แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Topics - pradit

หน้า: 1 2 3 [4] 5 6 ... 17
46

ข้อเสนอเกณฑ์การจ่ายค่าตอบแทนตามความขาดแคลนบุคลากร
ในโรงพยาบาลศูนย์ / โรงพยาบาลทั่วไป

ข้อที่ 1.  จ่ายค่าตอบแทนให้บุคลากรที่เป็นข้าราชการและลูกจ้างประจำจากเงินงบประมาณหรือ
  เงินบำรุงสถานบริการ

ข้อที่2.  จ่ายค่าตอบแทนให้ลูกจ้างชั่วคราวที่มีชื่อตำแหน่งเดียวกับข้าราชการจากเงินบำรุงสถาน
 บริการ

ข้อที่3.   แบ่งระดับความขาดแคลนในแต่ละหน่วยงานเป็น 3 ระดับ
      ระดับที่ 1    ขาดแคลนตั้งแต่     ร้อยละ 25 ลงไป
      ระดับที่ 2   ขาดแคลนมากกว่า  ร้อยละ 25 แต่น้อยกว่าร้อยละ 50
      ระดับที่ 3   ขาดแคลนตั้งแต่      ร้อยละ 50 ขึ้นไป

ข้อที่ 4.   ค่าตอบแทนตามความขาดแคลน  ระดับที่ 1 ให้จ่ายอัตราต่อเดือนตามนี้
      แพทย์      10,000   บาท
      ทันตแพทย์        5,000   บาท
      เภสัชกร        3,000   บาท
      พยาบาลวิชาชีพ     2,000   บาท
      ปริญญาตรีสาขาอื่น     2,000   บาท
      ต่ำกว่าปริญญาตรี        900   บาท

ข้อที่ 5.  ค่าตอบแทนตามความขาดแคลน  ระดับที่ 2 ให้เพิ่มจากระดับที่ 1 อีกร้อยละ 50

ข้อที่ 6.  ค่าตอบแทนตามความขาดแคลน  ระดับที่ 3 ให้เพิ่มจากระดับที่ 1 อีกร้อยละ 100

ข้อที่7.   ค่าตอบแทนตามความขาดแคลนไม่จ่ายเพิ่มกรณีอายุงานและวุฒิการศึกษา




               ( นายแพทย์วีระพงษ์   เพ่งวาณิชย์ )
            ประธานชมรมโรงพยาบาลศูนย์ / โรงพยาบาลทั่วไป

.................................................................................................
ลองพิจารณาดูนะครับ ว่าเหมาะสม หรือไม่ เพียงใด
เห็นด้วย หรือมีข้อเสนออย่างไร
รายละเอียดจะน่าเสนอเมื่อมีความคืบหน้า


47


คณะกรรมการอำนวยการพัฒนาระบบบริการสุขภาพ ได้นำเสนอตุ๊กตาระบบสาธารณสุขในอนาคต ดังนี้
(จากการประชุม ๑๕ ธันวาคม ๒๕๕๓)










48

คณะกรรมการพิจารณาทบทวนระบบการจ่ายค่าตอบแทนกำลังคนด้านสาธารณสุขที่ปฏิบัติงานในภาครัฐ ได้เสนอหลักการการจ่ายค่าตอบแทนกำลังคน ประกอบด้วย ๓ ส่วน โดย
ส่วนแรก เป็น เงินเดือน เงินประจำตำแหน่ง
ส่วนที่สองเป็น ค่าตอบแทนตามระดับวิชาชีพ และความแตกต่างของระดับพื้นที่ และ
ส่วนที่สาม เป็น ค่าตอบแทนตามภาระงาน

๒๑ ธ.ค. ๒๕๕๓ ห้องประชุมไพจิตร ปวะบุตร กระทรวงสาธารณสุข
องค์กรแพทย์ของรพศ/รพท.ทั่วประเทศได้ร่วมประชุมกันในวันที่  ๒๑ ธ.ค. ๒๕๕๓ ที่ผ่านมา เห็นด้วยในหลักการแบ่งค่าตอบแทนเป็น ๓ ส่วนดังกล่าว โดยจะขอศึกษารายละเอียดของค่าตอบแทนส่วนที่ ๒ และ ๓ (เมื่อมีรายละเอียดออกมา ซึ่งขณะนี้ยังไม่มี)
และขอให้ปรับแหล่งที่มาเป็นเงินงบประมาณ รวมทั้งขอให้แก้ไขภาวะขาดแคลนกำลังคนทุกสาขาวิชาชีพ

หากระเบียบการจ่ายค่าตอบแทนใหม่ยังไม่ออกมา หรือต้องใช้เวลานาน ที่ประชุมมีข้อสรุปดังนี้

1. ขอให้จ่ายค่าตอบแทนเป็น Flat rate เดิมเหมือนปี 2552 – 2553 เป็นขั้นต้นพื้นฐาน และค่าผันแปร (ค่า  K ) ที่สะท้อนภาระงาน เป็นส่วนเพิ่มเติม(Top up)  ทั้งนี้ต้องมีการร่วมพิจารณาข้อดี ข้อเสีย และปรับรูปแบบก่อน  และขอให้มีบทเฉพาะกาลออกมาด้วย  เพื่ออ้างอิงในการจ่ายค่าตอบแทนนี้

