My Community

หมวดหมู่ทั่วไป => ข่าวสมาพันธ์ => ข้อความที่เริ่มโดย: story ที่ 05 มิถุนายน 2020, 14:25:15

หัวข้อ: ย้าย "หมอชาญชัย" ผิดจริงหรือล้างแค้น-คมชัดลึก 3มิย2563
เริ่มหัวข้อโดย: story ที่ 05 มิถุนายน 2020, 14:25:15
(https://i.postimg.cc/Dz4s5mcv/3-2563.png)
คม ชัด ลึก
ปลัดแจงแล้วทำไมถึงย้าย หมอชาญชัย 2 รอบ
NationTV22  3 มิย 2563
ผู้สัมภาษณ์-         คุณหมอชาญชัยบอกว่ากระบวนการ ขั้นตอนกรรมการสอบวินัยไม่น่าจะไว้วางใจเท่าไหร่
ปลัดกระทรวงฯ-    กระบวนการเริ่มจากมีผู้ร้องเรียนกล่าวหา และมีหลักฐานว่าคุณหมอชาญชัยมีการทุจริต ฉ้อราษฎร์บังหลวง รับเงินจากบริษัทยา เอาเข้ากองทุน ซึ่งผิดระเบียบของ ปปช. ที่เสนอนายกรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 12 กย(2560) ...ไม่ใช่ว่ามีข้อร้องเรียนกล่าวโทษแล้วจะถือว่าผิด มีการตั้งกรรมการเพื่อสืบข้อเท็จจริง(*) ตั้งแต่เดือนตุลาคมเมื่อปีที่แล้ว รวบรวมข้อมูลจากการสอบถามผู้ที่เกี่ยวข้อง

ผู้สัมภาษณ์-         ท่านปลัดใช้คำว่า คุณหมอชาญชัยมีพฤติกรรมตามที่ผู้ร้องว่า ฉ้อราษฎร์บังหลวงทุจริต โดยการรับเงินบริจาคเข้ากองทุน  ผมถามตรงนี้ก่อนว่า การรับเงินบริจาคเข้ากองทุนของโรงพยาบาลต่างๆ ซึ่งเราก็รู้ว่ามันมีอยู่จริงๆ คุณหมอชาญชัยก็บอกว่ามีจริง อันนี้ถือว่า ฉ้อราษฏร์บังหลวงเลยหรอ ทั้งๆที่เงินกองทุนนั้นอาจทำผลประโยชน์ให้กับโรงพยาบาล อาจจะนำไปซื้อเครื่องมือทางการแพทย์
ปลัดกระทรวงฯ-    อ้นนี้มีมติคณะรัฐมนตรีตั้งแต่ 2 กันยายน 2560 มีการชี้แจงจาก ปปช. ห้ามไม่ให้หน่วยงานที่ทำการจัดซื้อทำการหารายได้ในลักษณะผลประโยชน์ต่างตอบแทนทุก
ประเภทจากบริษัทยาเข้ากองทุนสวัสดิการของสถานพยาบาล ซึ่งมีรายละเอียดว่า การนำส่วนลดส่วนแถมที่เกิดจากการจัดซื้อจัดจ้างไปเป็นประโยชน์แก่ภาคส่วนอื่นที่ไม่ใช่หน่วยงานของรัฐในลักษณะ private sector ซึ่งการจัดซื้อจัดจ้างเป็นเงื่อนไขในการบริจาคเข้ามูลนิธิ กองทุนสวัสดิการ หรือกองทุนอื่นในลักษณะเดียวกัน หรือเป็นประโยชน์กับบุคลากรภาครัฐโดยตรง เป็นระเบียบที่เค้ากำหนดมา

ผู้สัมภาษณ์-          คือตอนนี้เค้ากลัวว่าพอเงินไปถึงกองทุนแล้ว อาจมีหมอ หรือผู้อำนวยการคนไหนมาสั่งจ่ายให้กับพรรคพวก สั่งจ่ายโดยมีเปอร์เซ็นอย่างนั้นหรือเปล่าครับท่านปลัด
ปลัดกระทรวงฯ-    โดยปกติการบริจาค ต้องไม่มีความสัมพันธ์กับการจัดซื้อจัดจ้าง การที่เราซื้อยา หรือซื้ออะไรก็ต้องมุ่งประโยชน์ของพี่น้องประชาชนเป็นหลัก.......ถ้าเผื่อมีบริษัทนี้ บอกว่า ซื้อแล้วผมให้บริจาคเข้ามูลนิธิของคุณหมอ ที่คุณหมอเป็นประธานมูลนิธิ มันก็ทำให้เกิดการจูงใจทำให้เกิดการซื้อยา และอาจทำให้ราคาแพงกว่าราคาทั่วไป และ ประชาชนไม่ได้รับผลประโยชน์ อันนี้ทาง ปปช.จึงมีหนังสือมาในปี 60 ว่า ห้ามไม่ให้รับในลักษณะผลประโยชน์ต่างตอบแทนที่สัมพันธ์กับยอด ซื้อยาเยอะ แล้วได้บริจาคเยอะ อันนี้ไม่ใช่เฉพาะตัว อย่างเดียว เพราะบางแห่งมีการเข้ามูลนิธิ หรือว่าเป็นกองทุนที่จัดตั้งขึ้นมาเอง โดยปกติ...โรงพยาบาลต่างๆก็มีระเบียบเรื่องของการบริจาค.......

