บอร์ด สปสช.ส่งกฤษฎีกาตีความโบนัสเจ้าหน้าที่ 30 ล้าน หลังคลังติง ไม่มีผลประกอบการ เกิดผลกำไร ทำไมต้องจ่ายโบนัส ทั้งๆ ที่เป็นเงินหลวง
เมื่อวันที่ 20 ก.พ. แหล่งข่าวระดับสูงจากคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บอร์ด สปสช.) กล่าวถึงการจ่ายโบนัสให้กับเจ้าหน้าที่ สปสช. ในปี 2554 ว่า ในการประชุมบอร์ด สปสช.ล่าสุดได้พูดคุยในเรื่องนี้ โดยมีบอร์ดที่มาจากกระทรวงการคลังตั้งข้อสังเกตว่า การจ่ายโบนัสหมายถึงผลประกอบการที่ก่อให้เกิดผลกำไร จึงจะจ่ายโบนัสได้ แต่หน่วยราชการที่ใช้เงินหลวงอย่าง สปสช. เมื่อได้รับงบประมาณเหมาจ่ายรายหัวแล้ว หากมีเงินเหลือจะนำเงินดังกล่าวมาจ่ายโบนัสทำได้หรือไม่ ดังนั้นจึงมีมติส่งเรื่องให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตีความ รวมทั้งหารือไปยังสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (ก.พ.ร.) ด้วย
แหล่งข่าวกล่าวระดับสูงกล่าวต่อว่า มีบอร์ด สปสช.บางคนเสนอว่าให้จ่ายโบนัสไปก่อน ทำเหมือนที่ปฏิบัติมา แต่บอร์ด สปสช.หลายคนคัดค้าน เพราะถ้ากฤษฎีกาตีความแล้วว่าไม่สามารถนำเงินที่เหลือมาจ่ายโบนัสได้ จะต้องมีการเรียกคืนเงินโบนัสที่จ่ายไปย้อนหลังหลายปี และเมื่อคำนวณจำนวนเงินโบนัสที่จะจ่ายให้กับพนักงานในปี 2554 ตามที่บริษัท ทริส คอร์ปอเรชั่น จำกัด ได้ทำการประเมิน สปสช. ให้ระดับ A ตามเกณฑ์จะได้โบนัสคือ 12% คิดเป็นเงินประมาณ 30 ล้านบาท ทั้งนี้ นายวิทยา บุรณศิริ รมว.สาธารณสุข ในฐานะประธานบอร์ด สปสช. ได้กล่าวต่อที่ประชุมว่า เห็นใจคนทำงาน ถ้าเป็นเงินไม่เยอะสัก 3 ล้านคงจะจ่ายให้เลย แต่นี่เงิน 30 ล้านบาทคงต้องให้ฝ่ายกฎหมายดูแลให้รอบคอบ
"ประเด็นเรื่องการส่งตีความการจ่ายเงินโบนัสทำให้บอร์ด สปสช.ชุดใหม่ไม่สบายใจเหมือนกัน เพราะขณะนี้มีการไปบิดเบือน ทำให้พนัก งานเข้าใจผิดและไม่ชอบใจการทำงานของบอร์ดชุดใหม่ ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าห่วงมาก ทั้งๆ ที่บอร์ดก็เห็นใจคนที่ตั้งใจทำงาน เพียงแต่ว่าทุกอย่างต้องมีการดำเนินการอย่างถูกต้องตามระบบ ระเบียบ" แหล่งข่าวระดับสูงกล่าว
ด้าน นพ.วินัย สวัสดิวร เลขาธิการ สปสช. กล่าวว่า ได้ทำหนังสือไปยังสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา และ ก.พ.ร.แล้ว เมื่อถามว่าทางพนักงาน สปสช.ได้สอบถามเรื่องโบนัสหรือไม่ นพ.วินัยกล่าวว่า ก็มีสอบถาม แต่พนักงานก็เข้าใจว่าเมื่อบอร์ดไม่สบายใจ เราก็ต้องปฏิบัติตาม ดังนั้นก็ต้องรอไปก่อน.
ไทยโพสต์ 21 กุมภาพันธ์ 2555