2. งบประมาณที่จ่ายค่าตอบแทน ขอสนับสนุนจากงบประมาณกลางของรัฐบาล โดยหลักการและเหตุผลดังนี้
   - เพื่อรักษาบุคลากรไว้ในระบบราชการกระทรวงสาธารณสุข เพราะ รพศ / รพท. ทั้งหมด อยู่ในภูมิภาคบางจังหวัดเป็นพื้นที่พิเศษ  เสี่ยงภัย เช่นเดียวกันกับโรงพยาบาลชุมชนในพื้นที่นั้น ไม่ให้บุคลากร รพศ / รพท. ถูกเลือกปฏิบัติ
   - เพื่อชดเชยกับภาระงานที่เพิ่มสูงมากใน 8 ปี ย้อนหลังที่อัตราเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องตลอดมาโดยผู้ทำงานยังเท่าเดิมหรือ ในอัตราต่ำมากบางแห่ง(บางแผนกลดลงด้วยซ้ำ)
...
๒๗ ธ.ค. ๒๕๕๓ ห้องประชุมชัยนาท นเรนทร กระทรวงสาธารณสุข
ตัวแทนจากกระทรวงสาธารณสุข(รองปลัดกระทรวง หัวหน้าผู้ตรวจราชการ ตัวแทนสำนักนโยบายและยุทธศาสตร์ ตัวแทนฝ่ายกฎหมาย)
ตัวแทนสาขาวิชาชีพต่างๆ (เภสัช ทันต พยาบาล เทคนิคการแพทย์ กายภาพบำบัด)
ตัวแทนจากรพช. รพท. รพศ. สสจ.
ได้ร่วมประชุมเพื่อรับฟังความเห็น และจัดเตรียมเป็นข้อเสนอต่อคณะกรรมการพิจารณาทบทวนระบบการจ่ายค่าตอบแทนฯ
(ในวันที่ ๓๐ ธ.ค.นี้)ที่ประชุมส่วนใหญ่เห็นด้วยในหลักการแบ่งค่าตอบแทนเป็นสามส่วนดังกล่าว

ในส่วนที่ ๒ (พื้นที่พิเศษ และความขาดแคลน)
มีการเสนอให้มีการกำหนดหลักการที่ชัดเจนเรื่องพื้นที่(criteria) (มีการพิจารณาแบ่งเป็น ๕ ระดับ)
มีการเสนอให้มีการกำหนดหลักการเรื่องความขาดแคลน และค่าตอบแทนให้ชัดเจนในทุกพื้นที่ และทุกสาขาวิชาชีพ

ในส่วนที่ ๓ (P4P)
ค่าตอบแทนตามภาระงานที่มากเกินงานปกติ (ซึ่งมีการศึกษาจาก สวรส.แล้ว) ก็มีการอภิปรายอย่างกว้างขวาง เพราะแต่ละสาขาวิชาชีพมีสภาพงานที่แตกต่างกัน แต่ก็เห็นด้วยในหลักการที่ผู้ที่ทำงานมากควรได้มาก

ซึ่งทั้งส่วนนี้ (๒ และ ๓) จะไม่มีการแบ่งว่าเป็นโรงพยาบาลระดับไหน ถ้าเข้าตามหลักการ และข้อกำหนดก็จะได้เหมือนกัน ซึ่งหมายความว่า ระเบียบฉบับต่างๆที่ออกมาก่อนหน้านี้ (ฉบับ ๔ , ๖ หรือ ๗) จะถูกยกเลิก แล้วใช้ฉบับใหม่นี้ ผู้เข้าร่วมประชุมส่วนใหญ่เห็นด้วยเพราะเป็นการแก้ปัญหาความไม่เท่าเทียม ความเหลื่อมล้ำ และความไม่เป็นธรรมที่มีการร้องเรียน และวิพากษ์วิจารณ์กันมาตลอด แต่ดูเหมือนตัวแทนแพทย์จากรพช. จะขอใช้แบบเดิม คือ ฉบับ ๔ , ๖ และเสนอให้ปรับแก้ฉบับ ๗

ความเห็นจากที่ประชุมจะถูกนำเสนอต่อคณะกรรมการพิจารณาทบทวนระบบการจ่ายค่าตอบแทนฯ อย่างไรต้องติดตามกันต่อไป

49
อัตราส่วนแพทย์ต่อประชากรของประเทศมาเลเซียโดยรวม อยู่ที่ 1 ต่อ 1,145 ซึ่งห่างจากมาตราฐานขั้นต่ำของ WHO มาก
(WHO minimum standards  --- 1 ต่อ 600)

เป็นเรื่องที่น่าตกใจ (It is also shocking) ที่ทราบว่า อัตราส่วนของแพทย์ต่อประชากร
ในรัฐ Sabah อยู่ที่ 1 ต่อ 2,248 และในรัฐ Sarawak อยู่ที่ 1 ต่อ 1,709

รัฐมนตรีสาธารณสุข (Health Minister Datuk Seri Liow Tiong Lai) แถลงว่า รัฐบาลได้ตั้งเป้าหมายที่จะเพิ่มแพทย์ให้ได้อัตราส่วน 1 ต่อ 600 ภายในปี 2020

Healthy Malaysia
Friday, August 20, 2010

51

ขอชี้่แจงให้สมาชิกทุกท่านทราบด้วยความเคารพอย่างสูง

เนื่องจากขณะนี้อยู่ในช่วงการเลือกตั้งกรรมการแพทยสภา(ถึงวันที่ ๒๐ มกราคม ๒๕๕๔)
ทางเวบไซด์ขอความร่วมมือจากสมาชิกที่จะไม่ส่งข้อความ หรือบทความเกี่ยวกับการหาเสียงของกลุ่ม หรือชมรมใด
และทางเวบไซด์ขออนุญาติลบข้อความ หรือบทความที่เข้าข่ายดังกล่าว

