อนุ กมธ.สาธารณสุขพบบริษัทไทย 5-6 แห่งเอี่ยวนำซูโดอีเฟดรีนจากเกาหลีเข้าไทยจำนวน 87 ล้านเม็ด พบพิรุธคนใกล้ชิด รมว.สาธารณสุขจัดทำเอกสารเบี่ยงเบนประเด็น
วันนี้ (25 เม.ย.) คณะอนุกรรมาธิการ (กมธ.) สาธารณสุข สภาผู้แทนราษฎร ได้แถลงผลประชุมการสืบสวนกรณีการลักลอบนำยา “ซูโดอีเฟดรีน” ออกจากโรงพยาบาล เพื่อนำไปใช้เป็นสารตั้งตั้นในการผลิตยาเสพติด โดย นายวิทยา แก้วภราดัย สส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะคณะอนุกรรมาธิการสืบสวน เปิดเผยว่า ความคืบหน้าคดีดังกล่าว พบว่ามีการนำเข้ายาซูโดอีเฟดรีนจากประเทศเกาหลี จำนวน 87 ล้านเม็ด นํ้าหนัก 40 ตัน โดยมีบริษัทของไทยเข้าไปเกี่ยวข้อง ประมาณ 5-6 บริษัท มี 3 บริษัทแจ้งว่าเป็นการนำเข้ายาปฏิชีวนะ ส่วนที่เหลือแจ้งว่าเป็นการนำเข้าอุปกรณ์ก่อสร้างต่อกรมศุลกากร
อย่างไรก็ดี การนำเข้าทั้งหมดได้ขนส่งผ่านเครื่องบินจำนวน 9 เที่ยว อาทิ ระหว่างวันที่ 4 ก.พ. , 23 ก.พ. , 29 มี.ค. และ 30 มี.ค. 2553 ทั้งนี้ เมื่อพบว่ามีการนำเข้ายา กรมศุลกากรจะต้องแจ้งผ่านคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เพื่อให้เข้ามาตรวจสอบ แต่จากการสอบถามไปทาง อย.ปรากฏว่าไม่ทราบเรื่องดังกล่าว ซึ่งในสัปดาห์หน้าจะมีการเชิญเจ้าหน้าที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) และเจ้าหน้าที่กรมศุลกากรมาให้ข้อมูลเพิ่มเติม
สำหรับอีกกรณีที่พบข้อพิรุธ คือ การพบเอกสารที่ระบุการแบ่งเปอร์เซ็นต์ให้กับคนใกล้ชิดของตนเมื่อสมัยดำรงตำแหน่ง รมว.สาธารณสุข ซึ่งก็ได้มีการเชิญบุคคลดังกล่าวเข้าชี้แจงต่อที่ประชุมอนุ กมธ. ทั้งหมดให้การปฏิเสธ ขณะที่นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ และนายอนุชา บูรพชัยศรี ส.ส.กทม. พรรคประชาธิปัตย์ ยอมรับว่าเคยร่วมรับประธานอาหารกับนายพสิษฐ์ ศักดาณรงค์ ที่ปรึกษา รมว.สาธารณสุข จึงคาดว่าเอกสารดังกล่าวน่าจะมีการจัดทำขึ้นมาเพื่อเบี่ยงเบนประเด็น โดยจะรวบรวมเอกสารดังกล่าวยื่นต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ เพื่อตรวจสอบเอกสารดังกล่าวว่าเป็นของจริงหรือไม่
ASTVผู้จัดการออนไลน์ 25 เมษายน 2555
