ผู้เขียน หัวข้อ: “วิทยา” หนุนตั้งโรงพยาบาลการแพทย์แผนไทยครั้งแรกในประเทศ  (อ่าน 1162 ครั้ง)

story

  • Staff
  • Hero Member
  • ****
  • กระทู้: 9763
    • ดูรายละเอียด
สธ.เปิดโรงพยาบาลการแพทย์แผนไทยปีนี้ 10 แห่ง บริการตรวจรักษาทั้งผู้ป่วยนอกและผู้ป่วยใน โดยบูรณาการการให้บริการสอดคล้องกับการแพทย์แผนปัจจุบัน พร้อมตั้งคณะกรรมการกำหนดค่ารักษาพยาบาลการแพทย์แผนไทย สำหรับผู้ป่วยในเพื่อเป็นค่ามาตรฐานกลางใช้ในการเบิกจ่าย ซึ่งยังไม่เคยมีมาก่อนในประเทศ คาดจะประกาศใช้ในปีนี้ พร้อมขยายความร่วมมือกับ 3 มหาวิทยาลัยในเชียงราย สงขลา และ สกลนคร จัดตั้งโรงพยาบาลการแพทย์แผนไทยเพื่อขยายบริการทางเลือกสู่ประชาชนในวงกว้าง
   
       วันนี้ (17 ก.พ.) ที่กระทรวงสาธารณสุขนายวิทยา บุรณศิริ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือการพัฒนาโรงพยาบาลการแพทย์แผนไทย ระหว่างนพ.สุพรรณ ศรีธรรมมา อธิบดีกรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กับ รศ.ผดุงยศ ดวงมาลา รองอธิการบดีฝ่ายศิษย์เก่าและชุมชนสัมพันธ์ มหาวิทยาสงขลานครินทร์ รศ.ดร.วินิจ โชติสว่าง อธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน จ.สกลนคร และผศ.ดร.มาณพ ภาษิตวิไลธรรม อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย
       
       ความร่วมมือครั้งนี้จะมีการร่วมกันพัฒนาบริการโรงพยาบาลการแพทย์แผนไทย โดยบูรณาการบริการให้สอดรับกับการแพทย์แผนปัจจุบันอย่างเหมาะสม โดยมีการศึกษาวิจัยประสิทธิผล คุณภาพความปลอดภัยของการแพทย์แผนไทย ทั้งเรื่องการรักษาโรค อาการเจ็บป่วยต่างๆ ยาสมุนไพร การผดุงครรภ์ และการนวดไทย การพัฒนาบุคลากรและกรอบอัตรากำลังการแพทย์แผนไทยที่เหมาะสมในสถานพยาบาลทุกระดับ และพัฒนาให้เป็นแหล่งศึกษา ฝึกปฏิบัติงานของนักเรียน นักศึกษาด้านการแพทย์แผนไทยและสาขาอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง
       
       นายวิทยา กล่าวว่า ในปี 2555 นี้ กระทรวงสาธารณสุขมีเป้าหมายพัฒนาการแพทย์แผนไทย 3 เรื่องหลัก ได้แก่

1.ให้โรงพยาบาลในสังกัดทุกแห่งมีบริการการแพทย์แผนไทยครอบคลุมถึงโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล

2.เปิดโรงพยาบาลการแพทย์แผนไทยจำนวน 10 แห่ง ให้บริการตรวจรักษาทั้งผู้ป่วยนอก ผู้ป่วยใน และในชุมชนด้วยแพทย์แผนไทย รักษาด้วยยาแผนไทย ทั้งยาเดี่ยวและยาตำรับ เป็นทางเลือกประชาชนอย่างครบสูตร ผสมผสานกับแผนปัจจุบัน ประกอบด้วย โรงพยาบาลศูนย์ 2 แห่ง ได้แก่ รพ.เจ้าพระยาอภัยภูเบศร จ.ปราจีนบุรี รพ.พระปกเกล้าจันทบุรี จ.จันทบุรี
โรงพยาบาลชุมชน 7 แห่ง ได้แก่ รพ.สมเด็จพระยุพราชเด่นชัย จ.แพร่ รพ.เทิง จ.เชียงราย รพ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี รพ.วังน้ำเย็น รพ.วัฒนานคร จ.สระแก้ว รพ.ขุนหาญ จ.ศรีสะเกษ รพ.ท่าโรงช้าง จ.สุราษฎร์ธานี และ
ที่ กทม.1 แห่ง คือ โรงพยาบาลการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ผสมผสาน ที่ยศเส 

3.ได้แต่งตั้งคณะกรรมการพัฒนาแนวทางการเบิกค่ารักษาพยาบาลของผู้ป่วยใน สำหรับโรงพยาบาลการแพทย์แผนไทย 1 ชุด มีอธิบดีกรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยฯเป็นประธาน เพื่อศึกษาแนวทางเบิกค่ารักษาพยาบาลโรคต่างๆด้วยศาสตร์การแพทย์แผนไทย โดยจะศึกษาในโรงพยาบาลการแพทย์แผนไทย 13 แห่งซึ่งรวมของมหาวิทยาลัย 3 แห่งด้วย ถือเป็นการปูทางครั้งแรกของประเทศ เนื่องจากยังไม่เคยมีการกำหนดมาก่อน คาดว่าจะประกาศใช้ทันในปีนี้
       
       ด้านนพ.สุพรรณ ศรีธรรมมา อธิบดีกรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กล่าวว่า โรงพยาบาลการแพทย์แผนไทยทั้ง 10 แห่งนี้ จะบูรณาการบริการตรวจรักษาด้วยการแพทย์แผนไทยให้สอดรับกับการแพทย์แผนปัจจุบัน เช่น เอกซเรย์ ตรวจเลือด การส่งต่อผู้ป่วย โดยมีแพทย์แผนไทยและบุคลากรที่เกี่ยวข้องดำเนินการ มีบริการทั้งผู้ป่วยนอกและผู้ป่วยใน ใช้ยาแผนไทยทั้งยาเดี่ยวและสูตรตำรับที่มีส่วนผสมสมุนไพรหลายตัว ที่มีทั้งนอกและในรายการบัญชียาหลักแห่งชาติ รักษาผู้ป่วยได้หลายระบบ เช่น โรคสะเก็ดเงิน เบาหวาน โรคอัมพฤกษ์ อัมพาต โรคที่เกี่ยวกับโลหิตสตรี โรคที่เกี่ยวกับกล้ามเนื้อและโครงสร้าง เป็นต้น และรักษาได้ทุกสิทธิสวัสดิการทั้งรักษาด้วยยา และการนวด การอบ การประคบสมุนไพร

ASTVผู้จัดการออนไลน์    17 กุมภาพันธ์ 2555