My Community
หมวดหมู่ทั่วไป => ข่าวเกี่ยวกับวงการแพทย์ => ข้อความที่เริ่มโดย: story ที่ 16 สิงหาคม 2021, 20:18:00
-
วิจารณ์แซ่ด สสจ.รับเรื่องจริง พญ.เมืองคอน แอบพาญาติฉีดไฟเซอร์ เผยยื่นลาออกแล้ว
เมื่อวันที่ 16 สิงหาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า โลกโซเชียลได้แชร์ภาพวงจรปิดในพื้นที่อำเภอแห่งหนึ่ง ในจังหวัดนครศรีธรรมราช ที่มีกลุ่ม VIP สังกัดสาธารณสุข นำครอบครัวเข้ารับวัคซีนไฟเซอร์จนมีคนเข้ามาโพสต์วิพากษ์วิจารณ์จำนวนมาก จากนั้นในกลุ่ม สาธารณสุขก็มีการโพสต์วิพากษ์วิจารณ์เช่นกัน เนื่องจากภาพที่มีการแชร์ให้เห็นเป็นภาพเจ้าหน้าที่ด่านหน้าในพื้นที่อำเภอหนึ่งเข้ารับการฉีดวัคซีนไฟเซอร์
ล่าสุด ได้สอบถามไปยังสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนครศรีธรรมราช ทราบแต่เพียงว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องจริง เหตุเกิดเมื่อวันที่ 13 สิงหาคมที่ผ่านมา ได้มีแพทย์หญิงจากโรงพยาบาลแห่งหนึ่งในจังหวัดนครศรีธรรมราชนำครอบครัวเข้ารับวัคซีนไฟเซอร์ จนนำมาสู่การวิพากษ์วิจารณ์การกระทำของแพทย์คนดังกล่าว โดยเฉพาะในวงการแพทย์ บุคลากรทางการแพทย์ และสาธารณสุขของจังหวัดนครศรีธรรมราช โดยผู้ที่อยู่ในวงการหลายคนพยายามสื่อสารกับสังคมถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่ไม่ได้เปิดเผยข้อมูลรายละเอียดเชิงลึกเนื่องจากเกรงว่าอาจได้รับผลกระทบ หรืออาจถูกฟ้องร้อง
เจ้าหน้าที่สาธารณสุขในพื้นที่รายหนึ่งระบุว่า เมื่อวันที่ 13 สิงหาคมที่ผ่านมา แพทย์หญิงระดับปฏิบัติการของโรงพยาบาลแห่งหนึ่งได้นำครอบครัวมารับวัคซีนไฟเซอร์ในเวลาช่วงบ่ายของวันดังกล่าว ในวันนั้นได้เบิกจ่ายวัคซีน จำนวน 11 ขวด จะมีผู้ได้รับวัคซีนซึ่งเป็นบุคลากรด่านหน้าที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่ในพื้นที่อำเภอที่เกิดเหตุ จำนวน 66 คน มารอรับ
โดยวัคซีนไฟเซอร์ 1 ขวด จะสามารถฉีดให้กับบุคลากรได้ 6 คน แต่มีเทคนิคคือแต่ละขวดหากใช้วิธีการ Low Dead Space Syringe จะสามารถดึงวัคซีนฉีดได้ถึง 7 คน ซึ่งโดยปกติแต่ละขวดนั้นจะฉีดเฉพาะ 6 คน หรือ 6 โดสเท่านั้น ที่เหลือจะได้รับคำสั่งให้ทิ้ง แต่ประเด็นนี้ได้มีการเตรียมการล่วงหน้า โดยมีผู้ที่มารับวัคซีนส่วนที่เหลือนั้น คือพี่สาวของแพทย์หญิงคนดังกล่าว ส่วนแม่ได้รับวัคซีนในส่วนของ 6 โดส