อนึ่งเนื่องจากมีกรรมการกลางของสมาพันธ์แพทย์โรงพยาบาลศูนย์/โรงพยาบาลทั่วไปฯ เข้าลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นกรรมการแพทยสภาในครั้งนี้ด้วย
คือ นายแพทย์เพิ่มบุญ จิรยศบุญยศักดิ์ (หมายเลข ๑๑)
ทางเวบไซด์ขอถือเอกสิทธิ์ในการสนับสนุนกรรมการกลางของสมาพันธ์ฯท่านนี้ โดยไม่ผูกพันธ์กับชมรม หรือกลุ่มใดๆทั้งสิ้น

ทางเวบไซด์ขอความร่วมมือ และความเห็นใจจากสมาชิกทุกท่านด้วย


52
เรื่อง ขอเชิญปรึกษาหารือพิจารณาทบทวนระบบการจ่ายค่าตอบแทนกำลังคนด้านสาธารณสุขที่ปฏิบัติงานในภาครัฐ
................................................................
................สำนักบริหารการสาธารณสุขขอเรียนเชิญ ผู้แทนองค์กรแพทย์โรงพยาบาลละ ๒ คน เข้าร่วมประชุมปรึกษาหารือดังกล่าว ในวันที่ ๒๑ ธันวาคม ๒๕๕๓ เวลา ๐๙.๐๐-๑๖.๐๐ น. ณ ห้องไพจิตร ปวะบุตร ชั้น ๙ อาคาร ๗ กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ

                                                                         ขอแสดงความนับถือ

                                                                         นายวุฒิไกร มุ่งหมาย
                                                              นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดอุบลราชธานี
                                                                รักษาการในตำแหน่งสาธารณสุขนิเทศก์
                                                       รักษาราชการแทนผู้อำนวยการสำนักบริหารการสาธารณสุข

53
สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข มีคำสั่งสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข ที่ ๒๖๙๒/๒๕๕๓ ลงวันที่ ๒๒ ตุลาคม ๒๕๕๓  มอบอำนาจในการอนุมัติจ่ายเงินบำรุง ตามข้อ ๑๑ วรรคสาม แห่งระเบียบกระทรวงสาธารณสุข ว่าด้วยเงินบำรุงของหน่วยบริการในสังกัดกระทรวงสาธารณสุข พ.ศ.๒๕๓๖ และที่แก้ไขเพิ่มเติม โดยระเบียบ
กระทรวงสาธารณสุข ว่าด้วยเงินบำรุงของหน่วยบริการในสังกัดกระทรวงสาธารณสุข (ฉบับที่ ๒) พ.ศ.๒๕๔๔ ดังนี้

     ข้อ ๑ ให้ผู้ดำรงตำแหน่งต่อไปนี้ มีอำนาจในการพิจารณาอนุมัติจ่ายเงินบำรุงของหน่วยบริการในสังกัดกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบหรือในจังหวัดของตนดังนี้
          (๑) ผู้อำนวยการโรงพยาบาลบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล หัวหน้าสถานีอนามัยหรือผู้ปฏิบัติหน้าที่หัวหน้าสถานีอนามัยครั้งหนึ่ง ไม่เกิน ๕๐,๐๐๐ บาท (ห้าหมื่นบาทถ้วน)
          (๒) สาธารณสุขอำเภอ หรือสาธารณสุขกิ่งอำเภอ ครั้งหนึ่งไม่เกิน ๑๐๐,๐๐๐.-บาท (หนึ่งแสนบาทถ้วน)
          (๓) ผู้อำนวยการวิทยาลัยการสาธารณสุขสิรินธร ผู้อำนวยการวิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี ผู้อำนวยการโรงพยาบาลชุมชนหรือผู้ปฏิบัติหน้าที่ผู้อำนวยการโรงพยาบาลชุมชน
ครั้งหนึ่งไม่เกิน ๒,๐๐๐,๐๐๐.-บาท(สองล้านบาทถ้วน)
          (๔) ผู้อำนวยการโรงพยาบาลศูนย์ โรงพยาบาลทั่วไป ครั้งหนึ่งไม่เกิน ๕,๐๐๐,๐๐๐.-บาท(ห้าล้านบาทถ้วน)
          (๕) นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด ครั้งหนึ่งไม่เกิน ๑๐,๐๐๐,๐๐๐.- บาท (สิบล้านบาทถ้วน)
          (๖)  ผู้ว่าราชการจังหวัด หรือผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข ครั้งหนึ่งเกินกว่า ๑๐,๐๐๐,๐๐๐.-บาท(สิบล้านบาทถ้วน) แต่ไม่เกิน ๒๐,๐๐๐,๐๐๐.-(ยี่สิบล้านบาทถ้วน)

