ผู้เขียน หัวข้อ: จำคุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา “หมอป๊อป” ฉีดสารฟิลเลอร์ พริตตี้สาวเสียชีวิต  (อ่าน 728 ครั้ง)

story

  • Staff
  • Hero Member
  • ****
  • กระทู้: 9810
    • ดูรายละเอียด
ศาลจำคุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา “หมอป๊อป” อ้างเป็นแพทย์ ฉีดสารฟิลเลอร์เข้าสะโพกน้องกระแต พริตตี้สาวจนเสียชีวิต ศาลชี้เป็นเรื่องร้ายแรง แม้รอการลงโทษจำเลยก็ไม่เข็ดหลาบ แต่ลดโทษให้เหลือติดคุก 1 ปี
       
       ที่ห้องพิจารณา 804 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก วันนี้ (22 ต.ค.) ศาลอ่านคำพิพากษาคดีความผิดต่อชีวิต หมายเลขดำ อ.1164/2556 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 7 เป็นโจทก์ฟ้อง นายธนัช ณัชวีรกุล อายุ 24 ปี หรือฉายา หมอป๊อป อยู่บ้านเลขที่ 29/9 ถ.พลายแก้ว ต.ท่าพี่เลี้ยง อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี เป็นจำเลยในความผิดฐานประกอบวิชาชีพเวชกรรมโดยไม่ได้รับอนุญาต, กระทำประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย
       
       โจทก์ฟ้องสรุปว่า เมื่อวันที่ 16 ก.ย. 2555 เวลากลางคืน จำเลยได้กระทำผิดกฎหมายหลายกรรมต่างกัน ด้วยการฉีดสารฟิลเลอร์เข้าที่สะโพกซ้าย-สะโพกขวา ของ น.ส.อาทิตยา เอี่ยมใหญ่ หรือ น้องกระแต พริตตี้สาว อายุ 32 ปี ทั้งที่ต้องกระทำโดยแพทย์ผู้มีความชำนาญด้านเสริมความงาม แต่จำเลยไม่ใช่แพทย์ผู้ชำนาญ ไม่มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพเวชกรรมจากแพทยสภา จึงไม่มีความรู้ ความชำนาญเพียงพอ เป็นการกระทำโดยประมาท ปราศจากความระมัดระวัง เป็นเหตุให้สารฟิลเลอร์ไม่เข้าไปในกล้ามเนื้อของ น.ส.อาทิตยา แต่เข้าไปในหลอดเลือด แทน ทำให้ น.ส.อาทิตยา เกิดสภาวะสมองตาย หลอดเลือดเลี้ยงสมอง และปอดอุดตันจากสิ่งแปลกปลอม จนถึงแก่ความตายในเวลาต่อมา เหตุเกิดที่คอนโดมิเนียมแห่งหนึ่งย่านลาดพร้าว ซ.1 แขวงจอมพล เขตจุตุจักร กทม.
       
       ต่อมาวันที่ 21 ก.ย.2555 จำเลยเข้ามอบตัวกับพนักงานสอบสวน สน.พหลโยธิน ให้การรับสารภาพโดยตลอด ว่า เคยเป็นผู้ช่วยแพทย์ในสถานเสริมความงามแห่งหนึ่ง และเคยฉีดสารฟิลเลอร์ให้แก้พริตตี้ และสาวประเภทสอง มาหลายราย ทั้งจำเลยจ่ายเงินชดเชยให้แก่ น.ส.ระเบียบ ผินกลับ มารดาผู้ตายเป็นเงิน 150,000 บาท และไม่เคยต้องโทษจำคุกมาก่อน ขอศาลให้โอกาสจำเลยกลับตัวเป็นคนดี โดยรอการลงโทษด้วย
       
       ศาลพิเคราะห์พฤติการณ์แห่งคดีประกอบรายงานการสืบเสาะประวัติจำเลยแล้วเห็นว่า แม้จำเลยไม่เคยต้องโทษจำคุกมาก่อน และได้ชดเชยค่าเสียหายให้แก่มารดาผู้ตาย แต่การที่จำเลยซึ่งมิได้รับอนุญาตเป็นผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมจากแพทยสภา กลับฉีดสารฟิลเลอร์เข้าสู่ร่างกายผู้ตายโดยปราศจากความรู้ความชำนาญใดๆ ทั้งยังเรียกค่าตอบแทน จึงเป็นการกระทำที่มิได้นำพา และหาได้คำนึงถึงอันตรายที่อาจก่อให้เกิดขึ้นแก่สุขภาพ และชีวิตของบุคคลอื่น ลักษณะของการกระทำผิด และพฤติการณ์แห่งคดีเป็นเรื่องร้ายแรง การรอการลงโทษจำคุกจำเลย ย่อมไม่เหมาะสมกับความผิด และไม่ทำให้จำเลยเกรงกลัวหรือหลาบจำ กรณีจึงยังไม่มีเหตุให้โอกาสจำเลยกลับตัวด้วยการรอการลงโทษ
       
       พิพากษาว่า จำเลยกระทำผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 291, พ.ร.บ.วิชาชีพเวชกรรม พ.ศ.2525 มาตรา 4, 26, 43 เป็นความผิดกรรมเดียว แต่ผิดกฎหมายหลายบท ลงโทษฐานกระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย อันเป็นบทหนักสุด จำคุก 2 ปี คำรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา ลดโทษให้กึ่งหนึ่งคงจำคุกจำเลยไว้ 1 ปี ภายหลังจำเลยได้ยื่นหลักทรัพย์จำนวน 1.2 แสนบาท ขอประกันตัว แต่ศาลพิจารณาแล้วเห็นควรส่งให้ศาลอุทธรณ์เป็นผู้พิจารณาว่าจะอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวหรือไม่


ทีมข่าวอาชญากรรม    
http://www.manager.co.th/Crime/ViewNews.aspx?NewsID=9560000132368
22 ตุลาคม 2556