ผู้เขียน หัวข้อ: ทีมแพทย์ มข. ค้นพบ"โรคภูมิคุ้มกันบกพร่องที่ไม่ใช่เอดส์"รายแรกของโลก  (อ่าน 686 ครั้ง)

ABBA

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2105
    • ดูรายละเอียด


ภาพผู้ป่วยโรคภูมิคุ้มกันบกพร่องที่ไม่ใช่เอดส์

       โรคภูมิคุ้มกันบกพร่องที่ไม่ใช้โรคเอดส์ ถือเป็นโรคค้นพบใหม่ อาการทางคลินิกต่างจากโรคเอดส์ รวมถึง มีความคล้ายคลึง กับโรคพุ่มพวง หรือ โรค SLE อย่างไร ศ.พญ. เพลินจันทร์ กล่าวว่า อันดับแรก ต้องอธิบายถึงโรคเอดส์ หรือ โรคภูมิคุ้มกันบกพร่อง ก่อนว่าเกิดจากการติดเชื้อไวรัส หรือ HIV ซึ่ง HIV จะทำให้ภูมิคุ้มกันของร่างกายบกพร่อง แต่ว่าในผู้ป่วย HIV หรือผู้ป่วยเอดส์ ภูมิคุ้มกันจะสูญเสียไปมาก เพราะฉะนั้น การติดเชื้อฉวยโอกาสนั้น จะมีโอกาสติดเชื้อได้หลายอย่างมากกว่า และ ภูมิคุ้มกันบกพร่องมากกว่า เชื้อฉวยโอกาสที่พบได้บ่อยที่สุดก็คือเชื้อวัณโรค รองลงมาก็จะเป็นพวกเชื้อราต่างๆ ในผู้ป่วยโรคภูมิคุ้มกันบกพร่องที่ไม่ใช้เอดส์นี้ ไม่ได้ติดเชื้อวัณโรค เป็นอันดับหนึ่ง ส่วนใหญ่จะเจอได้น้อย
       
       ส่วนโรคพุ่มพวง หรือ โรค SLE มีความเหมือนกับโรคภูมิคุ้มกันบกพร่องที่ไม่ใช้เอดส์ ก็คือร่างกายสร้างสารขึ้นมายับยั้งเซลล์ของตัวเองเหมือนกัน แต่ว่าโรคพุ่มพวงหรือโรค SLE นั้น ร่างกายจะสร้างแอนติบอดี้มายับยั้งเซลล์พวกไต ทำให้ไตผิดปกติ เม็ดเลือดขาวหรืออวัยวะต่างๆ ในร่างกาย คนไข้ก็จะมีอาการผมร่วง มีผื่น ปวดตามข้อ มีโรคไต โรคเลือด จะไม่เกี่ยวข้องกับโรคติดเชื้อ แต่โรคภูมิคุ้มกันบกพร่องที่ไม่ใช้เอดส์นี้ ร่างกายสร้างสารขึ้นมายับยั้งอินเตอร์เฟรอนแกรมมาของตัวเอง คือเป็นโรคที่พูดง่ายๆ สร้างขึ้นมาทำลายเซลล์ของตัวเองเช่นกัน และจากการศึกษาข้อมูลอ้างอิง พบว่าโรคนี้ส่วนใหญ่จะพบมาในชาวเอเชีย
       
       อย่างไรก็ตาม ศ.พญ.เพลินจันทร์ กล่าวทิ้งท้ายว่า โรคนี้ไม่ติดต่อระหว่างคนสู่คนแน่นอนและเชื้อกลุ่มวัณโรคฯ (NTM) ที่พบได้บ่อยในผู้ป่วยเหล่านี้ ก็ไม่ติดต่อระหว่างคนเช่นเดียวกันซึ่งต่างจากวัณโรค และหลายคนก็คงมีคำถามว่าโรคนี้สามารถรักษาได้หรือไม่ ศ.พญ. เพลินจันทร์ ได้กล่าวถึงประเด็นนี้ว่า ปัจจุบันการรักษาคือการรักษาโรคติดเชื้อ โดยเฉพาะการรักษาการติดเชื้อกลุ่มวัณโรคฯ (NTM) ผู้ป่วยบางรายหายขาดได้ แต่มักต้องรักษาเป็นเวลานาน ในรายที่ติดเชื้อฉวยโอกาสก็ให้การรักษาโรคเหล่านั้นได้ สำหรับการรักษาเพื่อลดการสร้างสารต่อต้านอินเตอเฟอรอนแกมมา ต้องรอการศึกษาวิจัยในอนาคต