ผู้เขียน หัวข้อ: "บิ๊กตู่" ขอโทษเลื่อนฉีดวัคซีนเพราะกำหนดวันรับมอบไม่ได้ ย้ำให้อำนาจ สธ.กระจาย  (อ่าน 294 ครั้ง)

story

  • Staff
  • Hero Member
  • ****
  • กระทู้: 9759
    • ดูรายละเอียด
นายกฯ ลั่นในฐานะแม่ทัพสงครามโควิด ต้องขอโทษปัญหากระจายวัคซีนกระทบเลื่อนฉีด เหตุกำหนดวันรับวัคซีนไม่ได้ เกาะติดแก้ปัญหารายวัน ยันไม่ได้ยึดอำนาจ สธ.ยังทำหน้าที่กำหนดปริมาณวัคซีนกระจายทุกจังหวัดตามสูตรศบค. ย้ำเป้าเดิมฉีด 70% ทั่วประเทศปีนี้

วันนี้ (15 มิ.ย.) เมื่อเวลา 12.40 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า เรื่องวาระแห่งชาติการฉีดวัคซีนที่คิกออฟทั่วประเทศตั้งแต่วันที่ 7 มิ.ย.ที่ผ่านมา จนถึงวันนี้เรากระจายวัคซีนไปทั่วประเทศแล้วมากกว่า 7 ล้านโดส และได้ฉีดวัคซีนไปมากกว่า 6.5 ล้านโดส และฉีดได้มากกว่า 2 ล้านโดส ภายในเพียงเวลา 1 สัปดาห์ นั่นคือขีดความสามารถในการฉีดวัคซีน หากวัคซีนเข้ามามากกว่านี้เราก็น่าจะฉีดได้มากกว่านี้ตามระยะเวลาที่กำหนด ถือเป็นความร่วมแรงร่วมใจกันอย่างเต็มที่ของเจ้าหน้าที่ในทุกจุดบริการ ขอขอบคุณทุกท่านมา ณ ที่นี้ด้วย โดยเฉพาะบุคคลากรทางการแพทย์ที่อยู่หน้างานทั้งหมด จิตอาสา แพทย์ พยาบาลต่างๆในการอำนวยความสะดวก ซึ่งตนได้รับคำชมเชยมาจากประชาชนมาโดยตลอด

นายกฯ กล่าวว่า ส่วนปัจจัยสำคัญประการหนึ่งที่จะทำให้การระดมฉีดวัคซีนดำเนินไปอย่างต่อเนื่องคือการจัดสรรวัคซีนไปยังจุดบริการทั่วประเทศอย่างทั่วถึงและพอเพียง ซึ่งเป็นสิ่งที่ตนให้ความสำคัญอย่างยิ่ง สิ่งที่ท่านอาจจะได้รับฟังจากข่าวหรือการประกาศเลื่อนการฉีดวัคซีนจากโรงพยาบาลต่างๆอาจทำให้ท่านเกิดความไม่สบายใจ และเข้าใจว่าภาครัฐไม่ได้จัดสรรวัคซีนให้อย่างเพียงพอ หรือภาครัฐไม่ได้มีการประสานงานกันอย่างดีพอ ข่าวต่างๆเหล่านี้ตนได้รับทราบมาโดยตลอด และพยายามจะแก้ปัญหามาอย่างต่อเนื่อง และขอแสดงความจริงใจว่าปัญหาเหล่านี้ตนไม่ได้สบายใจเช่นกัน เราจะพยายามแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น ทุกวันมีการสั่งการไปยังผู้รับผิดชอบเพื่อให้พี่น้องประชาชนได้รับประโยชน์สูงสุดและสบายใจ ประเด็นสำคัญอยู่ที่ปริมาณวัคซีนที่ทยอยเข้ามาต้องมีความสมดุลกับขีดความสามารถในการฉีดในแต่ละวัน ระยะเวลาที่ให้ไป และต้องฉีดภายในกี่วัน หากฉีดเต็มขีดความสามารถ วัคซีนหมดก็ต้องหยุด นั่นคือข้อเท็จจริง ถ้ามีมามากจากช่วงเวลาเดิมก็จะส่งมอบเพิ่มเข้าไปให้ โดยต้องมีการบริหารจัดการที่ดีขึ้นในระยะต่อไป

