1
ข่าวเกี่ยวกับวงการแพทย์ / น่าน ไง เมืองที่ออกเเบบพื้นที่สุขภาพดี โดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง(2)
« เมื่อ: วันนี้ เวลา 13:54:29 »
ถอดบทเรียน ชุมชนน้ำล้อม
แก้โจทย์ปัญหาเรื่องบ้าน ๆ
นอกจากสถานที่ท่องเที่ยวและพื้นที่สาธารณะตามที่กล่าวมาข้างต้น สสส. ยังลงไปสนับสนุนการขับเคลื่อนระดับพื้นที่ หนุนให้เกิดการปรับสภาพแวดล้อมและจัดสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับผู้สูงอายุ คนพิการ ตามแนวคิด UD ในพื้นที่ บ้าน ผ่านกำลังสำคัญอย่าง เครือข่ายศูนย์การออกแบบเพื่อทุกคน หรือ Universal Design Center ที่ถูกจัดตั้งขึ้นเพื่อเผยแพร่องค์ความรู้เกี่ยวกับการออกแบบ Universal Design แก่ผู้ที่สนใจ จัดอบรมช่างชุมชนให้มีความรู้ในประเด็น UD สามารถไปดำเนินการปรับสภาพแวดล้อมในส่วนบ้านพักและสถานที่สาธารณะ รวมทั้งสนับสนุนมูลนิธิอารยสถาปัตย์เพื่อคนทั้งมวล เพื่อพัฒนาทูตอารยสถาปัตย์กว่า 300 คน มีทั้งผู้สูงอายุ คนพิการ สามารถเป็นตัวแทนในการให้ข้อมูลและร่วมขับเคลื่อนประเด็นการปรับสภาพแวดล้อมและจัดสิ่งอำนวยความสะดวกตามแนวคิด UD ในพื้นที่ต่าง ๆ
ตลอดจนให้คำปรึกษาในการปรับสภาพบ้านอย่างเหมาะสม รวมทั้งใน ชุมชนน้ำล้อม ที่เราลงพื้นที่ในครั้งนี้
ผศ.ดร.วุฒิกานต์ ปุระพรหม หัวหน้าศูนย์ออกแบบสภาพแวดล้อมเพื่อทุกคน (UDC) มหาวิทยาลัยแม่โจ้
ผศ.ดร.วุฒิกานต์ ปุระพรหม หัวหน้าศูนย์ออกแบบสภาพแวดล้อมเพื่อทุกคน (UDC) มหาวิทยาลัยแม่โจ้
ผศ.ดร.วุฒิกานต์ ปุระพรหม หัวหน้าศูนย์ออกแบบสภาพแวดล้อมเพื่อทุกคน (UDC) มหาวิทยาลัยแม่โจ้ และ ประธานเครือข่าย UDC ภาคเหนือ กล่าวว่า UDC ม.แม่โจ้ ภายใต้ สสส. เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของโครงสร้างการพัฒนาเมืองน่าน เติมเต็มการออกแบบกายภาพ ซึ่งจะเน้นการพัฒนาร่วมกับเครือข่าย UDC ภาคเหนืออีก 4 แห่ง คือ มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย มหาวิทยาลัยนเรศวร มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และมหาวิทยาลัยพะเยา นอกจากนี้ยังมีเจ้าของพื้นที่อย่างโรงพยาบาลน่าน เทศบาลเมืองน่าน ชมรมผู้สูงอายุและภาคเอกชนร่วมด้วย
โดยอันดับแรกในการดำเนิน UDC จะเข้าไปประเมินและวิเคราะห์ โดยเน้นไปที่ ห้องน้ำและห้องนอน เป็นหลัก ซึ่งถือว่าเป็น 2 พื้นที่ที่ผู้สูงวัยใช้ชีวิตสูงที่สุดในรอบวัน
