ผู้เขียน หัวข้อ: เรียนหนักเกิ๊น... อาตี๋อาหมวยก่อหวอด "เผาหนังสือ" ประท้วงระบบการศึกษาจีน  (อ่าน 1208 ครั้ง)

story

  • Staff
  • Hero Member
  • ****
  • กระทู้: 9763
    • ดูรายละเอียด
นักเรียนชาวจีน ถือเป็นเยาวชนชาติหนึ่งซึ่งมีภาระเล่าเรียนหนักที่สุดในโลก นอกจากจะต้องเรียนหนังสือ 7 วันต่อสัปดาห์แล้ว พวกเขาและเธอยังมีเวลาหยุดพักจากการเรียนเพียง "สองสัปดาห์" ต่อปีเท่านั้น

กระทั่งนำไปสู่การเผาตำราเรียนประท้วงในโรงเรียนแห่งหนึ่ง

นักเรียนแดนมังกรต้องเผชิญหน้ากับการสอบจำนวนมากแต่การสอบที่สำคัญที่สุด ก็คือ การสอบเข้ามหาวิทยาลัย ซึ่งเรียกว่า "เกาเข่า"

จากสถานการณ์ดังกล่าว โรงเรียนมัธยมศึกษาทั้งหลายจึงจัดคอร์สเรียนพิเศษเพื่อช่วยให้นักเรียนของตนเองสามารถลงสนามสอบเกาเข่าอย่างมั่นใจแต่นั่นก็เป็นการช่วยเหลือที่ต้องแลกกับ "ค่าเล่าเรียนเพิ่มเติม"

อย่างไรก็ตาม บรรดาพ่อแม่ต่างยินดีที่จะจ่ายค่าเล่าเรียนในหลักสูตรพิเศษแทนลูกๆ โดยหวังว่าเงินที่เสียไป จะช่วยให้ทายาทของตนมีโอกาสทางการศึกษาเหนือกว่าคนอื่น

แม้ทางการจะสั่งห้ามมิให้โรงเรียนต่างๆ จัดคอร์สเรียนพิเศษเพิ่มเติมในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์และช่วงวันหยุดยาว แต่โรงเรียนส่วนใหญ่กลับเพิกเฉย เนื่องจากการสอนเสริมคือแหล่งรายได้สำคัญของสถานศึกษาเหล่านี้

อาจารย์ใหญ่ของโรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่งในมณฑลหูหนานซึ่งนักเรียนเพิ่งก่อเหตุเผาหนังสือประท้วง กล่าวว่า "มันไม่ใช่เรื่องปิดลับที่ว่าทุกโรงเรียนมีหลักสูตรสอนพิเศษ เพราะถ้าพวกเขาไม่ทำอย่างนั้น ก็จะได้รับการบ่นว่าจากเหล่าผู้ปกครอง"

เว็บไซต์ข่าวในจีนประเมินว่า พ่อแม่ผู้ปกครองต้องจ่ายเงินราว 1,000 หยวน (ประมาณ 5,000 บาท) ต่อเทอม สำหรับค่าเรียนพิเศษของลูกๆ และต้องจ่ายอีก 1,000 หยวน สำหรับค่าหนังสือเตรียมสอบ ซึ่งโรงเรียนจะเป็นผู้จำหน่ายให้เช่นกัน

"จาง" คือนักเรียนของโรงเรียนมัธยมในหมู่บ้านเซียงถาน มณฑลหูหนาน ซึ่งร่วมก่อเหตุเผาหนังสือเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา

เรื่องราวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 9 มีนาคม ซึ่งเกิดเหตุไฟฟ้าดับในโรงเรียนตอน 6 โมงเย็น อันเป็นช่วงเวลาหยุดพักของนักเรียนพอดี แต่ในอีกหนึ่งชั่วโมงต่อมา ซึ่งเป็นเวลาเริ่มต้นของชั้นเรียนภาคค่ำ (ที่จะดำเนินไปจนถึง 4 ทุ่ม) ไฟฟ้าก็ยังไม่ติด บรรดานักเรียนจึงสอบถามว่าพวกตนจะสามารถกลับบ้านได้หรือยัง ขณะที่คุณครูและเจ้าหน้าที่กลับปฏิเสธไม่ให้เด็กๆ ออกจากโรงเรียน ส่งผลให้นักเรียนจำนวนมากหงุดหงิดอารมณ์เสีย

