ผู้เขียน หัวข้อ: ก้าวหน้าสธ.ไทย-พม่าแก้ปัญหาสุขภาพ/คุมโรค  (อ่าน 784 ครั้ง)

ABBA

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2105
    • ดูรายละเอียด


 
 
ก้าวหน้าสธ.ไทย-พม่าแก้ปัญหาสุขภาพ/คุมโรค

 
ข่าวทั่วไป หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์ -- จันทร์ที่ 23 กันยายน 2556 00:00:59 น.
สาธารณสุข * สธ.ไทย-พม่าลงนาม  MOU คุมโรคติดต่อแก้ปัญหาสุขภาพ หมอประดิษฐระบุไทยจะส่งเสริมให้เกิดระบบหลักประกันสุขภาพ ช่วยเหลือสร้างสถานพยาบาลแนวชายแดน ด้าน รมว.พม่าเผยประชาชนตามชายแดนจะได้รับการบริการสุขภาพดีขึ้นหลังปัญหาการเมืองยุติ


 
นพ.ประดิษฐ สินธวณรงค์ รมว.สาธารณสุข และนายพี เธต คิน (Prof.  Pe  Thet  Khin) รมว.สาธารณ สุขของพม่า ร่วมประชุมความร่วมมือด้านสาธารณสุขไทย-พม่า ที่โรงแรมมัณฑะเลย์ ฮิล รีสอร์ต เมืองมัณฑะเลย์ โดยมีผู้บริหาร ผู้เชี่ยวชาญ นักวิชาการจากกระทรวงสาธารณสุข 2 ประเทศ ร่วมประชุม 60 คน ในการหารือครั้งนี้ได้มีพิธีลงนามบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือ (เอ็มโอยู) ด้านสาธารณสุข เพื่อแก้ปัญหาสาธารณสุขระหว่างประเทศใน 7 สาขา ได้แก่ 1.การเฝ้าระวังโรค 2.การควบคุมมาตรฐานอาหารและยา 3.การแพทย์พื้นบ้าน 4.การควบคุมผลิตภัณฑ์ยาและเครื่องสำอาง 5.การควบคุม โรคติดต่อและโรคติดต่ออุบัติใหม่ โดยเฉพาะโรคระบาดข้ามเขตแดน 6.การส่งเสริมสุขภาพ 7.การพัฒนาระบบบริการ สุขภาพสำหรับแรงงานต่างด้าวและประชากรข้ามพรมแดน

นพ.ประดิษฐกล่าวว่า ปัญหาเรื่องแรงงานจากประเทศพม่าข้ามมารักษาพยาบาลที่ฝั่งไทยมาก เนื่องจากในประเทศพม่าไม่มีหน่วยบริการ ดังนั้นจึงมีแนวคิดไปช่วยส่งเสริมการสร้างสถานพยาบาลในพื้นที่บริเวณชายแดนที่ติดกับประเทศไทยให้ โดยเบื้องต้นอาจจะเริ่มจากการเป็นหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ก่อนจะพัฒนาให้ใหญ่ขึ้น และมีลักษณะคล้ายกับโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลของประเทศไทย พร้อมกันนี้ยังจะช่วยส่งเสริมให้ประเทศพม่าเกิดระบบหลักประกันสุขภาพให้ได้ โดยเป็นเทรนนิ่งให้ความรู้เรื่องการบริหารจัดการระบบ การจัดการด้านการเงินการคลัง และเป็นสถานที่ให้บุคลากรประเทศพม่ามาศึกษาดูงาน ส่วนเรื่องเงินทุนนั้นจะหาหน่วยงานกลางระดับโลกมาช่วยสนับสนุนอีกทางหนึ่ง

ด้านนายพี เธต คิน รมว.สาธารณสุขของพม่า กล่าวว่า ไทยและพม่ามีความร่วมมือด้านสาธารณสุขกันมาตั้งแต่ปี 2533 แล้ว โดยทั้งสองประเทศจะประชุมร่วมกันทุก 2 ปี เน้นในเรื่องของโรคเอดส์ วัณโรค และมาลาเรีย แต่การประชุมในปีนี้เป็นครั้งแรกที่มีการเพิ่มเรื่องการพัฒนาบุคลากร การควบคุมมาตรฐานอาหารและยา เรื่องแม่และเด็ก และการพัฒนาระบบบริการสุขภาพสำหรับแรงงานต่างด้าวและประชากรข้ามพรมแดน ทั้งนี้ ที่ผ่านมาตามแนวชายแดนไทย-พม่าจะมีปัญหาเรื่องการดื้อยาต้านไวรัสเอชไอวี ดื้อยารักษาวัณโรค และยารักษามาลาเรียอย่างมาก ปัจจุบันก็ยังคงเป็นปัญหาอยู่ การลงนามความร่วมมือครั้งนี้จะช่วยให้แก้ปัญหาเหล่านี้ได้

นายพี เธต คิน กล่าวต่อว่า สำหรับการพัฒนาระบบบริการสุขภาพสำหรับแรงงานต่างด้าวและประชา กรข้ามพรมแดนนั้น เป็นเรื่องธรรมดาที่ชาวพม่าที่อยู่บริเวณแนวชายแดนจะไม่ได้รับการดูแลเท่าที่ควร ที่ผ่านมาเกิดปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองภายในประเทศ แต่ขณะนี้มีการเจรจาสันติภาพกันแล้ว ดังนั้น ประชาชนที่อยู่ตามแนวชายแดนจะได้รับการดูแลมากขึ้นเทียบเท่าระบบบริการสาธารณสุขในเมืองหลวง.