นักการเมืองและนักกิจกรรมจากประเทศแถบแคริบเบียนออกมาเรียกร้องให้มีการล้มเลิกการปกครองภายใต้ระบอบที่มีพระมหากษัตริย์อังกฤษเป็นประมุขของรัฐเอกราชของเครือจักรภพ ซึ่งเดิมเคยตกเป็นรัฐอาณานิคมของอังกฤษอีกครั้ง รวมถึงมีการเรียกร้องค่าชดเชยการค้าทาสจากอังกฤษ หลังจากที่กษัตริย์ชาร์ลส์ที่ 3 สืบราชบัลลังก์ต่อจากสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ที่เสด็จสวรรคตไปเมื่อช่วงเย็นของวันก่อนหน้า
แม้ว่านายกรัฐมนตรีจากประเทศจาไมกา รวมถึงพันธมิตรอย่างแอนติกาและบาร์บูดา กล่าวว่าจะร่วมไว้อาลัยต่อการเสด็จสวรรคตของพระราชินีอังกฤษ แต่ก็เริ่มมีการตั้งคำถามถึงความเหมาะสมของระบอบการปกครองที่มีพระมหากษัตริย์ที่พำนักในประเทศที่ห่างไกลทรงเป็นประมุขในศตวรรษที่ 21 ว่ายังควรมีอยู่ต่อไปหรือไม่ โดยผู้นำบางประเทศในภูมิภาคแคริบเบียนภายใต้เครือจักรภพได้แสดงออกถึงความไม่สบายใจที่จะยังคงระบอบการปกครองของประเทศเครือจักรภพ ภายใต้การสืบราชบัลลังก์ของกษัตริย์ชาร์ลส์ที่ 3 ต่อจากสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ในการประชุมสุดยอด ณ กรุงคิกาลี ประเทศรวันดา ในช่วงต้นปีที่ผ่านมา
สอดคล้องกับที่นางไนอัมบี ฮอล-แคมป์เบล ประธานคณะกรรมการชดเชยแห่งชาติของบาฮามาส ออกมาเปิดเผยเมื่อวันที่ 8 กันยายน ว่า เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงองค์ประมุข เราคาดหวังว่านี่จะเป็นโอกาสที่จะหารือถึงเงินชดเชยสำหรับภูมิภาคแคริบเบียนของเรา
ในระหว่างงานพิธีสิ้นสุดการปกครองของอังกฤษในประเทศบาร์เบโดสในปี 2564 นางไนอัมบีระบุว่า กษัติรย์ชาร์ลส์ที่ 3 ทรงทราบถึงการปฏิบัติต่อทาสอย่างโหดร้ายทารุณ ซึ่งเป็นจุดสิ้นสุดการปกครองของอังกฤษและทำให้บาร์เบโดสกลายเป็นสาธารณรัฐ เธอแสดงความหวังว่าการขึ้นครองราชย์ของกษัตริย์ชาร์ลส์ที่ 3 จะสะท้อนให้เห็นว่าความยุติธรรมที่จำเป็นในยุคนั้น และความยุติธรรมนั้นคือความยุติธรรมที่ต้องได้รับการชดใช้
ในอดีต ชาวแอฟริกันมากกว่า 10 ล้านคน ถูกบังคับเข้าสู่การค้าแรงงานทาสโดยประเทศในทวีปยุโรปหลายชาติในช่วงระหว่างศตวรรษที่ 15-19 โดยแรงงานทาสที่รอดชีวิตจากการเดินทางอันโหดร้ายถูกบังคับให้เป็นแรงงานชาวไร่ในพื้นที่แคริบเบียนและอเมริกา
นางโรซาเลีย แฮมิลตัน นักเคลื่อนไหวเรียกร้องเงินชดเชยการค้าแรงงานทาสชาวจาไมกา ได้กล่าวถึงข้อความที่กษัตริย์ชาร์ลส์ได้กล่าวในงานประชุมที่คิกาลีถึงความเสียพระราชหฤทัยต่อการค้าแรงงานทาสว่า จากข้อความดังกล่าวทำให้เรามีความหวังว่ากษัตริย์ชาร์ลส์จะทรงเรียนรู้จากประวัติศาสตร์ และเข้าใจถึงผลกระทบที่เจ็บปวดที่หลายชาติได้รับจนถึงปัจจุบัน พร้อมย้ำถึงความต้องการเงินชดเชยจากการค้าแรงงานทาสอีกด้วย
อย่างไรก็ตาม ระหว่างการประชุมที่คิกาลี กษัตริย์ชาร์ลส์ไม่ได้พูดถึงเงินชดเชยที่บรรดาชาติในแคริบเบียนต้องการ
รัฐบาลจาไมกาได้ประกาศเมื่อปีที่แล้วถึงแผนการที่จะขอให้สหราชอาณาจักรจ่ายเงินชดเชยจากการขนย้ายแรงงานทาสชาวแอฟริกันราว 6 แสนคน เพื่อทำงานในไร่อ้อยและไร่กล้วย ที่มีนายทาสชาวสหราชอาณาจักรที่ร่ำรวยเป็นเจ้าของ
จาไมกาได้ส่งสัญญาณถึงความต้องการที่จะยกเลิกระบอบกษัตริย์ตามประเทศบาร์เบโดส ซึ่งประเทศทั้งสองยังคงอยู่ในเครือจักรภพ อีกทั้งจากผลสำรวจในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมาพบว่า 56% ของชาวจาไมกาต้องการที่จะล้มเลิกการปกครองภายใต้ระบอบที่มีพระมหากษัตริย์อังกฤษเป็นประมุขแห่งรัฐ
9กย2565
มติชน