น่านมีสัดส่วนของผู้สูงอายุค่อนข้างเยอะ เพราะฉะนั้นบ้านจึงถือได้ว่าเป็นหัวใจหลัก ซึ่งโครงสร้างบ้านของน่านค่อนข้างแตกต่างจากจังหวัดอื่นคือ เป็นบ้านพื้นถิ่นเกือบทุกหลัง มีอายุการสร้างไม่ต่ำกว่า 20 ปี มีลักษณะเป็นไม้ ยกใต้ถุนสูง 50 เมตร คนรอดเข้าไปไม่ได้ เพราะฉะนั้นการที่จะเข้าไปทำพื้นที่ใต้บ้านหรือบนบ้าน มันมีผลต่อโครงสร้างที่มีอยู่แล้ว ฉะนั้น การที่จะยกบ้านหรือดีดบ้านให้สูงขึ้นหรือการที่จะทำโครงสร้างใหม่มาพิงกับบ้านเดิม ต้องใช้วิชาชีพเฉพาะทางของฝ่ายกองช่อง ซึ่งสาธารณสุขของเมืองน่านก็เข้ามาช่วยในส่วนนี้เพื่อประเมินว่า โครงสร้างไหนทำได้หรือไม่ได้
ปัญหาส่วนใหญ่ที่พบคือ ห้องน้ำแสงส่วางไม่เพียงพอและเป็นพื้นคอนกรีต ไม่ได้ปูกระเบื้อง ซึ่งเมื่อประกอบกับแสงแดดที่เข้าไม่ถึงก็ส่งผลทำให้เกิดเชื้อรา เกิดตะไคร่ ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ผู้ป่วยหรือผู้สูงวัยลื่นล้มหกล้มได้ โดยอันดับแรกก็ต้องเพิ่มแสงสว่าง ทำให้เขามองเห็นเยอะขึ้น พอเขามองเห็นเยอะขึ้น ก็ตามมาด้วยการอุปกรณ์ราวจับ ซึ่งต้องติดตั้งตามพฤติกรรมของเขาด้วย บางคนใช้วีลแชร์ บางคนนั่ง บางคนคลาน เราก็ต้องติดตั้งราวจับให้ได้ระดับเขา ปรับปรุงให้รับกับสภาพแวดล้อมในบ้านแต่ละหลังมากที่สุด
ปรับปรุง แต่ไม่เปลี่ยนแปลง
แก้ไขความเคยชินไม่ใช่เรื่องง่าย
อย่างไรก็ตาม ตลอดการดำเนินงานที่ผ่านมา UDC มีปรับปรุงสภาพแวดล้อมบ้านไปกว่า 785 หลังในเทศบาลเมืองน่านเป็นหลัก โดยปัจจัยหลักของการทำงานภายใต้พื้นฐานการพัฒนาคือ ปรับปรุงให้ดีขึ้น ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของผู้อยู่อาศัยให้น้อย โดยผศ.ดร.วุฒิกานต์ ให้เหตุผลว่า ถ้าเราปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเขา เขาจะอยู่ไม่สนุก ซึ่งบั้นปลายสุดท้ายของคนคือบ้าน สถานที่ที่เขาอยู่อาศัยแล้วจะมีความสุขมากที่สุด
UDC จะเข้าไปประเมินในขั้นแรกว่า พื้นที่ทำกิจกรรมของแต่ละคนเป็นอย่างไร ลักษณะพฤติกรรมของเขาตั้งแต่ตื่นเช้ายันเย็นเขาทำอะไรบ้างในบ้านหลังนั้น คือเราต้องศึกษาเรียนรู้เจ้าของบ้านจริง ๆ ก่อนพอรู้ว่า เขาเป็นยังไง เสร็จปุ๊บ ค่อยย้อนกลับมาดูว่า เราควรจะปรับปรุงอะไรแบบไหนให้เปลี่ยนแปลงพฤติกรรมเขาน้อยที่สุด วิถีชีวิตของแต่ละพื้นที่ต่างกัน ภูมิภาคแต่ละภูมิภาคมีวิถีชีวิตต่างกัน ซึ่งอย่างที่นพ.พงศ์เทพบอก เราตัดเสื้อเชิ้ตชุดเดียวกันไม่ได้ เราต้องคล้อยไปตามพื้นที่นั้น ๆ อันนี้คือประเด็นหลักที่ผมมองเห็นมานานแล้วและคิดว่า ก็ต้องเรียนรู้กันต่อไปเรื่อย ๆ