นายกฯ กล่าวอีกว่า ขอชี้แจงภาพรวมการดำเนินการตามวาระแห่งชาติเรื่องการฉีดวัคซีนว่าแต่ละหน่วยงานมีการแบ่งหน้าที่ความรับผิดชอบอย่างไร คงไม่ใช่ตนยึดอำนาจไว้แต่คนเดียว อันดับแรก ศบค.จะต้องเป็นองค์กรสูงสุดและมีหลายหน่วยงานอยู่ในศบค.อยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นส่วนของการเมือง ข้าราชการ รัฐมนตรีก็อยู่ตรงนี้อยู่แล้วในการจัดการสถานการณ์โควิดและการฉีดวัคซีน ศบค.จะเป็นผู้รับผิดชอบในการกำหนดนโยบาย กำหนดหลักการในการจัดสรรวัคซีนให้แต่ละจังหวัด โดยมีหลักการทุกจังหวัดจะต้องได้รับวัคซีนตามสัดส่วนของประชากร และเพิ่มเติมให้กับจังหวัดที่มีสถานการณ์แพร่ระบาด รวมถึงเพิ่มเติมกลุ่มบุคคลที่มีความจำเป็นต่อเศรษฐกิจ การท่องเที่ยว การศึกษา และอื่นๆ อันดับที่สองหน่วยงานหลักที่รับมอบนโยบายจากศบค.คือ กระทรวงสาธารณสุข จะรับผิดชอบและเป็นผู้กำหนดว่าวัคซีนที่ได้รับในแต่ละรอบจะจัดส่งแต่ละจังหวัดจำนวนเท่าไหร่ ตามหลักการในการจัดสรร โดยกระทรวงสาธารณสุขจะเร่งจัดส่งวัคซีนกระจายไปทั่วประเทศโดยทันทีไม่รอช้า ซึ่งต้องใช้เวลาส่วนหนึ่งในการตรวจสอบวัคซีนที่นำเข้ามาเพื่อให้เกิดความปลอดภัย ลำดับที่สามคือความรับผิดชอบของแต่ละจังหวัดแต่ละพื้นที่ ที่จะเป็นผู้กำหนดว่าแต่ละโรงพยาบาลและทุกจุดฉีดในจังหวัดนั้นจะได้รับวัคซีนเป็นจำนวนเท่าใด และจัดการจัดส่งให้เร็วที่สุด ซึ่งการจัดสรรนี้จะต้องคำนึงถึงระยะเวลาที่มีจนกว่าจะได้รับการจัดสรรวัคซีนในรอบต่อไป เพื่อให้เกิดความต่อเนื่องราบรื่นที่สุด เนื่องจากการรับวัคซีนของเราทยอยมาเป็นรอบ ไม่ใช่ได้มาครั้งเดียว 6 ล้านโดส หรือ 10 ล้านโดส ตั้งแต่ต้นเดือน และเราจะส่งออกทันทีไม่รอเก็บไว้จนกว่าจะครบถึงส่งออก