ผู้สัมภาษณ์-         คนเค้าตั้งข้อสงสัยว่า ทำไมย้ายคุณหมอ 2 ครั้งแล้วคนที่มาแทนเป็นชื่อเดียวกันทั้ง2ครั้ง เป็นนายแพทย์เกรียงศักดิ์ นี่มันจงเกลียดจังชัง มันเป็นการล้างแค้น หรือเอาคืน   หรือเปล่าครับ
ปลัดกระทรวงฯ-    ปกติการดำรงตำแหน่งเป็นผอ.โรงพยาบาลศูนย์ หรือโรงพยาบาลทั่วไป เรียกว่าตำแหน่งอำนวยการสูง เราก็จะมีการกำหนด เนื่องจากในสมัยก่อน พอเป็น ผอ.โรงพยาบาลปุ๊บก็อยู่ กัน 4 ปี 5ปี 6ปี บางคนอยู่กันเป็น 10ปี ทำให้เกิดการมีอำนาจ มีบารมีทำให้การบริหารจัดการบางอย่างมีปัญหา ไม่โปร่งใส ไม่มีการกระตุ้นพัฒนา ทีนี้ในสมัยของท่านณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุขในสมัยนั้น ได้ออกระเบียบมา ในการเป็นผู้อำนวยการโรงพยาบาลในตำแหน่งอำนวยการสูง ให้อยู่ในตำแหน่งได้ไม่เกิน 4 ปี  คือ 4 ปีแล้วทุกคนต้องย้าย การอยู่ควรอยู่อย่างน้อย 2 ปี เพื่อเป็นการพัฒนาโรงพยาบาล  ถามว่าในการย้ายครั้งนั้นคุณหมอชาญชัยอยู่มา3 ปี แล้วก็มีนโยบายเรื่อง อีอีซี ในการพัฒนาทางตะวันออก ตอนนั้นโรงพยาบาลพระปกเกล้า จันทบุรี ก็เป็นโรงพยาบาลที่มีโรงเรียนแพทย์ คณะแพทย์ ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจะทำเป็นศูนย์มะเร็ง ซึ่งคุณหมอชาญชัยก็เป็นคนมีความรู้มีความสามารถซึ่งเราก็เห็นว่าเป็นการย้ายในระนาบเดียวกัน.......

ผู้สัมภาษณ์-         คิดว่าเหมาะสม แต่ก็โดนประท้วงใช่ไหมครับ ทีนี้ครั้งแรกผ่านไป ครั้งที่สอง เหมือนกับว่าย้าย แล้วเอาคนเดิมมานั่งอีก
ปลัดกระทรวงฯ-    ตามนโยบายของผมนะครับ คือ เรามองว่า การบริหาร เนื่องจากเราพัฒนาเป็นเขตสุขภาพ การบริหารที่ดี คิดว่า ให้อำนาจการบริหารในเขต เช่น บุคลากร เรื่องคน เพราะฉะนั้นเรื่องการแต่งตั้งโยกย้ายบุคลากร ควรจะต้องให้อยู่ในเขตเดียวกัน เพื่อให้เกิดการทำงานต่อเนื่อง และเป็นวัฒนธรรม แล้วก็เป็นการเตรียมพร้อม ตอนนั้นเป็นนโยบาย
ของท่านปลัดณรงค์ สหเมธาพัฒน์ เรียกว่าเขตสุขภาพ การบริหาร ก็คือ การเลื่อนตำแหน่ง จาก ผอ.รพ.ต่างๆขึ้นมา ก็จะพยายามเลื่อนให้อยู่ในเขตเดียวกัน(1)

ผู้สัมภาษณ์-         ว่ากันว่าในโลกโซเชียล บอกว่า คุณหมอชาญชัยไปขวางทางมาเฟียในกระทรวงสาธารณสุขจริงไหม เลยต้องโดน
ปลัดกระทรวงฯ-    มันไม่มีมาเฟียในกระทรวงสาธารณสุขนะครับ
ผู้สัมภาษณ์-         มันมีก๊กก๊วนต่างๆจริงไหมท่านปลัด
ปลัดกระทรวงฯ-    จริงๆ  ปัจจุบันนี้ ไม่มีก๊กก๊วนนะครับ ทุกคนทำงานเพื่อพี่น้องประชาชน เรื่องการแต่งตั้งโยกย้าย มันก็เป็นเรื่องของคณะกรรมการ มีการสอบถูกต้องตามระเบียบของกระทรวง อย่างเช่นตอนนี้กำลังจะสอบ ผอ.ใหม่ เพื่อทดแทนการเกษียณอายุราชการ ก็มีการตั้งคณะกรรมการ ซึ่งประกอบทั้งผู้บริหาร ตัวแทนเขต ตัวแทน  ชมรมโรงพยาบาลศูนย์โรงพยาบาลทั่วไป ตัวแทนชมรมนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด...

