“สรพงษ์” ป่วยมะเร็งสมองอาการดีขึ้น รักษาเข็มละ 1.8 แสน น้ำหนักลด 7 กิโล

[story]

ทำแฟนๆ ถึงขั้นใจหาย หลังทราบข่าวว่า “สรพงษ์ ชาตรี” พระเอกในดวงใจล้มป่วยด้วยโรคมะเร็งสมอง ซึ่งตอนนี้อยู่ในขั้นตอนการรักษา โดยสรพงษ์เข้าทำการรักษาตั้งแต่กลางปีที่แล้ว แต่ไม่ได้บอกข่าวนี้กับใคร เนื่องจากกลัวคนรู้ข่าวเป็นห่วงและทุกข์ใจ

ล่าสุด ครอบครัวข่าวบันเทิงออนไลน์ ทางช่อง 3 ได้เผยว่า หนึ่งในคนที่มีโอกาสเดินทางไปเยี่ยม ช่วยรักษาค่าพยาบาล คือ “พรพิมล มั่นฤทัย” ผู้บริหารค่ายโคลีเซี่ยม โดยไปเยี่ยมครั้งแรกเมื่อ 6-7 เดือนที่แล้ว ที่บ้านที่กรุงเทพฯ ยังดูดีและหล่อเหมือนเดิม กอดคอกันร้องไห้ ไม่ได้พูดอะไรไปมากกว่านั้น เห็นใจที่ป่วย ช่วงชีวิตที่รุ่งโรจน์สร้างบุญสร้างวัดมากมาย ไม่คิดว่าเหตุการณ์แบบนี้จะเกิดขึ้น ส่วนตัวเองไม่กล้าถามอะไรมาก

จากนั้นได้โอนเงินค่ายา ผ่านหม่อมกมลา ยุคล ณ อยุธยา ขณะที่ หม่อมเจ้าชาตรี เฉลิมยุคล ช่วยดูแล เพราะยารักษาตกเข็มนึงราวๆ 1.8 แสน โดยสอบถามไปทางภรรยาสรพงษ์ ก็ได้เผยว่าตอนนี้อาการดีขึ้น

ขณะที่ “ขวัญ พิมพ์อัปสร เทียมเศวต” ลูกสาวสรพงษ์ ที่เกิดกับ “โย ทศน์วรรณ” ได้ออกมายอมรับว่าเป็นข่าวจริง เป็นความจริง พ่อป่วยเป็นมะเร็งได้สักพักแล้ว อยู่ในระหว่างการรักษา อาการดีขึ้นตามลำดับ แต่ช่วงนี้โควิดระบาด เลยไปเยี่ยมไม่ได้ แต่มีการถามไถ่อาการผ่านญาติๆ ที่ผ่านมาคุณพ่อไม่ได้บอกเรื่องนี้กับใคร เพราะไม่อยากให้เป็นห่วง

ด้าน “ไทด์ เอกพันธ์ บรรลือฤทธิ์” ที่ได้มีโอกาสไปเยี่ยม เผยว่าตอนนี้แข็งแรงดี รักษาตามอาการ คาดผอมลง 6-7 กิโล แต่กำลังใจดี สู้อยู่แล้ว น่าจะหายวันหายคืน เพราะสรพงษ์นั่งปฏิบัติธรรม นั่งสมาธิตลอด มีภรรยาดูแลอย่างใกล้ชิด

16 ก.พ. 2565  ผู้จัดการออนไลน์

[story]

ยังคงเป็นประเด็นร้อนในโลกออนไลน์ที่หลายคนสนใจอย่างมากมาย สำหรับเรื่องราวของอดีตพระเอกรุ่นใหญ่อย่าง เอก สรพงษ์ ชาตรี ที่มีข่าวว่าป่วยเป็นมะเร็งสมอง ท่ามกลางความตกใจของแฟนๆ ทุกคนที่พากันส่งกำลังใจไปให้มากมาย ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ความคืบหน้าล่าสุดผู้สื่อข่าว "เดลินิวส์ออนไลน์" ได้เดินทางไปเยี่ยมเยือนเพื่อนรักของสรพงษ์ อย่างนักแสดงรุ่นใหญ่และนักการเมืองคนดัง กรุง ศรีวิไล ที่บ้านพักย่านโชคชัย กรุงเทพฯ ซึ่งได้รับการเปิดเผยถึงเรื่องดังกล่าวและอาการล่าสุดของสรพงษ์ด้วย