   ข้อ ๒ การอนุมัติจ่ายเงินบำรุงตามรายการดังต่อไปนี้ ให้บุคคลผู้ดำรงตำแหน่งตามข้อ ๑ พิจารณาสั่งจ่ายได้ตามความจำเป็นตามที่ได้รับความเห็นชอบของคณะกรรมการบริหารหน่วยบริการ ดังนี้
        (๑) ค่าซอมแซม ต่อเติม หรือปรับปรุงบ้านพัก หรืออาคารที่พักที่มีราคาไม่เกิน ๒,๐๐๐,๐๐๐.- บาท(สองล้านบาทถว้น)
        (๒) ค่าครุภัณฑ์ที่มีราคาไม่เกินหน่วยละ ๕,๐๐๐,๐๐๐.-บาท (ห้าล้านบาทถ้วน)
        (๓) ค่าที่ดิน สิ่งก่อสร้างที่มีราคาไม่เกิน ๒๐,๐๐๐,๐๐๐.-บาท(ยี่สิบล้านบาทถ้วน)
        (๔) ค่าซื้อรถพยาบาลที่มีราคาไม่เกิน ๒,๐๐๐,๐๐๐.-บาท (สองล้านบาทถ้วน)
        (๕) ค่าซื้อยานพาหนะอื่นที่มีราคา ไม่เกิน ๒,๐๐๐,๐๐๐.-บาท (สองล้านบาทถ้วน)

54

การประชุมคณะกรรมการอำนวยการพัฒนาระบบบริการสุขภาพ
ในวันพุธที่ ๑๕  ธันวาคม ๒๕๕๓  เวลา ๑๓.๐๐-๑๖.๐๐ น.
ณ ห้องประชุม ๑ ชั้น ๖ อาคาร ๗   สำนักบริหารการสาธารณสุข

โครงสร้างระบบสุขภาพจะถูกกำหนด และออกแบบโดยคณะกรรมการชุดนี้ ซึ่งจะมีการปรับเปลี่ยนอีกไม่มากนัก และจะเป็นแม่แบบในการพัฒนาระบบสาธารณสุขของประเทศไทยในอนาคต ลองศึกษา และวิเคราะห์เสนอความคิดเห็นกันดูนะครับ เพราะเราจะต้องอยู่ในระบบที่ถูกออกแบบมาใหม่นี้



55
ห้องพักผ่อนรวม (Common Room) / Joke # About Ah Beng
« เมื่อ: 15 ธันวาคม 2010, 23:46:08 »
*1
Ah Beng bought a new mobile.

He sent a message to everyone from his Phone Book & said,

'My Mobile No. has changed. Earlier it was Nokia 3310. Now it is 6610'

 

 
*2
Ah Beng: I am a Proud, because my son is in Medical College.

Friend: Really, what is he studying?

Ah Beng: No, he is not studying, they are studying him.

 

 
*3
Ah Beng: Doctor, in my dreams, I play football every night.

DR: Take this tablet, you will be ok.

Ah Beng: Can I take tomorrow, tonight is final game.

 

 
*4
Ah Beng: If I die, will u remarry?

Wife: No! I'll stay with my sister. But if I die will u remarry?

Ah Beng: No, I'll also stay with your sister.

 

 
*5
Ah Beng: People consider me as a 'GOD'

Wife: How do you know??

Ah Beng: When I went to the Park today, everybody said, Oh GOD! U have come again.

 

 
*6
Ah Beng complained to the police: 'Sir, all items are missing, except the TV in my house.'

Police: 'How the thief did not take TV?'

Ah Beng: 'I was watching TV news…'

 

*7
How do you recognize Ah Beng in School?

He is the one who erases the notes from the book when the teacher erases the board.

 

 
*8
Once Ah Beng was walking he had a glove on one hand and not on other.

So the man asked him why he did so. He replied that the weather forecast announced that on one hand it would be cold and on the other hand it would be hot.

 

 
*9
Ah Beng in a bar and his cellular phone rings.
He picks it up and says 'Hello, how did you know I was here?'

 

 
*10
Ah Beng: Why are all these people running?

Man - This is a race, the winner will get the cup.

Ah Beng - If only the winner will get the cup, why others running?

 

 
*11
Teacher: 'I killed a person' convert this sentence into future tense.

Ah Beng: The future tense is 'u will go to jail'

 

 
*12
Ah Beng told his servant: 'Go and water the plants!'

Servant: 'It's already raining.'

Ah Beng: 'So what? Take an umbrella and go.'

 

 
*13
A man asked Ah Beng why Ahmad Badawi goes walking in the Evening and not in the morning Ah Beng replied Ahmad Badawi is PM not AM
(Prime Minister--PM)
 

 

 

 

 

 