ผู้สัมภาษณ์-         คุณหมอชาญชัยบอกว่าพร้อมที่เข้าสู่การบวนการตรวจสอบ แต่รู้สึกว่าจะโดนแรงเกินไป ตัวเองไม่ได้ทุจริตใดๆ และที่สำคัญที่สุดผู้ที่สอบยังไม่ได้ ฟังพยาน ไม่ได้ฟังคนที่ลงนามได้ ไม่ดูบัญชีบริจาค ไม่ได้ดูความถูกต้องของกองทุนเลย อยากจะขอเปลี่ยนคณะกรรมการสอบพอจะได้ไหมครับ
ปลัดกระทรวงฯ-    การแต่งตั้ง(คณะกรรมการ)มีขั้นตอนดังต่อไปนี้ เมื่อมีคนร้อง เราก็ต้องดำเนินการตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง คือ ดูเนื้อหา ซึ่งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงก็ได้สอบ พยานไป 12 ปาก 7 เอกสาร โดยเฉพาะคนที่เกี่ยวข้อง แล้วก็มีความเห็นว่า เรื่องนี้มีมูล ว่ามีการกระทำเช่นนี้จริงตามข้อกล่าวหา ก็ได้เสนอขึ้นมา นี่คือกระบวนการปกติ......  เราก็ตั้งกรรมการสอบวินัย (**) ตามมูล
ผู้สัมภาษณ์-          ตรงนี้แหละ เปลี่ยนได้หรือไม่ กรรมการสอบวินัย
ปลัดกระทรวงฯ-    จริงๆแล้ว ถ้าคุณหมอชาญชัยไม่สบายใจ เราก็ยินดีนะครับ เพราะว่าจริงๆถ้าผู้ถูกร้อง อันนี้มันไม่ได้เป็นความลับ เป็นเรื่องเปิดเผย เพราะฉะนั้นการตั้งกรรมการทั้งหมด ก็ต้องส่งชื่อให้ผู้ถูกกล่าวหา พิจารณาดูชื่อ ถ้าผู้ถูกกล่าวหาเห็นว่าชื่อนี้ไม่สบายใจ คิดว่าอาจจะไม่ได้รับความเป็นธรรม ก็เสนอมา เราก็สามารถเปลี่ยนได้ เราก็พิจารณาแล้ว
จริงๆแล้ว ผู้ที่ถูกอ้างว่าเป็นประธาน ก็เป็นคนที่มีความสามารถ ตอนนี้ท่านดูแลเขตสุขภาพที่ 6 ภาคตะวันออก.... ท่านก็มาแจ้งกับผม ท่านขณะนี้รับภารกิจเพื่อประเทศ ชาติมาก ประกอบกับคุณหมอชาญชัยไม่สบายใจ ท่านก็ยินดีที่จะขอลาออกด้วยตัวเอง ไม่ต้องคัดค้าน(2) แล้วจะตั้งคนอื่นมา ท่านก็บอกว่า จริงๆแล้วท่านก็งานเยอะมาก  แล้วจริงๆ ก็มาตามคิวเท่านั้นเอง(3)  ทีนี้ผมก็จะเปลี่ยนคนให้นะครับ
https://www.youtube.com/watch?v=T0YHOH5-df0
................................................................................
(1) โรงพยาบาลขอนแก่น  อยู่ในเขตสุขภาพที่ 7(ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มหาสารคาม ร้อยเอ็ด)   
     โรงพยาบาลพระปกเกล้า อยู่ในเขตสุขภาพที่ 6(สมุทรปราการ ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี ตราด ปราจีนบุรี สระแก้ว)
     อยู่คนละเขตกัน

(2) นายแพทย์ชาญชัยทำหนังสือคัดค้านไปนานแล้ว

(3) คิวประธานคณะกรรมการสอบวินัย เป็นคิวของผู้ตรวจราชการเขต 5 (ไม่ใช่เขต 6)

 * คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง
นายอภิชาติ รอดสม สาธารณสุขนิเทศน์ เขตสุขภาพที่6
นายเสมอ กาฬภักดี นิติกรชำนาญการพิเศษ
นายสุจินต์ สิริอภัย นิติกรชำนาญการ
นางสาวสุชาฎา วรินทร์เวช นักวิเคราะห์นโยบายและแผน ชำนาญการพิเศษ
นายวินัย คณาศรี นักวิเคราะห์นโยบายและแผน ปฏิบัติการ

** คณะกรรมการสอบสวนทางวินัยอย่างร้ายแรง
นายสุเทพ เพชรมาก เป็นประธาน
นางอรชร สายแผลก เป็นกรรมการ
นายไวพจน์ แสนใจธรรม เป็นกรรมการ และเลขานุการ
นายอชิระวิชญ์ สุดขาว เป็นผู้ช่วยเลขานุการ