ผมยกตัวอย่างบันไดนะ ระยะความสูงถ้าจะปรับให้เหมือน UD เลย มันทำไม่ได้ หลาย ๆ หลังเป็นบ้านไม้ยกใต้ถุนสูงเช่นเดียวกับ จังหวัดเชียงใหม่ พะเยา เชียงราย ซึ่งบันไดเป็นสิ่งแรกที่คุณยาย คุณตาในบ้านเขาบอกผมเลยว่า อาจารย์ปรับได้ทุกอย่างในบ้านยกเว้นบันได ถ้าอาจารย์ปรับเพื่อให้ยายไม่ล้ม อาจารย์ปรับบันไดวันนี้ พรุ่งนี้ยายล้มเลย เพราะว่าความเคยชินกับพฤติกรรมที่เขาใช้มาตั้งแต่เด็กจนแก่ เขาเคยชินกับพฤติกรรมแบบนี้ ถึงแม้ว่า เราจะมองว่ามันสูงไป แต่เราก็ต้องคล้อยตามพฤติกรรมของเขาด้วย
ผศ.ดร.วุฒิกานต์ กล่าวว่า ปัจจุบัน จังหวัดน่าน มีการปรับภูมิทัศน์ ได้แก่ 1.ที่ชุมชนบ้านน้ำล้อม ต.ในเวียง อ.เมือง มีการจัดสภาพแวดล้อมบ้านผู้สูงอายุกลุ่มยากไร้และอยู่เพียงลำพัง โดยปรับปรุงห้องน้ำ บันได พื้นบ้าน จัดระเบียบของใช้ และเพิ่มสิ่งอำนวยความสะดวก 2.ศาสนสถาน มีการปรับปรุงพื้นที่ และอาคารสาธารณะ เช่น แก้ไขพื้นผิวทาง เพิ่มราวจับ 3.ตลาดชุมชนบ้านพระเนตร มีการปรับห้องน้ำสาธารณะ เพิ่มราวจับ 4.เตรียมสร้างศูนย์ดูแลผู้สูงวัย แบบไปเช้า-เย็นกลับ (DAYCARE) ที่โรงพยาบาลน่าน มีเนื้อที่ใช้สอย 700 ตารางเมตร เพื่อลดความแออัดในโรงพยาบาล โดยออกแบบให้เป็นสถานบริบาลให้ผู้สูงอายุมาตรวจเช็คร่างกาย ทำกายภาพบำบัด รับยา และจัดร่วมกิจกรรมที่เหมาะสมกับช่วงวัย เพื่อให้ผู้สูงอายุมีกิจกรรมทำนอกบ้าน ไม่ต้องอยู่บ้านเพียงลำพัง ช่วยลดความกังวลของบุตรหลาน
ทั้งนี้ สำหรับเส้นทางที่จะนำ น่านโมเดล ก้าวไปสู่ความเป็น น่านที่ยั่งยืน ผศ.ดร.วุฒิกานต์ ในฐานะคนทำงานคลุกคลีกับจังหวัดนี้มาพอสมควร มองว่า สุดท้ายแล้วสิ่งที่จะคงอยู่คู่กับน่านคือองค์ความรู้ที่ยั่งยืน ซึ่งถือเป็นหัวใจของ UDC อย่างไรก็ดี แผนอนาคตอันใกล้นี้คงมีการเตรียมขยายพื้นที่ไปอีก 15 อำเภอในจังหวัดน่าน
ตัวอย่างท้องถิ่นเข้มแข็ง
พัฒนาไปด้วยกัน ไปได้ไกล
นายณกรณ์ ศิริรัตน์พิริยะ รองนายกเทศบาลเมืองน่าน
นายณกรณ์ ศิริรัตน์พิริยะ รองนายกเทศบาลเมืองน่าน
ส่วนอีกหนึ่งความร่วมมือที่ขาดไม่ได้จากภาคท้องถิ่น นายณกรณ์ ศิริรัตน์พิริยะ รองนายกเทศบาลเมืองน่าน เล่าว่า เทศบาลเมืองน่านได้ปรับปรุงสถานที่เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้สูงอายุและผู้พิการ ด้วยการเพิ่มทางลาดในทุก ๆ อาคารรวมทั้งในจุดจอดรถ นอกจากนั้นยังมีวีลแชร์ รถราง รถสามล้อไฟฟ้า และรถ 1669 ไว้รอบริการประชาชน ปัจุบันเทสบาลเมืองน่านมีการปรับปรุง อาคารจามจุรี อาคารพญานาคของศูนย์ท่องเที่ยวเมืองน่าน และอาคารสำนักงานเทศบาลเมืองน่าน และยังบูรณาการทำงานกับหลายฝ่ายในการสำรวจชุมชนเพื่อปรับปรุงสภาพแวดล้อมตามความต้องการของประชาชน ทั้งนี้เทศบาลเมืองน่านได้ส่งทีมประเมินบ้านของผู้สูงอายุ คนพิการ เป็นประจำ และมีทีมอนุกรรมการลงพื้นที่สำรวจเยี่ยมบ้านทุกวันพุธ เพื่อนำข้อเสนอต่าง ๆ ของประชาชนนำไปวางแผนการพัฒนาให้เหมาะสม
