ศาลสั่งจำคุก 1 ปี ปรับ 1 หมื่นบาท รอลงอาญา 2 ปี คดีแพทย์ประมาทผ่าไฝใต้ตาซ้าย ให้ ผอ.ซี 9 พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยาฯ พบจัดยาแก้ปวดให้กินก่อนผ่าจนเกิดอาการชัก หัวใจหยุดเต้น ขณะที่เมียเหยื่อไม่อุทธรณ์ รอสู้เอาผิดคดีแพ่งฟ้อง 10 ล้าน
เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 27 มกราคม ที่ห้องพิจารณา 906 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลมีคำพิพากษา คดีหมายเลขดำ อ.1397/2552 ที่นางจิราภา นายรำจวน และนางเจริญใจ นภีตะภัฏ ภรรยา และบิดา-มารดาของนายจารุจินต์ นภีตะภัฏ อายุ 58 ปี ผู้อำนวยการ พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยา องค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ ของ กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ซึ่งเสียชีวิตระหว่างการรักษาของแพทย์ เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง พ.อ.นพ.ประสงค์ ล้อมทอง แพทย์ซึ่งเปิดคลินิกรักษาโรคและบริการทำศัลยกรรม ย่านห้วยขวาง เป็นจำเลย ในความผิดฐาน กระทำการโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 291
ตามคำฟ้องระบุความผิดสรุปว่า เมื่อวันที่ 12 กันยายน 2551 จำเลยซึ่งมีวิชาชีพทางการแพทย์และได้รับอนุญาตให้เป็นผู้ตรวจรักษาคนไข้ ได้ร่วมกันกับพวกซึ่งเป็นพลเรือน ร่วมกันกระทำโดยประมาท นำยาแก้ปวดมาให้นายจารุจินต์กินก่อนการตัดไฝ จนเป็นเหตุให้นายจารุจินต์หัวใจหยุดเต้น ทำให้ม้ามและไตมีสภาพคั่งเลือด และถึงแก่ความตาย เหตุเกิดที่แขวงบางกะปิ เขตห้วยขวาง กรุงเทพมหานคร
ชั้นพิจารณาโจทก์นำสืบว่า นายจารุจินต์ สามีโจทก์ เป็น ซี 9 ผอ. พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยาฯ ไปพบจำเลย ที่คลินิกเพื่อรักษาอาการไฝซึ่งขึ้นบริเวณใต้เปลือกตาซ้ายทำให้มองเห็นภาพ ไม่ชัด โดยจำเลยจะทำการรักษาด้วยการผ่าตัดไฝ โดยให้ยาแก้ปวดแก่สามีโจทก์กินก่อนทำการผ่าตัด แล้วปรากฏว่าเกิดอาการชัก หัวใจหยุดเต้น ม้าม ไต ไม่ทำงาน และเสียชีวิตในเวลาต่อมา ซึ่งโจทก์เรียกร้องให้จำเลยรับผิดชอบ แต่จำเลยอ้างว่าได้รักษาอาการตามปกติแล้ว ซึ่งผู้ตายเสียชีวิตเองไม่ได้เกิดจากการรักษาของจำเลย
ศาล พิเคราะห์พยานหลักฐานที่สองฝ่ายนำสืบแล้ว เห็นว่า จำเลยเป็นแพทย์ ต้องมีความระมัดระวังในการรักษาพยาบาล แต่กลับไม่ได้ใช้ความระมัดระวังเพียงพอ จนเป็นเหตุให้ผู้ตายถึงแก่ความตาย จึงมีความผิดฐานประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย พิพากษาให้จำคุกจำเลย เป็นเวลา 1 ปี และปรับ 1 หมื่นบาท แต่เมื่อพิจารณาแล้วจำเลยไม่เคยต้องโทษอาญามาก่อน จึงให้โอกาสกลับตัวเป็นคนดี โทษจำคุกจึงให้รอลงอาญาเป็นเวลา 2 ปี
ขณะที่นางจิราภา ภรรยาผู้ตาย กล่าวว่า รู้สึกพอใจคำพิพากษาแล้ว โดยจะไม่ยื่นอุทธรณ์อีก เนื่องจากต้องการให้เป็นที่ประจักษ์ว่าการเสียชีวิตเกิดจากการกระทำโดย ประมาทของแพทย์ ซึ่งตนเองได้ยื่นฟ้องจำเลย ในคดีแพ่งเรียกค่าเสียหาย 10 ล้านบาทแล้ว โดยจะนำผลคำพิพากษาคดีอาญาไปสืบประกอบคดีของศาลแพ่งต่อไป
คมชัดลึก
28 มกราคม 2554