เจ้าหน้าที่รายเดิมกล่าวว่า คนที่เข้ามาฉีดนั้นไม่มีใบเซ็นยินยอมรับวัคซีนและไม่มีสติ๊กเกอร์ Lot Vaccine ไม่มีการส่งเอกสารคีย์เข้าระบบ MOPH IC แต่สามารถตรวจสอบได้ว่าบุคคลดังกล่าวได้รับวัคซีนในขวดที่ 2 ใน Lot : 30125BA Exp. 30/11/2564 แต่ไม่ทราบลำดับโดส เพราะไม่มีสติ๊กเกอร์ติดให้ ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมีแพทย์หญิงคนดังกล่าวกำกับอยู่ตลอด ที่สำคัญเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นกล้องวงจรปิดบันทึกภาพไว้ได้ทั้งหมด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เรื่องที่เกิดขึ้นได้สร้างความอึดอัดให้กับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องหลังจากเกิดเหตุการณ์ โดยได้รายงานให้ผู้อำนวยการโรงพยาบาลทราบ และหลังจากมีการกล่าวถึงในโลกโซเชียลและในกลุ่มแพทย์เป็นจำนวนมาก แพทย์หญิงคนดังกล่าวได้แสดงความจำนงที่จะยื่นขอลาออกจากตำแหน่งแพทย์ปฏิบัติการของโรงพยาบาลดังกล่าวในวันที่ 15 สิงหาคมที่ผ่านมา
นายแพทย์จรัสพงษ์ สุขกรี นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้กล่าวว่า ตนได้ย้ำทุกครั้งในการฉีดวัคซีนที่รับมาจากส่วนกลางว่า การรับวัคซีนไฟเซอร์จะต้องเป็นไปตามเจตนารมณ์ คือต้องเป็นแพทย์ พยาบาล บุคลากรทางการแพทย์ด่านหน้าเท่านั้น หากผิดไปจากนี้ผู้ที่เกี่ยวข้องจะถูกสังคมลงโทษ และต้องดำเนินการทางวินัย
ในส่วนของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในโรงพยาบาลขณะนี้ได้ลงนามตั้งคณะกรรมการสอบสวนตามขั้นตอนของทางราชการแล้ว ส่วนการที่แพทย์หญิงคนดังกล่าวลาออกนั้นขณะนี้ยังไม่เห็นเอกสารหลักฐานที่ชัดเจนแต่อย่างใด
16 สิงหาคม 2564
https://www.matichon.co.th/region/news_2887621
-
โรงพยาบาลนบพิตำ จ.นครศรีธรรมราช แถลงข่าวกรณีพทย์หญิง ฉีดไฟเซอร์ให้พี่สาว เป็นเรื่องจริง จับได้ก่อนฉีดให้แม่กับญาติเพิ่ม เจ้าตัวรับผิดขอลาออก
16 ส.ค. 2564 จากกรณีแพทย์หญิงโรงพยาบาลนบพิตำ จ.นครศรีธรรมราช มีการฉีดวัคซีนไฟเซอร์ให้กับเครือญาติของตนเอง จนกลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง
ล่าสุด นพ.จรัสพงษ์ สุขกรี สาธารณสุขจังหวัด พร้อมด้วย นพ.กฤษณ์ เพชรสำรวล ผู้อำนวยการโรงพยาบาลนบพิตำ ได้แถลงข่าวด่วนเพื่อชี้แจงถึงเรื่องที่เกิดขึ้น โดยยอมรับว่าเกิดขึ้นจริง
นพ.จรัสพงษ์ สุขกรี กล่าวว่า แพทย์หญิงที่อยู่ในกระแสข่าวได้ขอเข้าพบแล้ว และยอมรับว่าเสียใจมากกับเรื่องที่เกิดขึ้น โดยได้พิจารณาตัวเองโดยการยื่นหนังสือลาออกจากราชการ ในตำแหน่งนายแพทย์ปฏิบัติการแล้ว หลังจากนี้จะมีการเสนอหนังสือลาออกไปถึงผู้ว่าราชการจังหวัด เพื่อพิจารณาต่อไป
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าจะมีการลาออกเกิดขึ้น แต่ในส่วนของคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงยังดำเนินการต่อไป ข้อเท็จจริงได้มีการฉีดวัคซีนให้พี่สาวของแพทย์หญิง โดยเป็นวัคซีนส่วนที่เหลือเป็นโดสที่ 7 จากปกติ 1 ขวดจะได้เพียง 6 โดส แต่เมื่อมีการดึงด้วยไซริงค์ที่เรียกว่า Low Dead Space Syringe จะสามารถดึงได้หมดโดยไม่มีวัคซีนตกค้าง