นอกจากนี้ยังได้ทำบันทึกข้อตกลง (MOU) ร่วมกับ 4 หน่วยงาน ได้แก่ โรงพยาบาลน่าน จุฬาภรณ์ราชวิทยาลัย สมาคมสถาปัตย์ภาคเหนือ และวิทยาลัยชุมชนในการดูแลผู้สูงอายุ เพื่อพัฒนาแนวทางการทำงาน UD ในจังหวัดน่าน ให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น เพื่อให้ประชาชนได้รับประโยชน์อย่างแท้จริง
การดูแลประชาชนถือเป็นภารกิจของเทศบาลอยู่แล้วที่ต้องบำบัดทุกข์ บำรุงสุขประชาชน ซึ่งในวันนี้รู้สึกยินดีที่ สสส. ลงพื้นที่และให้ความรู้กับทีมงานของกองช่างและชุมชน เพื่อจะได้ป้องกันการหกล้มในบ้านพักอาศัย ทั้งนี้ บทบาทเทศบาลในการพัฒนาเมืองน่าน เราถือว่า เราเป็นผู้ปฏิบัติมากกว่า โดยร่วมกับหลายภาคีเครือข่าย ทั้งนี้ ส่วนสิ่งที่กังวลมากที่สุดคือวิธีแนวทางปฏิบัติ ซึ่งต้องยอมรับว่า มีบางส่วนที่ยังไม่สามารถดำเนินการได้แบบ 100% แต่ถึงอย่างนั้นเราในนามของท้องถิ่น เราก็จะดูแลพี่น้องประชาชนให้อยู่อย่างมีความสุข ครอบคลุมทุกมิติ โดยเริ่มจาการปรับปรุงพื้นที่ของเราให้ดีที่สุดก่อน นายณกรณ์ กล่าวทิ้งท้าย
11 มี.ค. 2567 ผู้จัดการออนไลน์
แก้โจทย์ปัญหาเรื่องบ้าน ๆ
นอกจากสถานที่ท่องเที่ยวและพื้นที่สาธารณะตามที่กล่าวมาข้างต้น สสส. ยังลงไปสนับสนุนการขับเคลื่อนระดับพื้นที่ หนุนให้เกิดการปรับสภาพแวดล้อมและจัดสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับผู้สูงอายุ คนพิการ ตามแนวคิด UD ในพื้นที่ บ้าน ผ่านกำลังสำคัญอย่าง เครือข่ายศูนย์การออกแบบเพื่อทุกคน หรือ Universal Design Center ที่ถูกจัดตั้งขึ้นเพื่อเผยแพร่องค์ความรู้เกี่ยวกับการออกแบบ Universal Design แก่ผู้ที่สนใจ จัดอบรมช่างชุมชนให้มีความรู้ในประเด็น UD สามารถไปดำเนินการปรับสภาพแวดล้อมในส่วนบ้านพักและสถานที่สาธารณะ รวมทั้งสนับสนุนมูลนิธิอารยสถาปัตย์เพื่อคนทั้งมวล เพื่อพัฒนาทูตอารยสถาปัตย์กว่า 300 คน มีทั้งผู้สูงอายุ คนพิการ สามารถเป็นตัวแทนในการให้ข้อมูลและร่วมขับเคลื่อนประเด็นการปรับสภาพแวดล้อมและจัดสิ่งอำนวยความสะดวกตามแนวคิด UD ในพื้นที่ต่าง ๆ
ตลอดจนให้คำปรึกษาในการปรับสภาพบ้านอย่างเหมาะสม รวมทั้งใน ชุมชนน้ำล้อม ที่เราลงพื้นที่ในครั้งนี้
ผศ.ดร.วุฒิกานต์ ปุระพรหม หัวหน้าศูนย์ออกแบบสภาพแวดล้อมเพื่อทุกคน (UDC) มหาวิทยาลัยแม่โจ้
