มีเรื่องอยากหารือกับนายกฯ ยิ่งลักษณ์ตรงนี้ด้วยความห่วงใยสักเรื่อง-สองเรื่อง แต่ท่านจะรับหารือด้วยหรือเปล่า ก็สุดแต่ท่านเถอะนะครับ คือระยะนี้ มีผู้กล่าวขานถึงการกระทำไม่เหมาะ-ไม่ควรของท่านต่อสถาบันหนาหูเหลือเกิน ผมเข้าใจดีว่าท่าน "ถูกหลอกเชิด" แต่ก็นั่นแหละ เมื่อรักจะเป็นนายกฯ และเต็มใจให้เขาหลอกใช้ แก้ตัวมากเท่าไหร่ก็ยิ่งล่อนจ้อนมากขึ้นไปเท่านั้น!
แต่ผมไม่อยากให้ท่านตกเป็นเหยื่อคนในขบวนการของท่านเองจนต้อง "ถลำตัวทำ" ในครั้งต่อๆ ไป วันนี้จึงอยากคุยเป็นการทบทวนกับสิ่งไม่เหมาะ-ไม่ควรที่ท่านต้องเต้นในจังหวะที่พวกท่านบางคนทำเพลงให้เต้นในรอบ ๔-๕ วันมานี้
เผื่อสำนึกได้ จะได้ระวังไม่ให้เรื่องไม่บังควรเกิดขึ้นอีก!
เรื่องแรก เมื่อวันที่ ๒ ธ.ค.๕๔ ท่านเป็นประธานพิธีถวายสัตย์ปฏิญาณเพื่อเป็นข้าราชการที่ดีและพลังของแผ่นดิน เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๗ รอบ ๕ ธันวาคม ๒๕๕๔ ที่ทำเนียบรัฐบาล
ท่านทราบไหมว่า แท่นที่เขาจัดให้ท่านขึ้นไปยืนกล่าวนำถวายสัตย์ฯ นั้น มีคนถึงไม่เจตนาแต่คล้ายจงใจ หรือไม่จงใจแต่คล้ายเจตนาทำให้เป็นอย่างนั้น เพื่อให้ท่านเหยียบ..เหยียบ..และเหยียบ
"เป็นอย่างนั้น" คือเป็นแบบไหน?
ก็แบบปูลาดยกพื้นที่เป็นแท่นให้ท่านขึ้นไปยืนกล่าวถวายสัตย์ฯ ด้วยสีแดง แล้วนำพรมสีน้ำเงินขลิบขอบขาวทั้ง ๔ ด้าน ผืนขนาดย่อมกว่า ปูทับบนยกพื้นสีแดงนั้น ภาพรวมที่ปรากฏก็จะออกมาเป็น แดง-ขาว-น้ำเงิน-ขาว-แดง ลักษณะเดียวกับธงชาติ หรือธงไตรรงค์
เมื่อนายกฯ ยิ่งลักษณ์ขึ้นไปยืนกล่าว สิ่งที่ไม่เจตนาแต่จงใจทำให้ปรากฏก็คือ เหมือนนายกฯ ขึ้นไปเหยียบกลางธงชาติไทย และเฉพาะที่เหยียบอยู่ตรงกลางคือ....แถบสีน้ำเงิน!
ผมไม่เห็นของจริง เพราะไม่ได้อยู่ในพิธีกับเขา แต่อ่านจากมติชนออนไลน์ ที่บอกว่ามีผู้นำไปโพสต์ตำหนินายกฯ ในเฟซบุ๊ก และทางมติชนเขาแจกแจงข้อเท็จจริงให้ทราบแทนนายกฯ แล้ว วันรุ่งขึ้น...ได้ดูจากภาพหน้า ๑ หนังสือพิมพ์ข่าวสด ฉบับวันที่ ๓ ธ.ค.มีอักษรอธิบายภาพไว้ว่า
"ป่วนปู" - น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นประธานพิธีถวายสัตย์ปฏิญาณฯ เฉลิมพระชนมพรรษา ๗ รอบ ที่ทำเนียบรัฐบาล ก่อนถูกมือดีนำภาพไปตัดต่อแพร่ทางเน็ตกล่าวหาว่าเหยียบธงชาติ ทั้งที่เป็นพรมธรรมดา เมื่อวันที่ ๒ ธ.ค.
