My Community

หมวดหมู่ทั่วไป => ข่าวเกี่ยวกับวงการแพทย์ => ข้อความที่เริ่มโดย: ABBA ที่ 06 มกราคม 2013, 20:13:59

หัวข้อ: สปสช.จับมือ สธ.เล็งตั้งศูนย์รับบริจาคอวัยวะในหน่วยบริการสังกัด สป.สธ.15 แห่ง
เริ่มหัวข้อโดย: ABBA ที่ 06 มกราคม 2013, 20:13:59
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์   6 มกราคม 2556 13:53 น.   

   
       สปสช.จับมือ สธ.เล็งตั้งศูนย์รับบริจาคอวัยวะในหน่วยบริการสังกัด สป.สธ.15 แห่ง ชู “รพ.สรรพสิทธิประสงค์” ต้นแบบการขอรับบริจาคอวัยวะ เผยปี 55 จัดหาอวัยวะได้มากสุด 32 ราย เป็น รพศ.แห่งแรกของ สธ.ที่ปลูกถ่ายอวัยวะได้
       
       นพ.มนัส กนกศิลป์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จ.อุบลราชธานี เปิดเผยว่า รพ.สรรพสิทธิประสงค์ได้จัดตั้งศูนย์รับบริจาคและปลูกถ่ายอวัยวะขึ้นอย่างไม่เป็นทางการ โดยการขอรับบริจาคอวัยวะในผู้เสียชีวิตสมองตายครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ. 2545 โดยมี นพ.ชัยธัช รักราชการ เป็นผู้ริเริ่มโครงการร่วมกับทีมต่างๆ กระทั่งจัดตั้งเป็นศูนย์รับบริจาคและปลูกถ่ายอวัยวะสภากาชาดไทยขึ้น โดยมีคณะกรรมการ 4 ฝ่ายดูแล คือ กรรมการดูแลผู้บริจาคอวัยวะ กรรมการฝ่ายดูแลผู้รับการปลูกถ่ายอวัยวะ กรรมการฝ่ายผ่าตัดและปลูกถ่ายอวัยวะ และกรรมการฝ่ายประชาสัมพันธ์
       
       นพ.มนัสกล่าวต่อว่า การจัดตั้งศูนย์ฯ ขึ้นเพื่อสนับสนุนให้มีการบริจาคอวัยวะ และการแสดงความจำนงการบริจาคอวัยวะให้แก่สภากาชาดไทยให้มากขึ้น เพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยที่อวัยวะสำคัญล้มเหลวได้รับการรักษาด้วยการปลูกถ่ายอวัยวะให้มากขึ้น รวมถึงเพื่อการเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับสมองตายและการบริจาคอวัยวะ ขณะเดียวกัน โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ได้เป็นสมาชิกสามัญเพื่อการปลูกถ่ายไตของศูนย์รับบริจาคอวัยวะสภากาชาดไทย เมื่อวันที่ 9 เมษายน 2546 ซึ่งเริ่มทำการปลูกถ่ายไตในผู้บริจาคที่มีชีวิต หลังจากนั้นมีการปลูกถ่ายอวัยวะจากผู้บริจาคเสียชีวิตสมองตายครั้งแรกเมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม 2554 จนถึงปัจจุบัน 25 ราย นับเป็นโรงพยาบาลศูนย์แห่งแรกในสังกัดกระทรวงสาธารณสุขที่ทำการปลูกถ่ายอวัยวะได้
       
       นพ.สันติ โรจน์ศตพงค์ หัวหน้าศูนย์รับบริจาคและปลูกถ่ายอวัยวะ รพ.สรรพสิทธิประสงค์ กล่าวว่า ขณะนี้มีประชาชนผู้สนใจแสดงความจำนงบริจาคอวัยวะ 2,502 ราย และแสดงความจำนงบริจาคดวงตา 2,347 ราย มีจำนวนผู้เสียชีวิตจากภาวะสมองตายที่บริจาคอวัยวะให้กับศูนย์รับบริจาคและปลูกถ่ายอวัยวะ รพ.สรรพสิทธิประสงค์ จำนวน 217 ราย ซึ่งความสำเร็จดังกล่าวนั้นได้รับการยกย่องเป็นโรงพยาบาลต้นแบบของกระทรวงสาธารณสุขในการก่อตั้งและดำเนินการขอบริจาคอวัยวะ และเป็นสถานที่ศึกษาดูงานของพยาบาลผู้ประสานงานการรับบริจาคและปลูกถ่ายอวัยวะจากหน่วยงานต่างๆ เช่น รพ.รามาธิบดี รพ.พุทธชินราช จ.พิษณุโลก และรพ.สงขลานครินทร์ และพยาบาลผู้ประสานงานได้รับเชิญเป็นวิทยากรในการขอบริจาคอวัยวะแก่หน่วยงานต่างๆ เช่น ศูนย์รับบริจาคอวัยวะสภากาชาดไทย ศูนย์ดวงตาสภากาชาดไทย รพ.มหาราชเชียงใหม่ รพ.ศรีนครินทร์ และรพ.รามาธิบดี
       
       นพ.ปานเทพ คณานุรักษ์ ผู้อำนวยการแผนงานสนับสนุนระบบบริการโรคไตวาย สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวถึงการสนับสนุนของ สปสช. ว่า ขณะนี้ สปสช.ร่วมกับกระทรวงสาธารณสุขอยู่ในระหว่างให้หน่วยบริการในสังกัดสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข 15 แห่งเป็นศูนย์รับบริจาคอวัยวะ ที่มีการจัดสรรอวัยวะที่มีผู้บริจาคให้กับผู้รอรับบริจาคทั่วประเทศ โดยมุ่งเน้นเรื่องของการบริจาคไตเป็นหลัก อย่างไรก็ตาม รพ.สรรพสิทธิประสงค์ จ.อุบลราชธานี นั้นนอกจากเป็นศูนย์ปลูกถ่ายอวัยวะแล้วยังเป็นหน่วยบริการที่มียอดการจัดหาอวัยวะได้สูงสุด โดยตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม ถึง 30 พฤศจิกายน 2555 สามารถหาอวัยวะได้จากผู้บริจาค 32 ราย มากที่สุดในประเทศไทย ทาง สปสช.จึงกำลังดำเนินการพิจารณาจัดสรรงบประมาณเพิ่มเติมเพื่อสนับสนุนกิจการปลูกถ่ายอวัยวะให้กับทาง รพ.สรรพสิทธิประสงค์ จ.อุบลราชธานี คาดว่าจะได้ประมาณ 1 ล้านบาท เพื่อที่ทางโรงพยาบาลจะได้นำไปใช้ในการพัฒนาระบบบริการด้านการปลูกถ่ายอวัยวะต่อไป