หลังจากฉีดให้กับพี่สาวแล้ว เจ้าหน้าที่ได้รายงาน ผอ.โรงพยาบาล จึงสั่งให้ระงับการฉีดให้กับบุคคลภายนอกที่ไม่ใช่เจ้าหน้าที่บุคลากรสาธารณสุขด่านหน้า ทำให้ไม่ได้ฉีดให้กับมารดาและญาติของแพทย์หญิง หลังจากนี้จะมีคณะกรรมการสอบสวนเข้าทำการสอบทั้งหมดเพื่อพิจารณาโทษอีกครั้ง
16 ส.ค. 2564
https://www.khaosod.co.th/covid-19/news_6566447
-
เพจ "Dr.Review" ได้ออกมาโพสต์ชี้แจงเป็นข้อๆ กรณี แพทย์หญิงโรงพยาบาลนบพิตำ จ.นครศรีธรรมราช ได้พาพี่สาวฉีดวัคซีนไฟเซอร์ ทั้งนี้ ตรวจสอบพบ แพทย์หญิงรายนี้เปิดคลินิกศัลยกรรมตกแต่งในเวลาราชการอีกด้วย
จากกรณี แพทย์หญิงโรงพยาบาลนบพิตำ จ.นครศรีธรรมราช ได้พาพี่สาวฉีดวัคซีนไฟเซอร์โดสที่ 7 ที่เหลือก้นขวด จนกลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ถึงความไม่เหมาะสม ซึ่งนายแพทย์สาธารณสุข จ.นครศรีธรรมราชได้กล่าวขอโทษประชาชนและตั้งกรรมการสอบสวนทางวินัยแล้ว โดยระบุว่า แพทย์หญิงคนดังกล่าวได้ยื่นใบลาออกแล้วนั้น
ต่อมา แพทย์หญิงรายดังกล่าว กลับลำตัดสินใจไม่ลาออกแล้ว ให้เหตุผลว่าหมอ รพ.นบพิตำ มีน้อยต้องแบ่งไปช่วย รพ.สนาม เกรงจะไม่เพียงพอ คิดทบทวนเราได้อะไรจากการลาออก จะขออยู่สู้ต่อเพื่อคนไข้ กล่าวขอโทษทั้งน้ำตาที่คิดน้อยไป แค่อยากให้ได้ฉีดวัคซีน
ล่าสุด เมื่อวันที่ 18 ส.ค. เพจ "Dr.Review" ได้ออกมาโพสต์ข้อความและตั้งข้อสังเกตว่าแพทย์หญิงคนนี้ ไม่ได้มีความสำนึกต่อเรื่องที่เกิดขึ้น โดยทางเพจชี้แจงประเด็นดังนี้
1. ทำงานช่วยเหลือคนไข้มาเป็นหมื่นเป็นแสนคน ทำไมเอาวัคซีนเหลือทิ้งฉีดให้แม่หรือพี่ไม่ได้
ทำงานมาแค่ไม่ถึงสามปี คนอื่นเค้าทำมากี่ปี แล้วคนอื่นไม่มีพ่อแม่ ต้องดูแลหรือไง
2. ต้องกลับไปนอนกลับแม่ กับพี่ ยอมเสียสละตัวเอง ยอมเสี่ยง
แนะให้แยกจากแม่สิ หลายๆ คนเค้าไม่ได้เจอที่บ้านมาเป็นปีละหนู อะไรคือยอมเสียสละ ยอมเสี่ยง คนอื่นเค้าก็เสี่ยง แต่เค้าไม่ชั่วแบบนี้ไง
3. ขอโทษที่เห็นแก่ตัวเอาวัคซีนที่ทิ้งไปมาฉีด
ขอโทษ ต้องมาจากการสำนึกผิด อย่าพูดไปเรื่อย แบบที่ทำกันไม่งั้นมันจะไร้ค่า แล้วไม่ใช่เห็นแก่ตัว #หนูคือขโมย โดนจับได้ด้วยกล้องวงจรปิด นี่เตรียมจะเอาญาติมาฉีดอีก แต่โดนจับได้ก่อน
4. ผอ.แจ้งจุดฉีดวัคซีนให้ระงับ น้อยใจ ขอลาออก
หนู ผอ.ก็ทำถูกแล้ว ทำผิดก็ต้องรับโทษ สำนึกผิด ไม่ใช่น้อยใจที่ถูกจับขโมยได้ นี่ผอ.ปราณีมากแล้วนะตอนสัมอะ ยอมโดนด่าแทนขนาดนี้
5. รพ.มีหมอน้อยมากเพราะต้องไปช่วยบุษราคัม หมอไม่พอ ไม่ลาออกแล้ว
ขอกลับมาสู้ต่อ ว่าแต่คนอื่นเค้าต้องผลัดเวรไปบุษราคัม แต่หนูไม่ไป แปลว่าอะไร
.