กรุง เผยว่า "เรื่องเอกป่วยมะเร็ง ถ้าพูดถึงวงการบันเทิงด้วยกัน ระดับพระเอก เรากับสรพงษ์สนิทกันมากที่สุด กินนอนด้วยกัน ยากจนมาด้วยกัน นิสัยเลยเหมือนกัน สนิทกันมามาก แต่ก่อนหน้านี้มีข่าวหลุดมา เป็นการที่มีคนอื่นมาบอกมาเล่าให้ฟังว่าคล้ายๆ จะป่วย เราก็ตกใจว่าเป็นอะไร เพราะหนึ่งเขาบอกเป็นมะเร็งที่สมองอะไรเราไม่รู้ เราบอกจะเป็นได้ยังไง ผมกล้ารับรองนะในโลกนี้ สรพงษ์ไม่สูบบุหรี่ ไม่กินเหล้า ไม่เคยแตะเลย ในหนังเป็นของปลอมทั้งนั้น ตอนแรกไม่เชื่อเลย ว่าจะเป็นโรคนี้ได้อย่างไร แต่ข่าวออกมาหนาหูเข้าผู้ใหญ่ มีพี่พร โคลีเซี่ยม มาถามผม ผมก็บอกไม่รู้เหมือนกัน ที่คุยกันเป็นตอนช่วงงานพระราชทานเพลิงศพแม่บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์"

"รู้ตอนนั้นเลย ก็รู้แค่ป่วย แต่ไม่มีรายละเอียดอะไรมาก พี่พรแค่บอกฉีดยาเฉยๆ ถามว่าติดต่อเอกไปเลยไหม คือผมขับรถไปที่วัดที่สีคิ้วเลยนะ แต่เข้าไม่ได้ ปิดเงียบสนิท เราก็คิดว่าต้องเป็นเรื่องจริงแน่นอนแบบนี้ ปิดทางเข้าหมดเลย ก็เลยไม่ได้เจอกัน โดยรวมไม่ได้เจอกันมาประมาณ 6-7 ปีแล้ว ตอนที่พี่พรบอกอาการตอนนั้นคือเอกจำบทละครไม่ค่อยได้ ก่อนหน้านี้เขาไม่มีอะไรเลย เขาแข็งแรง เล่นกล้าม โรคประจำตัวก็ไม่น่ามีนะ เขาเองก็ไม่เคยบ่นปัญหาสุขภาพอะไรเลย เขาทำบุญอย่างเดียว ไปอินเดีย ส่งเด็กเรียนหนังสือ เขาเป็นคนจิตใจดี"

"จริงๆ การทำงานกับเอกนะ สมัยก่อนเขาจำบทแม่น เขาเอาใจใส่บทและการแสดงมากๆ แต่ที่มีข่าวว่าร่างกายเขาซูบผอมและรักษาตามอาการอยู่ ไม่ทราบเลยครับ ลูกสาวเขาดูแลอยู่เนอะ ส่วนบิณฑ์เขาก็ช่วยหมดแหละ ให้ช่วยอะไรก็ช่วยหมด ก็ดูตามสภาพแหละ เห็นใครแย่เขาก็ช่วยจริงๆ แนวทางการรักษา ไม่ได้บอกนะ บิณฑ์ก็ไม่ได้พูดอะไร ส่วนภรรยาและลูกของเขาก็ไม่ได้คุยนะ เรื่องส่วนตัวเขาไม่ได้เล่ากัน มีลูกก็เดี๋ยวดูแลกันอยู่แล้ว แต่ถ้าเขามาปรึกษา เราก็พร้อมฟังเต็มที่ จะให้ประสานไปที่กระทรวงสาธารณสุข หรือโรงพยาบาลที่ไหน เพราะอาอยู่ในตำแหน่งการเมือง ก็พอจะพูดคุยให้ได้บ้าง เราก็ช่วยประสานได้แน่นอน ก็ขอให้บอกมาแล้วกัน เพราะผมก็ช่วยเหลือทุกคนอยู่แล้ว ไม่มีค่ารักษาผมก็พาไปหาหมอ ใครก็ตามแถวบ้านผมก็ช่วยหมด"