56

                                                                    สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข
                                                                    ถนนติวานนท์ จังหวัดนนทบุรี 11000
                                           ๓ ธันวาคม ๒๕๕๓
เรื่อง รายงานความคืบหน้าในการพิจารณากำหนดค่าตอบแทนบุคลากรด้านสาธารณสุข
เรียน เลขานุการคณะกรรมการประสานงาน และขับเคลื่อนการดำเนินงานตามมติคณะรัฐมนตรี
..............................
..........................................
....................................................ในการนี้ กระทรวงสาธารณสุขขอแจ้งความคืบหน้าผลการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีดังกล่าว โดยกระทรวงสาธารณสุข ได้มีการประชุมปรึกษาหารือร่วมกับสำนักงานงบประมาณ และสำนักงาน ก.พ. เพื่อพิจารณาแนวทางดำเนินการ และให้มีการตั้งคณะกรรมการร่วม ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขได้แต่งตั้งคณะกรรมการพิจารณาทบทวนระบบการจ่ายค่าตอบแทนกำลังคนด้านสาธารณสุขที่ปฏิบัติงานในภาครัฐ .................. และได้มีการประชุมคณะกรรมการฯ แล้ว ๑ ครั้ง ซึ่ีงได้มีแนวทาง และหลักการของการกำหนดค่าตอบแทนบุคลากรด้านสาธารณสุข ตามรายละเอียดในสิ่งที่ส่งมาด้วย.............และได้กำหนดให้มีการประชุมปรึกษาหารืออย่างไม่เป็นทางการร่วมกับสำนักงบประมาณ และสำนักงานก.พ. เพื่อพิจารณาความเป็นได้ และความเหมาะสมในวันที่ ๘ ธันวาคม ๒๕๕๓ รวมทั้งกำหนดให้มีการประชุมเป็นการภายในกับบุคลากรด้านสาธารณสุขของกระทรวงสาธารณสุข เพื่อรับฟังความคิดเห็น และร่วมให้ข้อเสนอแนะ ในวันที่ ๑๕ ธันวาคม ๒๕๕๓ ก่อนสรุปรายละเอียดเพื่อนำเสนอคณะกรรมการฯ พิจารณาให้ได้ข้อยุติ ก่อนนำเสนอรองนายกรัฐมนตรี(นายไตรรงค์ สุวรรณคีรี) พิจารณาต่อไป
.............................
.........................................
....................................................  ขอแสดงความนับถือ
                                                   (นายณรงค์ สหเมธาพัฒน์)
                                              รองปลัดกระทรวง ปฏิบัติราชการแทน
                                                     ปลัดกระทรวงสาธารณสุข
...
*มีการเลื่อนการประชุมจากวันที่ ๑๕ เป็น ๒๗ ธันวาคม



57

ตอนที่ 1สำนักงบประมาณ เสนอ คณะรัฐมนตรี

       สำนักงบประมาณ
       ถนนพระรามที 6กรุงเทพฯ 10400                                                                                          
                                         31 มีนาคม 2553
เรื่อง ข้อเสนองบประมาณสำหรับงานหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าประจำปีงบประมาณ 2554
เรียน เลขาธิการคณะรัฐมนตรี
อ้างถึง หนังสือสำนักงานเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ด่วนมากที่ นร ๐๕๐๕/๔๓๑๒ ลงวันที่ 11 มีนาคม 2553

................................
.............................................
.....................................................ทั้งนี้ อัตราเหมาจ่ายดังกล่าวมิได้รวมค่าตอบแทนบุคลากรส่วนเพิ่มของหน่วยบริการสังกัดสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งปลัดกระทรวงสาธารณสุขใช้อำนาจตามระเบียบกระทรวงสาธารณสุขว่าด้วยเงินบำรุงของหน่วยบริการในสังกัดกระทรวงสาธารณสุข (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2544 ปรับเพิ่มอัตราค่าตอบแทน โดยให้เบิกจ่ายจากเงินบำรุงไว้ด้วย เนื่องจากการปรับเพิ่มค่าตอบแทนบุคลากรดังกล่าว นอกจากมิได้ผ่านการพิจารณาอนุมัติของคณะรัฐมนตรีตามแนวทางปฏิบัติปกติ และมีผลกระทบต่อภาระงบประมาณอย่างต่อเนื่องเป็นจำนวนมากแล้ว ยังเป็นการปรับค่าตอบแทนเพิ่มให้เฉพาะบุคลากรในสังกัดสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข ไม่ครอบคลุมถึงส่วนราชการอื่น ทำให้เกิดความเหลื่อมล้ำระหว่างบุคลากรของรัฐประเภทเดียวกัน ดังนั้นหากกระทรวงสาธารณสุขประสงค์จะปรับเพิ่มค่าตอบแทนบุคลากรด้านสาธารณสุขเพื่อรักษาบุคลากรดังกล่าวไว้ในระบบเพื่อให้ประชาชนได้รับบริการอย่างมีคุณภาพ ก็สมควรที่กระทรวงสาธารณสุขจะศึกษาวิเคราะห์หาแนวทางการปรับเพิ่มค่าตอบแทนบุคลากรด้านสาธารณสุขให้ครอบคลุมบุคลากรทุกภาคส่วนอย่างทั่วถึง และเป็นธรรม แล้วนำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาเป็นกรณีเฉพาะต่อไป
...................................
..............................................
................................................................
                        จึงเรียนมาเพื่อโปรดนำเสนอความเห็นประกอบการพิจารณาของคณะรัฐมนตรีต่อไป

                                                                             ขอแสดงความนับถือ

                                                                         ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ
...


58

จากการที่เด็กไทยอ่านหนังสือไม่ออกมีจำนวนมาก  บางท่านกล่าวว่า  ” เด็กไทยยิ่งเรียนยิ่งโง่ ”

ซึ่งถือว่าเป็นวิกกฤตการการศึกษาของไทย   สาเหตุมาจากหลายเรื่อง เช่น มือถือ  โทรทัศน์  Internet

ติดเกมส์  เลียนแบบดารา  พ่อแม่  ผู้เลี้ยงดู  คุณภาพครู  ระบบการเรียนการสอนในโรงเรียนไม่ได้มาตรฐาน

รวมทั้งความเครียดที่มีอิทธิพลต่อเด็กซึ่งเป็นที่ทราบกัน  ทั้งฝ่ายภาครัฐ  กระทรวงศึกษาธิการได้ทำการพัฒนา

 ปรับปรุง  แก้ไขไปแล้วในระดับหนึ่ง  ส่วนจะแก้ได้ตรงจุด / ดีหรือไม่นั้นจะต้องเฝ้าดูกันต่อไป

