ผู้เขียน หัวข้อ: สปส.ยัน โอนเงินค้างค่าบริการ ให้ รพ.เอกชน สิ้นเดือน  (อ่าน 861 ครั้ง)

story

  • Staff
  • Hero Member
  • ****
  • กระทู้: 9759
    • ดูรายละเอียด
ประกันสังคม ย้ำ จ่ายเงินแน่ หลัง รพ.เอกชนเตรียมออกจากระบบ คาด โอนเงินยอดเก่าให้รพ.เอกชนสิ้นเดือนนี้ เหตุยอดใหม่ติดกรณีปรับเพิ่มดีอาร์จีใหม่ รอมติภาพรวม 1 ก.พ.ก่อนประกาศใช้ดีอาร์จีอย่างเป็นทางการ
       
       นพ.สุรเดช วลีอิทธิกุล ผู้อำนวยการสำนักจัดระบบบริการทางการแพทย์ สำนักงานประกันสังคม (สปส.) กระทรวงแรงงาน กล่าวถึงกรณีโรงพยาบาล (รพ.) เอกชนบางแห่งออกมา ระบุว่า สปส.ยังค้างจ่ายค่ารักษาพยาบาลให้แก่ รพ.จนบางแห่งเตรียมออกจากเป็น รพ.คู่สัญญา รวมไปถึงยังกังวลเกี่ยวกับความไม่ชัดเจนในการทำสัญญาค่าใช้จ่ายกลุ่มโรคร้ายแรง ว่า กรณี สปส.จ่ายค่ารักษาพยาบาลให้ รพ.เอกชนล่าช้า มีการพูดคุยกันแล้วว่า อาจมีความล่าช้าไปบ้าง เนื่องจากกระบวนการ ขั้นตอนการทำงานของระบบราชการนั้นจะทำให้ช้าออกไปอีก 15 วัน ส่วนในเรื่องของความชัดเจนในการทำสัญญาค่าใช้จ่ายกลุ่มโรคร้ายแรงนั้น ขณะนี้มีมติชัดเจนแล้ว เพียงแต่ในทางปฏิบัติอาจมีปัญหาเรื่องกระบวนการขั้นตอนอยู่ เนื่องจากมีกรรมการประกันสังคม (บอร์ด สปส.) บางท่านยังสงสัยในบางประเด็นเกี่ยวกับการเพิ่มอัตราเงินกลุ่มโรควินิจฉัยร่วม หรือระบบดีอาร์จี ซึ่งจะมีการเสนอในการประชุมบอร์ด สปส.วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2555 แต่ไม่ต้องกังวล เพราะถึงอย่างไรก็ตามต้องมีการประกาศใช้แน่นอน
       
       “การจ่ายเงินค่ารักษาพยาบาลล่าช้า เป็นเรื่องของกระบวนการ ส่วนการทำดีอาร์จีนั้น คาดว่า ไม่นานนี้น่าจะประกาศใช้ได้จริง แต่ก็ขึ้นอยู่กับบอร์ด สปส.โดยรวม ซึ่งโดยหลักการประกาศใช้อยู่แล้ว เพียงแต่รอเวลาก่อน ในช่วงนี้เลขาธิการ สปส.จึงอนุมัติให้จ่ายเงินในอัตราเก่าไปก่อน คือ เหมาจ่ายรายหัวในอัตรา 1,404 บาทต่อคนต่อปี โดยเงินจะไปถึง รพ.คู่สัญญาไม่น่าเกินสิ้นเดือนนี้ จากนั้นเมื่อมีประกาศใช้รูปแบบการปรับเพิ่มดีอาร์จีแบบใหม่ก็จะมีการนำเงินไปสมทบจนครบ เรื่องนี้ไม่ต้องกังวล” นพ.สุรเดช กล่าว
       
       ผู้สื่อข่าวถามว่า มีกระแสว่า รพ.ที่มีศักยภาพในการรักษาผู้ป่วยโรคร้ายแรงบางแห่งไม่ยอมรับผู้ป่วยส่งต่อ เนื่องจากระบุว่ายังไม่ได้ทำสัญญากับ สปส. นพ.สุรเดช กล่าวว่า จริงๆ แล้ว รพ.มีหน้าที่รักษาพยาบาล เมื่อผู้ป่วยมาก็ต้องรักษาไปก่อน และเมื่อประกาศออกก็สามารถเรียกเก็บย้อนหลังได้ ซึ่งโดยทั่วไปการเรียกเก็บค่าใช้จ่ายก็ต้องให้มีการรักษาพยาบาลก่อน จากนั้นจึงทำเรื่องเรียกเก็บอยู่ดี


ASTVผู้จัดการออนไลน์ 27 มกราคม 2555