พวกเขาจัดแจงฉีกทำลายตำราเรียน จุดไฟเผาและขว้างมันทิ้งลงมาจากชั้นบนของอาคารเรียน  ขณะที่บางคนถึงกับจุดไฟเผาเครื่องแบบนักเรียน แล้วเขวี้ยงทิ้งลงไปในบ่อน้ำตรงลานส่วนกลางของโรงเรียน

"มันเรี่ยราดไปด้วยเศษซากปรักหักพัง โรงเรียนมีสภาพเสียหายอย่างย่อยยับ บรรดาครูๆ พยายามจะหยุดยั้งพฤติกรรมของพวกเรา แต่ก็ไม่สามารถทำได้ เพราะนักเรียนทุกคนล้วนมีส่วนร่วมกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมด"

"จาง"บอกว่าเหตุการณ์ไฟดับเป็นจุดเริ่มต้นของความชุลมุนวุ่นวายทั้งหมด

"ตารางเรียนของเรามันหนักเกินไป กระทั่งเราไม่มีเวลาที่จะแก้ไขให้สิ่งที่เกิดขึ้นกลับคืนสู่สภาพปกติ เหนือสิ่งอื่นใด โรงเรียนยังรีดเงินจำนวนมากจากพวกเราเพื่อนำมาใช้เปิดชั้นเรียนพิเศษพวกนี้"

"จาง" และเพื่อนๆ รู้สึกดีใจที่สถานีโทรทัศน์ซีซีทีวี ได้นำเรื่องราวของพวกเขาไปกล่าวถึง หลังเกิดกรณีเผาตำราเรียนที่เซียงถาน หลักสูตรเรียนพิเศษทุกชั้นของโรงเรียนดังกล่าวก็ถูกสั่งระงับ จากคำชี้แจงของผู้บริหารโรงเรียน ตารางเรียนในวันอาทิตย์จะถูกยกเลิก แต่จะมีการเรียนการสอนในภาคค่ำต่อไป

"เราจ่ายเงินไปแล้ว 1,800 หยวน (ประมาณ 9,000 บาท) สำหรับครึ่งทางแรกของคอร์สเรียนพิเศษ แต่โรงเรียนได้ตกลงว่าจะลดค่าใช้จ่ายในส่วนที่เหลือลง จาก 1,300 หยวน (6,500 บาท) เป็น 126 หยวน (630 บาท)"

"เราเคยมีเวลาพักผ่อนเพียงแค่ในช่วงครึ่งเช้าของวันอาทิตย์ พวกเราเหนื่อยมาก เราไม่สามารถทำอะไรได้นอกจากนอนหลับในเวลาดังกล่าว ส่วนช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์และวันหยุดยาวก็ถูกนำไปใช้ในชั้นเรียนเพื่อเตรียมสอบ เรารู้สึกอิจฉาเพื่อนนักเรียนในโรงเรียนอื่นๆ ซึ่งสามารถใช้ชีวิตอย่างมีความสุขในช่วงปิดภาคการศึกษา แน่นอนว่าชั้นเรียนพิเศษนั้นเกิดขึ้นในทุกโรงเรียน แต่โรงเรียนของเราก็ไปไกลเกินกว่านั้น ตลอดทั้งปีก่อน เรามีเวลาพักผ่อนเพียงแค่ 12 วัน ในช่วงปิดเทอมภาคฤดูร้อน"

ขณะที่ "หลิว" นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาในมณฑลหูเป่ย กล่าวว่า ในโรงเรียนของเธอ สภาพการเรียนการสอนนั้นย่ำแย่ยิ่งกว่าโรงเรียนที่มณฑลหูหนาน ซึ่งมีการเผาหนังสือประท้วงเสียอีก

"ชั้นเรียนของเราเริ่มต้นในเวลา 6 โมงครึ่ง ตอนเช้า และไปสิ้นสุดตอนเวลา 4 ทุ่ม เราแทบไม่มีเวลานอนเลยด้วยซ้ำ เราไม่เคยมีวันหยุดแม้แต่วันเดียวตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา นักเรียนประจำบางส่วนไม่ได้กลับบ้านของตนเองนานนับเดือน เราไม่ได้รับอนุญาตให้มีโทรศัพท์มือถือ และถ้าพบว่ามีนักเรียนคนไหนครอบครองมัน ครูจะยึดและทำลายทิ้งทันที ส่วนชั้นเรียนพิเศษและเอกสารประกอบการสอนน่ะ มันเป็นแค่วิธีการหารายได้ของโรงเรียนเท่านั้นเอง"

(ที่มา http://observers.france24.com)
มติชนออนไลน์   14 เมษายน พ.ศ. 2555