            สำหรับการขาดแคลนบุคลากรทางการแพทย์ของกระทรวงสาธารณสุขซึ่งเป็น ” สัญญาณเตือนภัย

อันตราย ” มาจากหลายสาเหตุด้วยกัน  เช่น  การทำงานเสี่ยงภัย  เสี่ยงอันตรายในชีวิตและทรัพย์สิน  เสี่ยงต่อ

ติดเชื้อโรค  ทำงานยุ่งยากซับซ้อน  ความก้าวหน้าในวิชาชีพ  ค่าตอบแทนน้อย  เงินเดือนไม่พอเพียง  มีปัญหา

ครอบครัว ทำงานไม่เป็นเวลา  โดยเฉพาะอย่างยิ่งความความขัดแย้งของร่างพ.ร.บ.คุ้มครองผู้เสียหายจากการ

รับบริการสาธารณสุข พ.ศ........ที่ผ่านความเห็นชอบของรัฐบาลทำให้ขาดขวัญกำลังใจในการทำงาน  เป็นที่

กล่าวกันในวงกว้างทั่วประเทศในขณะนี้  และเด็กเก่งไทยยุคใหม่จะไม่เลือกเรียนแพทย์  พยาบาล  ซึ่งจะ

เห็นได้จาก Top 5 เด็ก Entrance ปี 2553 ไม่มีใครเลือกเรียน  เหตุผลที่กล่าวมาทั้งหมดทำให้มีอิทธิพลต่อการ

โอน / ย้าย / ลาออก ของบุคลากรสาธารณสุขอันเป็นสาเหตุให้ทวีความรุนแรงขาดแคลนบุคลากรทางการแพทย์

มากยิ่งขึ้น                     

                                                   
                จากปัญหาของทั้งสองกระทรวงที่เชื่อมโยงเกี่ยวข้องกับรัฐบาล  เปรียบเสมือนการทำงานของ

เส้นเลือดแดง  เส้นเลือดดำ  และหัวใจในร่างกายของมนุษย์    ซึ่งหัวใจมีหน้าที่สูบฉีดโลหิตให้ไหลเวียน

ไปตามหลอดเลือด  โดยเส้นเลือดแดงเปรียบเสมือนกระทรวงศึกษาธิการซึ่งมีเด็ก  และบุคลากรร่างกาย

แข็งแรง  สุขภาพดี  คอยนำออกซิเจนและสารอาหารไปเลี้ยงส่วนต่างๆทั่วร่างกาย  และมีการรับเอาของเสีย

พร้อมคาร์บอนไดออกไซค์กลับมาทางเส้นเลือดดำ  แล้วส่งต่อไปยังปอดทั้งสองข้างเพื่อฟอก/แลกเปลี่ยน

กับออกซิเจนจากอากาศที่หายใจเข้าสู่ปอดกลายเป็นเลือดดีสีแดงไหลกลับสู่หัวใจห้องบนซ้าย  โดยเส้น

เลือดดำเปรียบเสมือนกระทรวงสาธารณสุข  ซึ่งต้องบำบัดรักษาคนเจ็บป่วยให้ฟื้นหายจากโรค  ส่วนหัวใจ

เปรียบเสมือนรัฐบาลที่จะต้องทำงานตลอดเวลาอย่างรู้จังหวะจะโคน  ไม่ว่าจะหลับหรือตื่น  เพราะถ้าหาก

หัวใจหยุดทำงานเมื่อไรมนุษย์ก็จะตายเมื่อนั้น  และถ้าหากทั้ง 3 สิ่งนี้ทำงานไม่สัมพันธ์กันก็จะเกิดปัญหา

ทันที   ส่วนกรณีเกิดเส้นเลือดแดงหรือเส้นเลือดดำอุดตันจะก่อให้เกิดโรคหรือปัญหากับร่างกายได้  และ

ถ้าหากเส้นเลือดแดงหรือเส้นเลือดดำฉีกขาดหากไม่ได้รับการรักษาหรือเย็บซ่อมแซม  ก็จะทำให้เลือดไหล

ไม่หยุดจนเกิดภาวะซีด  ช็อก  และตายได้  ยิ่งเกิดกับเส้นเลือดใหญ่บาดแผลกว้างก็ยิ่งทวีความรุนแรงมาก

ยิ่งขึ้นเป็นทวีคูณอีกหลายเท่าตัว

        ดังนั้นวิกฤตการการศึกษา  และการขาดบุคลากรทางการแพทย์ ถ้าไม่ได้รับการแก้ไข ...ในมุมมอง

ของผู้เขียน  คิดว่าจะแย่พอๆกัน  ท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขปัจจุบันซึ่งได้นั่งทั้ง 2 กระทรวง

มาแล้ว   กรุณาช่วยประสานฝันพี่น้องชาวสาธารณสุขให้สุขกาย และสุขใจด้วยเถอะค่ะ

 

                                                                                   คนสายตายาว

                                                                            ( ธัญษรัตม์  ประชุมทอง )

                                                                                โรงพยาบาลพัทลุง

                                                                                  10 พ.ย.2553

59
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ส่งหนังสือถึงเลขาธิการก.พ. ขอเพิ่มตำแหน่งข้าราชการ ให้แพทย์ พยาบาล เภสัชกร เจ้าหน้าที่อื่นๆ ที่จะจบการศึกษาในปี 2554 และเจ้าหน้าที่ที่จบการศึกษามาตั้งแต่พ.ศ. 2549 แต่ทำงานเป็นลูกจ้างชั่วคราว รวมทั้งหมด 30,087 ตำแหน่ง เพื่อลดผลกระทบด้านบริการประชาชนทั้งในปัจจุบันและอนาคต

