ผู้เขียน หัวข้อ: ครบรอบ 100 ปี “ไททานิก” จมสมุทร ทั่วโลกร่วมรำลึก  (อ่าน 1376 ครั้ง)

pani

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 756
    • ดูรายละเอียด
วันครบรอบ 100 ปี โศกนาฏกรรมเรือ “ไททานิก” อับปาง ได้รับการรำลึกถึง ในงานพิธีที่จัดขึ้นทั่วโลก วันนี้ (15) โดยมีเหล่าเครือญาติและลูกหลานของเหยื่อผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์สะเทือนขวัญครั้งนั้นร่วมนำไว้อาลัย
       
       พิธีรำลึกหายนะครั้งประวัติศาสตร์ของโลกนี้เริ่มขึ้นในฮาลิแฟกซ์ เมืองท่าของแคนาดา ที่ซึ่งเรือจำนวนมากแล่นออกไปเพื่อเก็บกู้ร่างไร้วิญญาณของเหยื่อเรือสำราญมรณะ 150 คนจากทั้งหมด 1,514 ราย ซึ่งจมอยู่ในมหาสมุทรแอตแลนติกอันเยือกแข็ง
       
       งานรำลึกครบรอบ 100 ปีนี้เป็นเหตุการณ์ระดับโลก ที่ศิลปิน นักวิทยาศาสตร์ และพิพิธภัณฑ์ต่างๆ พร้อมใจกันเตรียมการมานานหลายเดือน ทั้งในอังกฤษ แคนาดา ไอร์แลนด์เหนือ และสหรัฐฯ
       
       100 ปีหลังจากไททานิกชนเข้ากับภูเขาน้ำแข็งจนจมสู่ห้วงมหาสมุทร ผู้โดยสารมากกว่า 1,700 คน บนเรือสำราญ 2 ลำ คือ เอ็มเอส บัลมอรัล จากเซาท์แธมป์ตัน และอาซามารา เจอร์นีย์ จากนิวยอร์กซิตี ก็ได้เดินทางย้อนรอยไปถึงยังจุดมรณะดังกล่าวแล้ว โดยเรืออาซามารายังส่งสัญญาณแจ้งเหตุร้ายเลียนแบบเหตุการณ์ในวันนั้นด้วย
       
       “เรือชนภูเขาน้ำแข็ง เราต้องการความช่วยเหลือด่วน” เรือจากสหรัฐฯ ประกาศ “เรือชนภูเขาน้ำแข็ง และกำลังจม เรากำลังนำผู้หญิงออกจากเรือ”
       
       หลังจากนั้น ผู้โดยสารร่วมกันโยนพวงหรีดดอกไม้ลงทะเลในเวลา 02.20 น.ตามเวลาท้องถิ่น หรือ 12.20 น.ตามเวลาของไทย อันเป็นเวลาที่ไททานิกอับปาง และเกิดเหตุน่าสะเทือนใจขึ้น ห่างจากท่าเรือฮาลิแฟกซ์ไปทางตะวันออกเฉียงใต้ราว 800 กิโลเมตร
       
       ที่สำคัญ บนเรือเอ็มเอส บัลมอรัลนั้นยังมีผู้โดยสาร 50 คน ที่เป็นครอบครัวโดยตรงของผู้ที่จมไปกับเรือไททานิก หนึ่งในนั้นคือ แพทริเซีย วัตส์ วัย 81 ปี ครูวัยเกษียณจากเมืองบริสตอล ทางตะวันตกเฉียงใต้ของอังกฤษ ซึ่งปู่ของเธอ จอร์จ แมคคี วัย 34 ปี จากเซาท์แธมป์ตัน เคยเป็นสจ๊วตชั้น 2 บนเรือสำราญมรณะ
       
       ในกรุงเบลฟาสต์ เมืองหลวงของไอร์แลนด์เหนือ ซึ่งไททานิกถูกต่อขึ้น คาดว่าจะมีผู้คนจำนวนหลายพัน รวมถึงบรรดานักการเมือง และเครือญาติของผู้เสียชีวิต เข้าร่วมพิธีรำลึกที่ศาลากลางเมือง ซึ่งมีป้ายทองแดง 5 แผ่น สลักชื่อเหยื่อกว่า 1,500 คนวางอยู่ในสวน
       
       นี่ถือเป็นครั้งแรกที่รายชื่อของเหยื่อทุกคนที่เสียชีวิตได้รับการบันทึกไว้ในอนุสรณ์เดียวกัน เนื่องจากอนุสรณ์สถานอื่นๆ ยังไม่ได้รวมชื่อลูกเรือ และนักดนตรีของไททานิกเอาไว้ ทั้งยังไม่มีการแบ่งแยกชนชั้นระหว่างผู้โดยสารเฟิรส์คลาส และคนอื่นๆ โดยรายชื่อถูกเรียงกันไปตามตัวอักษร
       
       จอย ฮัตชินสัน สถาปนิกผู้ออกแบบสวนดังกล่าว เผยถึงสีที่ใช้ในการตกแต่ง ทั้งสีฟ้า ขาว เงิน และเขียวว่า สะท้อนถึงน้ำ และน้ำแข็ง เพื่อส่งเสริมให้เกิดความสงบ และมีสมาธิ
       
       นอกจากนี้ โรเบิร์ต บัลลาร์ด นักวิทยาศาสตร์ทางทะเลชาวอเมริกัน ผู้ค้นพบซากเรือสำราญลำนี้เมื่อปี 1985 ก็อยู่ในเมืองหลวงของไอร์แลนด์เหนือ และยังเป็นผู้กล่าวคำรำลึก ณ อนุสรณ์ไททานิกเบลฟาสต์แห่งใหม่ เมื่อวันเสาร์ (14) ที่ผ่านมา
       
       ขณะที่ ในเมืองลิคฟีลด์ ตอนกลางของอังกฤษ เทียนมากกว่า 1,500 เล่มถูกจุดวางไว้บริเวณฐานของอนุสาวรีย์ เอ็ดเวิร์ด สมิธ กัปตันเรือไททานิก ที่ตั้งอยู่ ณ สวนบีคอนปาร์กตั้งแต่ปี 1914 โดยมีผู้ร่วมพิธีรำลึกเป็นเวลาสั้นๆ ราว 300 คน
       
       ในคืนวันเสาร์ ผู้ร่วมพิธีรำลึกโศกนาฏกรรมดังกล่าว ที่รวมตัวกัน ณ พิพิธภัณฑ์มิวเซียม ออฟ ดิ แอตแลนติก ในเมืองฮาลิแฟกซ์ ได้เดินขบวนกันในย่านใจกลางเมือง พร้อมถือเทียนปลอมใส่ถ่าน นำโดยรถม้าบรรทุกหีบศพ ซึ่งหยุดตามสถานที่สำคัญที่เกี่ยวข้องกับเรือไททานิก
       
       กระบวนการดังกล่าวนั้นสิ้นสุดลงที่ศาลากลางเมือง เพื่อทำพิธีไว้อาลัย โดยมีนักดนตรีท้องถิ่น และวงดนตรีของกองทัพแคนาดาร่วมบรรเลงเพลง ซึ่งวงออเคสตราของไททานิกเคยเล่นเมื่อ 100 ปีก่อนด้วย


ASTVผู้จัดการออนไลน์    15 เมษายน 2555