ผศ.ดร.วุฒิกานต์ ปุระพรหม หัวหน้าศูนย์ออกแบบสภาพแวดล้อมเพื่อทุกคน (UDC) มหาวิทยาลัยแม่โจ้
ผศ.ดร.วุฒิกานต์ ปุระพรหม หัวหน้าศูนย์ออกแบบสภาพแวดล้อมเพื่อทุกคน (UDC) มหาวิทยาลัยแม่โจ้ และ ประธานเครือข่าย UDC ภาคเหนือ กล่าวว่า UDC ม.แม่โจ้ ภายใต้ สสส. เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของโครงสร้างการพัฒนาเมืองน่าน เติมเต็มการออกแบบกายภาพ ซึ่งจะเน้นการพัฒนาร่วมกับเครือข่าย UDC ภาคเหนืออีก 4 แห่ง คือ มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย มหาวิทยาลัยนเรศวร มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และมหาวิทยาลัยพะเยา นอกจากนี้ยังมีเจ้าของพื้นที่อย่างโรงพยาบาลน่าน เทศบาลเมืองน่าน ชมรมผู้สูงอายุและภาคเอกชนร่วมด้วย
โดยอันดับแรกในการดำเนิน UDC จะเข้าไปประเมินและวิเคราะห์ โดยเน้นไปที่ ห้องน้ำและห้องนอน เป็นหลัก ซึ่งถือว่าเป็น 2 พื้นที่ที่ผู้สูงวัยใช้ชีวิตสูงที่สุดในรอบวัน
น่านมีสัดส่วนของผู้สูงอายุค่อนข้างเยอะ เพราะฉะนั้นบ้านจึงถือได้ว่าเป็นหัวใจหลัก ซึ่งโครงสร้างบ้านของน่านค่อนข้างแตกต่างจากจังหวัดอื่นคือ เป็นบ้านพื้นถิ่นเกือบทุกหลัง มีอายุการสร้างไม่ต่ำกว่า 20 ปี มีลักษณะเป็นไม้ ยกใต้ถุนสูง 50 เมตร คนรอดเข้าไปไม่ได้ เพราะฉะนั้นการที่จะเข้าไปทำพื้นที่ใต้บ้านหรือบนบ้าน มันมีผลต่อโครงสร้างที่มีอยู่แล้ว ฉะนั้น การที่จะยกบ้านหรือดีดบ้านให้สูงขึ้นหรือการที่จะทำโครงสร้างใหม่มาพิงกับบ้านเดิม ต้องใช้วิชาชีพเฉพาะทางของฝ่ายกองช่อง ซึ่งสาธารณสุขของเมืองน่านก็เข้ามาช่วยในส่วนนี้เพื่อประเมินว่า โครงสร้างไหนทำได้หรือไม่ได้
ปัญหาส่วนใหญ่ที่พบคือ ห้องน้ำแสงส่วางไม่เพียงพอและเป็นพื้นคอนกรีต ไม่ได้ปูกระเบื้อง ซึ่งเมื่อประกอบกับแสงแดดที่เข้าไม่ถึงก็ส่งผลทำให้เกิดเชื้อรา เกิดตะไคร่ ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ผู้ป่วยหรือผู้สูงวัยลื่นล้มหกล้มได้ โดยอันดับแรกก็ต้องเพิ่มแสงสว่าง ทำให้เขามองเห็นเยอะขึ้น พอเขามองเห็นเยอะขึ้น ก็ตามมาด้วยการอุปกรณ์ราวจับ ซึ่งต้องติดตั้งตามพฤติกรรมของเขาด้วย บางคนใช้วีลแชร์ บางคนนั่ง บางคนคลาน เราก็ต้องติดตั้งราวจับให้ได้ระดับเขา ปรับปรุงให้รับกับสภาพแวดล้อมในบ้านแต่ละหลังมากที่สุด
ปรับปรุง แต่ไม่เปลี่ยนแปลง
แก้ไขความเคยชินไม่ใช่เรื่องง่าย