นายบุณย์ธีร์ พานิชประไพ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับมาตรการแก้ไขปัญหาการขาดแคลนบุคลากรของกระทรวงสาธารณ สุข รวมทั้งการสร้างขวัญกำลังใจบุคลากร ว่า เมื่อเร็วๆนี้นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้ทำหนังสือถึงเลขาธิการ คณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) เพื่อขอให้ก.พ.ผ่อนคลายหลักเกณฑ์การจำกัดขนาดกำลังคนภาครัฐเฉพาะกระทรวง สาธารณสุข ตามที่มติคณะกรรมการกำหนดเป้าหมายและนโยบายภาครัฐ (คปร.) และขอให้กำหนดตำแหน่งข้าราชการพลเรือน เพิ่มในหน่วยงานสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งเป็นหน่วยจัดบริการสุขภาพแก่ประชาชนทั่วประเทศได้แก่ โรงพยาบาลศูนย์ โรงพยาบาลทั่วไป โรงพยาบาลชุมชน และโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล ในปีงบประมาณ 2554 จำนวนทั้งหมด 30,087 อัตรา ซึ่งไม่รวมตำแหน่งของพยาบาลวิชาชีพในโครงการผลิตพยาบาลวิชาชีพเพิ่มเพื่อ พื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ 3,000 คน ที่ได้กันไว้เรียบร้อยแล้ว ทั้งนี้เพื่อเป็นขวัญกำลังใจให้บุคลากร ให้มีความมั่นคงในตำแหน่งอาชีพ

นายบุณย์ธีร์ กล่าวว่า ตำแหน่งที่ขอเพิ่มใหม่ครั้งนี้ ประกอบด้วย ตำแหน่งเพื่อบรรจุเจ้าหน้าที่ที่สถานบริการได้จ้างไว้เป็นลูกจ้างชั่วคราว ซึ่งส่วนใหญ่เป็นพยาบาลวิชาชีพที่สำเร็จการศึกษา ตั้งแต่พ.ศ. 2549-2553 จำนวน 23,439 คน และมีนักเรียนทุนที่จะสำเร็จการศึกษาในปี 2554 อีกจำนวน 6,648 คน ประกอบด้วยแพทย์ ทันตแพทย์ เภสัชกร ซึ่งเป็นนักเรียนทุนรัฐบาลจำนวน 2,769 คน และนักเรียนทุนที่ผลิตโดยสถาบันในสังกัดสถาบันพระบรมราชชนก จะเข้าทำงานในโรงพยาบาลในสังกัดสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุขอีก 3,879 คน

นอกจากนี้ นายจุรินทร์ ยังได้ขอให้สำนักงานก.พ.เร่งพิจารณาการกำหนดตำแหน่งใหม่เพื่อที่กระทรวง สาธารณสุขเสนอ เพื่อบรรจุพยาบาลในโครงการผลิตพยาบาลวิชาชีพเพิ่มเพื่อแก้ปัญหาขาดแคลนใน พื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ที่ขอกันไว้จำนวน 3,000 อัตรา และกรณีของแพทย์ ทันตแพทย์ และเภสัชกรคู่สัญญากระทรวงสาธารณสุขในพ.ศ.2554 จำนวน 2,769 อัตรา เพื่อจะให้ทันการบรรจุแต่งตั้งในวันที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2554 ด้วย

ทั้งนี้ กระทรวงสาธารณสุขมีความจำเป็นต้องเร่งแก้ไขปัญหาการขาดแคลนบุคลากร โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ที่ทำงานในโรงพยาบาลในสังกัด แต่มีสถานภาพเป็นเพียงลูกจ้างชั่วคราวของหน่วยงาน ซึ่งไม่มีความมั่นคงในอาชีพ และกำลังคนกลุ่มนี้ ทยอยไหลออกจากโรงพยาบาลทุกปี เนื่องจากมีงานที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่า ซึ่งขณะนี้รัฐบาลมีนโยบายยกระดับสถานีอนามัยทั้งหมดเป็นโรงพยาบาลส่งเสริม สุขภาพตำบล จึงจะต้องมีการเพิ่มกำลังคนในระบบ เพื่อลดผลกระทบต่อการให้บริการสุขภาพแก่ประชาชนทั้งในปัจจุบันและอนาคต และพัฒนาประสิทธิภาพในการให้บริการให้เกิดความเชื่อมั่นต่อประชาชน

************************************************* 6 ธันวาคม 2553
สำนักสารนิเทศ
http://www.moph.go.th/ops/iprg/include/admin_hotnew/show_hotnew.php?idHot_new=35274

60
ประกาศคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล
เรื่อง ผู้สอบผ่านวิชาสามัญในการสอบคัดเลือกบุคคลเข้าศึกษาในมหาวิทยาลัย ระบบโควตา
หลักสูตรแพทยศาสตรบัณฑิต คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล
มหาวิทยาลัยมหิดลคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ได้ดำเนินการสอบคัดเลือกบุคคลเข้าศึกษาระบบโคตา ปีการศึกษา 2554 สำหรับหลักสูตรแพทยศาสตรบัณฑิต คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล เสร็จสิ้นแล้ว จึงขอประกาศรายชื่อผู้ได้รับการคัดเลือกเข้าศึกษา เรียงตามรหัสประจำตัวผู้สมัครสอบ ดังรายชื่อต่อไปนี้