กรุง เล่าต่อว่า "พอเห็นข่าวก็ช็อกอ่ะ หมายถึงเราก็งงๆ อะไรนิดหน่อยว่าคนไม่กินเหล้า ไม่สูบบุหรี่ จะเป็นอย่างนี้ได้อย่างไร เราเองต่างหากที่วัยรุ่นสูบบุรี่ กินเหล้าด้วย แต่เราไม่เป็นไร เมื่อกี้ก่อนสัมภาษณ์ก็มีหลายคนโทรฯ มาหา อยากส่งยารักษาให้เอก พระอาจารย์ดีนั่นนี่เยอะแยะไปหมด ผมก็ขอบคุณแทนสรพงษ์ด้วย ที่แฟนๆ ห่วงเขาขนาดนี้ เรื่องการช่วยเหลือสรพงษ์ เราก็คงไม่เก่งกว่าหมอหรอก แต่ก็จะส่งกำลังใจให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครองเพื่อนให้รอดพ้นจากภัย ไม่ใช่เฉพาะสรพงษ์นะ เศรษฐา ศิระฉายา ด้วย ต้อยก็กำลังใจดีอยู่แล้ว ห่วงเขาทั้งคู่ เพราะห่างกันละปีสองปี พี่ต้อยแกกว่าปีเดียว อีกหน่อยก็ไปด้วยกันหมด ไม่เหลือหรอก"

"อย่างเรื่องที่เอกไม่อยากบอกข่าวนี้กับคนอื่น เอ่อตรงนี้เขาแปลกนะ เขาอายเปล่า ไม่รู้ยังไงนะ เขาไม่บอก ไม่รู้เหตุผลเขา ไม่รู้จริงๆ ครับ สมัยก่อนเขาก็เป็นคนเด็ดเดี่ยวแบบนี้เลย อดทนทำงาน ตัดสินใจมั่นคง อย่างเรื่องงานของเขาก็ไม่รับมานานแล้วมั้ง เขาคงไม่ไหว ต้องห่วงตัวเองก่อน ที่หลายคนตัดพ้อแทนสรพงษ์เรื่องมาเจอเรื่องราวร้ายๆ นะ ผมมองว่าบุญก็ส่วนบุญ กรรมก็ส่วนกรรม บุญและกรรมไม่เหมือนกัน เราไปทำอะไรไว้ก็ไม่รู้ ตอนนี้นะชั่วโมงนี้ รู้กันอย่างงี้แล้วอย่าทำกรรม ด้านสุขภาพของผมก็มีโรคบ้าง แต่ก็ดูแลรักษาอยู่ แต่ยังไม่ตายอ่ะ อยู่ไปเรื่อยๆ จนทุกคนรำคาญแหละ"

"สุดท้ายก็อยากฝากถึงสรพงษ์เพื่อนรัก เอกสิ่งใดที่ศักดิ์สิทธิ์ในโลกนี้ บุญบารมีของพระสยามเทวาธิราช สิ่งศักดิ์สิทธิ์ของในหลวงทุกรัชกาล ทุกพระองค์ พระแม่ธรณี พระแม่คงคา ที่ปกป้องบ้านเมืองเรามานี่ ให้คุ้มครองเพื่อน ทั้งเศรษฐาและสรพงษ์ พ้นจากภัยพิบัติของชีวิต ให้พบแต่สิ่งที่ดี สุขภาพแข็งแรงขึ้น อย่าไปคิดอะไรมากนะครับ เพราะว่าชีวิตคนเราต้องต่อสู้และทุกคนต้องเป็นแบบนี้ทุกคน ไม่วันใดก็วันหนึ่ง ตายทุกคนครับ ขอให้กำลังใจเพื่อนจริงๆ ขอบคุณครับ"

16 กพ 2565
เดลินิิวส์