ผัดกะเพรา ถือเป็นอีกหนึ่งเมนูอาหารที่อยู่คู่กับชีวิตคนไทยมาอย่างยาวนาน เรียกได้ว่าในระดับที่ร้านอาหารตามสั่งทุกร้านอย่างไรก็ต้องมีวัตถุดิบสำหรับเมนูนี้ติดครัวเอาไว้ และนั่นทำให้มีความพยายามที่จะผลักดันเมนูยอดฮิตนี้ให้กลายเป็นเมนูซึ่งเป็นที่รู้จักระดับโลก แบบเดียวกับที่นานาชาติรู้จัก แกงพะแนง มัสมั่นไก่ ต้มยำกุ้ง ผัดไทย ข้าวซอย หรือส้มตำ
เมื่อวันที่ 25-27 ส.ค. ที่ผ่านมา การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ได้จัดงาน World Kaphrao Thailand Grand Prix 2023 เพื่อเฟ้นหา ผัดกะเพราที่อร่อยที่สุดในประเทศไทย หลังจากที่จัดการแข่งขันหาตัวแทนภาคมาก่อนหน้านี้แล้ว จนได้ 12 ทีมที่แข็งแกร่งที่สุด
ผลปรากฏว่า เราได้ทีมผู้ชนะที่ทำเมนูผัดกะเพราได้อร่อยที่สุดในใต้หล้าแล้ว โดยผู้ที่คว้ารางวัลชนะเลิศไปคือ ตัวแทนจากภาคเหนือ ทีมครัวเนื้อหอม จากจังหวัดลำปาง นั่นเอง
หากใครต้องการลองลิ้มชิมรสผัดกะเพราะที่อร่อยที่สุด ก็อาจจะลองทำเองที่บ้านได้ง่าย ๆ เพราะทีมครัวเนื้อหอมไม่หวงวิชา เปิดสูตรกะเพราให้ทุกคนได้ไปทดลองทำกันแบบฟรี ๆ
เริ่มต้นด้วยการเตรียมวัตถุดิบ ประกอบด้วย:
เนื้อสัตว์ 300 กรัม
ซอสปรุงรส
-ซอสสต็อกเนื้อ (ถ้ามี) 10 กรัม
-น้ำปลาทะเล 6 กรัม
-ซอสฝาเขียว 8 กรัม
-น้ำมันหอย 10 กรัม
-น้ำตาลทราย 10 กรัม
-ซีอิ๊วดำ 2 กรัม
เครื่องตำ
-พริกชี้ฟ้าเหลือง 10 กรัม
-พริกขี้หนูสวน 5 กรัม
-พริกกะเหรี่ยง 5 กรัม
-พริกจินดาแห้ง 4 กรัม
-พริกไทยสด 4 กรัม
-ดอกกะเพรา 1 กรัม
ขั้นตอนการทำ
นำเนื้อไปผัดในกระทะโดยไม่ต้องใส่น้ำมัน เปิดไฟเบา ผัดไปเรื่อย ๆ จนน้ำมันของเนื้อสัตว์ออกมา
ใส่เครื่องพริกที่ตำรวมกันจนละเอียดทั้งหมดลงไปผัดด้วยไฟแรง จนสีของเครื่องพริกเริ่มสวย
ใส่ซอสปรุงรสกะเพรา ผัดอีกรอบ และหรี่ไฟกลาง
ใส่ใบกะเพรา พริกไทยขาว ผัดประมาณ 4-5 ครั้ง แล้วปิดไฟ นำขึ้นจากกระทะ พร้อมเสิร์ฟ
เท่านี้ก็จะได้เมนูผัดกะเพราที่อร่อยที่สุดในประเทศไทยมารับประทานแล้ว
นอกจากทีมครัวเนื้อหอมแล้ว ยังมีผู้ที่ได้รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 คือ ทีมจิตสดชื่น ตัวแทนภาคกลาง จากจังหวัดพระนครศรีอยุธยา และผู้ที่ได้รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 คือ ทีมร้านบ้านไทย ตัวแทนจากกรุงเทพมหานคร
นี่ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีของการผลักดันเมนูผัดกะเพรา ให้เป็นอีกหนึ่งอาหารไทยที่จะกลายเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก
PPTVHD36
29 ส.ค. 2566