1.1โควตาวิทยาเขต

1.1.1 โควตาวิทยาเขต-กลุ่มกาญจนบุรี
0210202 นายณัฐโชค มหาไชย
0310196 นายณัฐวุฒิ จีบโจง
0410191 นายทรงศักดิ์ สุขสันติลาภ
3110537 นายสืบพงษ์ นาคะ

1.1.2 โควตาวิทยาเขต-กลุ่มนครสวรรค์
6110026 นส.นุชนันท์ เกษสาคร
6110067 นายธีร์ ทองอร่าม

1.1.3 โควตาวิทยาเขต-กลุ่มอำนาจเจริญ
7610020 นายจารุดุลย์ โพธิ์เจริญ

1.2 โควตาพื้นที่ (โครงการกระจายแพทย์หนึ่งอำเภอหนึ่งทุน)
0510202 นายวุฒิชัย ทองสุกใส
1110204 นส.นิศารัตน์ ธัญญเจริญ
1110262 นายอัครวุฒิ เวทยานนท์
5110177 นส.สรรพชรพรรณ กิตติพิริยะกุล
5110192 นส.จารัสดา จงศุภวิศาลกิจ
5110196 นายศมะ เพ่งพิศ
5110206 นายยุทธนา รักผกา
5110294 นส.วรกานต์ เมธีสกุลกาญจน์

1.3 โควตาโครงการพิเศษ

1.3.1 โครงการส่งเสริมเยาวชนดีเด่น-ด้านวิชาการ
0110021 นายชนวีร์ หิรัญภัทรศิลป์
0110090 นายวีรภัทร พัฒนศรี
2110068 นส.ชนินาถ ผ่องศรี
3110371 นายพชรพล สินชัยโรจน์กุล
4110002 นายฐิติกร กิตติบุญญา
1.3.2 โครงการส่งเสริมเยาวชนดีเด่น-ด้านกีฬา
7110056 นส.พัทรียา พงษ์พานิช

1.3.3 โครงการส่งเสริมเยาวชนดีเด่น-ด้านศิลปะ
ไม่มีผู้เหมาะสม

1.3.4 โครงการรับนักศึกษาชาวไทยที่นับถือศาสนาอิสลาม จังหวัดชายแดนภาคใต้
8110204 นส.กิษบา อาดุลยพัฒน์

1.4 คัดเลือกจากผู้ที่ได้คะแนนสูงสุดของทุกโควตา (หลังจากคัดเลือกผู้มีสิทธิ์สอบสัมภาษณ์ และตรวจสุขภาพจากโควตา 1.1-1.3 แล้ว นำคะแนนรวมวิชาสามัญของผู้ที่เหลือจากการคัดเลือก และมีคุณสมบัติครบของแต่ละโควตามาจัดเรียงตามลำดับคะแนนสูงสุดใหม่)
0110028 นายศุภณัฐ เจริญจิตต์
0110123 นายสุรพงศ์ สัมฤทธิ์ทรัพย์
0110153 จีรัชญา บุญดีกุล
0110154 นส.ชนาภัทร ลิ้มดำเนิน
0110441 นายรังสรรค์ เต็มสิริรัตนกุล
0210134 นายภานุรักษ์ รัตนไพศร
0210311 นส.จุไรพร สันติร่วมใจรักษ์
0210340 นส.ปิยะนุช มุสิกชาติ
0310054 นส.ขวัญฉัตร ไกรรวีรงามวิจิตร
2110076 นายพงศ์ธวัช เลิศวิลัยวิทยา
2110301 นายเปอร์เซ็นต์ สุขพรชัยรัก
2110350 นายชยุต ทัตตากร
3110280 นายตนุภัทร บุญเฉลิมวิเชียร
3110334 นายชยุศ มฤคทัค
3110523 นายวิศว์ สุวรรณรัตน์
3310845 นายเอกธนัช อัครกนกสิน
4110013 นายวณัช บัณฑิตาโสภณ
4110019 นายวีรวิทย์ ลาภอนันตผล
4110088 นายสราวุธ กุลชนะจรูญ
7810965 นส.สิรีธร ลือชาธนานนท์

ให้ผู้มีสิทธิ์เข้ารับการสอบสัมภาษณ์ และตรวจสุขภาพ มารายงานตัววันที่ 7 ธันวาคม 2553 เวลา 8.00 น. ณ ห้อง 352 ตึกอดุลยเดชวิกรม ชั้น 3

2. รายชื่อผู้ที่ได้คะแนนสำรอง เรียงตามลำดับคะแนนดังนี้
3310551 นายชลวิวัฒน์ พลภัทรเศรษฐ์
0510046 นายกรกช สุวรรณเกสร์
4110053 นายพรหมพงศ์ จันทร์เด่นแสง
7610246 นายภัควัต จันปุ่ม
2110213 นายสรวิชญ์ จันทรสูต

ให้ผู้ที่ได้รับสิทธิสำรองมารายงานตัววันที่ 7 ธันวาคม 2553 เวลา 8.00 น. ณ ห้อง 352 ตึกอดุลยเดชวิกรม ชั้น 3 ในกรณีที่มีผู้สละสิทธิ์ คณะฯจะจัดให้เข้ารับการสอบสัมภาษณ์ และตรวจสุขภาพในวันดังกล่าว
จึงประกาศมาเพื่อทราบโดยทั่วกัน
ประกาศ ณ วันที่ 3 ธันวาคม พ.ศ.2553

ศาสตราจารย์คลินิก นายแพทย์ธีรวัฒน์ กุลทนันทน์
คณบดี คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล

หน้า: 1 2 3 [4] 5 6 ... 17