ผมมิอาจว่ากล่าวใดต่อท่านนายกฯ ได้ ในเมื่อจิตสำนึกท่านก็เป็นดังทีมงานแจกแจงว่า เป็นพรมสีน้ำเงินขลิบขาว ปูบนยกพื้นสีแดง แต่คนอื่นใส่ไคล้-ใส่ความท่าน แต่อยากจะบอกว่า ด้วยจิตสำนึกบริสุทธิ์ของคนไทยที่รู้จักผิด-ชอบ-ชั่ว-ดี
เขาไม่ทำกันอย่างนั้น!
และถ้าใครทำ นั่นต้อง "ซ่อนนัย" แห่งเจตนา อันรู้ได้ด้วย "เชิงชั้นนักเลง" เพราะมันสื่อสู่การลบหลู่-หยามเย้ย-ท้าทายอยู่ในที ถึงตะแบงออกตัวว่าไม่ใช่ธงชาติ แต่เจตนา...ใครล่ะที่ไม่รู้ว่า..ใช่?
ถ้าไม่เจตนา-จงใจ ประดิด-ประดอยกันให้ตาย มันก็จะออกมาเป็นรูปลักษณ์ "ธงไตรรงค์" อย่างนี้ไม่ได้ และไม่เคยปรากฏศิลปกรรมการปูพรมของเจ้าหน้าที่ทำเนียบฯ ไม่ว่ายุคไหนๆ จะทำแท่นแดง ปูพรมน้ำเงินขลิบขาวตรงกลาง เช่นนี้มาก่อน!
นี่เรื่องหนึ่งละ แต่เมื่อคาบลูก-คาบดอก อ้างว่า...คิดมากกันไปเอง ก็โอเค นายกฯ ไม่ได้ทำอะไรที่ไม่สมควร
แต่เรื่องที่สอง เว็บข่าวลงข่าวกันว่อน ผมจะยกจาก "กรุงเทพธุรกิจออนไลน์" ตอนเวลา ๑๗.๑๐ น.ของวันที่ ๔ ธ.ค.มาให้ท่านได้ทบทวนสิ่งที่กระทำให้เกิดขึ้น ดังนี้
.....เมื่อวันที่ 3 ธ.ค. เวลา 10.15 น. ทางเฟซบุ๊ก "Yingluck Shinawatra" ได้เผยแพร่ข้อความ "?5 ธันวา รวมพลังคนไทย รวมหัวใจถวายพระพรชัยมงคล" แต่ภาพประกอบกลับเป็นพระบรมฉายาลักษณ์ "พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล" (รัชกาลที่
หลังจากนั้น เมื่อเวลาประมาณ 23.19 น. ทางหน้าเฟซบุ๊กได้ลบภาพดังกล่าวออก พร้อมได้มีหนังสือกราบเรียนท่านราชเลขาธิการ เพื่อนำความกราบบังคมทูลเพื่อขอพระราชทานอภัยโทษในข้อผิดพลาดแล้ว
ล่าสุด วันนี้ (4 ธ.ค.) น.ส.ยิ่งลักษณ์ได้มอบหมายให้นายบัณฑูร สุภัควณิช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ทำหนังสือชี้แจงไปยังสำนักราชเลขาธิการสำนักพระราชวัง เพื่อขอพระราชทานอภัยโทษในความผิดพลาดที่เกิดขึ้น
นายบัณฑูร สุภัควณิช เลขาฯ นายกรัฐมนตรี เปิดเผยกรณีเฟซบุ๊กนายกรัฐมนตรีที่ลงภาพผิดว่า เรื่องนี้เป็นทีมงานที่คอยดูแลในส่วนของเฟซบุ๊กนายกฯ เป็นคนทำ นายกฯ ไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ ขณะนี้นายกฯ ได้มอบหมายให้ตนทำหนังสือถึงราชเลขาธิการ เพื่อกราบบังคมทูลให้ "พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว" ทรงทราบ และขอพระราชทานอภัยโทษถึงเรื่องดังกล่าวแล้ว ซึ่งหนังสือนี้ได้ทำเสร็จตั้งแต่เมื่อวันที่ 3 ธ.ค.ที่ผ่านมา คาดว่าจะยื่นหนังสือดังกล่าวในวันจันทร์ที่ 5 ธ.ค.นี้
