My Community
หมวดหมู่ทั่วไป => ข่าวเกี่ยวกับวงการแพทย์ => ข้อความที่เริ่มโดย: story ที่ 21 ตุลาคม 2010, 19:48:46
-
ปลัด สธ.พ้อ รพ.สธ.ขาดทุนหนัก บ.ยาไม่ขายยาให้ กางบัญชีไตรมาส 3 ปี 53 รอบ 3 เดือน พบ รพ.สธ.ขาดทุนเพิ่ม 9 แห่ง เป็นเงินกว่า 1.2 พันล้านบาท
วานนี้ (19 ต.ค.) ที่โรงแรมมิราเคิลแกรนด์ นพ.ไพจิตร์ วราชิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวในการประชุมผู้บริหารส่วนภูมิภาค เรื่อง โครงการติดตามการปฏิบัติตามนโยบายเร่งรัดของกระทรวงสาธารณสุขเป็นการเฉพาะกิ จ ครั้งที่ 2/2553 ว่า จำเป็นต้องให้การช่วยเหลือโรงพยาบาลที่ขาดทุนรุนแรง จน รพ.บางแห่ง บริษัทยาไม่ขายยา ซึ่งบางเรื่องเป็นเรื่องการบริหารจัดการภายในสธ.เพราะฉะนั้น ขอความร่วมมือผู้บริหารบางแห่งที่จะมาพูดคุยหารือเป็นการเฉพาะ ส่วนการแก้ปัญหาระดับใหญ่ สธ.จะหารือกับสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ในการแก้ปัญหาทั้งระยะสั้น ระยะกลางและระยะยาว
ปลัด สธ.กล่าวอีกว่า เรื่องการเงินการคลังเกี่ยวข้องกับ 2 เรื่อง คือ เงินบำรุงของ รพ.แต่ละแห่ง ขอให้อย่าใช้เงินบำรุงในการก่อสร้างอีก หากจะมีการก่อสร้างให้ขอ สธ.เพื่อจะได้ตั้งงบประมาณ เพราะเงินบำรุงนั้นสำคัญสำหรับสถานพยาบาล เนื่องจากเงินบำรุงนั้นมีแนวโน้มในภาพรวมอยู่ตัวและน้อยลง สำหรับในส่วนของรายจ่าย เรื่องค่าตอบแทนเป็นหนึ่งในสิ่งสำคัญ แต่จะไม่มีการยกเลิกอย่างแน่นอน
รายงานข่าวระบุว่า จากการส่งข้อมูลมายังศูนย์ปฏิบัติการสารสนเทศด้านการเงินและการคลัง สำนักงานปลัด สธ.จำนวน 830 แห่ง จากจำนวน รพ.ทั้งหมด 840 แห่ง พบว่า ไตรมาส 3 ปีงบประมาณ 2553 รพ.ขาดทุน 579 แห่ง คิดเป็น 70% ของจำนวนที่รายงานทั้งหมด โดยคิดเป็นเงินที่ขาดทุนถึง 3,098.88 ล้านบาท ซึ่งถือว่าเพิ่มขึ้นจากไตรมาส 2 ปี 2553 จำนวน 9 แห่ง และขาดทุนเพิ่มขึ้นเป็นเงิน 1,211.72 ล้านบาท ในจำนวน 579 แห่ง พบว่า เป็น รพ.ขนาดเล็ก ตั้งอยู่ในอำเภอหรือโรงพยาบาลชุมชน (รพช.) มากที่สุด 520 แห่ง โรงพยาบาลทั่วไป (รพท.) 45 แห่ง และโรงพยาบาลศูนย์ (รพศ.) 14 แห่ง ขณะที่โรงพยาบาลที่มีผลกำไรมีจำนวน 251 แห่ง แยกเป็น รพช.216 แห่ง รพท.24 แห่ง รพศ.11 แห่ง อย่างไรก็ตาม สำหรับการประเมินความมั่นคงสถานการเงินในภาพรวม พบว่า ทุนสำรองซึ่งถือเป็นทุนสำรองความเสี่ยงกรณีผู้ประกอบการขาดทุนในช่วงต่อไป โดยหากทุนสำรองลดลงเรื่อยๆ ก็แสดงว่า ความมั่นคงจะลดลงเช่นกัน
ASTVผู้จัดการออนไลน์ 20 ตุลาคม 2553