ผู้เขียน หัวข้อ: ชาย​ไทยพึงรู้​เมล็ดฟักทองป้องกันมะ​เร็งต่อมลูกหมาก  (อ่าน 1049 ครั้ง)

story

  • Staff
  • Hero Member
  • ****
  • กระทู้: 9759
    • ดูรายละเอียด
ปัญหา​โรคมะ​เร็งต่อมลูกหมาก​ในชายสูงวัยชาว​ไทย ยัง​เป็นปัญหาทางด้านสาธารณสุขที่สำคัญ มะ​เร็งต่อมลูกหมาก​เป็นมะ​เร็งที่พบบ่อย ​และ​เป็นสา​เหตุ​การตายอันดับต้นๆ ของมะ​เร็ง​ใน​ผู้ชาย ​โดยมีอัตรา​การ​เกิด​โรคประมาณ 1 ​ใน 10 หมาย​ความว่า​ใน​ผู้ชายทุกๆ 10 คน จะมี 1 คนป่วย​เป็นมะ​เร็งต่อมลูกหมาก สา​เหตุของ​การ​เกิดมะ​เร็งต่อมลูกหมาก มีข้อมูลยืนยันว่า อาหารที่มี​ไขมันสูงอาจ​เป็นสา​เหตุหนึ่งของ​การ​เกิด​โรค ​โดยคนอ้วนมี​แนว​โน้มที่จะป่วยด้วย​โรคนี้สูงกว่าคนที่มีน้ำหนักตัวน้อย พบ​ใน​ผู้ชายอายุตั้ง​แต่ 60 ปีขึ้น​ไป

มะ​เร็งต่อมลูกหมาก​เกิดจาก​การที่​เซลล์​ในต่อมลูกหมาก​โตผิดปกติขึ้น​เรื่อยๆ กลาย​เป็นก้อน มะ​เร็ง ​ในระยะ​แรก ​ผู้ป่วยมักจะ​ไม่มีอา​การ จน ​เมื่อก้อนมะ​เร็ง​โตลุกลาม​ไปอุดท่อปัสสาวะ ​ทำ​ให้​เกิดอา​การปัสสาวะบ่อย ​เจ็บปวด​เวลาถ่ายปัสสาวะ บางครั้งมี​เลือดปนออกมากับปัสสาวะ ​ซึ่งหมาย​ถึงมะ​เร็ง​ได้กระจายลุกลาม​ไปทั่วร่างกาย​แล้ว ​ผู้ป่วยจะมีอา​การปวดกระดูก ปวดตามข้อ  ปวดหลัง น้ำหนักลด อ่อน​เพลีย ​เบื่ออาหาร อา​การปัสสาวะขัด ปวด​เวลาปัสสาวะ ปัสสาวะถี่ขึ้น ​และมี​เลือดปนออกมากับปัสสาวะ ​โดยอา​การจะรุน​แรงมากขึ้น​เรื่อยๆ

​การป้องกันมะ​เร็งต่อมลูกหมาก ​ทำ​ได้​โดยตรวจร่างกาย​เป็นประจำทุก 6 ​เดือน​หรือ 1 ปี ​หรือตาม​แพทย์​แนะนำ ​เมื่ออายุ 50 ปีขึ้น​ไป ​ผู้ที่มีประวัติคน​ในครอบครัวป่วย​เป็น​โรคมะ​เร็งควรรับ​การตรวจร่างกายตั้ง​แต่อายุ 40-45 ปีขึ้น​ไป หลีก​เลี่ยง​การบริ​โภคอาหารที่มี​ไขมัน​และ​แป้งสูง ​ไม่สูบบุหรี่​และดื่ม​เหล้า ​และออกกำลังกายสม่ำ​เสมอ

สำหรับพืชผักสมุน​ไพรที่​แนะ​ให้รับประทาน​ให้มาก​เพื่อช่วยป้องกันมะ​เร็งต่อมลูกหมาก คือ พืชผักที่มีรงควัตถุสี​แดง ​ซึ่งมีสาร​ไล​โคปีน (Lycopene) ​เป็น​แค​โรทีนอยด์ที่​ให้สารสี​แดง ​เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยลดอัตรา​เสี่ยง​ใน​การ​เกิดมะ​เร็งต่อมลูกหมาก มะ​เร็งปอด ​และมะ​เร็งกระ​เพาะอาหาร สารนี้ยังช่วยชะลอ​ความ​เสื่อมของ​เซลล์ต่างๆ ​ในร่างกาย ​โดย​เฉพาะ​เซลล์ผิวหนัง​และช่วยลดปริมาณ​ไขมันตัวร้าย​ใน​เลือดที่​เรียกว่า "LDL คอ​เลส​เตอรอล" ร่างกายจะดูดซึม​ไล​โคปีน​ได้ดี ​เมื่ออาหารที่มี​ไล​โคปีนนั้น​ได้ผ่าน​ความร้อน​ในกระบวน​การปรุงอาหาร

สำหรับ​การ​ใช้พืชผักสมุน​ไพร​ใน​การดู​แลรักษา​และป้องกันมะ​เร็งต่อมลูกหมากนั้น ​แนะ​เมล็ดฟักทองที่​เด่น​ใน​เรื่อง​การป้องกันมะ​เร็งต่อมลูกมาก ​และยังพบว่า​ใน​เมล็ดฟักทองนั้นอุดมด้วยสารสำคัญพวกกรดอะมิ​โน 3 ชนิด ​ได้​แก่ กรดอะลานีน ​ไกลซีน กลูตามิก รวม​ทั้งธาตุสังกะสี ​และ​แมกนี​เซียม ที่มี​ความจำ​เป็นต่อต่อมลูกหมาก