" นายกฯ ได้กำชับให้ทีมงานที่ดูแลในส่วนเฟซบุ๊กให้ระวัง เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องละเอียดอ่อน จะผิดพลาดไม่ได้ นายกฯ เสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยทีมงานดังกล่าวไม่ใช่คนของพรรคเพื่อไทย แต่เป็นออร์แกไนเซอร์ที่จ้างมาอีกทีหนึ่ง" นายบัณฑูรกล่าว
ครับ...เรื่องนี้ผมเข้าใจดีว่า ท่านนายกฯ ไม่มีจิต "ไม่บริสุทธิ์" ต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ต่อสถาบันพระมหากษัตริย์
แต่สิ่งที่เกิด จะด้วยเจตนา-ไม่เจตนา หรือจะด้วยละเลยต่อการเอาใจใส่จนเกิดความบกพร่องขึ้น หรือใครบางคน "ประสงค์ผล" อย่างใดอย่างหนึ่งทำให้เกิดขึ้น ทั้งกับตัวนายกฯ และทั้งกับสถาบัน ท่ามกลางกระแสสังคมที่ปั่นกันจนสับสนและหลากหลาย
นั่น..จะปักใจพูดอย่างใด-อย่างหนึ่งลงไปยังไม่ได้ จนกว่าจะมีการสอบสวนทวนความออกมาชัดเจนแล้ว!
ใช่...ท่านนายกฯ และใช่...ท่านเลขาธิการนายกฯ ผู้เป็นเพื่อนรักร่วมสถาบันเคนทักกีกับทักษิณ เรื่องผิดพลาดต่อสถาบันอย่างนี้ แค่ทำหนังสือกราบบังคมทูลขอพระราชทานอภัยโทษ แล้วก็จบกันไป อย่างนั้นไม่ได้ และไม่ใช่ครับ
มันมีทางต้องปฏิบัติแยกเป็น ๒ ทางครับ คือทางหนึ่ง เมื่อเรื่องเกิดขึ้นแล้วถือเป็นคดีอาญาแผ่นดิน ทางตำรวจจะต้องดำเนินคดีไปตามกระบวนการกฎหมาย จะจบแค่ อุ๊ย..ขอโทษ..เสียใจ อย่างนั้นไม่ได้ และถ้าตำรวจไม่ทำคดี
ตั้งแต่ตัว ผบ.ตร.นั่นแหละจะเจอคดี มาตรา ๑๕๗!
อีกทางหนึ่ง เป็นเรื่องแสดงความบริสุทธิ์ของเจ้าตัว เมื่อรู้ว่ามีความผิดพลาดเกิดขึ้น ก็ทำหนังสือกราบบังคมทูลขอพระราชทานอภัยโทษอย่างที่ทำ แต่ไม่ใช่สั่งให้เลขาธิการนายกฯ หรือใครทำแทน ควรอย่างยิ่งต้องทำหนังสือกราบบังคมทูลขอพระราชทานอภัยโทษด้วยตัวเอง
ที่อยากจะบอกท่านนายกฯ อีกประเด็น ทั้งท่านและทั้งเลขาฯ บัณฑูรยอมรับว่า "เฟซบุ๊กยิ่งลักษณ์" ที่จ๊ะจ๋ากับแฟนคลับตลอดมาทั้งหมด แท้จริงแล้วยิ่งลักษณ์ไม่รู้ ยิ่งลักษณ์แค่สร้างภาพหลอกแฟน ด้วยการจ้างออร์แกไนเซอร์เขียนแทน-ทำแทน-พูดแทนเท่านั้น
ตรงนี้ ในข้อเท็จจริงถึงไม่บอกคนเขาก็รู้ทั้งเมือง แต่โดยวิสัยคนเป็นนาย คนเป็นผู้ใหญ่ เมื่อมีเรื่องเกิดขึ้นจะปัดความรับผิดชอบ โดยอ้างคนโน้น-คนนี้ทำ ตัวเองไม่ได้ทำ อย่างนั้น...อ้างได้ แต่ปัดความรับผิดชอบโดยตรงไม่ได้
เหมือนเอกสารทุกชิ้น กระทั่งเช็คและจดหมายก็เถอะ นายกฯ ไม่ได้ร่างเอง เขียนเอง พิมพ์เอง เขาทำมาให้เสร็จ แล้วเสนอให้เซ็นชื่อ
นั่นแหละ..เซ็นปุ๊บ ทุกตัวอักษร "เราเป็นนาย" และเป็นเรา เป็นการกระทำ เป็นเจตนา เป็นคำสั่ง เป็นจุดประสงค์ ของนายกฯ ผู้เซ็นชื่อแต่ผู้เดียว ทั้งโดยนิตินัยและพฤตินัย จะไปโบ้ยให้คนร่างให้ไม่ได้เลย!