อย่างไรก็ตาม ตลอดการดำเนินงานที่ผ่านมา UDC มีปรับปรุงสภาพแวดล้อมบ้านไปกว่า 785 หลังในเทศบาลเมืองน่านเป็นหลัก โดยปัจจัยหลักของการทำงานภายใต้พื้นฐานการพัฒนาคือ ปรับปรุงให้ดีขึ้น ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของผู้อยู่อาศัยให้น้อย โดยผศ.ดร.วุฒิกานต์ ให้เหตุผลว่า ถ้าเราปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเขา เขาจะอยู่ไม่สนุก ซึ่งบั้นปลายสุดท้ายของคนคือบ้าน สถานที่ที่เขาอยู่อาศัยแล้วจะมีความสุขมากที่สุด
UDC จะเข้าไปประเมินในขั้นแรกว่า พื้นที่ทำกิจกรรมของแต่ละคนเป็นอย่างไร ลักษณะพฤติกรรมของเขาตั้งแต่ตื่นเช้ายันเย็นเขาทำอะไรบ้างในบ้านหลังนั้น คือเราต้องศึกษาเรียนรู้เจ้าของบ้านจริง ๆ ก่อนพอรู้ว่า เขาเป็นยังไง เสร็จปุ๊บ ค่อยย้อนกลับมาดูว่า เราควรจะปรับปรุงอะไรแบบไหนให้เปลี่ยนแปลงพฤติกรรมเขาน้อยที่สุด วิถีชีวิตของแต่ละพื้นที่ต่างกัน ภูมิภาคแต่ละภูมิภาคมีวิถีชีวิตต่างกัน ซึ่งอย่างที่นพ.พงศ์เทพบอก เราตัดเสื้อเชิ้ตชุดเดียวกันไม่ได้ เราต้องคล้อยไปตามพื้นที่นั้น ๆ อันนี้คือประเด็นหลักที่ผมมองเห็นมานานแล้วและคิดว่า ก็ต้องเรียนรู้กันต่อไปเรื่อย ๆ
ผมยกตัวอย่างบันไดนะ ระยะความสูงถ้าจะปรับให้เหมือน UD เลย มันทำไม่ได้ หลาย ๆ หลังเป็นบ้านไม้ยกใต้ถุนสูงเช่นเดียวกับ จังหวัดเชียงใหม่ พะเยา เชียงราย ซึ่งบันไดเป็นสิ่งแรกที่คุณยาย คุณตาในบ้านเขาบอกผมเลยว่า อาจารย์ปรับได้ทุกอย่างในบ้านยกเว้นบันได ถ้าอาจารย์ปรับเพื่อให้ยายไม่ล้ม อาจารย์ปรับบันไดวันนี้ พรุ่งนี้ยายล้มเลย เพราะว่าความเคยชินกับพฤติกรรมที่เขาใช้มาตั้งแต่เด็กจนแก่ เขาเคยชินกับพฤติกรรมแบบนี้ ถึงแม้ว่า เราจะมองว่ามันสูงไป แต่เราก็ต้องคล้อยตามพฤติกรรมของเขาด้วย
ผศ.ดร.วุฒิกานต์ กล่าวว่า ปัจจุบัน จังหวัดน่าน มีการปรับภูมิทัศน์ ได้แก่ 1.ที่ชุมชนบ้านน้ำล้อม ต.ในเวียง อ.เมือง มีการจัดสภาพแวดล้อมบ้านผู้สูงอายุกลุ่มยากไร้และอยู่เพียงลำพัง โดยปรับปรุงห้องน้ำ บันได พื้นบ้าน จัดระเบียบของใช้ และเพิ่มสิ่งอำนวยความสะดวก 2.ศาสนสถาน มีการปรับปรุงพื้นที่ และอาคารสาธารณะ เช่น แก้ไขพื้นผิวทาง เพิ่มราวจับ 3.ตลาดชุมชนบ้านพระเนตร มีการปรับห้องน้ำสาธารณะ เพิ่มราวจับ 4.เตรียมสร้างศูนย์ดูแลผู้สูงวัย แบบไปเช้า-เย็นกลับ (DAYCARE) ที่โรงพยาบาลน่าน มีเนื้อที่ใช้สอย 700 ตารางเมตร เพื่อลดความแออัดในโรงพยาบาล โดยออกแบบให้เป็นสถานบริบาลให้ผู้สูงอายุมาตรวจเช็คร่างกาย ทำกายภาพบำบัด รับยา และจัดร่วมกิจกรรมที่เหมาะสมกับช่วงวัย เพื่อให้ผู้สูงอายุมีกิจกรรมทำนอกบ้าน ไม่ต้องอยู่บ้านเพียงลำพัง ช่วยลดความกังวลของบุตรหลาน
