ผู้เขียน หัวข้อ: ผู้ป่วยเบาหวาน-ความดันสูง-ไขมันสูง เลี่ยงดื่มของมึนเมา เสี่ยงเส้นเลือดสมองแตก  (อ่าน 1033 ครั้ง)

story

  • Staff
  • Hero Member
  • ****
  • กระทู้: 9763
    • ดูรายละเอียด
สธ.เตือนผู้ที่เป็นโรคความดันโลหิตสูง เบาหวาน ไขมันในเลือดสูงหลีกเลี่ยงการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด ระบุเสี่ยงเส้นเลือดสมองแตก เสี่ยงเป็นอัมพฤกษ์อัมพาตหรือเสียชีวิต เผยผลการตรวจสุขภาพในปี 2553 พบคนไทยเป็นโรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูงกว่า 4 ล้านคน ไขมันในเลือด 8 ล้านคน
       
       น.พ.ไพจิตร์ วราชิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ในช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ซึ่งเป็นช่วงวันหยุดยาวติดต่อกันหลายวันมักมีการจัดงานเลี้ยงสังสรรค์ในหมู่เพื่อนฝูง หรือในหมู่ญาติ ทุกงานมักมีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แต่หากดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ต้องไม่ขับรถ กลุ่มประชาชนที่ไม่ควรดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ได้แก่ ผู้ที่มีโรคประจำตัว โดยเฉพาะโรคความดันโลหิตสูง โรคเบาหวาน และไขมันในเลือดสูง เนื่องจากมีโอกาสเสี่ยงเส้นเลือดในสมองแตกได้อาจเสียชีวิตหรือเป็นอัมพาต อัมพฤกษ์ได้ เนื่องจากร้อยละ 95 ของเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่ดื่มเข้าไป จะซึมเข้าสู่กระแสเลือดผ่านทางเยื่อบุกระเพาะอาหารและลำไส้เล็กอย่างรวดเร็ว ฤทธิ์ของแอลกอฮอล์จะไปขยายหลอดเลือด ทำให้ความดันโลหิตสูงมากขึ้น และอาจทำให้เส้นเลือดแตกได้
       
       น.พ. ไพจิตร์ กล่าวต่อว่า จากการที่กระทรวงสาธารณสุขได้ให้ทุกจังหวัดรณรงค์ตรวจคัดกรองสุขภาพประชาชนอายุ 35 ปีขึ้นไปทั่วประเทศในปี 2553 พบผู้ที่เป็นความดันโลหิตสูง และโรคเบาหวานรวม 4 ล้านกว่าคน นอกจากนี้ ยังพบผู้ที่มีไขมันในเลือดสูงอีกกว่า 8 ล้านคน จากการศึกษาวิจัยในต่างประเทศยืนยันตรงกันว่า ผู้ที่เป็นความดันโลหิตสูงจะมีโอกาสเสี่ยงโรคหลอดเลือดสมองแตกมากกว่าคนปกติ 3-17 เท่า เบาหวานเพิ่มความเสี่ยง 3 เท่า การสูบบุหรี่เพิ่มความเสี่ยง 2 เท่า ไขมันในเลือดสูงเพิ่มความเสี่ยง 1.5 เท่า หากมีหลายโรคร่วมกันโอกาสเสี่ยงต่อการเกิดโรคหลอดเลือดสมองจะเพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณ ซึ่งจากสถิติปี 2553 มีผู้เสียชีวิตจากโรคหลอดเลือดสมอง 17,540 ราย ขณะที่มีผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุจราจร 13,777 ราย
       
       น.พ.ไพจิตร์ แนะประชาชนว่า ขอให้ใช้ยวดยานพาหนะในการเดินทางปฏิบัติตามกฎจราจรอย่างเคร่งครัดหากดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แล้วห้ามขับขี่รถทุกประเภท เพราะจะเพิ่มความเสี่ยงเกิดอุบัติเหตุจราจรได้ง่าย เนื่องจากฤทธิ์ของแอลกอฮอล์จะไปกดการทำงานของสมอง โดยหากมีระดับแอลกอฮอล์ในเลือดเกิน 50 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์จะเสียการควบคุมการเคลื่อนไหวของร่างกาย หากระดับแอลกอฮอล์เกิน 100 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์จะมีอาการมึนเมา เดินโซเซทรงตัวไม่ได้ เกิน 200 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์จะมีอาการสับสน และหากดื่มหนักมีระดับแอลกอฮอล์ในเลือด 400 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์จะหมดสติและอาจเสียชีวิตได้


ASTVผู้จัดการออนไลน์ 31 ธันวาคม 2554