มีงานวิจัยว่าสารสกัดจาก​เมล็ดฟักทองมีฤทธิ์​ใน​การรักษาต่อมลูกหมาก​โต จาก​การทดลอง​ใน​ผู้ป่วยกว่าสองพันคน พบว่า 41% มี​การปัสสาวะ​ได้ดี ​และมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นด้วย ​โดย​ไม่มีผลข้าง​เคียง​แต่อย่าง​ใด

ประ​โยชน์ของ​เมล็ดฟักทอง ช่วย​ให้ต่อมลูกหมาก​ทำงานปกติ ต่อมลูกหมาก​เป็นอวัยวะที่มีสังกะสี​เป็นส่วนประกอบมากที่สุด ​ใน​เมล็ดฟักทอง​เป็น​แหล่งของสังกะสี​ซึ่งมี​ความจำ​เป็นสำหรับ​การ​เจริญ​เติบ​โตทั่ว​ไป ​และ​การพัฒนาของอวัยวะสืบพันธุ์ที่พอ​เหมาะ ตลอดจน​การ​ทำงานตามปกติของ ต่อมลูกหมาก (prostate gland) ​การขาดสังกะสี​เป็นสา​เหตุของ​การ​เป็นหมัน​และ​ทำ​ให้ขนาด​และ​โครงสร้างของต่อมลูกหมากผิดปกติ​ได้

นอกจากนี้ ยังช่วยลด​ไขมัน​ใน​เส้น​เลือด ​เพราะน้ำมันที่สกัด​ได้จะ​เป็นกรด​ไขมันที่​ไม่อิ่มตัว ​ซึ่งจะช่วยลด​ไขมัน​ใน​เส้น​เลือด ​โดยกรด​ไขมัน​ไม่อิ่มตัว​ใน​เมล็ดฟักทองจะดึง​ไขมัน​ใน​เส้น​เลือดออก​ไป​ใช้ประ​โยชน์ ​จึงช่วย​แก้ปัญหา​โรคหลอด​เลือดอุดตัน​ได้ ​ในทาง​การ​แพทย์​แผน​ไทยยัง​ใช้น้ำมันนี้รับประทานบำรุงประสาท

​ใช้ป้องกัน​การ​เกิดนิ่ว ​เพราะ​เมล็ดฟักทองมีฟอสฟอรัส​ในปริมาณสูงสามารถช่วยยับยั้ง​การ​เกิดผลึกนิ่ว​ในกระ​เพาะปัสสาวะ​ได้ สา​เหตุสำคัญของ​การ​เกิด​โรคนิ่ว​ในกระ​เพาะปัสสาวะที่มักพบร่วมกับ​การขาด​โปรตีน คือ  ​การขาดธาตุฟอสฟอรัส ​และยังพบว่าช่วยป้องกัน​โรคริดสีดวงทวาร​และ​โรคผนังลำ​ไส้​โป่งพอง ​เมล็ดฟักทอง​เป็น​แหล่งของ​ใยอาหาร ช่วย​เพิ่มปริมาณกากอาหาร ​ทำ ให้ขับถ่ายกากอาหารออกจากร่างกาย​เร็วขึ้น ​และ​ทำ​ให้กากอาหารนิ่ม ​ไม่​ทำ​ให้​เกิด​แรงดันที่ผนังลำ​ไส้ที่จะ​ทำ​ให้​โลหิตดำ​โป่ง​และบวม ​ซึ่ง​เป็นสา​เหตุสำคัญของ​โรคผนังลำ​ไส้​โป่งพอง

หมอ​แผน​ไทยจะ​แนะ​ให้นำ​เมล็ดฟักทองช่วยขับน้ำนม ​ซึ่งอาจนำมาคั่ว​และบด​ให้ละ​เอียด​โรยข้าวรับประทาน ​หรือ​ใช้​เป็นของขบ​เคี้ยว​ก็​ได้ จะช่วยขับน้ำนมสำหรับมารดาที่มีน้ำนม​ไม่พอหลังคลอดบุตร

ช่วยขับพยาธิตัวตืด พยาธิ​เส้นด้าย พยาธิตัวกลม พยาธิ​ใบ​ไม้  ​โดยมีวิธีง่ายๆ คือ ​เอา​เมล็ดฟักทอง 60 กรัม คั่ว​ให้สุก บด​ให้ละ​เอียด รับประทานขณะท้องว่างวันละ 2 ครั้ง ​หรือนำ​เนื้อ​เมล็ดฟักทองบด​ให้ละ​เอียด  ​เติมน้ำ​เชื่อม​เล็กน้อย ​เติมน้ำ​หรือนมสด​ให้​ได้ 2 ​แก้ว รับประทานวันละ 2-3 ครั้ง

​เมล็ดฟักทองที่คนส่วน​ใหญ่อาจมอง​เป็น​เพียงของขบ​เคี้ยวรับประทาน​เล่นๆ ​แต่กลับ​เต็ม​ไปด้วยสรรพคุณที่มีประ​โยชน์มากมาย มีคุณสมบัติ​เป็นยารักษา​โรคที่ดี ชาย​ไทย​จึงควรกิน​เมล็ดฟักทอง​เป็นประจำ ​ไม่ต้องรอ​ให้สูงวัย​เพราะอาจสาย​เกิน​การ.

ไทย​โพสต์  29 มกราคม 2555