นั่นก็คือ ไม่ต้องไปออกตัวให้เสียเชิง-เสียแฟนหรอกว่า "เฟซบุ๊กยิ่งลักษณ์" คนอื่นเขียนแทน-ตอบแทน และที่บอก "ไม่ใช่ทีมงานพรรคเพื่อไทยทำ จ้างออร์แกไนเซอร์ภายนอกทำ" นั้น
เลขาฯ บัณฑูรเตรียมเอกสารสัญญาจ้าง และเตรียมตอบพนักงานสอบสวนเขาก็แล้วกันว่า ใช้งบส่วนตัวยิ่งลักษณ์ หรือ "งบหลวง" จ้างออร์แกไนเซอร์ "ปลอมเป็นยิ่งลักษณ์" รับเงิน?
ผมเชื่อในความบริสุทธิ์ใจ จึงหารือตรงนี้ไงว่า ต่อไป...ใครเอาอะไรมาให้เซ็น ใครบอกให้ทำอะไร "ใช้สมอง" กรองซักนิดดีไหม จะได้ไม่ต้องเป็นนายกฯ หญิงคนแรก และติดคุกคนแรก ด้วย "บกพร่องโดยสุจริต" ไงล่ะ!
เรื่องที่สาม จู่ๆ ก็ลดการแสดงแสง สี เสียง และสื่อผสม เรื่องวัฒนธรรมทองแห่งกรุงรัตนโกสินทร์ ๘๔ พรรษามหาราช และการฉายภาพยนตร์พาโนรามาที่กำแพงพระบรมมหาราชวัง ทั้งที่ก่อนหน้านี้ สำนักพระราชวังประกาศว่ามีตั้งแต่ ๓-๙ ธ.ค.
การลดกิจกรรมนั้น ประชาชนส่วนใหญ่งุนงงและติดใจว่า ทำไม..จู่ๆ ก็ประกาศลดกิจกรรมแบบไม่มีปี่-ไม่มีขลุ่ย เรื่องอย่างนี้ มี-ไม่มีไม่ว่า แต่ควรทำให้ชัดเจนแต่แรก เพราะนี่คือ "กิจกรรมเฉลิมพระเกียรติ" การทำแบบนี้ เฉลิมพระเกียรติ หรือหลู่พระเกียรติ สำนึกรู้ได้ด้วยใจสำนึก
และที่ฟังแล้วประชาชนสะเทือนใจ และไม่เข้าใจว่ารัฐบาลมีเจตนาอะไรกันแน่ ที่จู่ๆ ก็บอกว่า...อยู่ในช่วงน้ำท่วม ไม่ควรมีงานรื่นเริง เปลืองเงิน ต้องใช้เงินมากมายหลายสิบล้าน เอาไปช่วยแก้ปัญหาน้ำท่วมดีกว่า ได้หารือตัวแทนสำนักพระราชวังแล้ว?!
ทั้งหมดนี้ ผมอยากหารือท่านนายกฯ ยิ่งลักษณ์ว่า ในเมื่อรัฐบาลไม่ผิด ตัวท่านไม่ผิด แต่เรื่องทำนองนี้ ทำไมมัน "บังเอิญเกิด" ถี่ๆ ในระยะนี้เหลือเกิน
เกรงว่าจะ "ผิดใจ" กับประชาชนได้นะครับ.
เปลว สีเงิน
7 ธันวาคม 2554
