าหากนำเงินบำรุงมาจ่ายค่าตอบแทนจะส่งผลกระทบกับงบการก่อสร้าง พัฒนาและปรับปรุงโรงพยาบาลนั้น รัฐบาลได้เตรียมงบประมาณจาก พ.ร.ก.เงินกู้ 4 แสนล้านบาทในโครงการไทยเข็มแข็ง ซึ่งสธ.ได้ของบประมาณ 8 หมื่นล้านบาท ในจำนวนนี้มีงบในการก่อสร้างและปรับปรุงอาคารที่สามารถนำมาชดเชยได้อยู่แล้ว
      
       "ก่อน หน้านี้ ได้หารือทบทวนค่าตอบแทนบุลคากรทางการแพทย์จากโรงพยาบาลศูนย์/โรงพยาบาลทั่ว ไป 3 ครั้ง แต่ไม่ได้ข้อสรุป คุยแต่ละครั้งข้อสรุปยังไม่ตรงกัน เพราะกลุ่มยังไม่เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ให้ไปรวมกลุ่มให้เป็นเอกภาพก่อนค่อยนัดหารือกันอีกครั้งให้จบไปเลย โดยได้มอบหมายให้ นพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานคณะกรรมการทบทวนค่าตอบแทน" นายวิทยา กล่าว

11
ข้อมูลจาก www.matichon.co.th หนังสือพิมพ์มติชน
ประจำวันพฤหัสบดีที่ 2 กรกฎาคม พ.ศ. 2552 ปีที่ 32 ฉบับที่ 11436 หน้า10


เมื่อ เวลา 08.00 น. วันที่ 1 กรกฎาคม ที่กระทรวงสาธารณสุข พญ.เชิดชู อริยศรีวัฒนา ประธานสมาพันธ์ผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมแห่งประเทศไทย พร้อมแพทย์และพยาบาลจากโรงพยาบาลศูนย์การแพทย์/โรงพยาบาลทั่วไป กว่า 300 คน ได้เรียกร้องขอความเป็นธรรม กรณีขอเพิ่มค่าตอบแทนเบี้ยเลี้ยงเหมาจ่ายแก่บุคลากรทางการแพทย์ในโรงพยาบาล ศูนย์/โรงพยาบาลทั่วไป


โดย พญ.เชิดชูกล่าวว่า มาทวงคำตอบจากนายวิทยา แก้วภราดัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งได้เรียกร้องให้มีคำสั่งจ่ายเบี้ยเลี้ยงแก่แพทย์และบุคลากรทางการแพทย์ ในโรงพยาบาลศูนย์/โรงพยาบาลทั่วไป ในอัตราที่เท่ากับโรงพยาบาลชุมชน โดยให้มีผลทันทีในวันที่ 1 กรกฎาคม 2552 แต่เมื่อเลยกำหนดวันที่ได้หารือกันก่อนหน้านี้แล้วแต่ไม่มีการดำเนินการใดๆ จึงต้องรวมตัวกันเพื่อให้ได้รับความเป็นธรรม ซึ่งค่าตอบแทนเบี้ยเลี้ยงสามารถนำเงินบำรุงของโรงพยาบาลมาจ่ายให้บุคลกรทั้ง แพทย์และพยาบาลได้

พร้อมกันนี้ขอให้เพิ่มค่าตอบแทนการปฏิบัติ ราชการในเวลาวิกาลและนอกเวลาราชการ ให้มีอัตราเท่ากับของราชการท้องถิ่นกรุงเทพมหานคร และให้ปรับอัตราเงินเดือนของบุคลากรทางการแพทย์ ตาม พ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ.2551 ที่กำหนดให้มีการพิจารณาจ่ายค่าตอบแทนแพทย์ตามภาระงานที่ต้องรับผิดชอบ

"แพทย์ ในโรงพยาบาลศูนย์ โรงพยาบาลทั่วไป ถือว่ามีภาระงานหนัก ทุกคนต้องอดทนทำงาน สัปดาห์ละ 120 ชั่วโมง ทั้งกลางวันกลางคืน ได้เงินเดือนน้อย ยิ่ง สธ.เพิ่มค่าตอบแทนเบี้ยเลี้ยงให้กับโรงพยาบาลชุมชน ยิ่งเพิ่มภาระงานเป็น 3 เท่า แต่ไม่ได้ค่าตอบแทนที่เป็นธรรมคิดแต่จะบังคับให้ทำงาน ที่ผ่านมาได้มีการเรียกร้องผ่าน นพ.ปราชญ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข และรัฐมนตรีสาธารณสุขแล้ว แต่กลับไม่ดำเนินการอะไรเลย" พญ.เชิดชูกล่าว และว่า ในอนาคต สธ.จะต้องปฏิรูประบบบริการทางการแพทย์และสาธารณสุข เพื่อให้ประชาชนมีความปลอดภัยในการตรวจรักษาสุขภาพ เนื่องจากมีผู้ป่วยเข้ามารับบริการเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ขณะที่แพทย์ในระบบราชการลดลงและเกิดการขาดแคลนแพทย์ ซึ่งจะต้องมีการจัดสรรบุคลากรผู้เชี่ยวชาญในแต่ละสาขาให้มีความเหมาะสม รวมทั้งให้ประชาชนที่มีความสามารถจ่ายได้ ร่วมจ่ายค่ารักษาพยาบาล

นาย วิทยากล่าวว่า ได้รับเรื่องร้องเรียนจากกลุ่มแพทย์และพยาบาลที่มาเรียกร้องขอเพิ่มค่าตอบ แทนแล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างการหารือร่วมกัน ในส่วนของข้อเรียกร้องที่ต้องการให้มีการบรรจุแพทย์และพยาบาลที่เป็นลูกจ้าง ของโรงพยาบาลให้เป็นข้าราชการนั้น สธ.ได้เสนอขออัตราบรรจุไปยังสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (กพ.) แล้ว 11,000 อัตรา ซึ่งนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้มีการกำชับไปยัง ก.พ.ให้พิจารณาเรื่องนี้เป็นพิเศษ เนื่องจากแพทย์และพยาบาลเป็นสาขาที่มีความขาดแคลน

"ปัจจุบันแพทย์ และพยาบาลที่เป็นลูกจ้างโรงพยาบาล โรงพยาบาลใช้งบประมาณจากรายได้ของโรงพยาบาลในการจ่ายค่าตอบแทน ซึ่งหาก ก.พ.อนุมัติอัตราบรรจุเป็นข้าราชการตามที่ สธ.เสนอ ก็จะไม่ไปสร้างภาระงบประมาณของภาครัฐ เพราะโรงพยาบาลสามารถเลี้ยงตัวเองได้ แต่ในบางโรงพยาบาลที่มีรายได้ไม่เพียงพอ ก็จะให้โรงพยาบาลที่อยู่ในเขตเดียวกันเกลี่ยรายได้กันเอง" นายวิทยากล่าว

หน้า: [1]