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ขอชี้แจงย้ำต่อพี่น้องประชาชนและสื่อมวลชนว่า หลักการที่เรียกว่าสูตรในการจัดสรรวัคซีนที่ตนได้มอบนโยบายและสั่งการไปมีดังนี้ 1.เมื่อวัคซีนมากระทรวงสาธารณสุขตรวจสอบแล้วจะต้องส่งต่อให้ทุกจังหวัดทันที จะไม่มีจังหวัดใดที่ไม่ได้เพิ่มเติมในแต่ละรอบ ซึ่งในอนาคตอาจยกเว้นจังหวัดที่ได้ครบตามเป้าหมายแล้ว หรือบางจังหวัดที่ศบค.พิจารณาว่ายังไม่มีความจำเป็นเร่งด่วน ขึ้นอยู่กับสถานการณ์การแพร่ระบาดของแต่ละพื้นที่
2.จำนวนวัคซีนที่ส่งให้แต่ละจังหวัดจะมีปัจจัยต่างๆที่จะต้องนำมาคำนวนด้วย ได้แก่จำนวนประชากร จำนวนผู้ติดเชื้อ จำนวนผู้จองในระบบหมอพร้อมและจังหวัด และกลุ่มเฉพาะ อาชีพเสี่ยง หรือพื้นที่เศรษฐกิจ ซึ่งเป็นต้นทุนของเราในเรื่องการส่งออก
3.หากจำนวนวัคซีนที่ได้ถ้าคำนวนแล้วไม่เพียงพอต่อการฉีดในรอบนั้นให้แต่ละจังหวัดและจุดฉีดพิจารณาจัดสรรให้กลุ่มผู้สูงอายุ หรือมีโรคเสี่ยงที่ลงทะเบียนไว้ก่อนแล้ว
4.หากมีความจำเป็นจะต้องชะลอการฉีดวัคซีนตามกำหนดเดิม ระหว่างรอการนำส่งวัคซีนต้องยึดแบบเดิมไว้ก่อนโดยไม่ต้องลงทะเบียนใหม่ และจัดการฉีดวัคซีนตามหลักเดิมทันทีที่ได้รับการจัดสรรวัคซีน คงเข้าใจตรงกันแล้วใช่ไหม ขอให้ดำเนินการตามนี้ เพราะเป็นมติของที่ประชุมร่วมกันในเรื่องของการบริหารจัดการวัคซีน

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ทั้งนี้เชื่อว่าทุกฝ่ายมีความพยายามตั้งใจและดำเนินการมาอย่างทุ่มเท เพื่อให้บริการพี่น้องประชาชนอย่างดีที่สุด ซึ่งปัญหาอุปสรรคที่เกิดขึ้นส่วนหนึ่งอาจเกิดจากปัจจัยที่ควบคุมได้ยากคือ การนำส่งวัคซีนต้องใช้เวลา ทั้งการผลิตและตรวจสอบคุณภาพ เราไม่อาจจะกำหนดได้แน่นอนทุกครั้งว่าจะรับวันใด เวลาใด เพราะเราได้รับเป็นรอบ ไม่ใช่ได้ครั้งเดียวจำนวนมากๆ หลายประเทศทั่วโลกก็เจอปัญหาแบบนี้ทั้งสิ้น ประเทศไทยยังได้เปรียบที่เรามี บริษัท สยามไบโอไซน์เอนซ์ ซึ่งผลิตวัคซีนแอสตราเซเนกาตั้งอยู่ในประเทศไทย ทำให้การขนส่งทำได้อย่างรวดเร็ว อันนี้เป็นเรื่องที่บริษัทใหญ่เขาจะพิจารณาในการส่ง และในประเทศไทยถือเป็นฐานการผลิตสำคัญในอาเซียน ส่วนหนึ่งใช้ยอดตรงนี้ในการจัดหาให้อาเซียนด้วย อีกปัจจัยหนึ่งที่จะต้องปรับแผนการฉีดวัคซีนตามสถานการณ์แพร่ระบาดที่เกิดขึ้น มันทำให้มีการเปิดให้ประชาชนกลุ่มเสี่ยงและประชาชนทั่วไป โดยเฉพาะพื้นที่เสี่ยงอย่างกรุงเทพฯมีการเพิ่มฉีดเพื่อเพิ่มภูมิคุ้มกันการแพร่ระบาด และอีกส่วนเพื่อเหตุผลทางเศรษฐกิจ ที่จะต้องลดการปิดโรงงาน เพราะจำเป็นต้องให้ภาคการผลิตดำเนินการต่อ อาจจะไปกระทบผู้ลงทะเบียนไว้ก่อนในบางส่วน นอกจากนั้นต้องยอมรับว่าภารกิจครั้งนี้มีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเป็นจำนวนมาก มีผลกระทบต่อผู้อยู่ในประเทศไทยทั้ง 70 ล้านคน ซึ่งอาจเกิดความเข้าใจที่คาดเคลื่อนในการประสานงานกันระหว่างหน่วยงาน อย่างไรก็ตามตนได้สั่งการทุกหน่วยงานต้องมีความพยายามแก้ไขปรับปรุงตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้น เพื่อสร้างความรับรู้ความเข้าใจของประชาชน

