My Community

หมวดหมู่ทั่วไป => ข่าวเกี่ยวกับวงการแพทย์ => ข้อความที่เริ่มโดย: story ที่ 22 ตุลาคม 2019, 14:01:07

หัวข้อ: "หมอหนู" เผย สน.งบคืนเงิน 500 กว่าล้านบาท มั่นใจหาเงินมาเติมได้ กำชับ รพ.
เริ่มหัวข้อโดย: story ที่ 22 ตุลาคม 2019, 14:01:07
"หมอหนู" กำชับ รพ.สร้างความปลอดภัยทั้งผู้ป่วยและบุคลากร เป็นไปตามแนวทางโลก ช่วยลดการฟ้องร้อง สร้างความเข้าใจ ไว้วางใจ บุคลากรมีขวัญกำลังใจ รับไทยเบอร์ต้นๆ ของโลกด้านสุขภาพ ลุยติดความรู้ อสม.เสริมความแข็งแกร่ง ลดมา รพ. เผยสำนักงบฯ คืนเงินที่ตัด 500 ล้านบาทแล้ว ส่วนที่ยังขาดมั่นใจหากต้องใช้หาเงินมาได้แน่

วันนี้ (17 ก.ย.) ที่โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ คอนเวนชั่น นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวระหว่างเปิดงานวันแห่งความปลอดภัยของผู้ป่วยโลก และวันแห่งความปลอดภัยของผู้ป่วยและบุคลากรสาธารณสุขของประเทศไทย ประจำปี 2562 จัดโดยสถาบันรับรองคุณภาพสถานพยาบาล (องค์การมหาชน) หรือ สรพ. ว่า การที่ผู้ป่วยมา รพ.ต่างคาดหวังการรักษาให้หายและปลอดภัย สามารถกลับไปใช้ชีวิตปกติ ซึ่งหากเกิดเหตุไม่พึงประสงค์ขึ้นจะมีผลกระทบทั้งผู้ให้และผู้รับบริการ การที่ รพ.ให้ความสำคัญการเรื่องการสร้างความปลอดภัยบริการ มีการสื่อสารความปลอดภัย ข้อจำกัดและความเสี่ยงของการบริการที่มีโอกาสเกิดขึ้น และสร้างการมีส่วนร่วมผู้ป่วยญาติ ในการดูแลผู้ป่วยให้ปลอดภัย ซึ่งความปลอดภัยเป็นเรื่องสำคัญมาก จะนำมาซึ่งความเชื่อถือและความไว้วางใจในระบบสาธารณสุขที่มีคุณภาพ และลดปัญหาการฟ้องร้องและความไม่เข้าใจในระบบบริการด้วย

นายอนุทิน กล่าวว่า ขณะเดียวกันบุคลากรที่อาจเกิดความไม่ปลอดภัยจากการทำงาน การติดเชื้อ ประสบอุบัติเหตุการส่งต่อผู้ป่วย การถูกฟ้องร้อง การเครียดในหน้าที่ การถูกทำร้ายขณะปฏิบัติหน้าที่ ดังนั้น การพัฒนาให้เกิดระบบป้องกันและดูแลบุคลากรให้ปลอดภัย นับเป้นการสร้างเสริมขวัญกำลังใจแก่บุคลากร

"การที่จัดงานวันแห่งความปลอดภัยโลกพร้อมกับประเทศอื่น แสดงว่าเรามีการพัฒนาระบบไปในทิศทางเดียวกับโลก ซึ่งไทยอาจไม่ได้เป็นผู้นำในหลายๆ ด้านในเวทีโลกแต่เรื่องระบบการสาธารณสุขเราไม่เป็นรองไทย ถูกจัดเป็นลำดับที่ 6 ของโลกในการจัดบริการสาธารณสุข ซึ่งระบบสาธารณสุขไทยได้รับการเชื่อถือและยอมรับ เพราะมีการวางรากฐานที่ดีมาตั้งแต่สมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชนนี ในหลวงรัชกาลที่ ๙ จนกระทั่งรัชกาลที่ ๑๐ ต่างให้ความสำคัญกับการสาธารณสุขไทย และวิชาชีพด้านสุขภาพต่างได้รับการยอมรับนับถือจากประชาชน" นายอนุทิน กล่าว

นายอนุทิน กล่าวว่า นอกจากนี้ เรายังมีระบบอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) เป็นล้านคนช่วยคัดกรองดูแลเอาใจใส่ประชาชน ลดภาระบุคลากรทางการแพทย์ สิ่งที่เราควรทำต่อคือต้องฝึกฝนการรักษาพยาบาลขั้นปฐมของปฐมภูมิให้แก่ อสม. เมื่อมีความเจ็บป่วย โดยไม่ต้องมาถึงมือแพทย์ ระบบสาธารณสุขระบบการแพทย์การให้บริการก็จะมีความแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น เป็นหน้าที่ของพวกเราทุกคน ต้องสร้างความมั่นใจว่ากว่าจะมาถึงมือหมอในทุกระดับเป็นระบบที่เชื่อถือได้ รัฐเสียงบประมาณเพื่อเป็นค่าตอบแทน อสม.เดือนละ 1 พันกว่าล้านบาท ปีหนึ่งก็ 1.2 หมื่นล้านบาท  ไม่สียดายเลยหากสามารถใช้ความรู้พื้นฐานช่วยแบ่งเบาภาระได้

นายอนุทิน กล่าวว่า สำหรับเรื่องงบประมาณสาธารณสุขที่ตัดงบประมาณน้อย แต่ก้มีที่ถูกตัดบ้าง แต่ไม่กังวล เพราะต้องใช้เมื่อไร รับรองว่าหาให้ได้แน่นอน โดยวันก่อนเอ็นจีโอได้เข้ามาพบตนเมื่อวันที่ 16 ก.ย. เรื่องเงินถูกตัดไป 600 กว่าล้านบาท พอหารือผู้อำนวยการสำนักงบประมาณก็คืนมาให้ 500 กว่าล้านบาท ส่วนที่เหลือ 170 ล้านบาทนั้น หากต้องใช้จริงๆ ตนสามารถหามาให้ได้ ต่อให้ใช้ถึง 1-2 พันล้านบาท เมื่อมีความจำเป็นจริงๆ ก็สามารถหามาได้ รัฐบาลไม่มีทางที่จะไม่ให้ความสำคัญต่อคุณภาพชีวิตประชาชน การที่ถูกตัดงบแล้วว่าว่าไม่รู้สึกรู้สานั้น เพราะรุ้ว่าเมื่อใช้เมื่อไรมีเมื่อนั้น ต้องอย่ากดดันใครมาก เมื่อถึงเวลาต้องติดต่อประสานงานจะได้รับความร่วมมือที่ดี ถ้าใช้อำนาจไปกดให้เขาให้มาก็ได้คืนแค่ 170 ล้าน จะขออีกพันล้านบาทคงไม่ได้

17 ก.ย. 2562  ผู้จัดการออนไลน์