6. ไม่ได้แย่งวัคซีนของใคร ขอโทษที่หยิบวัคซีนขยะ
ถ้าใช้โดส 7 ฉีดจริง ได้ครบโดส แปลว่า 1-6 จะเป็นยังไงนะ กล้าพูดวัคซีนขยะ นี่ถ้าไม่โดนจับได้ก่อน ก็คือจะพามาทั้งครอบครัวแล้ว
อย่างไรก็ตาม แพทย์หญิงรายดังกล่าวเปิดคลินิกศัลยกรรมตกแต่งในเวลาราชการ และเป็นประเด็นดรามาเนื่องจาก แพทย์หญิงรายนี้ไม่ได้จบเฉพาะทางอีกด้วย
19 ส.ค. 2564 ผู้จัดการออนไลน์
-
พญ.กฤตยาณี มาทำงานที่ รพ.นบพิตำตามปกติ แต่ไม่ได้ออกมาร่วมรับมอบกระเช้าที่ นอภ.นบพิตำและคณะนำมามอบเป็นกำลังใจแก่ ผอ.รพ.นบพิตำ และบุคลากรทางการแพทย์ ด้าน ผอ.รพ.ระบุการสอบสวนทางวินัยแพทย์หญิงยังคงดำเนินการ
จากกรณีที่แพทย์หญิงโรงพยาบาลนบพิตำ จ.นครศรีธรรมราช นำพี่สาวไปฉีดวัคซีนไฟเซอร์ จนกลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ถึงความไม่เหมาะสม ซึ่งนายแพทย์สาธารณสุข จ.นครศรีธรรมราชได้กล่าวขอโทษประชาชนและตั้งกรรมการสอบสวนทางวินัย ซึ่งแพทย์คนดังกล่าวระบุว่า เป็นการใช้วัคซีนที่เหลือทิ้งและเปลี่ยนใจไม่ลาออกแล้วนั้น
วันนี้ (18 ส.ค.) พญ.กฤตยาณี พูลเพียร ซึ่งเป็นผู้นำพี่สาวมาฉีดวัคซีนไฟเซอร์ ได้มาทำงานตามปกติ ซึ่ง นพ.กฤษณ์ เพชรสำรวล ผอ.โรงพยาบาลนบพิตำ ได้เรียกไปพูดคุยถึงการปฏิบัติหน้าที่ รวมทั้งให้กำลังใจในการแก้ไขสิ่งที่ผิดพลาด อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่า มีข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ได้กล่าวตำหนิ พญ.กฤตยาณี หลังจากที่ได้ออกมาเปิดเผยข้อมูล โดยมีการกล่าวอ้างถึงข้าราชการชั้นผู้ใหญ่หลายคนว่า ได้ขอร้องให้ระงับการลาออก ซึ่งทำให้มีการวิพากษ์วิจารณ์ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่เหล่านั้นอย่างรุนแรงด้วย
นอกจากนี้ เมื่อเวลา 10.30 น. ที่โรงพยาบาลนบพิตำ นายสาธร หวังพัฒน์ นอภ.นบพิตำ พร้อมด้วยนายกรีฑา อินณรงค์ กำนัน ต.นบพิตำ และคณะ ได้มามอบกระเช้าเพื่อเป็นกำลังใจให้แก่ นพ.กฤษณ์ เพชรสำรวล ผอ.โรงพยาบาลนบพิตำ และบุคลากรทางการแพทย์ของโรงพยาบาล โดย พญ.กฤตยาณี ไม่ได้ออกมาร่วมรับกระเช้าแต่อย่างใด
นายสาทร กล่าวว่า วันนี้ ตนเองพร้อมกับกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และเจ้าหน้าที่ อสม.ได้มามอบกระเช้าเพื่อเป็นกำลังใจแก่บุคลากรทางการแพทย์ของโรงพยาบาลนบพิตำ ที่ได้ทำหน้าที่ในช่วงสถานการณ์โควิด-19 นอกจากนี้ อำเภอนบพิตำได้จัดทำโรงพยาบาลสนามที่หอประชุมอำเภอ ขนาด 50 เตียง เพื่อรองรับผู้ป่วยชาวนบพิตำ ที่จะกลับมารักษาตัวที่บ้าน โดยจะเปิดในวันพรุ่งนี้ (19 ส.ค.) ซึ่งอุปกรณ์ทุกอย่างในโรงพยาบาลสนาม เจ้าอาวาสวัดภูเขาเหล็กได้บริจาคมาให้
ด้าน นพ.กฤษณ์ กล่าวว่า โรงพยาบาลนบพิตำมีแพทย์ทั้งหมด 5 คน ส่งไปช่วยโรงพยาบาลบุษราคัม 1 คน เหลือ 4 คน ต้องรับผิดชอบประชากร อ.นบพิตำ 3,300 กว่าคน ต้องขอขอบคุณสำหรับกำลังใจที่มอบให้ พวกเราจะทำหน้าที่ให้เต็มกำลังความสามารถให้ดีที่สุด ส่วนกรณีของแพทย์หญิงที่เป็นกระแสข่าวอยู่นั้น ในส่วนของการตั้งกรรมการสอบสวนทางวินัยยังคงดำเนินการกันอยู่
18 ส.ค. 2564 ผู้จัดการออนไลน์