“ผมในฐานะนายกรัฐมนตรี ผอ.ศบค. ถือเป็นผู้บริหารสูงสุดในสงครามโควิดครั้งนี้ ต้องขออภัยด้วยกับปัญหาที่เกิดขึ้น และขอรับผิดชอบในการแก้ไขปัญหาทั้งหมด ซึ่งผมได้ดำเนินการอย่างต่อเนื่องทุกวัน ทุกเวลาอยู่แล้ว เพราะนี่คือวาระแห่งชาติที่ผมได้ประกาศออกไป เราต้องร่วมใจกันทุกฝ่ายในการดำเนินการให้บรรลุผลสำเร็จ เพื่ออนาคตของประเทศชาติ ปัญหาอุปสรรคอาจเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา โดยเฉพาะระยะแรกตอนนี้ ที่ทั่วโลกยังมีวัคซีนจำกัด ทำให้กระทบต่อการจัดการ แต่จากการวางแผนของรัฐบาลมาอย่างต่อเนื่อง และการจัดหาวัคซีนล่วงหน้า ทำให้เรามั่นใจว่าจะได้รับวัคซีนมาอย่างต่อเนื่องและปริมาณที่มากขึ้นเรื่อยๆจากหลายๆแหล่งด้วยกัน ขอเน้นย้ำว่ารัฐบาลได้จัดการวัคซีนออย่างเพียงพอต่อคนในประเทศไทยทุกคน ขณะนี้เราสามารถจัดหาวัคซีนได้ตามเป้าหมาย 100 ล้านโดสแล้ว สำหรับประชาชน 50 ล้านคน หรือที่เรียกว่า 70 เปอร์เซ็นต์ของประเทศภายในสิ้นปีนี้ และเตรียมการสำหรับปีหน้าไปด้วย ถ้าปีนี้ได้เพิ่มจาก 100 ล้านโดสเราก็จะเพิ่มเติมให้ ซึ่งจะขึ้นเป็น 80 เปอร์เซ็นต์ 90 เปอร์เซ็นต์ เพราะเรามีขีดความสามารถในการฉีดอยู่แล้ว ขอให้ติดตามและเราจะช่วยกันอย่างไร ถ้าเราพูดจากันไม่ดี เจ้าหน้าที่ แพทย์ พยาบาล คนจำนวนหลายหมื่นคนที่ทำงานหน้างานเขาก็จะท้อแท้และหมดกำลังใจ ฉะนั้นต้องประสานงานกันให้ได้ ตั้งแต่ระดับบน ระดับกลาง ระดับล่าง และทำความเข้าใจประชาชนไปด้วย และต้องขอร้องสื่อทุกประเภทด้วย” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า เรื่องวัคซีนโควิดในฐานะที่ตนเป็นนายกฯและเป็นผอ.ศบค. ตนได้ติดตามอย่างใกล้ชิดด้วยตัวเองตลอดมา ฉะนั้นขอย้ำว่าการดำเนินการทุกอย่างจะต้องเป็นไปด้วยความโปร่งใส จะต้องไม่มีการทุจริตโดยเด็ดขาด และเชื่อมั่นอย่างยิ่งว่าด้วยศักยภาพและความทุ่มเทเสียสละของบุคคลากรทุกประเภทของเราที่เกี่ยวข้องในการควบคุมสถานการณ์การแพร่ระบาดและการระดมฉีดวัคซีน เราจะต้องชนะสงครามโควิดครั้งนี้ไปด้วยกันอย่างแน่นอน

15 มิ.ย. 2564  ผู้จัดการออนไลน์