ทั้งนี้ สำหรับเส้นทางที่จะนำ น่านโมเดล ก้าวไปสู่ความเป็น น่านที่ยั่งยืน ผศ.ดร.วุฒิกานต์ ในฐานะคนทำงานคลุกคลีกับจังหวัดนี้มาพอสมควร มองว่า สุดท้ายแล้วสิ่งที่จะคงอยู่คู่กับน่านคือองค์ความรู้ที่ยั่งยืน ซึ่งถือเป็นหัวใจของ UDC อย่างไรก็ดี แผนอนาคตอันใกล้นี้คงมีการเตรียมขยายพื้นที่ไปอีก 15 อำเภอในจังหวัดน่าน
ตัวอย่างท้องถิ่นเข้มแข็ง
พัฒนาไปด้วยกัน ไปได้ไกล
นายณกรณ์ ศิริรัตน์พิริยะ รองนายกเทศบาลเมืองน่าน
นายณกรณ์ ศิริรัตน์พิริยะ รองนายกเทศบาลเมืองน่าน
ส่วนอีกหนึ่งความร่วมมือที่ขาดไม่ได้จากภาคท้องถิ่น นายณกรณ์ ศิริรัตน์พิริยะ รองนายกเทศบาลเมืองน่าน เล่าว่า เทศบาลเมืองน่านได้ปรับปรุงสถานที่เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้สูงอายุและผู้พิการ ด้วยการเพิ่มทางลาดในทุก ๆ อาคารรวมทั้งในจุดจอดรถ นอกจากนั้นยังมีวีลแชร์ รถราง รถสามล้อไฟฟ้า และรถ 1669 ไว้รอบริการประชาชน ปัจุบันเทสบาลเมืองน่านมีการปรับปรุง อาคารจามจุรี อาคารพญานาคของศูนย์ท่องเที่ยวเมืองน่าน และอาคารสำนักงานเทศบาลเมืองน่าน และยังบูรณาการทำงานกับหลายฝ่ายในการสำรวจชุมชนเพื่อปรับปรุงสภาพแวดล้อมตามความต้องการของประชาชน ทั้งนี้เทศบาลเมืองน่านได้ส่งทีมประเมินบ้านของผู้สูงอายุ คนพิการ เป็นประจำ และมีทีมอนุกรรมการลงพื้นที่สำรวจเยี่ยมบ้านทุกวันพุธ เพื่อนำข้อเสนอต่าง ๆ ของประชาชนนำไปวางแผนการพัฒนาให้เหมาะสม
นอกจากนี้ยังได้ทำบันทึกข้อตกลง (MOU) ร่วมกับ 4 หน่วยงาน ได้แก่ โรงพยาบาลน่าน จุฬาภรณ์ราชวิทยาลัย สมาคมสถาปัตย์ภาคเหนือ และวิทยาลัยชุมชนในการดูแลผู้สูงอายุ เพื่อพัฒนาแนวทางการทำงาน UD ในจังหวัดน่าน ให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น เพื่อให้ประชาชนได้รับประโยชน์อย่างแท้จริง
การดูแลประชาชนถือเป็นภารกิจของเทศบาลอยู่แล้วที่ต้องบำบัดทุกข์ บำรุงสุขประชาชน ซึ่งในวันนี้รู้สึกยินดีที่ สสส. ลงพื้นที่และให้ความรู้กับทีมงานของกองช่างและชุมชน เพื่อจะได้ป้องกันการหกล้มในบ้านพักอาศัย ทั้งนี้ บทบาทเทศบาลในการพัฒนาเมืองน่าน เราถือว่า เราเป็นผู้ปฏิบัติมากกว่า โดยร่วมกับหลายภาคีเครือข่าย ทั้งนี้ ส่วนสิ่งที่กังวลมากที่สุดคือวิธีแนวทางปฏิบัติ ซึ่งต้องยอมรับว่า มีบางส่วนที่ยังไม่สามารถดำเนินการได้แบบ 100% แต่ถึงอย่างนั้นเราในนามของท้องถิ่น เราก็จะดูแลพี่น้องประชาชนให้อยู่อย่างมีความสุข ครอบคลุมทุกมิติ โดยเริ่มจาการปรับปรุงพื้นที่ของเราให้ดีที่สุดก่อน นายณกรณ์ กล่าวทิ้งท้าย
11 มี.ค. 2567 ผู้จัดการออนไลน์